พลิกชะตาชายาสยบแค้น - ตอนที่ 145 ช่วยคน
ตอนที่ 145 ช่วยคน
สาวใช้ผู้นั้นเข้าไปหาโมโม่ที่กำลังยืนเฝ้าประตู จากนั้นก็ลดเสียงลงพร้อมบอกข่าวที่ตนเองทราบออกมา
โมโม่คนนั้นฟังจบก็พยักหน้ารับ สาวใช้จึงกลับมาที่เรือนของหวังซื่อ
แต่คาดมิถึงว่านางเพิ่งเดินเข้ามาในเรือนก็ถูกสาวใช้กลุ่มหนึ่งเข้ามาล้อมรอบเอาไว้
“ช่างดีเสียจริง ข้าก็สงสัยว่าเหตุใดจึงเกิดเรื่องกับข้าครั้งแล้วครั้งเล่า ที่แท้สาวใช้เยี่ยงเจ้ามีความคิดอื่นแอบแฝงและเป็นสุนัขรับใช้ให้เรือนอื่น ! ”
เสียงตะโกนด้วยความโมโหของหวังซื่อดังขึ้นพร้อมร่างอวบอัดของนางปรากฎในสายตาสาวใช้ผู้นั้น
“นะ นายหญิง เหตุใดท่านมาอยู่ที่นี่เจ้าคะ ? ”
สาวใช้พูดจาติดขัดเพราะตกใจสุดขีด
แต่เมื่อนางได้สติว่าเผลอแสดงกิริยาร้อนตัวออกไปจึงรีบกล่าวเสริม“วันนี้นายหญิงได้รับบาดเจ็บก็ควรดูแลรักษาร่างกาย แล้วเหตุใดท่านออกมาอยู่นอกห้องเจ้าคะ ? ”
หวังซื่อมิสนใจความห่วงใยจากนาง แต่ยกยิ้มอย่างเย็นชา “โดนจับได้แล้วยังกล้าทำตัวเป็นทองมิรู้ร้อนอีกหรือ เจ้าช่างใจกล้าเสียจริง”
หากมิใจกล้าคงมิได้เป็นคนส่งข่าวให้หลี่ซื่อเยี่ยงนี้
คิดได้เยี่ยงนี้หวังซื่อก็โมโหยิ่งกว่าเดิม
แต่สาวใช้แสร้งทำมึนงงและถามว่า “นายหญิงรองกำลังกล่าวเรื่องอันใด บ่าวมิเข้าใจเจ้าค่ะ”
“มิเข้าใจหรือ ? ” หวังซื่อกล่าวเสียงแหลม ขณะเดียวกันก็สั่งสาวใช้คนสนิทว่า “ชิงเอ๋อ บอกนางไปว่าเมื่อครู่เจ้าเห็นอันใด”
“เมื่อครู่ ตอนที่บ่าวกำลังออกไปต้มยาให้นายหญิงก็เห็นสาวใช้ผู้นี้เดินออกจากเรือนด้วยท่าทางลับ ๆ ล่อ ๆ นางทิ้งงานในเรือนแล้วไปยังเรือนหลี่ซื่อ ถ้ามิได้เอาข่าวไปบอกแล้วเป็นอันใดได้เจ้าคะ ? ”
ชิงเอ๋อสาวใช้คนสนิทของหวังซื่อจ้องสาวใช้คนนั้นด้วยสายตาดุร้าย หากมิใช่เพราะนาง นายหญิงก็คงมิถูกหลี่ซื่อวางแผนลอบทำร้าย
การเจอตัวคนที่หลี่ซื่อส่งมาแทรกซึมอยู่ข้างกายของตน เป็นเหตุให้หวังซื่อตระหนักถึงเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนี้ว่าผิดปกติเกินไป
เมื่อหวนนึกถึงเรื่องในวันนี้ ดูเหมือนว่าในตอนแรกที่หลี่ซื่อจงใจกวนทำให้นางโมโหจนส่งผลให้นางมีอาการเลือดไหลมิหยุด ต่อมาหลี่ซื่อยังเข้าไปขวางปี้จูและหมิงซินมิให้ไปต้มยาให้นางอีก หลังรอให้เลือดนางหยุดไหลแล้ว เด็กในท้องก็ปลอดภัย หลี่ซื่อก็แทบรอมิไหวที่จักใส่ร้ายอันหลิงเกอโดยบอกว่าเรื่องนี้เป็นฝีมือของอันหลิงเกอที่วางแผนทำร้ายและซื้อใจนางในคราเดียว
ทว่าเรื่องที่นางไปหาอันหลิงเกอในวันนี้เป็นเรื่องที่ตัดสินใจอย่างกะทันหัน หมายความอันหลิงเกอมิมีทางรู้ล่วงหน้าว่าตนจักไป
แต่หลี่ซื่อกลับส่งคนเข้ามาในเรือนจนสามารถรับรู้การกระทำของนางได้ตลอดเวลา เยี่ยงนั้นหลี่ซื่อก็เป็นคนที่สามารถลงมือกับนางได้มากที่สุด
เมื่อตริตรองอย่างถี่ถ้วนแล้ว หากนางเป็นอันใดขึ้นมาที่เรือนของอันหลิงเกอหรือรักษาบุตรในครรภ์ไว้มิได้ เรื่องที่นางต้องเสียบุตรไปจักทำให้อันหลิงเกอมิรอดจากการตกเป็นจำเลย มีเพียงหลี่ซื่อเท่านั้นที่รอดตัวและมิได้รับผลกระทบอันใดแม้แต่น้อย
เมื่อคิดได้เยี่ยงนั้นใบหน้าของหวังซื่อก็เคร่งขรึม ส่วนสาวใช้ผู้นั้นยังหาข้อแก้ตัวเหมือนเดิม “นายหญิงรองเจ้าคะ บ่าวเพียงนึกได้ว่ายังมีของที่มิได้หยิบมาจึงไปเอาเท่านั้น บ่าวจักกล้าทำเรื่องทรยศหักหลังนายหญิงได้เยี่ยงไร ? ”
หวังซื่อจ้องสาวใช้ตรงหน้าก็พบอีกฝ่ายมีหน้าตาน่ารักและน่าทนุถนอม ในเวลานี้ดวงตาแปดเปื้อนไปด้วยน้ำตา ยิ่งทำให้ดูน่าสงสารเข้าไปใหญ่
สตรีเยี่ยงนี้เป็นที่ชื่นชอบของนายท่านรองอันอิงหาวที่สุด !
เมื่อหวังซื่อคิดได้เช่นนั้น ใบหน้าก็เผยความดุร้ายออกมา “ชิงเอ๋อ นำสาวใช้ผู้นี้ไปขายให้ซ่องที่ต่ำสุดในเมืองหลวง ! ”
“นายหญิงเจ้าคะ ท่านทำเยี่ยงนี้มิได้นะเจ้าคะ ! ” สาวใช้ผู้นั้นกรีดร้อง คาดมิถึงว่าหวังซื่อจักมิเล่นตามทางปกติ มิคุยเหตุผลกับนางให้รู้เรื่องก็เอาตัวนางไปขายแล้ว
“เจ้ายังรู้ว่าข้าเป็นนายหญิงด้วยหรือ ? ” หวังซื่อจ้องสาวใช้อย่างเย็นชา “ข้าคือนายหญิงที่แท้จริง ส่วนเจ้าเป็นสาวใช้ชั้นต่ำ ตัวข้ามิชอบเรื่องที่เจ้าก่อ ถ้าจักนำเจ้าไปขายแล้วผู้จักว่าข้าได้ ? ”
เดิมทีการที่นายขายบ่าวเป็นเรื่องปกติ แม้สาวใช้มิพอใจมากแค่ไหนหรือโกรธแค้นเพียงใดก็มิสามารถเปลี่ยนแปลงความจริงได้
ทว่านางมิอาจปล่อยให้หวังซื่อขายตนไปอยู่ในซ่องชั้นต่ำพรรค์นั้น !
เมื่อคิดได้เยี่ยงนั้น สาวใช้ก็ทำใจแข็งและคุกเข่าลงพื้น
“นายหญิงเจ้าคะ ในครรภ์ของบ่าวมีบุตรของนายท่านรองอยู่ หากท่านลงโทษบ่าวก็ต้องรายงานให้นายท่านรองทราบก่อน รอให้นายท่านรองออกคำสั่ง แล้วบ่าวจักยอมให้นายหญิงลงโทษแต่โดยดีเจ้าค่ะ ! ”
นางกล่าวพร้อมเอามือกุมท้อง ท่าทางเศร้าสร้อย “สงสารบุตรที่ยังมิได้ลืมตาดูโลกของบ่าว ยังมิทันได้เห็นหน้าบิดา ก็ ก็จะ…”
ใบหน้าของหวังซื่อแข็งทื่อ นางรู้ว่าอันอิงหาวเป็นพวกมากรักและหมกหมุ่น เช่นนั้นนางจึงเลือกสาวใช้ข้างกายให้มีหน้าตาธรรมดา แต่คาดมิถึงว่าเขาจักกินมิเลือก กล้ามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับ*สาวใช้ขั้นสาม !
นี่คือความอัปยศอย่างใหญ่หลวง !
หวังซื่อยื่นมือไปตบหน้านางเสียงดังลั่นท่ามกลางสาวใช้มากมาย
หวังซื่อรู้สึกโกรธจนหน้าดำหน้าแดง ริมฝีปากสั่นระริก หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่จึงสามารถกล่าวออกมา “ดีเหลือเกิน คนชั้นต่ำกล้าล่อลวงเจ้านาย ! ”
หวังซื่อมิสนร่างกายที่อ่อนแอของตนแล้วเดินไปด้านหน้าสองก้าวเพื่อตบหน้าสาวใช้ผู้นั้นแรง ๆ อีกที
ชิงเอ๋อที่อยู่ข้างกายก็รีบเดินไปข้างตัวหวังซื่อแล้วประคองนางอย่างระมัดระวัง เพราะกลัวเกิดอันใดขึ้นกับเจ้านายอีก
“ไปเชิญนายท่านรองมา ข้าอยากรู้เสียจริงว่าเขาจักจัดการสาวใช้ผู้นี้เยี่ยงไร ! ”
สาวใช้ก็เป็นคนเจ้าเล่ห์ ล่อลวงนายท่านรองแล้วยังตั้งครรภ์ อีกทั้งยังกล้าขายนาง และคิดยืมมือหลี่ซื่อมากำจัดบุตรของนาง
กล่าวมากล่าวไปสุดท้ายก็อาศัยที่ในท้องมีก้อนเลือดอยู่หนึ่งก้อน !
รอให้นายท่านรองมาแล้ว นางต้องให้เขาเห็นสาวใช้ผู้นี้ดื่มยาขับเลือดด้วยตา !
ในตอนนี้แววตาของหวังซื่อเต็มไปด้วยความดุร้ายที่สามารถกลืนกินสาวใช้ผู้นั้นได้ทั้งเป็น ประกายแห่งความโกรธทำให้สาวใช้ที่อยู่รอบข้างก้มหน้าก้มตามิกล้ากล่าวสิ่งใดออกมา
ชิงเอ๋อรู้ว่านายหญิงกำลังรู้สึกแย่จึงรีบส่งสายตาบอก*สาวใช้ขั้นสอง ให้รีบไปเชิญนายท่านรองมาที่นี่
อันอิงหาวเพิ่งดื่มสุราสังสรรค์เสร็จและกำลังนอนอยู่ในห้องอย่างมีความสุข
“เรียนนายท่านรอง นายหญิงรองให้มาเชิญท่านไปที่เรือนเจ้าค่ะ”
สาวใช้รายงานออกไป อันอิงหาวได้ฟังก็ขมวดคิ้วและถามกลับด้วยน้ำเสียงมิพอใจ “นางเป็นอันใดอีก ? ”
“เรียนนายท่านรอง วันนี้นายหญิงรองมีอาการแท้งบุตร ต่อมาพบว่าเป็นฝีมือของสาวใช้ในเรือน นายหญิงรองกำลังจัดการสาวใช้ผู้นั้นอยู่เจ้าค่ะ”
อันอิงหาวเค้นเสียง ฮึ ขึ้นจมูก “คนอื่นตั้งครรภ์ก็มิเห็นทรมานเหมือนนาง ก็แค่สาวใช้คนหนึ่งก็ให้นางจัดการไป จงบอกนายของเจ้าว่าถ้ามิมีเรื่องอันใดก็อย่ามากวนข้า”
ท่าทางที่ดูเย็นชาของอันอิงหาวทำให้สาวใช้ค่อนข้างหวาดกลัว ทว่าสุดท้ายก็กล่าวต่อ “สาวใช้ผู้นั้นบอกว่านางตั้งครรภ์กับนายท่านรองเจ้าค่ะ บอกให้ท่านเป็นผู้ตัดสิน นายหญิงรองก็จนปัญญาจึงส่งบ่าวมาเชิญนายท่านเจ้าค่ะ”
ตั้งครรภ์กับเขาเยี่ยงนั้นหรือ ?
อันอิงหาวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งเพราะเมื่อมินานมานี้เขามีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับสาวใช้ในเรือนหวังซื่อจริง เดิมทีคิดว่าจักรับตัวนางมาอยู่ที่เรือนตน ทว่าพอยุ่งเข้าหน่อยก็ลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท คาดมิถึงว่าสาวใช้ผู้นั้นตั้งครรภ์แล้ว
เมื่อคิดได้เยี่ยงนั้นอันอิงหาวก็รีบลุกขึ้น “รีบพาข้าไป ! ”
จักปล่อยให้หวังซื่อแสนปากร้ายทำให้เขาสูญเสียบุตรมิได้เด็ดขาด
…
*สาวใช้ขั้นสาม มีหน้าที่ทำงานหนัก มิได้รับใช้ใกล้ชิดเจ้าของเรือนเหมือนสาวใช้ขั้นหนึ่ง
*สาวใช้ขั้นสอง มีหน้าที่ปรนนิบัติรับใช้เจ้านาย แต่ไม่ได้ใกล้ชิดสนิทสนมกับเจ้านายเท่าสาวใช้ขั้นหนึ่ง