พลิกชะตาชายาสยบแค้น - ตอนที่ 647 เกรี้ยวกราด
ตอนที่ 647 เกรี้ยวกราด
“เฮอะ ! ” ยิ่งคิดก็ยิ่งหงุดหงิด เมื่อครู่ตอนที่เดินผ่านเรือนฝูหลิงก็เห็นเงาของทั้งสองแนบชิดกันจากทางหน้าต่าง ทำให้เฝิงเยว่เอ๋อรู้สึกร้อนรุ่มไปทั้งกายราวกับไฟแห่งความโกรธพร้อมที่จะแผดเผานางได้ทุกเมื่อ
ตอนนี้ภายในใจของนางถึงขีดจำกัดแล้ว เวลาเช่นนี้จะมิให้นางหงุดหงิดได้เยี่ยงไร เฝิงเยว่เอ๋อจึงดึงม่านรอบเตียงลงมาก่อนใช้แรงดึงทึ้งจนฉีกขาดเป็นชิ้นเกลื่อนทั่วห้อง
ดูเหมือนว่าความโกรธยังมิคลายลง เฝิงเยว่เอ๋อจึงกวาดเอาของทุกอย่างบนโต๊ะให้ร่วงลงพื้นซึ่งเสียงสิ่งของที่ตกแตกก็เหมือนหัวใจของนางที่แหลกสลายไม่มีชิ้นดี
ในห้องเฝิงเยว่เอ๋อเต็มไปด้วยเศษผ้าม่านสีม่วงอ่อน ใบหน้าที่แต่งไว้อย่างประณีตบัดนี้เปื้อนไปด้วยหยาดน้ำตาและเหงื่อที่ไหลลงมาเต็มใบหน้าจนแทบแยกมิได้
สาวใช้ที่เฝ้าอยู่ด้านนอกได้ยินเสียงตึงตังในห้องก็ไม่มีผู้ใดกล้าเข้าไปห้ามแม้แต่คนเดียว
เพราะพวกนางรู้ว่าหลายวันมานี้อารมณ์ของเฝิงเยว่เอ๋อไม่ปกติเท่าไรนัก อยู่ดี ๆ ก็มาระบายอารมณ์ใส่พวกนาง หากเข้าไปตอนนี้มิแน่ว่าได้ถูกลงโทษอีกก็ได้
เมื่อนึกถึงท่าทางของเฝิงเยว่เอ๋อตลอดหลายวันมานี้ พวกสาวใช้ก็อดตัวสั่นมิได้
ก่อนหน้านี้มีทัวป๋าถิงฟางที่อารมณ์ร้าย บัดนี้มีเฝิงเยว่เอ๋อมาแทนที่เสียแล้ว
สามวันผ่านไป ร่างกายของฟางหย่าเกอเริ่มแข็งแรงขึ้นมากแล้ว งานเลี้ยงฉลองชัยชนะซึ่งถูกเลื่อนไปเรื่อย ๆ ในที่สุดก็สามารถจัดขึ้นเสียที ทหารทั้งหลายจัดขบวนทั้งด้านในและด้านนอกของกำแพงเมือง ส่วนแม่ทัพและเหล่าขุนนางก็พากันมาที่จวนอ๋องมู่
คืนนี้มู่จวินฮานจัดเตรียมเสื้อผ้าไว้ให้ฟางหย่าเกอเรียบร้อย พอร่างกายแข็งแรงแล้วท่าทีที่นางมีต่อมู่จวินฮานก็กลับมาเป็นเช่นก่อนหน้านี้ ทำให้ความสัมพันธ์ของทั้งคู่มึนตึงใส่กันอีกครั้ง
อันหลิงเกอมิอยากไปร่วมงานเลี้ยงเช่นนี้เลย นางรู้สึกเหนื่อยล้าทั้งร่างกายและจิตใจจนแทบไม่มีเรี่ยวแรงไปร่วมงานรื่นเริงอีก
แต่เฝิงเยว่เอ๋อแตกต่างจากฟางหย่าเกอโดยสิ้นเชิง หลายวันมานี้อารมณ์ของนางสงบลงมาก เมื่อนึกถึงเรื่องงานเลี้ยงที่จะเกิดขึ้นและนางได้เตรียมชุดเต้นระบำเอาไว้ เชื่อว่าต้องสะกดสายตาของมู่จวินฮานไว้ที่นางได้แน่นอน
ส่วนอันหลิงเกอยังมองชุดที่ตัดเย็บอย่างประณีตบนเตียงนิ่ง ๆ นางมิอยากไปและไม่อยากสวมชุดรุงรังเช่นนี้ด้วย การได้พบคนเหล่านั้นมีแต่จะทำให้จิตใจวุ่นวายสับสน
เวลานี้ฟางหลิงซู่ตายจากไปแล้ว อันหลิงเกอจึงมิรู้ว่าควรเผชิญหน้ากับมู่จวินฮานเช่นไร จนนางคิดที่จะออกจากจวนอ๋องมู่แล้วตามอิ่งจือไปด้วยซ้ำ
ในขณะนั้นเองอิ่งจือก็มาที่เรือนของอันหลิงเกอ นางรู้ถึงสาเหตุที่เขามาจึงตามเขาไปยังถ้ำน้ำแข็งที่อิ่งจืออาศัยอยู่
อันหลิงเกอมาถึงถ้ำน้ำแข็งซึ่งมิรู้ว่าเหตุใดนางไม่รู้สึกระแวงบุรุษผู้นี้แม้แต่น้อย ด้านอิ่งจือก็มีความรู้สึกเดียวกับอันหลิงเกอ ความคุ้นเคยในบางอย่างที่เกิดขึ้นทำให้เขาเหมือนรู้จักนางมาแสนนาน
“หลายวันนี้ เขาได้มาหาเจ้าหรือไม่?” ที่จริงแล้วอิ่งจือรู้ว่าคนอย่างมู่จวินฮานคงมิมารบกวนนางในเวลานี้ แต่ที่ถามก็เพราะอยากฟังสิ่งที่อันหลิงเกอจะเอ่ย
“มาสองครั้งได้กระมัง แต่มิได้เอ่ยอันใดกับข้าเลย” อันหลิงเกอตอบพลางส่ายหน้า นางพูดความจริงว่ามู่จวินฮานมาหา แต่มิได้เข้ามาพบหน้านางในเรือนเหมือนที่ผ่านมา
เขาจะมาหานางอีกเพราะเหตุใด ?
เมื่อเห็นท่าทางของนางแล้ว อิ่งจือก็เข้าใจทันทีว่านางกำลังรู้สึกเช่นไร เพราะเขารู้สถานการณ์ที่น่าอึดอัดระหว่างนางและมู่จวินฮานในช่วงที่ผ่านมาดีจึงมิได้เอ่ยถามอีก เพียงหันไปมองฟางหลิงซู่ที่นอนอยู่ในโลงน้ำแข็งเท่านั้น
ส่วนอันหลิงเกอก็มองตามสายตาของเขาและเห็นฟางหลิงซู่คล้ายกำลังหลับใหลเท่านั้น ใบหน้ายังมีรอยยิ้มแต้มอยู่ด้วย
ตอนแรกนางมิรู้ด้วยซ้ำว่าศพของฟางหลิงซู่หายไป
กระทั่งอิ่งจือมาแจ้งข่าวให้ทราบว่าเป็นเขาที่นำศพของฟางหลิงซู่มาไว้ที่นี่ อย่างน้อยตอนนี้ศพของฟางหลิงซู่ก็ยังอยู่ดีและมิได้หายไปไหน
ขณะที่ทั้งสองกำลังจมอยู่ในความเงียบก็มีแขกที่มิได้รับเชิญปรากฏขึ้นตรงหน้า
เยว่หยาเดินเข้ามาอย่างช้า ๆ ใบหน้าของนางมีรอยยิ้มประดับเอาไว้พร้อมมองมาที่อันหลิงเกอด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์
เดิมทีเยว่หยาเป็นคนของอิ่งจือมาโดยตลอด และนางก็รับบทสาวใช้ที่ซูฉางเฟิงมอบให้อันหลิงเกอ บ่อยครั้งที่อันหลิงเกอต้องแอบออกมาจากจวนอ๋อง อิ่งจือก็จะใช้ให้เยว่หยาปลอมตัวเป็นฟางหย่าเกอแทนเสมอ
แม้ในใจของอันหลิงเกอรู้สึกขัดแย้ง แต่นางก็รู้ดีว่าหากต้องการถอนตัวออกมาจะต้องมีใครคนหนึ่งสวมบทเป็นฟางหย่าเกอแทนนางเพื่อกลับไปที่จวนอ๋องมู่ ส่วนตอนนี้นางก็กลับมาใช้รูปลักษณ์ของซูฉางเฟิงอีกครั้ง
ตามมารยาทแล้วอันหลิงเกอและอิ่งจือควรเอ่ยทักเยว่หยาบ้าง แต่ทั้งสองกลับยืนนิ่งอยู่เช่นนั้นโดยมิได้มีผู้ใดขยับตัว
ส่วนเยว่หยาก็มิได้นึกโมโหแต่อย่างใด นางเพียงมองทั้งสองอย่างขบขันเท่านั้น
เยว่หยารู้สึกว่าการที่อันหลิงเกอปรากฎตัวอยู่ที่นี่เป็นผลดีต่อตน ด้านอันหลิงเกอก็รู้สึกได้ถึงไอสังหารที่แผ่ออกมาและเยว่หยาที่อยู่ตรงหน้าก็มิได้ไร้เดียงสาเลย
เยว่หยามองฟางหลิงซู่ที่นอนอยู่ในโลงน้ำแข็งครู่หนึ่ง ก่อนจะยิ้มอย่างแฝงความนัยบางอย่าง
อันหลิงเกอรู้สึกได้ถึงสัญญาณอันตรายบางอย่าง จากนั้นเยว่หยาขยับปลายนิ้วเล็กน้อย ในขณะที่อันหลิงเกอยังมิทันโต้ตอบก็เหมือนมีกำลังภายในที่แข็งแกร่งพุ่งไปยังโลงน้ำแข็ง
ทั้งที่โลงน้ำแข็งกำลังจะถูกพลังนั้นทำลาย ทว่าอันหลิงเกอมิได้ยินเสียงแตกร้าวเหมือนที่คิดเอาไว้
ตอนนี้อันหลิงเกอเอาแต่ก้มหน้าลงเพราะมิอาจทนมองภาพโลงน้ำแข็งของฟางหลิงซู่ถูกทำลายได้ แต่พอนางเงยหน้าขึ้นก็พบว่าโลงน้ำแข็งยังอยู่ดี
ฟางหลิงซู่ที่อยู่ในโลงน้ำแข็งก็ยังนอนนิ่งเช่นเดิม
ขณะที่อันหลิงเกอกำลังตกใจและสับสนอยู่นั้นก็เป็นอิ่งจือที่ลงมืออย่างรวดเร็ว เขาใช้กำลังภายในสกัดกั้นกำลังภายในของเยว่หยาเอาไว้ จากนั้นเขาก็พุ่งเข้าใส่เยว่หยาทันที
เยว่หยาที่กำลังจะถูกโจมตีจึงรีบก้าวถอยหลังไป แต่ชนเข้ากับผนังถ้ำพอดี
ผนังถ้ำที่เป็นน้ำแข็งค่อย ๆ ละลายเพราะความร้อนจากร่างของนาง อาภรณ์ที่สวมอยู่เปียกโชกไปหมด ก่อนที่พลังของอิ่งจือจะหยุดนิ่งอยู่ตรงนั้น ทว่าด้วยพลังที่รุนแรงแม้อยู่ห่างก็ยังสามารถพัดเส้นผมที่ปรกหน้าของนางจนยุ่งเหยิงไปหมด
จังหวะที่พลังนั้นกำลังจะพุ่งใส่ตัวนางก็มีพลังบางอย่างมาสกัดไว้เสียก่อน ซึ่งพลังนั้นมาจากมู่จวินฮานที่เข้ามาช่วยนางเอาไว้ ตอนที่เยว่หยาลืมตาขึ้นมาก็เห็นมู่จวินฮานยืนอยู่ด้านหน้าแล้ว
มู่จวินฮานเข้ามาประคองเยว่หยาไว้ด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างก็ถือกระบี่เอาไว้ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยไฟโทสะยามที่จ้องมองมายังอันหลิงเกอและอิ่งจือ อันหลิงเกอเห็นสายตาคู่นั้นก็ตกตะลึงไปชั่วขณะ แต่ใบหน้าของอิ่งจือมิได้บ่งบอกอารมณ์อันใด
ตอนที่มู่จวินฮานเข้ามาใกล้นั้นอิ่งจือก็รับรู้ได้ก่อนแล้ว การที่เขาสงบนิ่งอยู่เช่นนี้ก็เป็นเพราะเขามิได้กลัวมู่จวินฮาน ส่วนอันหลิงเกอเห็นมู่จวินฮานเอาตัวบังเยว่หยาไว้อย่างต้องการปกป้อง นางก็รู้สึกปวดใจขึ้นมาโดยมิรู้ตัว
ตอนนี้อันหลิงเกอก็ตระหนักได้ว่าทั้งเรื่องความสัมพันธ์แสนอึมครึมระหว่างนางกับมู่จวินฮานหรือว่าการตายของฟางหลิงซู่ล้วนต้องเกี่ยวข้องกับเยว่หยาแน่นอน ยิ่งเมื่อครู่ก็เห็นได้ชัดว่าเยว่หยาต้องการทำลายร่างของฟางหลิงซู่
การกระทำของเยว่หยาเช่นนี้ทำให้อันหลิงเกอมิอาจทนได้ แต่มู่จวินฮานยังเอาแต่ปกป้องเยว่หยา มิได้คิดที่จะให้ความยุติธรรมต่ออีกฝ่ายเลย
เยว่หยาทรยศต่ออิ่งจือ นี่เป็นสิ่งที่พวกนางคาดมิถึง
“ทั้งหมดนี้หมายความว่าอย่างไร ? ” มู่จวินฮานหันไปถามอิ่งจือ เขามิได้ตำหนิอันหลิงเกอ แม้รู้ว่าตอนนี้อันหลิงเกอคือหมอหญิงที่กลับมาแปลงโฉมเป็นซูฉางเฟิงอยู่ ทว่าเขาจ้องไปที่อิ่งจือซึ่งลงมือโจมตีเยว่หยาอย่างเกรี้ยวกราด