ราชาซากศพ - บทที่ 43 อันตรายของผู้อาวุโสหก
บทที่ 43
อันตรายของผู้อาวุโสหก
เมื่อเห็นว่าหมาป่าลมกรดขั้นสี่ระดับสาม ถูกเรียกตัวกลับไปหาราชาหมาป่า หนานหม่านเจวี๋ยเหวี่ยงตัวขึ้นไปในอากาศทันที เขารีบพูดอย่างหยาบคาย ไม่ว่าเขาจะยั่วโมโหแค่ไหน หมาป่าลมกรดผู้คุ้มกันก็ไม่ยอมออกห่างจาก ฝั่งราชาหมาป่า อย่างไรก็ตาม เขาทำอะไรไม่ถูกจึงต้องล้มเลิกเป้าหมายลงไป
“ผู้อาวุโสหก โปรดระวัง!”
ทันใดนั้นเสียงร้องด้วยความประหลาดใจ ก็ทำให้หนานหม่านเจวี๋ยประหลาดใจ และจากนั้นเขาก็รู้สึกว่ามีลมปราณอยู่บริเวณด้านหลังของเขา ก่อนที่เขาจะทันได้ตอบสนอง ก็ถูกกระแทกออกไปด้วยแรงมหาศาล และรู้สึกถึงกลิ่นคาวเลือดในลำคอทันที
เขารู้สึกวิงเวียน ร่างของสัตว์อสูรตัวหนึ่งค่อย ๆ คืบคลานเข้ามา เกิดเป็นภาพที่ชัดเจนในดวงตาของเขา จากนั้นกรงเล็บขนาดใหญ่ก็หมายจะทำร้ายเขา
เจ้าของกรงเล็บนี้คือหมีอสูรขั้นสี่ระดับเจ็ด แม้ว่าพลังจะเทียบเท่ากับเขา แต่ความแข็งแกร่งนั้นสูงกว่าเขาเล็กน้อย เนื่องจากความไม่ทันได้ตั้งตัวเขาจึงยืนนิ่ง โดยที่กรงเล็บของหมีอสูรกำลังจะพุ่งเข้าหาร่างของเขาแล้ว
“ตุบ!” โดยไม่แม้แต่จะได้ทันส่งเสียง เขาก็ถูกอุ้งเท้าของหมีอสูร ตะปบลงไปบนพื้น เมื่อหมีอสูรยกกรงเล็บขึ้นมา พบหลุมลึกขนาดใหญ่อยู่ด้านใต้ และหนานหม่านเจวี๋ยนั้นอยู่ในชุดเกราะพลังปราณ อย่างไรก็ตาม ใบหน้าซีดขาว ดูอ่อนแรง และมีเลือดไหลออกมาจากปากของเขา ก่อนที่เขาจะทันได้ทำอะไร อุ้งเท้าของหมีอสูรก็กระหน่ำทุบลงไปแบบไม่ยั้ง
“ผู้อาวุโสหก!” เสียงตะโกนดังลั่นเกิดขึ้นในสนามรบ เมื่อเห็นว่า ฝ่านตนกำลังจะพลาดท่า
“พี่หก!”
เมื่อเห็นว่าผู้อาวุโสในฝ่ายตนเองถูกทำร้าย ดังนั้นผู้อาวุโสอีกหลายคนกระโดดลงมา และตะโกนร้องให้เขาระวังตัว แต่เนื่องจากศัตรูที่แข็งแกร่งอยู่ตรงหน้า พวกเขาจึงไม่สามารถหลบหนีออกมาจากวงล้อมการต่อสู้ได้
“สารเลว! ”
หนานหม่านเจวี๋ยสามารถพึ่งพาตนเองได้เพียงเท่านั้น ดังนั้นเขาก็ขมวดคิ้วทันทีและรีบพุ่งไปข้างหน้าอย่างกระวนกระวาย เขายกดาบขึ้น กวาดจากซ้ายไปขวา แล้วฟันจากบนลงล่าง การโจมตีที่ประกอบด้วยพลังปราณและพลังเต๋าฟาดฟันไปที่หมีอสูรทันที
“ปัง!”
ด้วยความแข็งแกร่งของหมีอสูร เมื่อรับรู้ได้ว่าชีวิตของตนเองตกอยู่ในอันตราย เมื่อเผชิญหน้ากับการโจมตีของหนานหม่านเจวี๋ย จู่ ๆ ทักษะกำแพงดินก็โผล่ขึ้นมาจากพื้นอย่างรวดเร็วต่อหน้าหมีอสูร และได้ยินเสียงดังหนัก ๆ ของกำแพงที่การป้องกันยังสร้างไม่สมบูรณ์ดีถูกทำลายลงเป็นชิ้น ๆ แต่พลังที่ส่งออกมาหลังจากทำลายกำแพงลงไปแล้ว ส่วนที่เหลือนั้นตกอยู่ที่ร่างของหมีอสูรแทน
แม้ว่าหมีอสูรจะเป็นเพียงสัตว์อสูรขั้นสี่ แต่ความฉลาดของมันก็ไม่สูงมากนัก แต่สัญชาตญาณในการต่อสู้ของมันยังคงทำให้มันยกอุ้งเท้าขึ้น กางแขนปกป้องหน้าอกของมัน และรับความเสียหายจากการใช้ท่วงท่าไม้ตายของหนานหม่านเจวี๋ยแทน
ทักษะที่หนานหม่านเจวี๋ยใช้นั้นเป็นเพียงทักษะระดับต่ำ ดังนั้นจึงไม่ก่อให้เกิดความเสียหายมากเกินไปกับหมีอสูร เมื่อหนานหม่านเจวี๋ยเห็นหมีอสูรสามารถสกัดกั้นการโจมตีของเขาได้ มันก้าวถอยหลังไปสองสามก้าว มีร่องรอยสีขาวอยู่ที่อุ้งเท้าของมัน
เผ่าหมีอสูรมีชื่อเสียงในด้านพลังความแข็งแกร่งและการป้องกันที่สูง หนานหม่านเจวี๋ยไม่ได้โง่เขลา ว่าสิ่งที่ตนเองทำนั้นจะสามารถมุ่งสังหารหมีอสูรได้
จุดประสงค์ของเขาคือฝ่าวงล้อมออกไปเพื่อเอาชีวิตรอด อย่างไรก็ตามหมีอสูรที่ถูกโจมตีไม่ได้ส่งผลอะไรเลย เท่ากับเป็นการเปิดช่องว่างให้มันไล่ตามทัน
ความเร็วของ หนานหม่านเจวี๋ยนั้นเร็วมาก แต่เขาลืมสิ่งหนึ่งสิ่ง นั่นก็คือศัตรูที่อยู่ข้างๆหนานหม่านเจวี๋ยไม่ได้มีเพียงแต่เป็นหมีอสูรเท่านั้น แต่ยังรวมถึงศัตรูที่ทำให้หนานหม่านเจวี๋ยถูกโจมตีอย่างรุนแรง
แมวเงาดำซึ่งเป็นสัตว์อสูรขั้นสี่ระดับห้าทั่วไป อย่างไรก็ตามศัตรูเช่นนี้เก่งในการฉวยโอกาส ก่อนหน้านี้มันฉวยโอกาสให้หนานหม่านเจวี๋ยปลิวออกไป แม้ว่าจะไม่ได้สร้างความเสียหายใด ๆ แต่มันก็ผลักหนานหม่านเจวี๋ยเข้าสู่อ้อมแขนของหมีอสูรและถูกกระหน่ำทำร้าย ถ้าไม่ใช่เพราะมัน หนานหม่านเจวี๋ยอาจจะสังหารหมีอสูรไปนานแล้ว
“เจ้าสัตว์ร้าย! ตายซะเถอะ!
หนานหม่านเจวี๋ยหันมาจัดการหมีอสูรให้สิ้นซาก เมื่อแมวเงาดำเห็นว่าหมีอสูรพ่ายแพ้ และร่างของหนานหม่านเจวี๋ยที่เดินไปมา ก็ปรากฏอยู่ในสายตาของมัน เมื่อเห็นโอกาสดีมันระเบิดเสียงคำรามโหยหวนเล็งตำแหน่งบริเวณหน้าอกหนานหม่านเจวี๋ย ตั้งใจจะทำลายหัวใจของหนานหม่านเจวี๋ย
ใบหน้าของหนานหม่านเจวี๋ยมองเห็นและคาดเดาความคิดของแมวเงาดำ ที่อยู่ด้านข้างของหมีอสูร น้ำลายค่อย ๆไหลออกจากปากของมัน จะเห็นได้ว่ามันคิดว่าหัวใจของหนานหม่านเจวี๋ยนั้นเป็นอาหารอันโอชะ
หนานหม่านเจวี๋ยที่เห็นฉากนี้เข้า ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยเลือด และความโกรธของเขาก็ระเบิดออกมาทันที เสื้อผ้าทั้งหมดของเขาปลิวสยายขึ้นด้วยพลังลมปราณ
“พรึ่บ!”
คลื่นพลังรุนแรงพลุ่งพล่านออกจากร่างของหนานหม่านเจวี๋ย แม้ว่ามันจะพลุ่งพล่าน แสงที่ส่องประกายบนดาบในมือของเขาก็กะพริบ พลังที่พลุ่งพล่านระดับนี้ หากไปโดนร่างของแมวเงาดำจะทำให้มันสิ้นชีพทันที
นี่คือทักษะศิลปะการต่อสู้ขั้นสูงของหวงเจี้ยที่ลุกโชติช่วงของตระกูลหนานหม่าน เมื่ออาวุโสคนอื่น ๆ ที่เห็นแบบนี้ทำให้จิตใจของพวกเขาก็รู้สึกฮึกเหิม
เกอเหลาเค่อและคนอื่น ๆ ที่กำลังรักษาตัวอยู่ในค่ายกล ต่างจ้องมองหนานหม่านเจวี๋ย ใช้ทักษะทางศิลปะการต่อสู้และสูดอากาศเย็นทีละนิด
“สัตว์ร้าย ข้าจะสังหารเจ้า!”
หนานหม่านเจวี๋ยกระทืบเท้าของเขาลงบนพื้น และร่างของเขาก็กระโดดขึ้นสูง หันหน้าไปทางแมวเงาดำ เขาโบกดาบในมือด้วยใบหน้าที่ดุร้ายในขณะนี้
เมื่อเผชิญกับการโจมตีของหนานหม่านเจวี๋ย แมวเงาดำรู้สึกได้ถึงลมหายใจแห่งความตายในทันที ในดวงตาสีเข้มของมัน แสดงความหวาดกลัวอย่างมาก หางของมันจุกแน่นใต้หว่างขาทั้งสองข้าง และม้วนตัวหลบหลีก
อย่างไรก็ตามลมหายใจแห่งความตายที่เข้มข้นใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ มันก็ยิ่งทวีความรุนแรงมากขึ้น
“โฮก!” ในเวลานี้ร่างสูงปรากฏระหว่างแมวเงาดำและหนานหม่านเจวี๋ย มันคือหมีอสูรที่พ่ายแพ้หนานหม่านเจวี๋ย มันกระโดดเข้าขัดขวางการโจมตีของหนานหม่านเจวี๋ย ร่างกายของหมีอสูรก็ระเบิดธาตุดินที่แข็งแกร่งอย่างรวดเร็ว กำแพงดินหนา ๆ ลอยขึ้นจากร่างกายอย่างรวดเร็วและลอยอยู่บนหัวของมัน และชนกับพลังของหนานหม่านเจวี๋ย
“ตูม” ความผันผวนของพลังที่รุนแรงได้เกิดขึ้นแล้ว และแผ่กระจายไปในสนามรบ ลมที่รุนแรงดังเช่นพายุโหมกระหน่ำทำให้ผู้คนและสัตว์อสูรที่ต่อสู้รอบตัวนั้นหยุดชะงัก และมองไปที่สถานที่ต่อสู้