พลิกชะตาชายาสยบแค้น - ตอนที่ 141 แผนร้ายของหลี่ซื่อ
ตอนที่ 141 แผนร้ายของหลี่ซื่อ
“ปี้จู ไปดูว่าท่านหมอมาถึงไหนแล้ว บอกให้เขารีบมาหน่อย” อันหลิงเกอเข้าใจทันทีจึงออกคำสั่งให้ปี้จูที่อยู่ด้านข้างไปตามหมอ มุมปากยกยิ้ม ในแววตาแฝงไปด้วยความลึกล้ำยากคาดเดา
แม้หลี่ซื่อกลัวว่าพอปี้จูไปถึงแล้วมิเห็นสาวใช้ของตน แต่ก็มิกล้าห้ามปราม เพียงแสร้งกล่าวออกมาว่า “สาวใช้ของข้าชอบทำตัวเกียจคร้านตลอด เจ้าไปกระตุ้นนางหน่อยก็ดี จักได้มิทำให้สะใภ้หวังต้องรอนานกว่านี้”
“ถ้าอยู่ที่เรือนข้า สาวใช้เยี่ยงนี้คงโดนขายออกไปนานแล้ว มิเยี่ยงนั้นจักทำให้รำคาญใจเปล่า ๆ ” เสียงของหวังซื่อกล่าวเยาะเย้ยออกมาทันที หลังจากที่นางพักได้ครู่หนึ่งก็กลับมามีเรี่ยวแรง ในเวลานี้จึงยกคำกล่าวของหลี่ซื่อมาประชดกลับทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าของหลี่ซื่อแทบจางหายไปหมด
“ปกติข้าเห็นแก่ที่นางติดตามมาหลายปีจึงแสร้งทำมองมิเห็นพฤติกรรมเกียจคร้านของนาง แต่คาดมิถึงว่าในเวลาสำคัญเยี่ยงนี้นางก็ยังกล้าทำ รอให้นางกลับมาแล้ว ข้าจักลงโทษแน่นอน มิเช่นนั้นนางจักทำจนติดเป็นนิสัย” หลี่ซื่อกล่าวออกมาและพยายามทำให้รอยยิ้มบนใบหน้าเป็นธรรมชาติ ในเวลาเดียวกันก็สามารถหาทางออกให้ตนเองเรียบร้อยแล้ว
ถ้าปี้จูไปถึงโรงหมอแล้วมิเจอสาวใช้ของนาง ก็สามารถบอกว่าสาวใช้เกียจคร้าน ทำให้อันหลิงเกอและหวังซื่อนำเรื่องนี้มาต่อว่านางมิได้
ส่วนเรื่องที่นางวางยาหวังซื่อก็ทำมันอย่างลับสุดยอด มิว่าสืบเยี่ยงไรก็มิมีทางหาเจอ
เมื่อได้ฟังคำกล่าวของหลี่ซื่อ หวังซื่อก็หวนนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้ เมื่อตอนที่นางเสียเลือดมาก หลี่ซื่อกลับเข้าไปขวางสาวใช้เพื่อมิให้พวกนางเตรียมยา เห็นได้ชัดว่าหลี่ซื่อต้องการให้บุตรในครรภ์มิรอดชีวิต
ในตอนนี้มิมีผู้ใดกล่าวออกมาอีกจึงทำให้ภายในห้องเงียบงันทันที
หลังจากที่ปี้จูไปตาม ท่านหมอก็รีบมาอย่างรวดเร็ว เขาเดินตามหลังปี้จูมาติด ๆ
“เหตุใดนายหญิงรองถึงมีเลือดไหลเยอะถึงเพียงนี้เล่า ? ”
แม้ปี้จูเล่ารายละเอียดให้ท่านหมอฟังสั้น ๆ แล้ว เขาก็ยังตกใจเมื่อเห็นโลหิตบนพื้น
ท่านหมอกล่าวด้วยความตกใจพร้อมขมวดคิ้ว เขารีบเดินมาหาหวังซื่อ “ครั้งก่อนนายหญิงรองตกใจจนส่งผลต่อครรภ์ ครั้งนี้ยังมีเลือดไหลเยอะมาก เกรงว่าบุตรในครรภ์…”
ภายในใจของหวังซื่อรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาทันที นางรีบถามด้วยความร้อนรน “ท่านหมอสามารถรักษาบุตรในครรภ์ของข้าไว้ได้หรือไม่ ? ”
ท่านหมอจับชีพจรหวังซื่อด้วยใบหน้าเคร่งขรึม หลังจากนั้นครู่หนึ่งคิ้วที่ขมวดมุ่นก็คลายออก ทว่าบนใบหน้าแทนที่ไปด้วยความสงสัย
“น่าแปลก น่าแปลกยิ่งนัก”
ท่านหมอกล่าวพลางลูบเครายาวแล้วแสดงท่าทางคิดมิตก
ทว่าหวังซื่อร้อนรนเพราะท่าทางของเขา เดิมทีนางก็มีนิสัยตรงไปตรงมาอยู่แล้ว ในตอนนี้เรื่องเกี่ยวข้องกับบุตรในครรภ์จึงทำให้นางมิเหลือความอดทน “ท่านหมอกล่าวออกมาเสียที ! ยังรักษาบุตรในครรภ์ของข้าได้หรือไม่ ? ”
“ตามหลักแล้วนายหญิงรองก็มีภาวะแท้งง่ายมาก่อน คราวนี้ยังมีเลือดออกมาก บุตรในครรภ์ก็ควรรักษาไว้มิได้ ทว่าชีพจรของนายหญิงรองมั่นคงและมิมีสัญญาณของการแท้งบุตร เพียงแต่ท่านมีร่างกายอ่อนแอ ต่อไปต้องดูแลสุขภาพให้ดีและห้ามให้เกิดเรื่องผิดพลาดอันใดขึ้นอีกขอรับ”
เมื่อท่านหมอกล่าวจบ หวังซื่อจึงสามารถถอนหายใจอย่างโล่งอกออกมา
นางหวนนึกถึงท่าทางฝังเข็มของอันหลิงเกอแล้วตระหนักได้ทันทีว่าอันหลิงเกอช่วยตนไว้
“เกอเอ๋อ ข้าโชคดีที่คราวนี้มีเจ้าอยู่ มิเช่นนั้น…” นางกล่าวพร้อมจับมืออันหลิงเกอ แม้ใบหน้ายังค่อนข้างซีดขาวแต่ก็มีท่าทีใจเย็นมิตื่นตระหนกเหมือนก่อนหน้านี้
อันหลิงเกอฉีกยิ้มส่งให้หวังซื่อแล้วกล่าวอย่างนอบน้อม “เพราะอาสะใภ้รองมีบุญจึงพ้นจากอันตรายครั้งแล้วครั้งเล่าเจ้าค่ะ”
หลี่ซื่อแสร้งสวดภาวนาอยู่ข้าง ๆ จากนั้นก็กล่าวว่า “เกอเอ๋อ ตอนมาถึงที่นี่สะใภ้หวังยังดีอยู่ ทว่าต่อมาเกือบแท้งบุตร หากมิได้เป็นเพราะเจ้ากักตุนสมุนไพรแล้วเก็บของมิดีไว้ในเรือน สะใภ้หลี่จักเกิดอาการได้เยี่ยงไร ? ”
เพื่อหาเหตุผลให้เรื่องนี้ หลี่ซื่อจึงเอ่ยถึงเรื่องกักตุนยาสมุนไพรของอันหลิงเกอขึ้นมา
ทว่าอันหลิงเกอคลี่ยิ้มอย่างมีนัยยะแอบแฝง “หลี่อี๋เหนียงคงมิทราบ แม้ข้าสั่งให้คนกักตุนยาสมุนไพร แต่หลังถูกคนใส่ร้ายแล้ว ข้าก็มิได้ซื้อเพิ่มอีก”
อันหลิงเกอหยุดกล่าวไปครู่หนึ่งแล้วทำท่าทางที่เปลี่ยนเป็นดุร้าย “แต่หลี่อี๋เหนียงก็กล่าวถูก ตอนมาถึงอาสะใภ้รองยังดีอยู่ ต่อมาก็เกือบเสียบุตรในครรภ์ไป มิว่าเยี่ยงไรพวกเราต้องสืบเรื่องนี้ให้กระจ่าง”
เดิมทีหวังซื่อโดนหลี่ซื่อหลอกให้คิดไปอีกแบบ เข้าใจผิดว่าเรื่องที่อันหลิงเกอกักตุนยาสมุนไพรส่งผลมิดีต่อตัวนางและทำให้นางมีอาการแท้งโดยมิได้ตั้งใจ
ทว่าลองคิดแล้ว หากมีสมุนไพรชนิดนั้นอยู่จริง อันหลิงเกอจักวางมันในเรือนเพื่อทำร้ายนางหรือ ?
เมื่อตริตรองแล้วก็ดูเหมือนข้ออ้างของหลี่ซื่อมิสมเหตุสมผลแม้แต่น้อย
เมื่อคิดได้เยี่ยงนั้นนางจึงหันไปมองหลี่ซื่อด้วยโทสะพอสมควร “หลี่ซื่อ ยังมิต้องกล่าวว่าเหตุใดข้าจึงมีอาการหรอก เจ้าลองบอกมาหน่อยว่าเมื่อครู่ตอนที่เกอเอ๋อส่งสาวไปต้มยา เจ้าเข้าไปขวางพวกนางเพราะต้องการให้ข้าแท้งบุตรหรือ ? หรือหวังให้ตายไปทั้งแม่และลูก ? ”
“สะใภ้หวังกล่าวอันใด” หลี่ซื่อกะพริบตาปกปิดความผิดบนใบหน้า “ข้ามิมีความแค้นอันใดกับเจ้า แล้วจักทำเรื่องชั่วร้ายเยี่ยงนี้กับเจ้าทำไม ? ”
“เวลานั้นอยู่ในช่วงรีบเร่งและยังเกิดเรื่องกับเจ้าที่เรือนฉีอู๋อีก ข้าแค่กลัวว่าเกอเอ๋อจักวางยาเจ้าแล้วส่งสาวใช้พวกนั้นไปทำลายหลักฐาน”
นางกล่าวซ้ำอีกครั้งและใบหน้าก็เปลี่ยนเป็นน้อยเนื้อต่ำใจ “เพราะเมื่อครู่ข้ากับเจ้าทะเลาะกัน หากเจ้าโยนความผิดจากการแท้งบุตรมาให้ข้าเล่า ? ข้ามิโดนปรักปรำเกินไปหรือ ? ”
อันหลิงเกอได้ฟังก็หัวเราะเสียงดัง “เยี่ยงนั้นหลี่อี๋เหนียงจึงปกป้องตนเองจากการถูกปรักปรำโดยโยนความผิดมาให้ข้าแทน ทำให้คนสงสัยว่าข้าวางยาพิษอาสะใภ้รองเยี่ยงนั้นหรือ ? ”
อันหลิงเกอกล่าวพร้อมเน้นเสียงตรงคำว่าปรักปรำซึ่งนางมิมีทางเชื่อว่าหลี่ซื่อเป็นผู้บริสุทธิ์จากเรื่องนี้
หลี่ซื่อกำลังตอบโต้ออกมา แต่อันหลิงเกอมิเปิดโอกาสให้นางกล่าว “เมื่อก่อนข้าคิดว่าหลี่อี๋เหนียงเป็นผู้ดูแลจวน มิมีผลงานแต่ก็ต้องทำงานหนัก ดังนั้นท่านกล่าวหรือทำอันใดที่เกินขอบเขตข้าก็มิเคยถือสา แต่ตอนนี้ท่านไร้หลักฐานก็สาดโคลนใส่ข้าแล้ว ท่านกำลังใส่ความจวิ้นจู่ที่ฝ่าบาทแต่งตั้ง ! ตามกฎหมายต้าโจวคือต้องลงโทษโบย 20 ไม้ ! ”
การที่อันหลิงเกอยกตำแหน่งจวิ้นจู่ออกมาข่มขู่ทำให้หลี่ซื่อกัดฟันแน่น
เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วนางมิมีทางกลับคำโดยง่าย
หลี่ซื่อกัดฟัน หยิบผ้าเช็ดหน้าขึ้นมาแล้วปาดน้ำตาที่หางตา เพิ่งวางมือกลับเข้าที่เดิมก็เผยท่าทางเศร้าสร้อยอัก “ในเมื่อคุณหนูใหญ่ยกฐานะจวิ้นจู่มากล่าวถึง ข้าก็ต้องกล่าวเรื่องนี้ให้กระจ่าง”
“หลังจากสะใภ้หวังมาถึงเรือน เจ้าก็ทะเลาะกับข้าอยู่พักหนึ่ง จากนั้นก็มีเลือดไหลมิหยุด ต่อมาเจ้าให้สาวใช้ไปต้มยาโดยมิตื่นตระหนกและฝังเข็มห้ามเลือดให้นาง เหตุการณ์ทั้งหมดนี้มิบังเอิญไปหน่อยหรือ ? ”
นางมองท่าทางงุนงงของหวังซื่อ จากนั้นก็กล่าวสิ่งที่อยากกล่าวออกมา “ข้ามิได้บอกว่าคุณหนูใหญ่ทำร้ายสะใภ้หวัง ข้าแค่รู้สึกว่าเรื่องนี้เป็นเหมือนแผนที่คุณหนูใหญ่วางไว้เพื่อซื้อใจสะใภ้หวังนั่นเอง”
ใบหน้าของหลี่ซื่อเต็มไปด้วยความตื่นตะลึงราวกับตกใจในสิ่งที่ตนเอ่ยออกมาเช่นกัน
ทว่าในที่ลับตาคน นางก็เผยแววตาชั่วร้ายออกมาเล็กน้อย
หวังซื่อมิแท้งก็มิเป็นไร ขอเพียงทำให้ความสัมพันธ์ของสองคนนี้ร้าวฉานได้ แผนการในวันนี้ของนางก็มิสูญเปล่า