พลิกชะตาชายาสยบแค้น - ตอนที่ 423 หน้าไหว้หลังหลอก
ตอนที่ 423 หน้าไหว้หลังหลอก
หลิงอวี่หนิงเข้าไปลากมือของอวี๋หมิงหลันเพื่อพาออกไปจากห้อง แต่คาดมิถึงว่าอวี๋หมิงหลันสะบัดมือของนางออกพร้อมจ้องนางด้วยความโมโห “เจ้าอย่ามาแตะข้า ! ”
อวี๋หมิงหลันทะนงตนมาแต่ไหนแต่ไร จนป่านนี้ก็มิได้คิดว่าเป็นพวกเดียวกับคนเยี่ยงหลิงอวี่หนิง
“อวี๋กู่เหนียง” หลิงอวี่หนิงมองอีกฝ่ายอย่างเสียใจ แต่อันหลิงเกอและมู่จวินฮานที่ยืนอยู่ด้านข้างกลับรู้สึกว่าเรื่องนี้ทั้งสองคนจงใจวางแผนมาตั้งแต่ต้น
เขามิได้มีอารมณ์มานั่งดูการแสดงของพวกนางจึงเอ่ยปากไล่ “ออกไป ! ”
เมื่อได้ยินแล้วอวี๋หมิงหลันก็หมุนตัวออกไปทันที ทว่าหลิงอวี่หนิงหันมาคำนับให้พวกเขาก่อนแล้วรีบตามอวี๋หมิงหลันไป
เมื่อเห็นอีกฝ่ายตามมา อวี๋หมิงหลันก็หยุดฝีเท้าลงพร้อมจ้องนางด้วยความโกรธ “เฮอะ ข้าประเมินเจ้าต่ำไป ! ”
อวี๋หมิงหลันแม้ถือเป็นคนค่อนข้างจิตใจดีแต่ก็มิได้โง่ นางยอมเชื่อหลิงอวี่หนิงในคราแรกก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่การที่โดนหลอกก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งเช่นกัน
ความเชื่อใจของนางเกิดเพราะพวกนางเจอสถานการณ์เช่นเดียวกันและทำตามที่ฝ่าบาทรับสั่งเหมือนกัน
ส่วนที่แตกต่างก็คืออวี๋หมิงหลันยังมีเป้าหมายและยังมีความปรารถนาส่วนตน
“พี่สาว ท่านเข้าใจข้าผิดไปแล้ว ข้าแค่มิอยากให้ท่านอ๋องเกลียดท่านจึงอยากพาท่านออกจากห้อง ท่านมองสถานการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่สิ พระชายาเกือบโมโหท่านอยู่แล้ว”
นางเอ่ยด้วยใบหน้าน้อยใจราวกับว่าทำเพื่ออวี๋หมิงหลันแท้ ๆ แต่อีกฝ่ายมิเห็นค่าเลย
คำอธิบายของนางทำให้อวี๋หมิงหลันพอรับฟังได้บ้าง เพียงแต่ใบหน้าเย็นชาขึ้นมิน้อย “เช่นนั้นเป็นข้าที่เข้าใจเจ้าผิดไปหรือ ! ”
“น้องสาวแค่มิอยากเห็นพี่สาวโดนท่านอ๋องรังเกียจมากกว่านี้ สายสัมพันธ์ในวัยเยาว์มิใช่สิ่งที่จักมีได้ง่าย ๆ ” นางถอนหายใจยาวราวกับเป็นห่วงเรื่องของอวี๋หมิงหลันมาก
“พี่สาว ให้ข้าไปคุยกับท่านอ๋องแล้วอธิบายเรื่องที่ท่านใจร้อนเมื่อครู่ดีหรือไม่” ที่จริงแล้วนางต้องการใช้โอกาสให้เป็นประโยชน์ ประการแรกนางจักได้เห็นหน้ามู่จวินฮานอีกครั้งและประการที่สองนางจักอาศัยโอกาสนี้เพื่อสานสัมพันธ์กับอันหลิงเกอ
เมื่อได้ยินอีกฝ่ายคิดแทนตนเช่นนี้ ใบหน้าของอวี๋หมิงหลันก็เผยรอยยิ้มที่มิอาจคาดเดาได้ “ดี เช่นนั้นต้องลำบากเจ้าแล้ว”
หลังทั้งคู่แยกจากกัน หลิงอวี่หนิงก็เดินกลับไปที่เรือนของอันหลิงเกอ แต่เมื่อนางเคาะประตูกลับมิมีเสียงใดดังออกมาจากในห้องแม้แต่น้อย นางยืนอยู่หน้าประตูพักใหญ่ก็มิได้มีคนออกมาเปิดประตูเลย
“ข้าถามเจ้าหน่อยว่าพระชายาไปที่ใด ? ” นางจับแขนของสาวใช้คนหนึ่งเอาไว้แล้วถามอย่างร้อนรน
“เมื่อครู่ท่านอ๋องพาพระชายาออกไปแล้วเจ้าค่ะ”
ว่าอย่างไรนะ ?
สีหน้าของหลิงอวี่หนิงดูแย่ลงทันที ปกติมู่จวินฮานมิได้สนใจผู้ใดและเวลาทั้งหมดของเขาใช้ไปกับอันหลิงเกอผู้เดียวเท่านั้น !
ที่จริงแล้วมู่จวินฮานไปพบลู่จ้านและแม่ทัพหลิงที่จักไปจัดการเมืองเยว่เฉิงในครั้งนี้
“แม่ทัพน้อยลู่ ช่วงนี้หลายเมืองใกล้เคียงเมืองเยว่เฉิงต้องประสบความอดอยาก ฝ่าบาทมีประสงค์ให้ท่านไปดูแลที่นั่น ท่านคิดเห็นเช่นไร ? ”
มู่จวินฮานมองลู่จ้านด้วยแววตาลุ่มลึกราวกับอยากหาคำตอบบางอย่างจากใบหน้าของอีกฝ่าย
ทว่าบนใบหน้าของลู่จ้านกลับเห็นเพียงความเย็นชาเหมือนที่แล้วมาเท่านั้น
ตอนนี้ลู่จ้านรู้สึกว่าอำนาจในเมืองหลวงของตนลดน้อยลงทุกที
เรื่องเช่นนี้เป็นโอกาสดีที่เขาจักได้ซื้อใจคน แม้มิรู้ว่าเหตุใดมู่จวินฮานจึงปล่อยโอกาสดีเช่นนี้ให้เขาไปแทน แต่ในเมื่อฮ่องเต้มีบัญชาลงมาก็มิอาจปฏิเสธได้
แม่ทัพหลิงยืนอยู่ด้านข้าง เมื่อเห็นลู่จ้านแล้ว ภายในใจของเขาก็คิดแผนการบางอย่างขึ้นมาทันที เรื่องดีเช่นนี้จักปล่อยให้ถึงมือลู่จ้านได้อย่างไร ?
เมื่อคิดได้ดังนั้นแววตาของแม่ทัพหลิงก็ปรากฏความชั่วร้ายออกมา ก่อนจักก้าวไปด้านหน้า “ท่านอ๋อง ข้าคิดว่าแม่ทัพน้อยลู่ยังมิเหมาะกับตำแหน่งนี้ขอรับ”
มู่จวินฮานได้ยินแล้วสีหน้าก็มิได้เปลี่ยนไป เขาแค่มองอีกฝ่ายแล้วถามออกมา “เหตุใดท่านแม่ทัพจึงคิดเช่นนั้น ? ”
“แม่ทัพน้อยลู่อยู่แต่ในเมืองหลวงมาตั้งแต่เด็ก การไปจัดการเรื่องความอดอยากเช่นนี้ถือว่ามิเหมาะสมขอรับ”
สีหน้าของมู่จวินฮานยังมิบ่งบอกอารมณ์ใดเช่นเดิม ทำให้มองมิออกว่ากำลังคิดอันใดอยู่ เขาแค่จ้องไปยังแม่ทัพหลิงตลอดเวลาราวกับคิดอันใดบางอย่าง ผ่านไปครู่หนึ่งเขาจึงเอ่ยปาก “แม่ทัพหลิงหมายความว่าอย่างไร ? ”
แม่ทัพหลิงตกตะลึงไปเล็กน้อยเพราะมิคิดว่ามู่จวินฮานจักย้อนถามเช่นนี้ เขามิรู้ว่าควรตอบอย่างไรจึงทำได้เพียงก้มหน้าและเอ่ยว่า “ขอท่านอ๋องได้โปรดไตร่ตรองด้วยขอรับ”
“นี่เป็นสิ่งที่ฝ่าบาทตัดสินพระทัยแล้วเกี่ยวอันใดกับข้า ? วันนี้ข้าแค่ต้องการมาช่วยแม่ทัพน้อยเท่านั้น มิทราบว่าแม่ทัพหลิงต้องการทำอันใดกันแน่ ? ” คำพูดนี้ของมู่จวินฮานกล่าวได้ว่าไร้ความเกรงใจ คงเพราะแม่ทัพหลิงบีบบังคับเขามากจนเขามิพอใจก็เป็นได้
แม่ทัพหลิงได้ยินคำพูดของมู่จวินฮานก็รู้สึกตระหนกมาก ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหวาดกลัว จากนั้นก็รีบคุกเข่าข้างหนึ่งลงพื้น “ข้ามิกล้าขอรับ”
คำพูดเมื่อครู่ของมู่จวินฮานเกือบทำให้เขาโดนตราหน้าว่ามิซื่อสัตย์ต่อฮ่องเต้เสียแล้ว ตอนนี้เขาจึงมิกล้าเอ่ยสิ่งใดออกมาอีก
มู่จวินฮานส่งเสียง หึ ออกมาโดยมิได้กล่าวสิ่งใดต่อ มองก็รู้แล้วว่ามู่จวินฮานมิพอใจในการกระทำของแม่ทัพหลิงเป็นอย่างมาก
มู่จวินฮานมีความยุติธรรม แม้ก่อนหน้านี้เคยแย่งชิงอันหลิงเกอกับลู่จ้าน แต่มาตอนนี้ความสามารถของลู่จ้านนั้นโดดเด่นจนเขาเองต้องยอมรับ
หลังทั้งสามคนแยกย้ายกันแล้ว แม่ทัพหลิงกลับรั้งลู่จ้านเอาไว้
“แม่ทัพหลิงยังมีเรื่องอันใดอีกหรือ ? ” ลู่จ้านมองแม่ทัพหลิงที่อยู่ตรงหน้าด้วยสีหน้าเย็นชา แม้มิรู้ว่าอีกฝ่ายต้องการอันใด ลู่จ้านก็คาดเดาได้ว่าต้องการคุยเรื่องที่ฝ่าบาทตัดสินพระทัยในท้องพระโรงวันนี้รวมถึงท่าทีของมู่จวินฮานเมื่อสักครู่
เป็นตามคาดเมื่อแม่ทัพหลิงเอ่ยปากว่า “ท่านคิดว่าที่ฝ่าบาทให้ท่านทำเรื่องนี้เพราะทรงวางพระทัยและที่ท่านอ๋องมู่ให้โอกาสท่านเพราะมองว่ามีความสามารถอย่างนั้นหรือ ? ”
“ข้ามิเคยคิดเช่นนั้น” ลู่จ้านมิได้มองหน้าแม่ทัพหลิงเลยสักนิด
และมิได้มีอารมณ์มาสนทนาด้วย “หากท่านแม่ทัพมิมีเรื่องอื่นแล้ว ข้าขอตัวก่อน”
กล่าวจบเขาก็มิใส่ใจสีหน้าของแม่ทัพหลิงเพราะเดินผ่านไปทันที
เมื่อเห็นเงาที่จากไปแล้วแม่ทัพหลิงก็ทำได้เพียงกัดฟันกรอด แววตามาดร้ายและเดินจากไปด้วยความโมโห
แม่ทัพหลิงมิได้กลับจวน ทว่าเขามาที่จวนอ๋องมู่แทน “เรียนเช่อเฟย แม่ทัพหลิงมาเจ้าค่ะ” สาวใช้เดินนำแม่ทัพหลิงมาที่เรือนของหลิงอวี่หนิง
การมาเยี่ยมที่จวนอ๋องค่อนข้างง่ายเพราะทุกคนต่างรู้ดีว่าแม่ทัพหลิงกับมู่จวินฮานเคยผ่านความเป็นความตายมาด้วยกันจึงมิมีการขวางไว้
เมื่อได้ยินว่าบิดามาเยือน นางก็รีบยืนขึ้นและเอ่ยด้วยรอยยิ้มสดใส “เหตุใดวันนี้ท่านจึงมีเวลามาเยี่ยมลูกเจ้าคะ ? ”
ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความหงุดหงิด ก่อนสะบัดแขนเสื้อแล้วนั่งลงที่เก้าอี้ “วันนี้ในท้องพระโรงมีปัญหาเรื่องความอดอยากเกิดขึ้น เรื่องที่สามารถผูกสัมพันธ์กับชาวบ้านได้เช่นนี้ ฝ่าบาทกลับมิให้พ่อที่แม่ทัพไปจัดการ ทว่าให้เด็กน้อยเยี่ยงลู่จ้านไปแทน ! ”
เมื่อได้ยินที่บิดากล่าว หลิงอวี่หนิงก็รู้สึกได้ถึงวิกฤตที่จักเกิดขึ้น นางดึงมือเขาเอาไว้ “เช่นนั้นท่านอ๋องมู่ได้กล่าวสิ่งใดหรือไม่เจ้าคะ ? ”
หลิงอวี่หนิงกลัวว่าเพราะตนมิเคยได้รายงานสิ่งใดให้ฝ่าบาททรงทราบ พระองค์จึงมิเชื่อพระทัยบิดาอีก
“ถึงอย่างไรท่าทีของเขาก็มิเคยเข้าข้างพ่อ ! ” แม่ทัพหลิงตอบอย่างโมโห