พลิกชะตาชายาสยบแค้น - ตอนที่ 684 ยกให้นางเถิด
ตอนที่ 684 ยกให้นางเถิด
“ข้ามิเป็นอันใดหรอก ก็แค่คิดมากไปเอง” มู่จวินฮานส่งยิ้มให้อันหลิงเกอ เขาคิดมากไปเองจริง ๆ อันหลิงเกอไม่มีทางทำเช่นนั้นและในใจของนางมีเพียงตน ไม่มีทางคิดอันใดกับบุรุษอื่นแน่นอน
เมื่อเขาเอ่ยเยี่ยงนี้ อันหลิงเกอจึงยิ้มออก นางรู้ว่าสำหรับฟางหลิงซู่แล้ว การกระทำก่อนหน้านี้ของตนอาจจะเกินเลยไปบ้าง แต่ความจริงแล้วภายในใจของนางมีเพียงมิตรภาพและความรู้สึกผิดต่อฟางหลิงซู่เท่านั้น
จากนั้นทั้งสองคนก็มิได้กล่าวอันใดกันอีกและนอนพักผ่อนด้วยกัน
ขณะที่นอนพักผ่อนอยู่นั้น อันหลิงเกอก็อดนึกถึงบุตรอีกสองคนที่มิได้พบหน้ากันขึ้นมา ตอนนี้นางรู้สึกคิดถึงพวกเขามากเหลือเกิน
อดีตนางสามารถเจอพวกเขาได้ทุกวัน แต่ตอนนี้มิเป็นเช่นนั้นอีกและนางไม่ได้พบหน้าพวกเขามานานมากแล้ว ทั้งยังมิได้ทำหน้าที่มารดากับพวกเขาด้วย
ทำให้นางตำหนิตนเองในเรื่องนี้ตลอดเวลา รู้สึกติดค้างต่อบุตรมาโดยตลอด เดิมทีความเจ็บปวดจากการสูญเสียบุตรก็ทำให้นางรู้สึกผิดมากอยู่แล้ว บัดนี้ยังมิได้พบหน้าบุตรทั้งสองมานานมากแล้วนางจึงรู้สึกขมขื่นยิ่งนัก
“จวินฮาน วันนั้นท่านบอกว่า…ต่อไปพวกเราจักนำลูกคืนมา…” อันหลิงเกอยังมิได้หลับแต่มิรู้ว่าตอนนี้มู่จวินฮานหลับไปหรือยัง นางจึงลองเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา
“อืม ใช่แล้ว” มู่จวินฮานเหมือนกำลังสะลึมสะลืออยู่แต่ก็ยังตอบกลับ หลังจากนั้นก็หันไปกอดอันหลิงเกอไว้ น้ำเสียงของเขาทำให้นางรู้สึกสบายใจและโล่งใจในเวลาเดียวกัน
นางรู้ว่ามู่จวินฮานพูดจริงทำจริง รู้ว่าสักวันหนึ่งพวกตนต้องพาลูกกลับมาอยู่ข้างกายได้อย่างแน่นอน จะได้ดูแลและเฝ้ามองบรรดาลูก ๆ เติบใหญ่ต่อไป
เพียงมินานอันหลิงเกอและมู่จวินฮานก็หลับไปพร้อมกันพร้อมวาดหวังไว้อย่างมีความสุข
การนอนกลางวันที่อบอุ่นเช่นนี้สำหรับอันหลิงเกอแล้วเป็นช่วงเวลาที่หาได้ยากยิ่ง แม้การอยู่ในจวนสุขสบายเพียงใดแต่มักมีคนมารบกวนนางอยู่เสมอ
ตั้งแต่กลับมาอยู่ที่นี่นางมิเคยได้อยู่อย่างสงบเลยสักครั้ง ไม่เหมือนตอนที่จวนอ๋องมีลำดับขั้นชัดเจนจึงไม่มีผู้ใดกล้ามารบกวน ตอนนั้นภายในจวนอ๋องมีเพียงอันหลิงเกอและมู่จวินฮานที่เป็นนาย ทว่าตอนนี้มีเหล่าที่ปรึกษาซึ่งมู่เหล่าหวางเฟยแต่งตั้งขึ้นมาและต่างก็เข้ามาวุ่นวายโดยมิหวังดี
ตอนนี้อันหลิงเกอกำลังหลับใหลจึงยังมิทันรู้ถึงภัยคุกคามที่กำลังมาถึง นางเพียงรอคอยให้บุตรตื่นขึ้นมาเท่านั้น รอให้ได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาอย่างมีความสุข
ในขณะที่หลิงเอ๋อมิได้สบายใจเช่นพวกเขาสองคน ภายในใจของนางสับสนว้าวุ่นยิ่งนัก
เมื่อครู่เหล่าที่ปรึกษาทราบเรื่องของนางและมู่จวินฮานแล้ว มิเพียงไม่ตำหนิที่นางกระทำโดยพลการทั้งยังชื่นชมในความกล้าของนางอีกด้วย
ความจริงแล้วเหล่าที่ปรึกษารู้ความคิดของอันหลิงเกอดี พวกเขาอยู่ในราชสำนักก็ต้องอ่านคนออกมิมากก็น้อย รู้ว่าด้วยนิสัยของอันหลิงเกอแล้ว ไม่มีทางทำอันใดหลิงเอ๋อเป็นแน่ มิหนำซ้ำยังให้มาอยู่ข้างกายด้วย
และโดยนิสัยของหลิงเอ๋อแล้วน่าจะได้รับความเชื่อใจจากอันหลิงเกอมิมากก็น้อย หากเป็นเช่นนี้ก็รอจนถึงเวลาที่พวกเขาต้องการลงมือ หลิงเอ๋อก็จะเป็นดั่งกระบี่แหลมคมที่สุดของพวกเขา
พวกเขารู้ว่าด้วยความคิดไร้เดียงสาของหลิงเอ๋อ เวลานี้คงหลงรักมู่จวินฮานเข้าแล้ว ส่วนมู่จวินฮานคงยังมิคิดอันใดตอบ
ซึ่งพวกเขาก็มิได้ต้องการให้มู่จวินฮานคิดอันใดกับนาง ขอแค่นางได้รับความเชื่อใจจากอันหลิงเกอก็เพียงพอแล้ว
ขอเพียงหลิงเอ๋อสามารถเข้าออกเรือนของอันหลิงเกอและมู่จวินฮานได้อย่างอิสระ เช่นนั้นก็จะเป็นการดีต่อพวกเขา เหล่าที่ปรึกษายังไม่มีแผนที่จะลงมือเพราะยังมิกล้าทำการโดยประมาท หากตอนนี้หลิงเอ๋อเกิดอันใดขึ้น ทุกคนก็จะรู้ว่าเหล่าที่ปรึกษาเป็นผู้บงการนางมา
หลิงเอ๋อก็ยังมิได้สงสัยความคิดของเหล่าที่ปรึกษา ด้วยความที่ผ่านโลกมาน้อยจึงไม่มีทางคาดเดาความคิดของคนพวกนี้ออก
ทว่าสิ่งที่หลิงเอ๋อคิดถึงมีเพียงความอ่อนโยนของมู่จวินฮานที่มีต่ออันหลิงเกอและความห่างเหินที่เขาสร้างขึ้นกับนาง เดิมทีนางคิดว่ามู่จวินฮานคงชอบกันบ้าง ทว่าพออันหลิงเกอปรากฏตัว นางก็เหมือนไร้ที่ยืนทันที
นางรู้สึกว่าตนเป็นสัตว์เลี้ยงก็มิปาน ทำให้มู่จวินฮานมีความสุขเป็นครั้งคราวเท่านั้น มิว่าอย่างไรก็ไม่มีวันได้หัวใจของเขา พอนึกถึงการกุมมือกันของทั้งสองคนแล้ว หลิงเอ๋อก็อดรู้สึกปวดใจมิได้
หลิงเอ๋อที่ตอนนี้ถูกความหลงใหลบังตาก็มิเข้าใจว่าความรักแท้จริงคือสิ่งใด
นางรู้แค่ว่าความรู้สึกที่มีต่อมู่จวินฮานมิได้น้อยไปกว่าอันหลิงเกอเลย นางเห็นท่าทางเย็นชาที่อันหลิงเกอมีต่อมู่จวินฮาน แต่หารู้ไม่ว่าความรักแท้จริงมิจำเป็นต้องเอ่ยถ้อยคำที่หวานหูมากมาย
อันหลิงเกอและมู่จวินฮานรู้จักกันมานานนับสิบปีจึงมิต้องสร้างภาพต่อกันอีกแล้ว ที่เหลือจึงมีเพียงความรักหนักแน่นเท่านั้น
อีกอย่างอันหลิงเกอมีนิสัยไม่ใส่ใจคนมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว มิว่าเมื่อก่อนหรือตอนนี้นางก็ไม่เคยพูดคำหวานหูกับมู่จวินฮาน สิ่งที่นางถนัดก็คือการทำเรื่องดีต่อเขาเท่านั้น
สิ่งที่อันหลิงเกอทำเพื่อมู่จวินฮานเป็นสิ่งที่คนไร้เดียงสาเยี่ยงหลิงเอ๋อไม่เข้าใจ นางถึงขั้นมิเข้าใจว่าเหตุใดอันหลิงเกอจึงมักมีท่าทีแข็งกระด้างต่อมู่จวินฮาน ไร้ความอ่อนโยนหรืออ่อนหวานแม้แต่น้อย
ความจริงแล้วความรักของอันหลิงเกอไม่เหมือนความรักของหลิงเอ๋อที่ถูกความรักบังตา สิ่งที่หลิงเอ๋อคิดว่าตนเป็นผู้ให้ แท้จริงแล้วตนเป็นผู้รับเพียงฝ่ายเดียวต่างหาก
หลิงเอ๋อแค่หวังว่าจะได้อยู่ข้างกายของมู่จวินฮานแต่มิได้รับรู้ถึงปัญหาที่จะนำมาให้เขาเลย เพียงเพราะหลิงเอ๋อเป็นคนของเหล่าที่ปรึกษา สิ่งนี้ก็เพียงพอแล้วที่มู่จวินฮานจำต้องยอมรับนางเอาไว้
สำหรับมู่จวินฮานแล้วมิอาจปล่อยให้มีภัยคุกคามข้างกายได้ ตอนนี้ข้างกายของเขาเต็มไปด้วยความยุ่งยากมากพอจึงมิอาจให้มีภัยคุกคามเกิดขึ้นได้อีกและสิ่งที่อันหลิงเกอทำก็แค่ช่วยเขากำจัดปัญหาและเผชิญหน้ากับเรื่องเลวร้ายเหล่านั้นไปด้วยกัน
แต่หลิงเอ๋อยังคงมิเข้าใจ นางไม่รู้ว่าเหตุใดการมีตัวตนอยู่จึงเป็นภัยต่อมู่จวินฮาน นางนึกมิถึงเกี่ยวกับเรื่องนี้เสียด้วยซ้ำ
นางรู้เพียงว่าการได้อยู่ข้างมู่จวินฮานทำให้นางมีความสุขมากจริง ๆ แต่มิรู้ว่าภายในใจของเขามีแต่อันหลิงเกอ การที่นางคอยวนเวียนอยู่ใกล้ ๆ เช่นนี้สำหรับเขาเป็นเพียงปัญหาที่น่าปวดหัวเท่านั้น
หลิงเอ๋อนั่งอยู่ริมหน้าต่างและมองไปยังบ่อน้ำร้อนที่ก่อนหน้านี้พวกเขาเคยมาเล่นน้ำกัน จากนั้นบางสิ่งในแววตาของนางก็ค่อย ๆ เปลี่ยนไป
สิ่งที่หลิงเอ๋อมิรู้ตัวคือความรู้สึกอิจฉาที่บริสุทธิ์ก่อนหน้านี้ได้แปรเปลี่ยนเป็นความริษยาไปเสียแล้ว
อันหลิงเกอรู้ว่าในเมื่อหลิงเอ๋อเป็นคนของที่ปรึกษาก็จะต้องมีหน้าที่ทำตามคำสั่งของคนเหล่านั้น แต่ดูจากท่าทางของหลิงเอ๋อแล้วเหมือนยังมิได้รับคำสั่ง สตรีเช่นนี้ยังเป็นเหมือนผ้าขาว อันหลิงเกอจึงอยากที่จะปกป้องเอาไว้ มิอยากให้โดนหลอกใช้อีกต่อไป
แต่หลิงเอ๋อมิอาจเข้าใจความหวังดีของพวกเขา นางคิดเพียงว่าในใจของมู่จวินฮานมีแต่อันหลิงเกอจึงมิยอมรับรักนาง และในใจของอันหลิงเกอคงอยากให้นางอยู่ห่างจากมู่จวินฮาน ความรู้สึกมิยุติธรรมนี้ทำให้หลิงเอ๋อมิอาจยอมรับได้
ความคิดเช่นนี้ทำให้หัวใจของหลิงเอ๋อเปลี่ยนแปลงไปอย่างช้า ๆ นางมองจดหมายของเหล่าที่ปรึกษาอยู่อย่างนั้น เนื้อความยังคงให้นางคอยสังเกตความเคลื่อนไหว มิได้มีคำสั่งอื่นใด ทว่าภายในใจของนางกลับมีความคาดหวังที่ชั่วร้ายขึ้นมา โดยนางหวังไว้ว่าเหล่าที่ปรึกษาจักให้ลงมือทำอันใดบางอย่างเช่น…สังหารอันหลิงเกอ
ความจริงแล้วที่อันหลิงเกอให้หลิงเอ๋อคอยติดตามนั้นมิได้หมายความตามที่พูด เพราะนางยังไปหาฟางหลิงซู่ทุกวัน ส่วนหลิงเอ๋อก็มิได้ตามไปด้วย เพราะเกรงกลัวอันหลิงเกอมาก ทำให้หลิงเอ๋อมิกล้าไปหามู่จวินฮานด้วยเช่นกัน