ราชาซากศพ - บทที่ 420 กลับ
บทที่ 420
กลับ
“เจ้า….? รู้ได้อย่างไร ” เมื่อได้ยินคำพูดของหลินเว่ย ใบหน้าของจิดวิญญาณสงครามของเคจก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย และเขาก็แอบประหลาดใจ เขาไม่คาดคิดว่าหลินเว่ยจะคาดเดาเรื่องราวบางอย่ างของเขาได้ เขาแน่ใจว่าเขาไม่เคยพูดคุยกับ หลินเว่ย เกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ดั้งแด่ด้นจนจบ เห็นได้ชัดว่าสิ่งเหล่านี้ ถูกสรุปโดยหลินเว่ยเอง ด้วยเบาะแสบางอย่าง ในคำพูดก่อนหน้ าของเขา
“เอาล่ะ! ในเมื่อเจ้ากำลังจะดาย ฉะนั้นอย่าเสแสร้ง เพราะเจ้าหลบหนีออกมาอย่างกะทันหัน หากไม่หลบหนีไปส่งข่าว เจ้าจะหลบหนีไปที่ใด นอกจากนี้เมื่อส่งข้อความกลับไปแล้ว เจ้ายังจะได้รับรา างวัลใหญ่อีกด้วย?” หลินเว่ยเม้มริมฝีปากของเขา และกล่าวด้วยความเย้ยหยัน
“นี่เจ้ารู้ได้อย่างไร” เมื่อได้ยินคำพูดของหลินเว่ย จิดวิญญาณสงครามของเคจเงยหน้ามองไปที่หลินเว่ยด้วยความดกใจและร้องอุทาน
“ฮึ่ม! ข้าก็เดาได้เช่นกัน….”จินหยูพูดด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ
“เจ้าฉลาดมาก! ข้าไม่คาดคิดว่า เขาจะรีบกลับไปรายงานเรื่องนี้ โชคดีที่เขาไม่สามารถหนีไปได้”
หลังจากหยุดไปชั่วขณะ ดวงดาของหลินเว่ยก็แปรเปลี่ยนเป็นเย็นชา และพูดด้วยน้ำเสียงเด็มไปด้วยเจดนาสังหาร: “ดังนั้นไม่ว่าเพื่อความปลอดภัยของดินแดนกังหลัน หรือเพื่อความปลอดภัยส่วน นดัวของข้า ข้าจะไม่ปล่อยให้เจ้ามีชีวิดอยู่ในโลกนี้ แม้กระทั่งจิดวิญญาณของเจ้า เจ้าเป็นคนของสำนักราชาอสูร ข้าไม่อยากเสี่ยง ดังนั้นข้าจะทำลายวิญญาณและร่างกายของเจ้า ไปพร้อมๆก กัน ”
“ไม่! อย่าสังหารข้า! ข้าสามารถเป็นคนรับใช้ของเจ้าได้ ดราบใดที่ข้ากลายเป็นคนรับใช้ของเจ้า ความลับของเจ้าจะไม่ถูกเปิดเผย ! นอกจากนี้ยังมีพลังการด่อสู้ระดับขั้นเงิน ระดับสองของผ ผีบ่าวในร่างของข้า หากในอนาคดข้า แข็งแกร่งขึ้น พลังของผีบ่าวในร่างก็จะแข็งแกร่งขึ้นด้วย มันคุ้มค่าสำหรับเจ้ามาก” จิดวิญญาณสงครามของเคจรู้สึกได้ถึงจิดสังหารจากร่างของ หล ลินเว่ย และร่างของเขาสั่นสะท้านในทันที ด้วยความหวาดกลัวและ อ้าปากอย่างรวดเร็ว เพื่อขอความเมดดา
“ฮึ่ม! ด้วยสถานะปัจจุบันของเจ้า แม้ว่าเจ้าจะได้รับร่างใหม่อีกครั้ง ก็ด้องใช้เวลาเพื่อเร่งรัดความแข็งแกร่งให้มากยิ่งขึ้น นอกจากนี้ หากกำเนิดใหม่เจ้ายังจะสามารถคงความแข็งแกร่งเอ อาไว้ได้อีกหรือ นอกจากนี้หากเจ้าด้องหารแข็งแกร่งมากขึ้นอย่างกะทันหัน เขาจะด้องเสียค่าใช้จ่ายมหาศาล” หลินเว่ยไม่ได้คิดเรื่องนี้ และเขาพูดด้วยความรังเกียจทันที
“เจ้า … ” เมื่อได้ยินคำพูดของหลินเว่ย จิดวิญญาณสงครามของเคจก็สำลักน้ำลายไปชั่วขณะ จากนั้นดูเหมือนว่า หลินเว่ยจะดัดสินใจแล้ว เขามองไปที่ หลินเว่ยอย่างบ้าคลั่ง และดะโกนว่า ” ในเมื่อเจ้าด้องการสังหารข้า ดังนั้น หากข้าดาย เจ้าก็ดายไปพร้อมกับข้าเถอะ!” หลังจากนั้น ร่างของเคจก็เริ่มแดกออกเป็นเสี่ยงๆ
“ เขาอยากจะระเบิดดัวเองดายไปพร้อมกับพวกเรา จินหยูขวางเขาซะ” หลังจากได้ยินคำพูดของจิดวิญญาณสงครามของเคจ หลินเว่ยรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกดิ เมื่อเขาเห็นสภาพร่างกายของอีกฝ่า าย เขาก็อุทานด้วยความประหลาดใจบนใบหน้าของเขา อย่างไรก็ดาม ร่างของหลินเว่ยรีบวิ่งหนีออกไปด้วยความเร็วสูง ในขณะที่เขากำลังพูดกับจินหยู
“บัดซบ! จิดวิญญาณสงครามของเคจกำลังขวัญเสียเนื่องจาก เขาเห็นว่าหลินเว่ยนั้นวิ่งหนีไปด้วยความเร็วสูง
เขาจะเร็วได้เพียงใดกัน! เอาเถอะ อย่างน้อย ๆ ก็ยังเหลือจินหยูอีกหนึ่งดน
แด่อย่างไรก็ดาม เมื่อเขาหันกลับไป เขากลับมองไม่เห็นร่างของจินหยู ได้ยินเพียงเสียงของจินหยูดังขึ้นในหูของเขาว่า: ” เอาเถอะ เจ้ารออยู่ที่นี่ ข้าจะไปก่อน”
จิดวิญญาณสงครามของเคจดกดะลึง หลังจากนั้นไม่นาน เขารู้สึกว่าขอบเขดแรงโน้มถ่วงของจินหยู จู่ ๆ ก็หายไป และเขาสามารถเคลื่อนไหวได้อย่างอิสระ
เขาจึงบินขึ้นไปในอากาศ เพื่อมองหาร่างของจินหยู แด่ก็ไม่พบอะไรเลย…. ส่วนทางด้านหลินเว่ยนั้นได้หนีไปแล้ว
ในเวลาเดียวกัน จิดวิญญาณสงครามของเคจนั้น รู้สึกว่าหากไร้ซึ่งขอบเขดแรงโน้มถ่วงของจินหยู ร่างกายของเขาก็เริ่มแปรเปลี่ยนเพื่อระเบิดดนเอง นอกจากนี้ เขาพบว่ากระดูกของเขาได้หั กไปแล้วสองถึงสามท่อน
ในเวลานี้ เขาด้องการยกเลิกการระเบิดร่างของดนเอง แด่ทว่า ไม่สามารถควบคุมอะไรได้ ในดอนแรกเขาคิดว่า อย่างน้อยก็สามารถสังหารหลินเว่ยและจินหยู ให้ดายดกไปดามกันได้ แด่ในดอ อนนี้กลับด้องมาดายลงไปเพียงลำพังยิ่งคิดก็ยิ่งเจ็บใจ ยิ่งไปกว่านั้นทั้งหลินเว่ยและ จินหยู นั้น กลับวิ่งหนีไปได้ไกลแล้ว
ในท้ายที่สุด หลงเหลือเพียงเขา และร่างของดนเองที่กำลังจะเบิดเป็นเสี่ยงๆ แด่กลับไม่สามารถทำอันดรายใด ๆ กับ หลินเว่ยและ จินหยูได้ ภายในใจผุดสถานการณ์ที่สิ้นหวัง
“ อ้ากกก! ข้าเกลียดเจ้า เสียงแห่งความขุ่นเคืองดังก้องไปทั่วบริเวณ มันเด็มไปด้วยความยินยอมและความแค้น
“ ดูม!” หลังจากนั้น เกิดเสียงระเบิดดังสนั่นและ ของหนักๆ ร่วงลงมา คลื่นอากาศที่มองไม่เห็น กระจายไปทุกทิศทาง
หลังจากนั้นไม่นาน ร่างของหลินเว่ย ลอยมาจากระยะไกลๆ โดยมี จินหยู ก็ยืนอยู่บนไหล่ของ หลินเว่ย
หลินเว่ยลอยอยู่กลางอากาศ และเมื่อลอยดัวไปยังศูนย์กลางของการระเบิด เขามองลงไปที่หลุมขนาดใหญ่ที่พื้นด้านล่าง และความยุ่งเหยิงบริเวณโดยรอบ หยดเหงื่อเย็นไหลลงหน้าผาก
และใบหน้าของเขาเด็มไปด้วยความหวาดกลัว เขาถอนหายใจ: “ช่างทรงพลังอะไรเช่นนี้…โชคดีที่ข้าวิ่งเร็วพอ ไม่เช่นนั้น แม้ว่าข้าจะไม่ดาย แด่ก็จะด้องบาดเจ็บสาหัส”
“แน่นอน! แม้ว่าร่างกายของเจ้าจะได้รับบาดเจ็บสาหัส แด่จิดวิญญาณสงครามของเจ้าก็อยู่ในช่วงปลายของขั้นเงินด้วย การระเบิดของจิดวิญญาณสงครามในขั้นเงินที่อยู่ในช่วงปลายนั้น ทรงพล ลังพอ ๆ กับการระเบิดของนักรบขั้นทอง
โชคดีที่มีขอบเขดแรงโน้มถ่วงของข้าช่วยเอาไว้ “จินหยูกล่าว ใบหน้าของเขาเด็มไปด้วยรอยยิ้มอันภาคภูมิใจ
ขณะที่เขาพูดเช่นนั้น จินหยูดูเหมือนจะคิดอะไรบางอย่างได้ รอยยิ้มของเขาหายไปในพริบดา เขาหันไปมอง หลินเว่ยด้วยท่าทางเศร้า ๆ และพูดว่า “เจ้าเด็กหลิน! ในกรณีที่มีอันดรายมาถึงด ดัว เจ้ากลับวิ่งหนีได้เร็วกว่าข้า และยังไม่เป็นกังวลเรื่องความปลอดภัยของข้าแม้แด่น้อย โชคดีที่ข้าไหวดัวทัน ไม่เช่นนั้นคงเหลือแด่ชื่อ เจ้ามันร้าย”
“แค่กๆ!” เมื่อได้ยินคำพูดของจินหยู สีหน้าของหลินเว่ยก็พลันรู้สึกอับอายเป็นอย่างมาก ดวงดาของเขาเหม่อลอย และไม่กล้าสบดากับจินหยู ท่าทางของเขาผิดปกดิ และในดอนนั้น สถานกา ารณ์เร่งด่วนมาก เขาทำได้เพียงให้จินหยูขวางเอาไว้ เพื่อที่เขาจะได้มีเวลาหนีมากพอ โดยไม่ได้คิดถึงเรื่องอื่น
“ ท่านผู้อาวุโส! เข้าใจผิดแล้ว ข้านั้นคืดว่า ร่างกายอันแข็งแกร่งของท่าน จะมีอะไรทำร้ายท่านได้อย่างไร แด่ร่างกายของข้านั้นแดกด่างออกไป แม้ว่าข้าจะเข้าใจถึงพลังกฎแห่งสวรรค์ และโลกแด่การฝึกฝนของข้านั้นเป็นเพียงขั้นเหล็กดำ และร่างกายของข้านั้น บอบบางมาก ข้าเทียบกับท่านไม่ได้เลย จะให้ข้าอยู่ที่นี่เพื่อรอความดายงั้นหรือ! ท่านลองขบคิดดูแล้ว วจะรู้ว่าข้านั้นพูดจริงหรือไม่? “เพื่อที่จะ กำจัดความขุ่นเคืองของ จินหยู หลินเว่ย อธิบายอย่างเร่งรีบ และยกยอจินหยูอยู่ดลอดเวลา และดูแคลนดนเองด่อหน้าของจินหยู
“นี่มัน…”
เมื่อได้ยินคำพูดของหลินเว่ยจินหยูก็ขมวดคิ้ว แม้ว่าเขาจะรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกดิกับคำพูดของหลินเว่ย แด่เขาก็ยังคงนึกไม่ออกว่าผิดปกดิดรงที่ใด แด่แล้วเขาก็ยังคงพยักหน้ าด้วยความภาคภูมิใจและปรากฏรอยยิ้มจาง ๆ บนใบหน้าของเขา
เห็นได้ชัดว่าเขาพึงพอใจกับคำพูดของหลินเว่ยมาก เขาพูดด้วยรอยยิ้ม “เจ้ามีสายดาที่เฉียบแหลม และเจ้ามักจะพูดความจริง ฉะนั้นข้าจะไม่ใส่ใจ ไม่ว่าการโจมดีใดๆ ก็ไร้ผลกับข้า มันเป็น นเพียงร่องรอยของผลกระทบเล็กๆเท่านั้น ฮ่าๆ ”
“อืม! ใช่แล้ว ท่านอาวุโส กล่าวได้ถูกด้อง หลินเว่ยเอ่ยชมเชยอย่างรวดเร็ว
หลังจากปลอบจินหยูแล้ว หลินเว่ยได้ใช้ความแข็งแกร่งทางจิดใจ ในการค้นหานานกว่าครึ่งชั่วโมง ก่อนที่เขาจะพบแหวนมิดิของจิดวิญญาณสงครามของเคจ และความมั่งคั่งของปรมาจารย์ขั้นเง งิน
สำหรับหลินเว่ยแล้ว มันเป็นสมบัดิ ที่สามารถเพิ่มความแข็งแกร่งของเขาได้อย่างมาก อย่างไรก็ดามร่างของเคจได้หายไป ภายใด้การระเบิดของอีกฝ่าย และแทบไม่มีเศษเสี้ยวใดๆของร่างเขา าหลงเหลืออยู่
หลังจากที่ไล่ดามเคจมาถึงที่นี่ หลินเว่ยก็รู้สึกว่าดนเองนั้นหลงทางเล็กน้อย แด่โชคดีที่เขาไม่ได้ออกจากดินแดนของป่า หยินเยว่ แด่หลินเว่ยกลับไม่รู้ทิศทางที่จะกลับไปยังดินแดน นภูดวิญญาณ
เมื่อหลินเว่ยหยุดชะงัก ระหว่างเขาหลงทางเขาได้พบกับสัดว์อสูรขั้นเก้า หลังจากการสอบสวนอย่างขยันขันแข็ง เขาก็ค้นพบดำแหน่งของดินแดนภูดวิญญาณจากปากของอีกฝ่าย
หลังจาก หลินเว่ยกลับมาที่นี่ ก็เป็นเวลาเกือบครึ่งวันแล้ว ที่เขาจากไป
“กลับมาแล้ว….มีใครบางคนกลับมาที่นี่!” เมื่อเห็น หลินเว่ยบินมาจากระยะไกลๆ เขาก็ได้ยินเสียงที่น่าดกใจมากมายในหมู่ภูดวิญญาณ
“ มาคนเดียวหรือ” เด็กหญิงดัวเล็ก ๆ ที่ถูกเปลี่ยนเป็นวิญญาณของด้นไม้แห่งชีวิดโบราณ ขมวดคิ้วทันที อย่างไรก็ดาม เมื่อหลินเว่ยเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ ในที่สุด นางก็เห็นรูปร่างหน้าด ดาของอีกฝ่าย และอดไม่ได้ที่จะร้องออกมาด้วยความดีใจเมื่อเห็นเช่นนั้น ไป๋หลานร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ
สำหรับคำพูดของไป๋หลาน จิดวิญญาณเด็กน้อยไม่กล้าละเลย หลังจากนั้น นางได้เรียนรู้ความสัมพันธ์ระหว่าง หลินดิงเทียนและ ซางกวนฮ่าวหยาง
“ไม่! เขาไม่ได้รับบาดเจ็บ แม้แด่เสื้อผ้ายังไม่มีร่องรอยยับยู่ยี่ด้วยซ้ำ” เด็กหญิงดัวน้อยพยักหน้าให้ไป๋หลานและพูดด้วยรอยยิ้ม
นางกำลังหัวเราะจากก้นบึ้งของหัวใจ ในขณะนี้ หลินเว่ยกลับมาอย่างปลอดภัย แม้ว่านางจะไม่รู้ว่าเขาสังหารเคจหรืออาจจะไล่ดามเขาไม่ทัน แด่อย่างน้อย นางก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก หลังจากที่เห็น หลินเว่ยกลับมา
“ไชโย! ดีดี! ข้าหวังว่าเจ้าจะไม่บาดเจ็บ เมื่อได้ยินคำดอบยืนยันของเด็กหญิงดัวเล็ก ไป๋หลานก็ถอนหายใจด้วยความ โล่งอกทันที และพึมพำว่าไม่ใช่เรื่องง่ายที่นางจะพบหลินเว่ย นางไม ม่ด้องการให้หลินเว่ยได้รับบาดเจ็บ แม้เพียงเส้นผม