ราชาซากศพ - บทที่ 417 สอบถาม
บทที่ 417
สอบถาม
“เฮ้เฮ้เฮ้เฮ้! ในเมื่อข้ากล้าทำเช่นนี้ ข้าเองก็มีวิธีจัดการกับเจ้า แม้ว่าข้าจะต้องสูญเสียอะไรบางอย่างไปก็ตาม ตราบใดที่ข้าสามารถสังหารเด็กคนนี้ลงได้ ข้าก็จะรับเจ้ามาเป็นทา าสรับใช้ และสามารถเพิ่มพลังการต่อสู้ได้มากกว่า 30% มันคุ้มค่ากับการสูญเสีย “เคจกล่าวด้วยรอยยิ้ม
“ความสามารถอย่างเจ้า?” จินหยูมองอย่างดูแคลน แต่เมื่อได้ยินเคจพูดเช่นนั้น หัวคิ้วของเขาก็ขมวด และดวงตาของเขาก็จับจ้องไปที่เคจ
ภายใต้การจ้องมองของทุกคน เคจ จู่ๆ ขนทั่วร่างของเคจก็ลุกชัน และเขาส่งเสียงกรีดร้องโหยหวน ร่างกายของเขาเหี่ยวแห้งลงไปด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่า ในชั่วพริบตาทั้ง ร่างเหี่ยวแห้งท่วงท่าหม่นหมอง
“พอได้แล้ว!”เมื่อได้ยินเสียงของเคจดังขึ้นอย่างกะทันหัน เลือดและเนื้อที่ถูกสูบออกจากร่างของเขา ก็พลันชะงัก อย่างไรก็ตาม ที่บริเวณด้านหลังของเคจ ปรากฏหมอกหนาขึ้น และดูคล ล้ายกับว่า มีร่างหนึ่งแยกออกมาจากร่างของเคจ
“ สารเลว! เจ้าช่างตะกละตะกลาม ตั้งใจจะสูบเลือดเนื้อข้าจนตายไปเลยหรือ ยังมีคนที่นี่อีกมากมายที่เจ้าสามารถสูบเลือดเนื้อได้ตามใจชอบ” จู่ๆเคจก็ตะคอก และสื่อสารกับทาสของเขา
ดูเหมือนว่าการดุด่าของเคจจะทำให้อีกฝ่ายนั้นเกรงกลัว ร่างที่แยกออกมากก็พลันกลับเข้าร่างเดิมของตนเอง แต่ร่างนั้น ยังคงผอมแรงราวกับกระดูกเดินได้
“ไม่ต้องกังวล ข้าให้สัญญากับเจ้า หลังจากจบเรื่องนี้ เจ้าสามารถกลืนกินคนที่นี่ได้ครึ่งหนึ่ง” เคจกล่าวอย่างมืดมน
ดูเหมือนว่า ขนมหวานที่หลอกล่อผีร้ายจะได้ผล ทันใดนั้นลมปราณในร่างกายของเคจ ก็เพิ่มขึ้นหลายส่วน
ในเวลานี้เคจดูเหมือนจะถอนหายใจยาว ด้วยความ โล่งอก แม้ว่าใบหน้าของเขาจะยังคงดูน่าหวาดกลัว แต่ก็ไม่ได้ดุร้ายเหมือนก่อนหน้านี้ จากนั้นเขารีบหยิบขวดกระเบื้องเครื่องเคลือบ ดึงจุก กฝาขวดออก แล้วกรอกใส่ปากของเขาโดยตรง มันคือน้ำพุแห่งชีวิตที่เข้มข้นขวดเล็ก ๆ
ในความเป็นจริง เคจยังคงมีความรู้สึกบางอย่างว่า หากไม่ใช่เจ้าของร่างนี้ ที่ทิ้งขวดน้ำพุแห่งชีวิตเอาไว้ให้เขาทั้งสามขวดในแหวนมิติ ในขณะนี้ร่างกายที่ได้มาใหม่ของเขา อาจจะระ ะเบิดออกเป็นเสี่ยงๆ
“ ข้าไม่ได้คาดหวังว่า น้ำพุแห่งชีวิตที่เจ้าสร้างขึ้นมา จะสามารถช่วยเหลือศัตรูได้” ทันทีที่เคจเปิดขวดออกมา จินหยูก็รู้สึกได้ทันทีถึงสิ่งที่อยู่ในขวด ดังนั้นเขาจึงเยาะเย้ย จิตวิญญาณต้นไม้แห่งชีวิตโบราณ และจินหยูก็รู้ว่า อีกฝ่ายนั้นย่อมต้องรู้เรื่องนี้เร็วกว่าเขาแน่นอน
“ฮ่าฮ่า! มันเป็นอุบัติเหตุ! มันเป็นอุบัติเหตุ เด็กสาวตัวน้อยโบกมืออย่างรีบร้อน แล้วพูดด้วยใบหน้าอับอาย
เมื่อพลังงานของน้ำพุแห่งชีวิตถูกดูดซับอย่างรวดเร็ว ร่างกายของเคจก็ขยายตัวอีกครั้ง ด้วยความเร็วที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า และในไม่ช้าก็กลับคืนสู่สภาพเดิม
เขาเขย่ากำปั้นเพื่อทดสอบกำลัง และพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ ด้วยความช่วยเหลือของผีร้าย เขาไม่เพียงแต่ฟื้นฟูความแข็งแกร่งให้กลับมาถึงจุดสูงสุดเท่านั้น แต่ยังมีความก้าวหน้าอีกด้วย
ในเวลานี้เขารู้สึกได้ว่าความแข็งแกร่งของตนเองถึงระดับของช่วงปลายของขั้นเงิน ในขณะที่ในตอนแรก เขาอยู่ในขั้นเงิน ระดับห้า
หากความแข็งแกร่งของเขานั้นอยู่จุดสูงสุดขั้นเงิน ด้วยความช่วยเหลือของผีร้าย เขาจะสามารถทะลวงขั้นทอง ได้โดยตรง แต่เพียงเท่านี้ก็พอเพียงที่จะบดขยี้หลินเว่ยและจินหยูได้
แน่นอนว่าการเพิ่มขึ้นของระดับการฝึกฝนนั้น เป็นเพียงชั่วคราวเท่านั้น และมีเวลาจำกัดเพียงหนึ่งชั่วโมง อย่างไรก็ตาม สำหรับเคจ เวลาเพียงแค่นั้น เพียงพอแล้ว
การใช้ผีที่เลี้ยงเอาไว้ในร่างกายเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่ง เป็นวิชาลับของสำนักราชาอสูร แต่ละครั้งที่ จะต้องเว้นระยะในการใช้งาน มิฉะนั้นวิญญาณของเจ้าของร่างจะถูกผีที่เลี้ยงไ ไว้กลืนกิน และกลายร่างเป็นผีร้ายเสียเอง
“ถ้าเช่นนั้น! ในตอนนี้ ถึงเวลาจัดการกับเจ้าแล้ว” เมื่อรู้สึกว่าสถานะร่างของเขาใกล้จะสมบูรณ์แล้ว ดวงตาของเคจจับจ้องไปที่แผ่นหินขนาดใหญ่สีทอง เขาแลบลิ้นเลียริมฝีปาก แล้วพูด ด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า
ทันทีที่คำพูดนั้นสิ้นลง เคจก็รีบวิ่งเข้าหาแผ่นหินสีทอง และเหวี่ยงร่างวิ่งสลับซ้ายขวา จากนั้นกรงเล็บยาวๆของเขาโบกไปที่แผ่นหินสีทอง
บังเกิดเสียงแหลมคมและรุนแรง กรงเล็บที่เกิดจากการสะสมพลังงาน ฉีกกระชากอากาศ และพุ่งไปที่แผ่นหินด้วยความเร็วมาก
เนื่องจากความเร็วของเคจ ทำให้ผู้คนมองเห็นเพียงร่างที่ทิ้งร่องรอยของ อากาศที่บิดเบี้ยวและถูกฉีกกระชาก ปรากฏร่องรอยคล้ายอุกกาบาตที่ตัดผ่านท้องฟ้า ลากเป็นทางยาว
จินหยูไม่ได้โง่ เมื่อรู้ว่าขนาดร่างกายของตนเองใหญ่เกินไป และตกเป็นเป้าโจมตี ดังนั้นเมื่อเห็นร่องรอยของอุกกาบาตที่ค่อยเคลื่อนตัวเข้าหาเขา จินหยูเปลี่ยนร่างของตนให้เล็ก ลงและขยับเบี่ยงร่างไปมา ระหว่างร่องรอยอุกกาบาต
ในสายตาของผู้คน แผ่นหินขนาดเท่าฝ่ามือ ได้เคลื่อนผ่านการปิดล้อมของการโจมตีของเคจ จำนวนนับไม่ถ้วน และกำลังเข้าใกล้ตัวเข้าใกล้เคจอย่างรวดเร็ว
ในเวลานี้ร่างของจินหยูกำลังเติบโตขึ้นอีกครั้ง เช่นเดียวกับ ไม้ตีแมลงวันขนาดใหญ่ ที่หันหน้าเข้าหาเคจอย่างรวดเร็ว
เมื่อเคจรู้สึกถึงแผ่นหินขนาดใหญ่ นั้นอัดแน่นไปด้วยพลังของสายฟ้า บังเกิดลมพัดแรง ซึ่งทำให้ร่างกายด้านนอกของชุดเกราะพลังปราณดูวูบไหว สีหน้าของเคจเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน
โดยไม่พูดอะไร เขาหยุดชะงักลง และก้มร่างของไปเพื่อหลบแผ่นหินอย่างรวดเร็ว
การตัดสินของเคจนั้นถูกต้อง เมื่อเทียบกับการยืนรับแรงปะทะ แผ่นหินขนาดใหญ่ดูอันตรายมาก หากว่าสัมผัสโดนร่างของเขา แม้ว่าแผ่นหินขนาดใหญ่ จะไม่สัมผัสร่างของเคจ
แต่ลมแรงที่เกิดจากการกวัดแกว่ง ก็ทำให้ร่างกายของเคจบินถอยหลังอย่างไม่สามารถควบคุมได้ ราวกับว่าเขาโดนค้อนขนาดใหญ่ฟาดเข้าไปที่ร่างของเขา
หลังจากถอยหลังออกไปหลายร้อยเมตร เคจก็หยุดร่างของเขา และสะบัดหัวไล่ความมึนงง จากนั้นเขาก็มองไปที่แผ่นหินที่ลอยอยู่ตรงนั้น เขาตกใจมากและคิดว่า “มันแข็งแกร่งเพียงนี้ได ด้อย่างไร?”
ในความเห็นของเคจ แผ่นหินที่เพิ่งสัมผัสร่างเพียงน้อยนิด มีพลังโจมตีเกินขั้นเงิน อย่างแน่นอน เคจคิดว่า มันจะเป็นเพียงการโจมตีของนักรบธรรมดาๆ แต่ผิดคาด ในความเป็นจริงแล้ว เคจย่อมไม่ทราบว่า การฝึกฝนของจินหยูอยู่ในขั้นทอง อย่างไรก็ตาม เนื่องจากการโจมตีเดี่ยว และพลังการโจมตีสูงสุด จินหยูใช้ร่างกายที่ใหญ่โต ซึ่งจะสิ้นเปลืองพลังงานมาก อย่างไรก ก็ตาม
หากพูดถึงพลังของจินหยูนั้นราวกับแผ่นหินยักษ์หนักหลายพันหมื่นเท่า
หากโจมตีตรง ๆ อาจจะไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะสามารถแบกรับได้ แต่หากความแข็งแกร่งของจินหยูอยู่ในขั้นทองขาว….เคจก็คงจะไม่สามารถป้องกันและหลบการโจมตีได้
ในเวลานี้เสียงแหลมและรุนแรง ดังขึ้นอีกครั้ง แต่ไม่ใช่จากทิศทางจินหยู แต่ดังมาจากทิศทางของเคจ
เมื่อเห็นเช่นนี้ เคจก็ดูมีความสุขและพูดพร้อมกับหัวเราะว่า “ฮ่าฮ่า! คราวนี้มันขึ้นอยู่กับว่าเจ้าจะหลบหนีได้อย่างไร คงไม่ได้คาดคิดว่า ข้าจะมีอาวุธลับในการโจมตีแบบกระจายตัว และการโจมตีของข้าสามารถติดตามตัวเจ้าได้!”
“เจ้าโง่! เจ้าเห็นแผ่นหินที่แบ่งออกเป็นสองส่วนได้หรือไม่ ข้าเฝ้าดูการเคลื่อนไหวเล็ก ๆ ของเจ้าตลอดเวลา อย่าทำเป็นอวดเก่ง! ไม่เห็นหรือว่าการโจมตีก่อนหน้านี้ของเจ้ามันไร้ประโยชน์ ” เมื่อได้ยินคำพูดของเคจ เสียงของจินหยูที่เต็มไปด้วยการเสียงเสียดสีดังขึ้น
ในเวลานี้ร่องรอยกรงเล็บอุกกาบาต จำนวนนับไม่ถ้วนร่วงหล่นลงบนแผ่นหิน อย่างไรก็ตาม เมื่อเทียบกับแผ่นหินขนาดใหญ่แล้ว ร่องรอยเหล่านั้นมีขนาดเท่าฝ่ามือ แต่จำนวนมหาศาลและแหลมคมมาก
แต่ในตอนนี้พวกมันตกลงบนแผ่นหิน แต่กลับไม่มีแม้แต่ระลอกคลื่น ดวงตาของเคจแทบจะถลนออกมาเมื่อมองเห็นสิ่งนี้ และมีท่าทางราวกับเสียสติไปชั่วครู่
“เป็นไปได้อย่างไร กรงเล็บอุกกาบาตของข้าเป็นทักษะการต่อสู้ระดับสอง ด้วยการเพิ่มพลังขึ้นของการโจมตี แม้แต่อาวุธวิเศษก็สามารถทำลายลงไปได้ แต่เจ้าเป็นเพียงแผ่นหิน จะต้านทานม มันได้อย่างไร? และไม่มีแม้ร่องรอยใดๆ” เคจส่ายหัวและอุทานด้วยความไม่อยากจะเชื่อ
“เจ้านั้นมันคือคนโง่จริง ๆ ข้าเป็นเพียงหินธรรมดางั้นหรือ หลังจากสะสมพลังมาหลายแสนปี ข้าไม่รู้ว่า ข้าได้ดูดซับวัสดุขั้นสูงไปทั้งหมดกี่ชิ้น เจ้าคงจะต้องลำบาก นอกจากเจ้าจะมีเ เครื่องมือของลัทธิเต๋า ไม่เช่นนั้นก็คงจะทำอะไรข้าไม่ได้ “เมื่อจินหยูได้ยินเคจเปรียบเทียบเขากับอาวุธวิเศษระดับล่าง จินหยูก็ดุด่าเขาอีกครั้ง .
เมื่อได้ยินคำพูดของจินหยู หลินเว่ยก็แทบจะหัวเราะออกมา เห็นได้ชัดว่า จินหยูไม่มีท่าทางหวาดกลัวเคจ แต่กลับกลัวอาวุธของลัทธิเต๋า! ในความเป็นจริงความแข็งแกร่งของ จินหยูนั้น น ใกล้เคียงกับอาวุธศักดิ์สิทธิ์ระดับกลาง แต่ถึงกระนั้นก็เพียงพอที่จะหลอกลวงเคจ
“ดี! ข้าไม่คาดคิดมาก่อนว่า จะมีสมบัติเช่นนี้ในดินแดนรกร้าง หากข้าสามารถขัดเกลาและทำให้ร่างวิญญาณกลายเป็นทาสของข้า ความแข็งแกร่งของข้าจะไม่เพียงเพิ่มขึ้น 30% แม้ว่ามันจะเป็น นการเพิ่มขึ้น 10 เท่า ปรมาจารย์ระดับขั้นทองธรรมดาๆ ก็จะสามารถเดินทางกลับโลกได้อย่างไม่ลำบาก” เคจบ่นพึมพำกับตัวเอง เห็นได้ชัดว่า แม้ว่าเขาจะไม่เชื่อในคำพูดของจินหยู แต่เขา ก็สามารถเห็นได้ว่าความแข็งของแผ่นหิน ในร่างกายของจินหยูนั้น สูงกว่าระดับกลางอย่างแน่นอน หรืออาจจะเทียบเท่ากับระดับสูงสุด เพราะเขามั่นใจว่า แม้ว่ามันจะเป็นอาวุธวิเศษระ ะดับกลาง แต่การโจมตีของจินหยูก็ดูน่าหวาดหวั่น
สำหรับอาวูธของลัทธิเต๋าที่เขาหวาดกลัว เนื่องจากแม้ว่าเขาจะมีชีวิตอยู่มานานมากแล้ว แต่เขาก็ยังไม่ได้เห็นสมบัติระดับล่างเลยแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตาม เขารู้ดีว่าอุปกรณ์ของลั ทธิเต๋าทุกชิ้น มีพลังที่จะทำลายสวรรค์และโลกได้ แล้วจินหยูจะต้านทานอย่างไร
“พลังของเจ้าแข็งแกร่งมาก...เหตุใดต้องติดตามเด็กไม่สิ้นกลิ่นน้ำนม หากเจ้าเต็มใจที่จะร่วมมือกับข้า ข้าสามารถจัดหาวัสดุขั้นสูงจำนวนมาก เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งให้เจ้าได้”