พลิกชะตาชายาสยบแค้น - ตอนที่ 444 โยนความผิด
ตอนที่ 444 โยนความผิด
เมื่อเดินไปได้มิกี่ก้าวอวี๋หมิงหลันก็ย้อนกลับมาที่เดิมอีกครั้ง
“เมื่อครู่เจ้านายข้าทำปิ่นปักผมหาย พวกเจ้าเห็นหรือไม่ ? ”
“มิเห็นเจ้าค่ะ” ไป๋เถียนเถียนและแม่นมหลี่ตอบคำถามหลังจากคำนับเสร็จ แต่อวี๋หมิงหลันมิยอมไปไหน
“วันนี้ข้าพบเจ้าคนเดียว แต่เจ้าบอกว่ามิเห็นปิ่นของข้าอย่างนั้นหรือ ? ”
อวี๋หมิงหลันเดินเข้าไปกระชากแขนของไป๋เถียนเถียน “ในเมื่อเจ้าปากแข็งเช่นนี้ก็ไปพบพระชายากับข้า ดูสิว่าพระชายาจัดการเจ้าอย่างไร พาตัวนางไปเรือนฝูหลิง”
อวี๋หมิงหลันผลักไป๋เถียนเถียนออก ก่อนหมุนตัวกลับไปพร้อมรอยยิ้มเยือกเย็น
อันหลิงเกอกำลังนอนพักผ่อนอยู่ในเรือนฝูหลิง ได้ยินเสียงฝีเท้ารีบร้อนของสาวใช้เดินเข้ามาก็ขมวดคิ้วอย่างมิค่อยพอใจ
“เรียนพระชายา อวี๋หมิงหลันรออยู่ด้านนอกโดยบอกว่าต้องการขอเข้าพบพระชายาเจ้าค่ะ”
ปี้จูเม้มปากด้วยความมิพอใจ “นางบอกหรือไม่ว่ามีเรื่องใด ? ”
“อวี๋หมิงหลันมิได้กล่าวอันใดเจ้าค่ะ เพียงแต่…” สาวใช้มีท่าทีอ้ำอึ้ง “เพียงแต่พาคนกลุ่มหนึ่งมาด้วย ท่าทางเคร่งเครียดเหมือนเกิดเรื่องมิดีขึ้นเจ้าค่ะ”
“เรื่องมิดีหรือ ? ” อันหลิงเกอลุกจากเตียงก่อนพูดออกมาอย่างเย็นชา “ข้าอยากรู้นักว่าเกิดเรื่องมิดีอันใดขึ้นถึงกล้ามาที่นี่ ให้พวกนางเข้ามา”
ชาบนโต๊ะเย็นชืดหลังจากเปลี่ยนถ้วยใหม่มาหลายรอบกว่าที่อันหลิงเกอจักปรากฏตัวขึ้น
“บังเอิญเสียจริง วันนี้ข้ารู้สึกอ่อนเพลียจึงนอนหลับไปพักใหญ่ ได้ยินว่าอวี๋กู่เหนียงมาจึงต้องใช้เวลาล้างหน้าแต่งตัวเล็กน้อย ทำให้กู่เหนียงต้องรอแล้ว”
อวี๋หมิงหลันวางชาที่เย็นชืดในมือลงแล้วลุกขึ้นคำนับ “มิกล้าเจ้าค่ะ เชี่ยเซินก็เพิ่งมาถึงได้มินาน เพียงแต่เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญจึงมิกล้าตัดสินเอง ขอพระชายาได้โปรดช่วยตัดสินให้ด้วยเถิดเจ้าค่ะ”
“หืม ? ข้าอยากรู้เสียแล้วว่าเรื่องสำคัญอันใด”
“เด็กเด็ก พาเข้ามา”
สาวใช้สองคนพาตัวไป๋เถียนเถียนเข้ามาหาพระชายา “เหตุใดจึงเป็นเถียนเถียน ! ” สีหน้าของอันหลิงเกอนิ่งค้างทันที
“เมื่อครู่เชี่ยเซินพบนางที่สวน จากนั้นปิ่นปักผมก็หายไปเจ้าค่ะ” อวี๋หมิงหลันทำท่าทางน่าสงสาร “แต่นางมิยอมรับ เชี่ยเซินจึงอยากให้พระชายาช่วยสอบสวนให้ด้วยเจ้าค่ะ ! ”
อวี๋หมิงหลันช่างกล้านัก คนของข้าก็กล้ากลั่นแกล้งหรือไร !
เรื่องนี้วุ่นวายใหญ่โต หากนางมิทำอันใดเลยต้องมีคนมิพอใจเป็นแน่ “ปี้จู เจ้าไปค้นดู”
“เจ้าค่ะ พระชายา” ปี้จูค้นเจอปิ่นที่อยู่ในห่อผ้าของไป๋เถียนเถียนก็รู้สึกถึงลางมิดีทันที
อวี๋หมิงหลันเห็นดังนั้นก็รีบดึงปิ่นขึ้นมา “พระชายา นี่เป็นปิ่นของเชี่ยเซิน ขอพระชายาได้โปรดให้ความยุติธรรมต่อเชี่ยเซินด้วยเจ้าค่ะ ! ”
อันหลิงเกอกำหมัดที่อยู่ในแขนเสื้อแน่นระหว่างจ้องหน้าอวี๋หมิงหลัน “เด็กเด็ก นำตัวไป๋เถียนเถียนไปกักบริเวณ เรื่องนี้ต่อไปอย่ากล่าวถึงอีกเด็ดขาด ! ข้าเหนื่อยแล้ว พวกเจ้าออกไปได้”
“เจ้าค่ะ เชี่ยเซินขอตัวลา” อวี๋หมิงหลันออกจากเรือนไปพร้อมรอยยิ้มและรู้สึกสะใจมิน้อย
ท้องฟ้าค่อย ๆ มืดมิด อวี๋หมิงหลันเพิ่งอาบน้ำเสร็จและกำลังนั่งหวีผมอยู่หน้ากระจก อยู่ ๆ ก็มีสาวใช้วิ่งเข้ามาอย่างตื่นตระหนก “แม่นมหลี่มาขอพบเจ้าค่ะ”
“แม่นมหลี่อย่างนั้นหรือ ? ” อวี๋หมิงหลันมีสีหน้างงงวย “แม่นมหลี่ที่ไหนกัน ? ”
“แม่นมที่สอนไป๋เถียนเถียนในสวนเมื่อตอนกลางวันเจ้าค่ะ”
“ว่าอย่างไรนะ ? ” อวี๋หมิงหลันตบโต๊ะเครื่องแป้งเสียงดังพร้อมสีหน้าที่เปลี่ยนไป “นางมาด้วยเหตุใด ? ”
“เอาล่ะ อย่าเพิ่งตกใจไป พานางเข้ามา”
แม่นมหลี่เดินเข้ามาก็รีบคำนับอวี๋หมิงหลันทันที “ข้าน้อยคารวะอวี๋กู่เหนียง”
อวี๋หมิงหลันเอ่ยถามขณะหวีผมไปด้วย “แม่นมมาดึกดื่นป่านนี้มิทราบว่ามีธุระอันใดหรือ ? ”
“อวี๋กู่เหนียง เมื่อตอนกลางวันท่านคงมีเรื่องยุ่งมิน้อย” แม่นมหลี่ยิ้มอย่างมีเลศนัย “เรื่องที่เกิดขึ้นในสวนวันนี้ ท่านและข้าต่างก็รู้ดีแก่ใจ เหตุใดต้องให้ข้าน้อยกล่าวออกมาด้วยเจ้าคะ ? ”
หวีที่อยู่ในมือของอวี๋หมิงหลันถูกกำแน่นจนมือซีดขาว อวี๋หมิงหลันสงบใจก่อนเอ่ย “แม่นมหมายความว่าอย่างไร ? ข้าฟังมิเข้าใจเลย”
แม่นมหลี่มิได้สนใจท่าทางเสแสร้งของอวี๋หมิงหลัน “กู่เหนียงมิต้องตื่นเต้น เรื่องนี้หากกล่าวออกไปก็มิใช่เรื่องดีต่อข้าน้อยเช่นกัน ข้าน้อยแค่อยากมาขอรางวัลเล็กน้อยแล้วหลังจากนี้จักปิดปากให้สนิทเจ้าค่ะ”
หวีที่ถูกกำจนแน่นได้ทิ่มเข้าเนื้อของนาง “เปิดกล่องเครื่องประดับของข้าแล้วให้แม่นมเลือก อย่าเลือกจนตาลายแล้วกัน”
“ขอบคุณอวี๋กู่เหนียง” แม่นมหลี่หอบเครื่องประดับที่ได้รับแนบอกด้วยความดีใจ ก่อนเดินออกไป
“บ่าวสมควรตายเจ้าค่ะ” สาวใช้รีบคุกเข่าลงด้านหน้าอวี๋หมิงหลัน “เพราะบ่าวมิระวังเอง ตอนนี้พวกเราควรทำอย่างไรดีเจ้าคะ ? แม่นมหลี่ผู้นั้น…”
“ปล่อยแม่นมหลี่ไว้มิได้ ! ” อวี๋หมิงหลันเอ่ยพร้อมแววตาชั่วร้าย “เจ้าไปเรียกคนที่ไว้ใจได้มา”
ชุ่ยเอ๋อรับคำก่อนวิ่งออกไป
“เรียนกู่เหนียง ท่านนี้คือองครักษ์หลิ่วเจ้าค่ะ”
ระหว่างสาวใช้และองครักษ์มักมีเรื่องให้ข้องเกี่ยวกันอยู่แล้ว องครักษ์หลิ่วผู้นี้ก็คือคนสนิทของชุ่ยเอ๋อนั่นเอง
“คารวะอวี๋กู่เหนียง มิทราบว่ามีอันใดให้ข้าน้อยรับใช้ขอรับ”
เดิมทีเขาก็มิใช่คนสนิทของมู่จวินฮานอยู่แล้ว เขาเป็นเพียงคนรับใช้คนหนึ่งเท่านั้นซึ่งตอนนี้ได้รับคำสั่งให้มาดูแลความปลอดภัยแก่อวี๋หมิงหลัน
อวี๋หมิงหลันแสร้งเอ่ยอย่างตระหนก “เมื่อครู่ข้าเพิ่งเห็นว่าเครื่องประดับในกล่องหายไป สาวใช้ก็มิรู้ว่าหายไปไหน ข้ากลัวว่าจักมีนักฆ่าหรือใครเข้ามาขโมย ขอองครักษ์หลิ่วได้โปรดตามหาคนร้ายให้ข้าหน่อย มิเช่นนั้น…” กล่าวยังมิทันจบนางก็ใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดหน้าเอาไว้แล้วเริ่มร้องไห้ออกมา
“มีเรื่องเช่นนี้ได้อย่างไรกันขอรับ ? ” องครักษ์หลิ่วเอ่ยอย่างตกใจ หากภายในจวนมีนักฆ่าจริง ศีรษะของพวกเขาอาจหลุดจากบ่าก็ได้ “กู่เหนียงโปรดวางใจ ข้าน้อยจักไปตรวจสอบให้เองขอรับ”
“เจ้าตามเขาไป หากพบร่องรอยของแม่นมหลี่เมื่อใดก็อย่าให้นางมีโอกาสพูดเด็ดขาด เจ้าต้องปิดปากนางให้เรียบร้อยจากนั้นค่อยมารายงานข้า”
สาวใช้รับคำแล้วรีบวิ่งออกไป “ท่านองครักษ์โปรดรอก่อน อวี๋กู่เหนียงสั่งให้ข้าไปกับท่านเพื่อช่วยท่านจับคนร้าย”
“ในเมื่อเป็นเช่นนั้นก็รีบไปกันเถิด แต่เจ้าต้องระวังตัวด้วย”
แม่นมหลี่ที่อุ้มกล่องเครื่องประดับเอาไว้กำลังเดินกลับไปที่ห้อง อยู่ ๆ ก็มีองครักษ์สองนายเข้ามากดตัวนางลงพื้นทำให้เครื่องประดับและเงินทองกระจายเกลื่อนพื้น องครักษ์นายหนึ่งหยิบกำไลขึ้นมาแล้วถามอย่างดุดัน “เอามาจากที่ใด ? ”
แม่นมหลี่ร้องอย่างตกใจ “นี่เป็นรางวัลที่อวี๋กู่เหนียงมอบให้ข้า เจ้าจักทำอันใด ? ”
“อวี๋กู่เหนียงบอกว่าเครื่องประดับของนางหาย สงสัยว่าอาจมีนักฆ่าลอบเข้ามาในจวนจึงสั่งให้ข้ามาจับตัวคนร้าย เจ้ายังเล่นลิ้นอยู่อีกหรือ ? ”
แม่นมหลี่กำลังอ้าปากก็เหลือบเห็นสาวใช้ที่ยืนอยู่ด้านหลังขององครักษ์ นางจึงตกใจมาก พอนางจักอ้าปากพูดอีกครั้งก็ถูกสาวใช้คนนั้นเอาผ้าอุดปากไว้เสียก่อน “ท่านองครักษ์ คนผู้นี้เลี้ยงมิเชื่อง โปรดรีบพานางไปขังไว้ก่อนดีกว่า ประเดี๋ยวข้าจักรีบไปรายงานอวี๋กู่เหนียง”
แม่นมหลี่เบิกตาโพลง สีหน้าราวกับคาดมิถึง
อวี๋หมิงหลันพิจารณาเครื่องเคลือบในมือพลางเอ่ย “ปล่อยแม่นมหลี่ไว้มิได้ มีแค่คนตายแล้วเท่านั้นที่ข้าจักวางใจ เจ้าไปจัดการแม่นมหลี่ก็แล้วกัน”
“ว่าอย่างไรนะเจ้าคะ ? ” ชุ่ยเอ๋อตาโตกับสิ่งที่ได้ยิน “กู่เหนียง นี่ คือ…”
“ทำไมหรือ ? หากนางมิตายแล้วเจ้ากับข้าจักทำอย่างไร เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้วมีเพียงวิธีนี้จักทำให้พวกเราปลอดภัย ! รู้หรือไม่ ? ”
สาวใช้กวาดตามองไปรอบ ๆ อย่างระมัดระวัง ก่อนเดินออกไปด้านนอกพร้อมสารหนู
แม่นมหลี่เห็นชุ่ยเอ๋อปรากฎตัวก็จ้องมองด้วยสายตาเคียดแค้น สาวใช้เดินเข้าไปดึงผ้าที่อุดปากนางออกแล้วกรอกยาที่อยู่ในขวดใส่ปากแม่นมหลี่จนหมด จากนั้นก็รอจนแม่นมหลี่แน่นิ่งไป