ราชาซากศพ - บทที่ 281 บีบบังคับ
บทที่ 281
บีบบังคับ
ปรากฏร่างที่เปิดเผยออกมา มีชายสองคน คือหลินเว่ยและ เสี่ยวชิง ในขณะนี้ทั้งสองคน มีสีหน้าทำอะไรไม่ถูก
เมื่อถูกจับได้ว่ามาหลบซ่อน
ทางฝ่ายหลินเว่ยนั้น มีรอยยิ้มที่เหยเก ส่วนเสี่ยวชิงนั้น มีใบหน้าซีดเผือด ยืนอยู่เบื้องหลังหลินเว่ย
โดยก้มหน้าลง และตัวสั่นสะท้าน
ในทางกลับกัน หญิงสาวนางนั้น มีใบหน้าราวกับมนุษย์ ทั้งงดงามและอิ่มเอิบ นางแต่งกายด้วยหนังสัตว์ เครื่องประดับสีทองแดงเก่าแก่ และผมสั้นสีดำ หากไม่ใช่เพราะใบหูที่มีขนยาวทั้งสองข้างของอีกฝ่าย และหางที่โบกสะบัดอยู่ข้างหลังนางตลอดเวลา หลินเว่ยก็คงจะคิดว่า นางเป็นมนุษย์ที่งดงามผู้หนึ่ง
“พวกเจ้าเป็นผู้ใด?” มังกรดำจับจ้องไปที่ครึ่งสัตว์อสูรเบื้องหน้าหลินเว่ยและถามอย่างเคร่งขรึม สำหรับหลินเว่ยและเสี่ยวชิงนั้น มังกรดำแทบจะไม่ใส่ใจ เมื่อเทียบกับสัตว์อสูรสาวซึ่งเป็นท่วงท่าโอ่อ่า และพลังที่น่าเกรงขาม
จึงกระตุ้นความสนใจของเขา
“องค์ราชา!” สัตว์อสูรหมีหิมะ และสัตว์อสูรหมาป่าลมกรดถลาเข้าไปหาหญิงสาว พลางลดศีรษะลง และร้องเรียกด้วยความเคารพ
เมื่อได้ยินคำพูดของสัตว์ร้ายทั้งสอง ดวงตาของหลินเว่ยก็เป็นประกายด้วยความประหลาดใจ ปากของเขากระตุกและรอยยิ้มที่บิดเบี้ยวปรากฏขึ้นอีกครั้งบนใบหน้าของเขา
“เจ้าเป็นราชาที่นี่หรือ…เจ้าไม่ใช่ … ” มังกรดำดวงตาแทบถลนออกมาเบ้า ใบหน้าเต็มไปด้วยความไม่น่าเชื่อและอุทานออกมา
“ข้าสบายดี….อะไร หรือเจ้าหมายถึงว่า ข้าควรจะสิ้นใจไปแล้ว หรือ ขอบใจเจ้ามากที่เป็นกังวล หรือเผ่ามังกรอย่างเจ้า หลงเชื่อว่าคำพูดของราชาอินทรีพยัคฆ์ ด้วยความแข็งแกร่งของมันเอง ทำได้เพียงคาดเดาเท่านั้น ข้าไม่คาดคิดว่า ทั้งเจ้าและมนุษย์เหล่านั้น
จะโง่เขลามาก เจ้าแทบไม่ได้ใช้สมองของเจ้า ข้าสามารถมีชีวิตอยู่นานได้เพียงใด ข้าจะสิ้นใจเพราะอยู่มานานเกินทนงั้นหรือ หญิงสาวขัดจังหวะคำพูดของมังกรดำ และบิดริมฝีปากอย่างดูถูก
“อา…. มังกรดำ หลับตาลงและแสดงสีหน้าลำบากใจ แต่เขาไม่สามารถหักล้างคำพูดของอีกฝ่ายได้
เป็นเรื่องจริงที่ว่า สัตว์อสูรที่ก้าวไปสู่ ระดับศักดิ์สิทธิ์สามารถมีชีวิตอยู่ได้อย่างน้อย 100,000 ปี และบางตนสามารถมีชีวิตอยู่ได้นานกว่า 200,000 ปี อีกบางส่วนจะมีอายุเพียง 10,000 กว่าปีเท่านั้น
เป็นไปไม่ได้ที่จะตายด้วยความเหนื่อยล้า…และดำรงอยู่มานาน
“หืม?” ในเวลานี้ผู้คนหันศีรษะและมองไปยังทิศทางซึ่งตรงกับทิศทางที่หมูเพลิงภูเขา และอินทรีพยัคฆ์ออกไปก่อนหน้านี้ ครู่ต่อมามนุษย์ศีรษะหมูก็บินผ่านมา
และในมือของเขาถือหางของอินทรีพยัคฆ์ และมันพยายามจะดิ้นรนออกจากการฉุดรั้งของอีกฝ่าย แต่ลมหายใจในร่างกลับเบาบาง
“องค์ราชา!” ชายศีรษะหมูบินไปหาองค์ราชาศักดิ์สิทธิ์ของเขา และก้มศีรษะของเขาอย่างเคร่งขรึม น้ำเสียงของเขาแสดงความเคารพเป็นอย่างมาก
องค์ราชาพยักหน้า และกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“มันยากที่จะพูดว่า สัตว์หน้าขนตัวนี้ จะเข้าใจพลังความหมายที่ลึกซึ้งมากกว่ายี่สิบส่วน ไร้ซึ่งแรงต้านทานพลังของข้า” ชายศีรษะหมูส่ายหัวและมองไปที่อินทรีพยัคฆ์ในมือของเขา ด้วยความรังเกียจ น้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม
หลังจากพูดแบบนั้น ชายศีรษะหมูก็หันหน้าไปมอง หลินเว่ยและเสี่ยวชิง และใบหน้าของเขาก็งงงวย แต่เขาไม่ได้ถามอะไรออกไป
“องค์ราชา! เราแพ้แล้ว! ข้อตกลงของเรากับมันกลายเป็นโมฆะ ในกรณีนี้ข้าจะพาคนของข้าจากนี้ และจากนี้ ข้าจะไม่เหยียบที่นี่อีก” กัวหลี่เดินมาจากระยะไกล ขวางมังกรดำและกล่าวกับองค์ราชาโดยตรง
“ก่อนหน้านี้..เจ้านั้นหยิ่งผยองมาก! ตอนนี้หากเจ้าต้องการออกไป…เจ้าก็สามารถทำได้ แต่มังกรดำตัวนี้ มันต้องการทำร้ายคนของข้า…ข้าจะปล่อยให้มันมีชีวิตรอดได้อย่างไร?” ราชาผู้ศักดิ์สิทธิ์ ยื่นมือชี้ไปที่มังกรดำและพูดด้วยเจตนาสังหารบนใบหน้า
“มันเป็นไปไม่ได้!” เมื่อได้ยินคำพูดขององค์ราชา กัวหลี่มองไปที่มังกรดำ จากนั้นเขาส่ายหัวปฏิเสธ ท่าทีของเขาหนักแน่นมาก
มังกรดำมีความสำคัญต่อเขามาก เป็นไม้เด็ดของเขาในการแข่งขันในดินแดนลับ แล้วเขาจะตกลงตามคำขอของอีกฝ่ายได้อย่างไร? นับประสาอะไรกับการทิ้งมังกรดำไว้ที่นี่ เช่นนั้นความปลอดภัยของเขาในดินแดนลับจะสูญสิ้น แม้ว่าเขาจะสามารถออกจากดินแดนลับได้อย่างมีชีวิต และสูญเสียมังกรดำ เขาจะไม่เพียงสูญเสียสถานะ แต่ยังรวมถึงชีวิตของเขาด้วย
แน่นอนว่าสิ่งที่สำคัญกว่าคือ เขาเต็มไปด้วยความมั่นใจ ในความแข็งแกร่งของมังกรดำ โดยเฉพาะความสามารถของมังกรดำ เมื่อบอลแสงสีดำออกมา แม้ว่าระดับการฝึกฝนของฝ่ายตรงข้ามจะสูงกว่ามังกรดำก็ตาม ความแข็งแกร่งของคนคนนั้นก็จะลดลง
กัวหลี่ไม่ยินยอมที่จะสูญเสียมังกรดำไป
“เช่นนั้น พวกเจ้าก็ตายลงที่นี่พร้อมกับจิ้งจกดำตนนี้เถิด!” องค์ราชาตรัสด้วยใบหน้าเย็นชา
“ คำราม!” หลังจากที่พูดจบ อีกฝ่ายก็กลายร่างเป็นเสือขาว คำรามร้องออกมาจากปากของนาง ในพริบตาราชาสัตว์อสูรเสือขาวตัวใหญ่ยักษ์ ก็ปรากฏตัวต่อสายตาของทุกคน
“ราชาสัตว์อสูรเสือขาว?” เมื่อมองไปที่การปรากฏตัวของราชาสัตว์อสูรเสือขาว หลินเว่ยก็ร้องออกมาด้วยความประหลาดใจทันที
อย่างไรก็ตาม หลินเว่ยคิดเสมอว่ามันเป็นเพียงตำนานเท่านั้น ไม่มีอยู่จริง
เป็นแค่ราชาสัตว์อสูรเสือขาวธรรมดา อาจมีร่องรอยของ โลหิตของสัตว์เทพอสูร ไม่คล้ายกับตระกูลมังกรของเรา ทุกตนในเผ่ของเราล้วนเป็น สัตว์อสูรศักดิ์สิทธิ์ และโลหิตของพวกมันก็มีเดือดพล่านอยู่ในร่างกายตามธรรมชาติ” มังกรดำโค้งงอปากของเขา
และกล่าวด้วยความรังเกียจ เห็นได้ชัดว่า เขาไม่พอใจกับสิ่งที่ราชาสัตว์อสูรเสือขาว พูดกับกัวหลี่
“ฮึ่ม! เป็นแค่กิ้งก่ากลุ่มหนึ่งตัวจ้อย และเจ้ากล้าเรียกตัวเองว่ามังกร เจ้าเป็นแค่กิ้งก่าเท่านั้น” คำพูดของราชาสัตว์อสูรเสือขาวนั้นเฉียบคมมาก และโต้ตอบทันที
“ เอ่อ … !” มุมปากของ หลินเว่ยกระตุกเล็กน้อย และใบหน้าของเขาก็พูดไม่ออก เขาพึมพำในใจว่า นางคู่ควรกับการเป็นแม่เสือสาวในตำนาน ดุร้ายเกินไป ข้าไม่รู้ว่า นางได้เรียนรู้คำพูดร้ายกาจเหล่านี้ มาจากลูกน้องคนใด?
“ ฟู่…!””โฮก!” เมื่อถูกราชาสัตว์อสูรเสือขาวดูแคลน ดวงตาของมังกรดำก็เปล่งประกาย ราวกับพ่นไฟ และฟันของมันขบกันแทบแตก หลังจาก มันคำรามอ้าปากและพ่นบอลแสงสีดำออกมาและพุ่งตรงไปที่ราชาสัตว์อสูรเสือขาว
หลังจากพ่นบอลแสงสีดำออกไป การเคลื่อนไหวของมังกรดำก็ไม่หยุด ปีกกว้างบริเวณด้านหลังของมังกรกระพือปีกและร่างของมังกรดำก็หายไปตำแหน่งเดิม วูบวาบราวกับเงา ปรากฏร่างอยู่เหนือราชาสัตว์อสูรเสือขาว
จากนั้นราชาสัตว์อสูรเสือขาวสะบัดมือ และปากก็ร้องคำรามว่า: “ตายซะเถอะ”
“ หวา!” เมื่อมองไปที่บอลแสงสีดำที่กำลังลอยมา สัตว์อสูรหมาป่าลมกรดกัดฟันแล้วรีบวิ่งไปด้านหน้า จุดประสงค์ของมันชัดเจนมากนั่นคือการปิดกั้น บอลแสงสีดำสำหรับเพื่อองค์ราชา เนื่องจากไม่ต้องการให้ความแข็งแกร่งของราชาสัตว์อสูรเสือขาวลดลง
ส่วนหลินเว่ยและเสี่ยวชิงนั้น อยู่ห่างจากบริเวณนั้นพอสมควร ด้วยพละกำลังของพวกเขา แม้ว่าจะเป็นคลื่นพลังที่กระทบออกมา คาดว่าพวกเขาจะบาดเจ็บสาหัสหรือแม้กระทั่งตาย
แม้แต่ กัวหลี่นั้นรู้ว่าพลังการโจมตีนั้นรุนแรงมาก เขาจึงหลบหลีก โดยนำหน้าหลินเว่ยไปข้างหน้าหนึ่งก้าว และเหาะหนีตรงไปเกือบกิโลเมตร