ราชาซากศพ - บทที่ 33 เถาจุนทะลวงขั้น
บทที่ 33
เถาจุนทะลวงขั้น
“ช่างผินจูหลิง? นายน้อยควรเก็บมันไว้เพื่อตนเองจะดีกว่า! มอบให้ข้ามานั้น…เป็นการเสียเปล่าโดยแท้จริง”
เมื่อได้ยินหลินเว่ยมอบยาอายุวัฒนะขั้นสามให้กับตน เขารู้สึกอบอุ่นในหัวใจ แม้ว่าเขาจะต้องการมันมากแต่เขาก็ยังกัดฟันปฏิเสธ
แม้ว่าจะต้องใช้ห้าพันเหรียญทองสำหรับยาหนึ่งเม็ด และห้าหมื่นเหรียญทองสำหรับหนึ่งขวดหยก แม้ว่าเรื่องเงินสำหรับเถาจุนจะไม่มีปัญหา แต่ว่าเขานั้นไม่สามารถหาซื้อในเมืองหมั่นฉี แม้แต่ในเมืองเฮยสุ่ยก็ยังไม่สามารถหาได้
“เอาไปทั้งหมด! หากว่ายังเหลืออยู่ เจ้าก็มอบให้คนอื่น แต่ด้วยกำลังของข้า ตอนนี้คงไม่สามารถหาได้อีก! . “เมื่อเห็นเถาจุนปฏิเสธที่จะรับมัน หลินเว่ยกลอกตาของเขา
และมองไปที่เถาจุนโดยตรง และแสร้งทำเป็นหมดความอดทนและโยนขวดหยกทิ้งไป
“ได้ขอรับ! เถาจุนจับขวดหยกที่หลินเว่ยทิ้งมาทางเขา ด้วยความรีบร้อน เขามองไปที่หลินเว่ยด้วยความรู้สึกขอบคุณ เขาคุกเข่าลงบนเข่าข้างหนึ่ง และแสดงความเคารพหลินเว่ยอย่างเคร่งขรึม
หลังจากนั้น เถาจุนก็นั่งขัดสมาธิ ตามคำแนะนำของหลินเว่ย เขาเทยาออกจากขวดหยกและกลืนมันลงท้อง จากนั้นเขาก็หลับตาและเริ่มดูดซึมยา
หลังจากการดูดซึมยา เถาจุนนั้นรู้สึกเพียงว่าลมปราณของเขานั้นถูกเติมเต็มอย่างสมบูรณ์ หากเขายังคงดูดซับมันต่อไป ทั่วทั้งร่างจะต้องแตกสลาย อย่างไรก็ตามในการใช้พลังยาเถาจุนนั้นดูดซับพลังได้เพียงครึ่งทาง ดังนั้นขั้นตอนต่อไปคือการเลื่อนระดับ
หลังจากรู้สึกว่าโอกาสกำลังมาถึง เถาจุนจึงรีบควบคุมพลังจิตของตนเองอย่างเร่งรีบ พลังที่ดูดซับจากยาไปเริ่มบีบอัดตัวและควบแน่นพลังปราณ
ขั้นตอนที่สำคัญที่สุดในขั้นต่อไป ร่างกายต้องการควบกลั่นพลังกลั่นให้เป็นของเหลว ในกระบวนการกลั่นพลังให้กลายเป็นหยดน้ำ พลังลมปราณจะถูกนำไปใช้เป็นจำนวนมาก
ซึ่งจำเป็นต้องเติมเต็มพลังลมปราณเป็นจำนวนมาก
หนึ่ง สอง สาม … เมื่อนับหนึ่งถึงสิบ พลังปราณจำนวนมากถูกดูดซึมเข้าสู่ท้องของเขา เถาจุนนั้นรู้สึกว่ามีหยดน้ำที่เกาะอยู่ในทะเลลมปราณของเขา แต่มันดูคล้ายกับภาพลวงตา
ราวกับว่าจะปลิวสลายไปเมื่อไรก็ได้ อย่างไรก็ตาม ตราบใดที่เขามียาอายุวัฒนะอีกเม็ดหนึ่ง ก็จะสามารถทะลวงผ่านด่านไปอีกขั้น
จากนั้นเถาจุนจึงกินยาที่เหลืออยู่ในขวดไปจนหมดขวด แต่ก็ยังไม่มีความก้าวหน้าใด ๆ ทั้งสิ้น เถาจุนรู้สึกถึงความร้อนด้วยความอับอาย บนใบหน้าของเขา
เขาแค่ต้องการอยากจะปรับอารมณ์ของตนเอง และเกือบทำให้หยดที่กำลังกลั่นตัวนั้นหยุดชะงัก โชคดีที่เถาจุนรวบรวมสติได้อย่างรวดเร็ว และพยายามดูดซับพลังของสิ่งมีชีวิตที่อ่อนแอ
จากอากาศภายนอก อย่างไรก็ตาม เนื่องจากพลังนี้เบาบางเกินไป ตามความเร็วของเขาในการดูดซับพลังที่เป็นไปอย่างเชื่องช้า และการควบกลั่นพลังในร่างนั้นไม่สมดุลกัน
“ดูดซับหินเหล่านี้” เมื่อเถาจุนไม่รู้จะทำอย่างไร เสียงของหลินเว่ยก็ดังออกมา
“เมื่อได้ยินคำพูดของหลินเว่ย เถาจุนก็ลืมตาขึ้นอย่างรวดเร็ว และเห็นหลินเว่ยยืนอยู่ตรงหน้าเขาพร้อมกับหินหยวนที่อยู่ในมือ
“อะไรกัน ถ้าเจ้าล้มเหลว ไม่ได้หมายความว่าข้าเสียยาจูหลิงไปทั้งขวดหรอกหรือ” คิ้วของหลินเว่ยย่นเล็กน้อย และกระตุกไม่หยุด
“ขอรับ! เถาจุนอ้าปากค้าง แต่เขานั้นพูดไม่ออก เพราะเขานั้นใช้ยาจูหลิงไปหมดแล้ว และเถาจุนนั้นก็ไม่ได้สนใจคุณค่าของหินหยวนที่หลินเว่ยมอบให้อีกต่อไป ตราบใดที่เถาจุนมุ่งมั่นรับใช้หลินเว่ย ในอนาคตเขาจะได้รับรางวัลอีกแน่นอน
ตามปกติแล้ว การดูดซับพลังของหินหยวนนั้นจะรวดเร็วกว่าการฝึกฝนพลังด้วยตนเอง แต่ในวิธีของการดูดซึมพลังทางยานั้นจะช้าลงไปกว่าหลายเท่า ในที่สุดหลินเว่ยก็สูญเสียหินหยวนไปทั้งหมดสิบห้าก้อน
เมื่อพลังในทะเลลมปราณหายไปอย่างสมบูรณ์ และหลงเหลือหยดน้ำเพียงน้อยนิด เถาจุนก็ระเบิดพลังออกมา พร้อมกับแรงกดดัน อันทรงพลังซึ่งทำให้นักสู้ขั้นหนึ่งและนักรบขั้นสองที่อยู่
บนกำแพงเมืองรู้สึกราวกับว่าพวกเขากำลังแบกภูเขาเอาไว้ทั้งลูก เฉพาะผู้ที่อยู่เหนือขั้นสามเท่านั้นที่รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย โชคดีที่แรงกดดันนี้หายไปในพริบตา
หลังจากการเลื่อนขั้น ดวงตาของเถาจุนก็เปิดขึ้นทันที หลังจากที่ควันขาวจาง ๆ รอบ ๆ ร่างของเขา เถาจุนคุกเข่าลงตรงหน้าหลินเว่ยและพูดด้วยเสียงดัง “ขอบพระคุณนายน้อย ที่ทำให้ข้าสามารถเลื่อนขั้นได้อย่างราบรื่น”
“อืม! เจ้าค่อยพูดถึงเรื่องนี้ในภายหลังเถอะ เจ้าควรหาสถานที่อาบน้ำและเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเถอะ เถาจุนคุกเข่าลงไปหาหลินเว่ย แต่หลินเว่ยนั้นบีบจมูกและก้าวถอยหลังอย่างรังเกียจ
“อาบน้ำ?” เถาจุนรู้สึกงุนงงกับคำพูดของหลินเว่ย จากนั้นเขาก็เห็นปฏิกิริยาของหลินเว่ย และมองลงไปที่ตัวเอง ทันใดนั้นเขาก็พบว่าร่างกายของเขาถูกปกคลุมไปด้วยชั้นสิ่งสกปรกหนา ๆ
ซึ่งส่งกลิ่นเหม็น น่ารังเกียจ และพุ่งเข้าไปในรูจมูกของเขา
เมื่อมองเห็นว่าร่างกายของตนเองนั้นสกปรก เถาจุนจึงก็ไม่ได้พูดอะไรเพิ่มเติม เขาลุกขึ้นและวิ่งหายไป หนึ่งชั่วโมงผ่านไป เถาจุนก็กลับมาหาหลินเว่ย
ในการเลื่อนขั้นของเถาจุน ไม่ใช่เพียงความแข็งแกร่งที่เพิ่มขึ้น แต่ยังเปลี่ยนรูปลักษณ์ของเขาไปอีกด้วย สภาพก่อนหน้านี้ของเถาจุนคือชายอายุวัยสี่สิบปี แต่ในตอนนี้เขาดูเหมือนชายวัยสามสิบต้น ๆ เท่านั้น ผิวพรรณของเถาจุนนั้นเปล่งประกายขาวอมชมพู
ในความเป็นจริง การเปลี่ยนแปลงสภาพของเถาจุนในครั้งนี้ไม่ใช่เพียงดูอ่อนเยาว์ลงไปเท่านั้น แต่ยังสามารถเพิ่มอายุขัยของเขาอีกด้วย คนปกติธรรมดานั้นสามารถมีชีวิตอยู่ได้มากที่สุดถึง 100 ปี สำหรับผู้ที่มีพลังต่ำกว่าขั้นสาม
แต่ละครั้งที่พวกเขาสามารถเลื่อนขั้นได้ จะสามารถเพิ่มอายุขัยเพิ่มได้อีก 10 ปี อย่างไรก็ตามหลังจากที่พวกเขาทะลวงด่านขั้นสี่ได้ อายุขัยจะเพิ่มเป็น 50 ปีในแต่ละครั้ง ไปจนกว่าจะถึงขั้นที่เจ็ด หลังจากนั้นอายุจะคงที่ จนกว่าจะเริ่มละทวงด่านได้อีกรอบ
อย่างไรก็ตามยิ่งเลื่อนระดับสูงมากเท่าไร พลังต่าง ๆ อายุขัยก็จะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ
“นายน้อย!” เถาจุนไปหาหลินเว่ยและตะโกนด้วยความเคารพ
“ดี! ดีมาก!” หลินเว่ยเห็นว่าเถาจุนไม่ได้นิ่งนอนใจและทะนงตนเพราะการเลื่อนขั้นของเขา แต่ยังคงแสดงความเคารพตามปกติ และยังรู้สึกซาบซึ้งในการช่วยเหลือของเขาอีกด้วย หลินเว่ยพยักหน้าด้วยความพอใจ
เมื่อเห็นความก้าวหน้าของเถาจุน ในการฝึกฝนด้วยสายตาของเขาเอง ไม่เพียงแต่กองทหารรับจ้างโลกันตร์เท่านั้น แต่ยังมีกองกำลังอื่น ๆ ที่ส่งคนมา ร่วมแสดงความยินดีกับเถาจุน ในปัจจุบันการเลื่อนขั้นของเถาจุนนั้น เป็นผลดีสำหรับพวกเขา
แต่หลินเว่ยไม่ได้สนใจที่จะเข้าไปพูดคุยกับคนอื่น ๆ ถึงมีคนเข้ามาคุยกับหลินเว่ยก็ถูกเถาจุนขัดขวาง
“โฮ่ก … !” บางทีเสียงคำรามของสัตว์อสูร อาจจะเป็นการร่วมเฉลิมฉลองให้เถาจุน และส่งสัญญาณเริ่มโจมตีทันที
สิ่งแรกที่ปรากฏคือสัตว์อสูรขั้นศูนย์และสัตว์อสูรขั้นหนึ่งจำนวนมาก ไหลบ่าเข้ามาราวกับกระแสน้ำการพลุ่งพล่าน
ในตอนแรก สัตว์อสูรที่พุ่งมาที่กำแพงเมืองเป็นพวกแรก สามารถมองเห็นได้ในระยะไกล ๆ หลายร้อยเมตร ในพริบตากลับเหลืออีกไม่กี่เมตรก็จะมาถึงยังกำแพงเมืองของประตูตะวันตก
แน่นอนว่าเหล่านักรบบนกำแพงเมืองนั้นจะไม่ปล่อยให้สัตว์อสูรเหล่านี้ฝ่าเข้ามาได้ ในฐานะผู้บัญชาการทหารสูงสุดของประตูตะวันตก เถาจุนออกคำสั่งให้โจมตีทันที นักรบเหล่านี้ส่วนใหญ่โจมตีด้วยธนู และบางคนเลือกที่จะใช้หอกบินเขวี้ยงเพื่อโจมตีสัตว์อสูร
คันธนูเหล่านี้ทำจากต้นยิวในหุบเขาไม้แดง ส่วนลูกศรนั้นทำมาจากไม้หินดำเนื้อแข็ง โดยไม่ต้องใช้วัสดุใด ๆเพิ่มเติม หอกได้นั้นทำจากไม้หินดำซึ่งเป็นมาตรฐานโดยทั่วไป ในพื้นที่ทั้งหมดที่สามารถค้นพบได้ในหุบเขาไม้แดง