ราชาซากศพ - บทที่ 74 พบอาจารย์
บทที่ 74
พบอาจารย์
พลังงานที่ต้องใช้ในการเลื่อนระดับจะเพิ่มขึ้นทีละขั้น ตามระดับนั้น ๆ ขั้นสี่ถึงขั้นห้าพลังงานที่ต้องการ คือ แก่นคริสตัลขั้นสี่ระดับเก้าจำนวนหนึ่งหมื่นชิ้น แก่นคริสตัลขั้นห้าระดับหนึ่งจำนวนหนึ่งร้อยชิ้น
ดังนั้น เขาต้องเติมเต็มหลุมพลังงานในการเลื่อนขั้นเท่ากับแก่นคริสตัลขั้นสี่ระดับเก้าจำนวนสี่ร้อย หรือ แก่นคริสตัลขั้นห้าระดับหนึ่ง หากหลินเว่ยต้องการเลื่อนขั้น
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้มันแตกต่างออกไปเล็กน้อย มากกว่าครึ่งหนึ่งของแก่นคริสตัลขั้นห้า ที่มีระดับมากกว่าหนึ่ง ในหมู่ของแก่นคริสตัลระดับสูงสุดคือระดับเจ็ด ซึ่งสิ่งเหล่านี้ทำให้หลินเว่ยสงสัยว่า
ทักษะของเขาสามารถเลื่อนระดับเป็นขั้นหกได้ในครั้งเดียวเลยหรือไม่?
แน่นอนว่านี่เป็นเพียงความคิดของหลินเว่ย หลังจากการดูดซับพลังงานแก่นคริสตัลเหล่านั้นก็สูญสลายไปมาก ด้วยการเพิ่มทักษะในแต่ละครั้งจำนวนที่ต้องการก็เพิ่มขึ้นไปพร้อม ๆ กัน อย่างไรก็ตามอย่างน้อยหลินเว่ยก็สามารถเลื่อนระดับทักษะทั้งหมดของเขาเป็นขั้น 5 ได้สำหรับการเลื่อนขั้นครั้งล่าสุด เขาสามารถเลื่อนระดับได้อีกครั้ง ในเวลาไม่ถึงหนึ่งเดือนด้วยซ้ำ ทำให้หลินเว่ยมีความสุขมาก
หลินเว่ยทำได้เพียงการดูดซับพลังและการดูดซับอย่างต่อเนื่อง ความเร็วในการดูดซับพลังงานนั้นรวดเร็วมาก มันเร็วที่สุดตั้งแต่เคยทำมา ไม่ใช่เพราะระดับขั้นของแก่นคริสตัลที่สูงขึ้น แต่มันมาจากตัวของหลินเว่ยเอง ที่เขาคิดว่าเขานั้นสามารถดูดซับแก่นคริสตัลได้รวดเร็วเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว
แต่ความจริงนั้น ไม่ตรงกับความคิดของหลินเว่ย เพราะเขานั้นดูดซับแก่นคริสตัลทั้งหมดที่เหลืออยู่ โดยการดูดซับพลังงานทั้งหมดลงในพื้นที่มิติหลังจากนั้นเขาก็หยุด และรอให้อาจารย์หมิงตื่นขึ้น จากนั้นกำจัดผง จากการดูดซับแก่นคริสตัล
เพราะที่นี่คือตระกูลเย่ เขาไม่ต้องการให้คนอื่นรู้ว่า เขาได้ดูดซับแก่นคริสตัลจำนวนมาก
ชายชราหมิงนั้นยังคงไวต่อพลังงานในร่างมาก ด้วยการดูดซับพลังงานมากขึ้นเรื่อย ๆ เขาจึงอยู่ได้นานขึ้น กว่าครั้งก่อน ๆ หลังจากที่หลินเว่ยนั้นเลื่อนขั้น
“หลินเว่ยหรือ เหตุใดข้ารู้สึกว่า เจ้าพึ่งจะได้เลื่อนขั้นล่ะ สามารถทะลวงระดับได้รวดเร็วเพียงนี้เชียวหรือ” นี่คือคำแรกที่ชายชราพูดขั้นมา
“ท่านไม่รู้ว่า…ข้านั้นเป็นใคร! ข้าเป็นลูกศิษย์ท่านเชียวนะ หลินเว่ยพูดด้วยใบหน้าภาคภูมิใจ เขาหวังวว่า ตนเองนั้นจะไม่กระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของเสี่ยวไป๋ เนื่องจากการพูดคุยกับชายชราหมิง ด้วยความเลื่อมใส
“ข้าพบว่านิสัยของเจ้านั้น…..ไร้ยางอายมากขึ้นเรื่อย ๆ ” หลังจากได้สติแจ่มชัด ชายชราพลันเอ่ยพูดอีกสองสามคำ
หลังจากนั้น ชายชราหมิงจะช่วยหลินเว่ยยกระดับการคืนชีพโครงกระดูกและพื้นที่มิติ มิฉะนั้นเขาคงไม่จำเป็นต้องปรากฏตัว หลังจากที่หลินเว่ยมีพลังงานเพียงพอ
“อาจารย์! ข้าต้องรวบรวมพลังงานอีกเท่าไหร่?” หลินเว่ยเม้มริมฝีปากของเขาแต่ไม่ได้พูดไร้สาระ เขารู้ว่าเวลาที่อาจารย์จะตื่นขึ้นนั้นสั้นมาก เขาจึงไม่สามารถยืดเยื้อได้และถามเพียงแค่สิ่งที่ตนเองนั้นอยากรู้เท่านั้น
“ไม่มากนัก! เหมือนกับเมื่อก่อนหน้านี้ แก่นคริสตัลขั้นหกระดับหนึ่งจำนวนหนึ่งร้อยชิ้นหรือแก่นคริสตัลขั้นห้าระดับเก้าจำนวนหนึ่งหมื่นชิ้น” ชายชราพูดด้วยน้ำเสียงที่เบา ๆ
“ข้าแค่อยากรู้ว่า กว่าที่ข้าจะสามารถเลื่อนขั้นทักษะการคืนชีพของโครงกระดูกเป็นขั้นที่สิบได้ ข้าจะต้องไปหาสัตว์อสูรจำนวนมากขนาดนั้นมาจากที่ใด เพื่อหาแก่นคริสตัลมาให้เพียงพอต่อการใช้เพื่อเลื่อนระดับ หลินเว่ยถามด้วยความสงสัย
“สบายใจได้ ข้ารู้สึกว่ายังมีสิ่งมีชีวิตระดับเทพอสูรอีกมากมายในโลก แม้ว่าแก่นคริสตัลจะไม่เพียงพอ แต่เจ้าสามารถแทนที่ด้วยผลึกพลังงานของสิ่งมีชีวิตอื่นได้ ในความเป็นจริงสัตว์อสูรหรือสิ่งมีชีวิตพลังระดับขั้นที่หก จะสามารถรวมพลังเกิดเป็นผลึกพลังงานกึ่งกายภาพรวม” เมื่อได้ยินคำถามของหลินเว่ย ชายชราหมิงตอบคำถามโดยไม่ลังเลใจเลยแม้แต่น้อยด้วยเสียงเบา ๆ
“ข้าเข้าใจแล้ว! กล่าวอีกนัยหนึ่งคือสัตว์อสูรทุกตนที่อยู่เหนือขั้นที่หก จะมีแก่นคริสตัลหรือผนึกพลังงานที่สามารถใช้ทดแทนแก่นคริสตัลได้ เมื่อได้ยินคำอธิบายของอาจารย์ หลินเว่ยก็พยักหน้าอย่างชัดเจน
“เป็นที่เข้าใจได้ว่า ตราบใดที่มันเป็นสิ่งมีชีวิตขั้นที่หกขึ้นไป ไม่จำเป็นที่จะต้องเพ่งไปที่สัตว์อสูรเพียงอย่างเดียว การสังหารศัตรูบางคนของเจ้าก็เป็นทางเลือกที่ดีเช่นกัน” ชายชราหมิงให้คำแนะนำหลายประการแก่หลินเว่ย
“เยี่ยม!” เมื่อได้ยินคำแนะนำของอาจารย์ หลินเว่ยก็ไม่ได้พูดอะไรอีก เขาเพียงแค่พยักหน้าเบา ๆ จากนั้นใบหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป และแสดงรอยยิ้มแปลก ๆ เขาพูดด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ “อาจารย์ ท่านเคยบอกว่าจะให้รางวัล หากข้าสามารถเลื่อนระดับได้อย่าลืมคำพูดไปซะล่ะ” หลินเว่ยเน้นย้ำ
“อืม! เดี๋ยวก่อน เมื่อหลินเว่ยพูดถึงเรื่องนี้ ชายชราหมิงก็หมดความอดทน ความทรงจำไม่รู้ว่ามาจากที่ใด พุ่งเข้าสู่ห้วงจิตสำนึกของหลินเว่ยโดยตรง จากนั้นก็รวมเข้ากับจิตวิญญาณของหลินเว่ยอย่างรวดเร็ว
“ทักษะระดับปฐพีขั้นสูง -รูปแบบชื่อจิน”
“ท่านใจดำเกินไปหรือเปล่า ท่านอาจารย์?” เมื่อเห็นว่าสิ่งที่อาจารย์มอบให้เป็นเพียงคัมภีร์ทักษะระดับปฐพีขั้นสูง หลินเว่ยบิดปากและกล่าวอย่างเหยียดหยาม หากจะฝึกฝนได้ ตัวเขาเองก็ต้องขั้นระดับพลังที่จะต้องสูงเทียบเท่ากันไปด้วย!
ทำให้หลินเว่ยไม่พอใจ
“ฮึ่ม! ข้าไม่รู้ว่า เจ้าจะต้องการอะไรมากมายในเมื่อรากฐานของตนเองไม่ได้ดีเกินไปนัก ลมปราณของเจ้าว่างเปล่า แทนที่จะเร่งฝึกฝนให้ดียิ่งขึ้น แต่กลับอยากครอบครองคัมภีร์ที่มิอาจฝึกได้ไปทำไมกัน?”
เสียงของชายชราหมิงดังขึ้นในจิตใต้สำนึกของหลินเว่ย พร้อมกับร่องรอยของการตำหนิในน้ำเสียงของเขา
“อา…..หลินเว่ยไม่พูดอะไรอีกต่อไป เขารู้สภาพของตนเองดีไม่ต้องพูดถึงคัมภีร์หรือเคล็ดลับระดับที่สูง ๆ อีกต่อไป แม้จะเป็นระดับปฐพีแต่สภาพของเขาตอนนี้ ก็ยังไม่สามารถฝึกฝนได้ เนื่องจากเขาต้องเร่งฝึกฝนลมปราณให้แข็งแกร่งมากยิ่งขึ้นไปอีก
“สิ่งที่ข้าจะมอบให้เจ้าในอนาคตเป็นทักษะการขัดเกลาร่างกาย ไม่เพียงแต่ช่วยเพิ่มความแข็งแกร่งของร่างกายเท่านั้น แต่ยังทำให้รากฐานของเจ้าคงที่ ถ้าทำตัวไม่ดี ข้าก็จะไม่ให้!” เมื่อเห็นว่าหลินเว่ยไม่ได้พูดอะไรอีกแล้ว เขาจึงพูดช้า ๆ และสบาย ๆ
“เอาล่ะ ข้าต้องไปแล้ว! ดูที่ท่านพูดสิ นี่ข้าเป็นลูกศิษย์คนเดียวของท่าน แต่ตอนนี้ตัวท่านเองก็ไม่ได้อยู่บนโลกนี้ ร่างกายก็ไม่มี ข้ามีอาจารย์แต่กลับไม่ช่วยเหลือ ทั้งยังต้องช่วยเหลืออาจารย์ให้ได้ร่างใหม่ ทำไมต้องเป็นข้าที่ต้องมาลำบากแบบนี้ ” หลินเว่ยเบ้ปากและบ่นขึ้น
“ ……….. ”
“อาจารย์?”
“ท่านยังอยู่ที่นั่นหรือไม่?” หลินเว่ยร้องเรียกและไม่มีเสียงตอบรับ
“อาจารย์?” หลินเว่ยยังคงร้องเรียกอาจารย์ของตนต่อไปไม่หยุด
เขาคิดว่าหลังจากได้ฟังคำพูดของเขา อาจารย์จะต้องโกรธและสาปแช่งตนเอง แต่รออยู่นานอีกฝ่ายไม่พูดอะไรสักคำ หลินเว่ยร้องเรียกอย่างรีบร้อน แต่เขาก็ยังไม่ตอบสนอง จนกระทั่งหลังจากเรียกอยู่หลายครั้ง หลินเว่ยก็มั่นใจว่า อาจารย์นั้นหลับไปอีกแล้ว
หลังจากที่รู้ว่าอาจารย์หลับไปแล้ว หลินเว่ยก็ยังคงมีคำพูดของอาจารย์ที่ติดอยู่ในใจ เขาต้องเร่งฝึกฝนรากฐานของตนให้แข็งแกร่งและเริ่มพัฒนาทักษะขั้นปฐพี เขารู้สึกว่าการพูดคุยกับอาจารย์ครั้งนี้ช่างน้อยมากจริง ๆ และไม่รู้ว่าเมื่อไรที่จะสามารถพูดคุยกับอาจารย์ได้อีกครั้ง ท้ายที่สุดแล้วไม่ว่าจะเป็นการเลื่อนขั้นระดับที่ห้าหรือขั้นที่หก ทั้งสองอย่างก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
หลังจากจัดการกับแก่นคริสตัลที่เหลือ หลินเว่ยก็ไม่ได้เร่งรีบในการฝึกฝน เขาหยิบอาวุธวิญญาณทั้งสามออกมาและเตรียมที่จะจัดการอาวุธวิญญาณต่อไป