พลิกชะตาชายาสยบแค้น - ตอนที่ 642 เฉียดตาย
ตอนที่ 642 เฉียดตาย
ตอนนี้อันหลิงเกอเป็นหรือตาย มู่จวินฮานก็มิสามารถบอกได้ เรื่องมาถึงขั้นนี้ แต่เขาก็มิรู้ว่าควรทำเช่นไร
“เอาล่ะ ข้าควรกลับได้แล้ว”
หนานกงหลิงเยว่เอ่ยขึ้นมาด้วยท่าทีอ่อนล้าจนนางโงนเงนเหมือนจะล้มลงกับพื้น ซูโจวจึงเข้าไปประคองนางเอาไว้ เพราะตอนนี้เขาก็รู้ดีว่าหากนางกลับไปที่หอพิษกู่แล้ว ถ้าไม่โดนฟางหลิงซู่ตำหนิก็คงถูกเข้าใจผิดเป็นแน่ ไม่ว่าทางใดก็ล้วนมิดีทั้งนั้น
“ข้าจักพาเจ้ากลับไปที่เรือนข้าก่อนแล้วกัน”
เมื่อตริตรองให้ดีแล้ว ท้ายที่สุดซูโจวก็พานางกลับไปที่พักของตนแทน เพราะมีเพียงวิธีนี้ที่จะถูกเข้าใจผิดน้อยที่สุด รอพรุ่งนี้นางตื่นขึ้นมาก็ค่อยให้นางกลับหอพิษกู่เพื่ออธิบาย
เช้าวันต่อมา เมื่อหนานกงหลิงเยว่ตื่นขึ้นมาก็พบว่าอยู่ในสถานที่มิคุ้นเคย ตอนแรกก็เกิดความหวาดกลัว แต่เมื่อได้สติจึงพบว่าตนอยู่ที่ห้องพักของอันหลิงเกอนี่เอง
เพราะซูโจวเป็นคนพานางกลับมาที่นี่ พอจำได้ดังนั้น หนานกงหลิงเยว่ก็อดรู้สึกอบอุ่นใจขึ้นมามิได้
“ขอบใจ”
หนานกงหลิงเยว่รู้ดีว่าซูโจวเป็นสุภาพบุรุษและที่เขาพานางมาก็เพื่อตัวนางเอง
ขณะเดียวกันมู่จวินฮานก็มิได้อยู่เป็นสุข เพราะเขามิรู้ว่าคำพูดของซูโจวหมายความเช่นไร แต่หากเกิดอันใดขึ้นกับอันหลิงเกอจริง เขาก็คงมิสบายใจเช่นกัน
“เด็กเด็ก จงไปตรวจสอบ…”
“มิต้องแล้ว” มู่เหล่าหวางเฟยเดินเข้ามา
“หมู่เฟย ? ” ภายในใจของมู่จวินฮานมีลางสังหรณ์มิดีเกิดขึ้น
“ทั้งหมดนี้แม่เป็นคนจัดการเอง เจ้าต้องจำไว้ว่าเผ่าพิษหนอนกู่มิใช่คนดีและการปรากฏตัวของอันหลิงเกอย่อมส่งผลกระทบต่อต้าโจวเป็นแน่”
หืม ? มู่จวินฮานยิ่งรู้สึกมิสบายใจมากขึ้น แต่ไม่รู้ว่าเหตุใดหมู่เฟยต้องทำกับสตรีนางหนึ่งถึงขนาดนี้ด้วย
“เอาล่ะ เรื่องนี้เจ้ามิต้องสนใจแล้ว”
เมื่อเห็นว่ามู่จวินฮานมิได้ตอบโต้อันใด มู่เหล่าหวางเฟยก็รู้ว่าเขายังจำอันหลิงเกอมิได้ เช่นนั้นก็ดีเพราะนางก็จะได้อยู่อย่างสบายใจ ตอนนี้อันหลิงเกอตายไปแล้ว อุปสรรคใหญ่ของนางก็โดนกำจัดไปด้วย
นางยังมิรู้ว่าแท้จริงแล้ว…อันหลิงเกอยังมิตาย
เช้าวันต่อมา
“เจ้าตื่นแล้วหรือ”
เมื่อเห็นอันหลิงเกอฟื้นขึ้นมาได้เร็วเพียงนี้ บุรุษที่ช่วยนางไว้ก็เบาใจเพราะตอนนี้นางคงปลอดภัยแล้ว
เขาช่วยนางเอาไว้เมื่อสี่ถึงห้าวันก่อน อีกทั้งยังทราบพื้นเพของอันหลิงเกอดีด้วย
ช่างบังเอิญเสียจริงเพราะวันนั้นที่นางตกหน้าผา ตรงบริเวณริมฝั่งด้านหนึ่งมีคนของเผ่าพิษหนอนกู่อยู่ตรงนั้นพอดี
ด้วยเหตุนี้อันหลิงเกอก็ต้องกลับไปยังเผ่าพิษหนอนกู่กับเขาด้วย และเหตุผลนี้จึงทำให้นางยังมีชีวิตรอด
“ตอนนี้ข้าเตรียมตัวจากไปแล้ว หากเจ้ามิอยากบอกนามให้ข้าทราบ เช่นนั้น…ก็คงต้องลากันตรงนี้”
อันหลิงเกอมิใช่คนเนรคุณ แต่จำเป็นต้องกล่าวเช่นนั้นออกไปเพราะคนผู้นี้มิยอมเอ่ยชื่อจริงออกมา
“อิ่งจือ”
เมื่อได้ฟังแล้วอันหลิงเกอก็พยักหน้ารับรู้
“แล้วเจ้าจักไปที่ใด ? ”
“จวนอ๋องมู่”
อิ่งจือที่ได้ยินก็ขมวดคิ้วทันที คนที่เขาตามหาตัวมาอย่างยากลำบาก เหตุใดต้องเสี่ยงชีวิตกลับไปเข้าถ้ำเสือด้วย ?
“เจ้าช่วยข้าและข้ารู้ถึงจุดประสงค์ของเจ้าดี แต่ตอนนี้ข้าคิดดีแล้วว่าหากสามารถอาศัยเผ่าพิษหนอนกู่คอยหนุนหลังก็คงดีมิน้อย เจ้าช่วยไปตามองค์หญิงน้อยแห่งเผ่าพิษหนอนกู่มาให้ข้าที เพราะข้ามีเรื่องต้องการคุยกับนาง”
แม้รู้ว่าอิ่งจือมิใช่พวกเดียวกับองค์หญิงน้อย แต่ตอนนี้เขาเองก็มีเป้าหมายเดียวกัน
“ได้”
เป็นไปตามคาด วันต่อมาฟางฮวาองค์หญิงน้อยแห่งเผ่าพิษหนอนกู่ก็มาปรากฏตัวตรงหน้าอันหลิงเกอพร้อมสาวใช้ผู้นั้น
พวกนางราวกับคาดมิถึงว่าคนที่ตามหาไปทั่ว บัดนี้ต้องการที่จะพบตนโดยง่ายดาย
“ตามข้ากลับไปเผ่าพิษหนอนกู่ดีกว่า ! ” ฟางฮวากล่าวออกมาเสียงเข้มเพราะนางมีเพียงเป้าหมายเดียวเท่านั้น
“ได้” เมื่อเห็นอันหลิงเกอยอมตกลงโดยง่ายจึงทำให้นางแปลกใจมิได้
“เพียงแต่ข้ามีข้อแม้” อันหลิงเกอมองไปยังฟางฮวา
“ตอนนี้ข้าต้องการตัวตนใหม่เพื่อกลับไปที่จวนอ๋องมู่ รอข้าจัดการเรื่องทุกอย่างเสร็จแล้วก็จะกลับเผ่าพิษหนอนกู่และช่วงชิงสิ่งที่พวกเจ้าต้องการมาให้ ถึงตอนนั้นข้าต้องได้ใช้งานเผ่าพิษหนอนกู่เช่นกัน”
“ตกลง” ฟางฮวาตอบรับทันที
“ถ้าเช่นนั้นคงต้องรบกวนคุณชายอิ่งจือช่วยทำหน้ากากให้ข้า เมื่อเผ่าพิษหนอนกู่คือสิ่งที่พวกเขาต้องการ เช่นนั้นการแต่งงานเชื่อมสัมพันธ์คงไร้ปัญหาใด”
หืม ?
อิ่งจือรู้สึกแปลกใจในตัวอันหลิงเกอผู้นี้มากขึ้นเรื่อย ๆ ในเมื่อนางรักมู่จวินฮานแต่ต้องการแก้แค้นมารดาของเขา สตรีผู้นี้ช่างน่าสนใจยิ่งนัก
“ได้ ข้าจักทำตามที่เจ้าขอ เพียงแต่ขณะที่อยู่จวนอ๋องมู่ เจ้าต้องติดต่อกับพวกเราตลอด เพราะเจ้าคงมิอยากให้ตัวตนถูกเปิดเผยกระมัง”
ตอนนี้อันหลิงเกอต้องการปล่อยวางความรู้สึกลงก่อนและรีบแก้แค้นให้สำเร็จ เพื่อมารดาที่ต้องตายอย่างไร้ความยุติธรรมและบุตรของนางที่มิทันได้เกิดออกมา รวมทั้งตัวนางเองที่โดนมู่เหล่าหวางเฟยทำร้ายนับครั้งมิถ้วน
เรื่องมาถึงขั้นนี้ นางเองก็มิอาจทนต่อไปได้อีก
วันรุ่งขึ้นทั่วทั้งเมืองหลวงก็ทราบข่าวว่าเผ่าพิษหนอนกู่ต้องการแสดงความจงรักภักดีจึงส่งมอบองค์หญิงนามว่าฟางหย่าเกอให้แก่ท่านอ๋องมู่
ซึ่งฟางหย่าเกอผู้นี้รวมทั้งสาวใช้แท้จริงก็คืออันหลิงเกอและเยว่หยานั่นเอง
เดิมทีมู่จวินฮานหาได้สนใจไม่ ทว่ามู่เหล่าหวางเฟยมีความคิดที่อยากให้เขาปราบเผ่าพิษหนอนกู่ให้ได้ เขาจึงตอบตกลงทันที
“เด็กเด็ก จัดการที่พักให้องค์หญิงเผ่าพิษหนอนกู่ด้วย”
มิรู้ว่าเพราะเหตุใด การมาของฟางหย่าเกอทำให้เฝิงเยว่เอ๋อรู้สึกมิสบายใจมาก เพราะนางรู้สึกว่าองค์หญิงผู้นี้มีบางอย่างมิธรรมดา
ส่วนอันหลิงเกอได้เปลี่ยนชื่อของเยว่หยากลับไปเป็นชื่อเดิมว่าเสี่ยวหยาเพื่อที่ชื่อจะได้มิไปคล้ายกับเฝิงเยว่เอ๋อนั่นเอง
ในคืนแรก มู่จวินฮานมิได้มาหา อันหลิงเกอก็คิดว่าหากเขามา นางก็มิรู้ว่าจะเผชิญหน้าเช่นไรดี ทว่าหลังจากนั้นอีกหลายวันเขาก็มิได้มาหานางเช่นกัน
มิรู้ว่าเพราะคำสั่งของมู่เหล่าหวางเฟยหรือเพราะเหตุใด คนทั้งจวนก็มิค่อยเป็นมิตรกับนางมากนัก ดูท่าแล้วข่าวลือที่ว่าเผ่าพิษหนอนกู่เป็นเผ่ามารยังฝังในใจผู้คนกระมัง
“คารวะหมู่เฟยเจ้าค่ะ”
เมื่อเห็นมู่เหล่าหวางเฟยที่นั่งอยู่ด้านบนแล้ว อันหลิงเกอก็อดหัวเราะเยาะมิได้ หากรู้ว่าคนที่ตนพยายามสังหารบัดนี้ได้มายืนอยู่ตรงหน้า จักทำเช่นไร ?
นางมิเพียงยังไม่ตาย ทว่ายังกลับเข้ามาอยู่ในจวนอ๋องมู่ได้อีกครั้ง ช่างเป็นการเย้ยหยันมู่เหล่าหวางเฟยเสียจริง
แม้ในใจของอันหลิงเกอคิดเช่นนี้ แต่ใบหน้าของนางกลับเรียบนิ่ง
“ลุกขึ้นเถิด ตอนนี้เผ่าพิษหนอนกู่กับจวนอ๋องมู่ถือเป็นครอบครัวเดียวกันแล้ว เจ้าอย่าได้เกรงใจเลย”
มู่เหล่าหวางเฟยมักจะเป็นเช่นนี้เสมอ มักมีท่าทีอ่อนโยนกับทุกคน แต่น่าเสียดายที่อันหลิงเกอรู้อยู่แล้วว่าภายในใจนั้นอำมหิตมากเพียงใด
เพราะเรื่องที่ผ่านมาระหว่างมู่จวินฮานและเผ่าพิษหนอนกู่ทำให้จนถึงตอนนี้นางก็ยังมิได้พบหน้าเขาแม้แต่ครั้งเดียว
แต่ก็ทำให้อันหลิงเกอวางใจได้มากขึ้น มิพบมู่จวินฮานก็ดีเหมือนกัน เพราะจิตใจของนางจะได้มิหวั่นไหว ไม่ว่าเป็นเรื่องสังหารมู่เหล่าหวางเฟยหรือเรื่องที่จะให้มู่เหล่าหวางเฟยได้รับโทษ นางต้องทำให้สำเร็จอย่างใดอย่างหนึ่ง
“จวินฮานมิได้มากับเจ้าหรือ ? ”
มู่เหล่าหวางเฟยลองหยั่งเชิงฟางหย่าเกอ เพราะอยากรู้ว่าอีกฝ่ายมีความแค้นอันใดต่อมู่จวินฮานหรือไม่
“มิได้มาเจ้าค่ะ”
อันหลิงเกอแสร้งทำท่าทางโศกเศร้าราวกับสตรีที่ปรารถนาได้เป็นที่โปรดปราน การแสดงออกเช่นนี้ทำให้มู่เหล่าหวางเฟยวางใจในตัวนางมิน้อย ขอเพียงเป็นคนที่มีความปรารถนาก็จะสามารถหาจุดอ่อนได้ง่าย