พลิกชะตาชายาสยบแค้น - ตอนที่ 701 ปวดใจ
ตอนที่ 701 ปวดใจ
เส้นผมของอันหลิงเกอสยายข้างและปรกใบหน้าที่ชื้นเหงื่อจนเปียกชุ่มของนาง ภาพที่เห็นตรงหน้าทำให้ฟางหลิงซู่เจ็บปวดราวกับหัวใจถูกเฉือนออกเป็นชิ้นจนมิเหลือชิ้นดี
อันหลิงเกอช่างดีปานนี้กลับถูกทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจจนมีสภาพน่าเวทนาเพียงนี้ได้ เหตุใดมู่จวินฮานถึงใจร้ายกับนางมาก เขากล้าทำร้ายคนที่พร่ำบอกว่ารักได้เยี่ยงไร
จู่ ๆ ฟางหลิงซู่ก็รู้สึกเสียใจขึ้นมา หากมิใช่เพราะเขาเข้าไปก้าวก่ายเรื่องของคนทั้งคู่ด้วยจุดประสงค์บางอย่าง มู่จวินฮานอาจมิทำเช่นนี้กับนางก็ได้ แต่มาถึงตอนนี้เรื่องก็ได้เกิดขึ้นแล้ว
จากนั้นฟางหลิงซู่ก็ก้าวขึ้นบนรถม้าแล้วอุ้มอันหลิงเกอขึ้นมาและพานางเข้าไปในหอพิษกู่
ตอนนี้ทั่วทั้งร่างของนางคละคลุ้งไปด้วยกลิ่นของยาและคาวเลือด กลิ่นยาที่ฉุนจมูกทำให้ฟางหลิงซู่ต้องนิ่วหน้า นี่มู่จวินฮานสังหารบุตรในครรภ์ของนางหรือ…
มู่จวินฮานใช้ยาหนึ่งถ้วยกับรถม้าหนึ่งคันเพื่อพานางมาทิ้งไว้เช่นนี้ราวกับโยนผ้าขาดผืนหนึ่งทิ้งไป มิได้มีความสงสารนางเลย
เมื่อเห็นอันหลิงเกอที่กำลังหมดสติอยู่ ฟางหลิงซู่จึงค่อย ๆ ป้อนยาที่ท่านหมอจัดให้นาง แต่อันหลิงเกอที่กำลังมิได้สติคล้ายรู้สึกได้ถึงความขมนั้น นางกัดฟันแน่นและนิ่วหน้ามิว่าอย่างไรก็ไม่สามารถป้อนยาให้ได้
ฟางหลิงซู่สั่งให้ทุกคนออกไปก่อน ตอนนี้จึงเหลือเพียงเขาและอันหลิงเกอเท่านั้น
เขาพยายามป้อนยาให้นางอย่างอดทน หลังจากป้อนยาเสร็จแล้ว ฟางหลิงซู่ก็วางถ้วยยาไว้ เห็นสภาพของอันหลิงเกอแล้ว เขาก็ได้แต่กำหมัดแน่น ในเมื่อมู่จวินฮานทำเพียงนี้แล้ว เขาก็มิสามารถใจอ่อนให้ได้อีก มิหนำซ้ำตอนนี้มู่จวินฮานยังทิ้งขว้างนางเพียงนี้ อันหลิงเกอคงมิกลับไปอยู่ข้างกายอีกแล้ว
ส่วนอันหลิงเกอที่กำลังหลับอยู่ก็รู้สึกถึงความเจ็บปวดบนร่างกายที่ทุเลาลง กลิ่นหอมสดชื่นปะทะเข้ากับจมูก เหมือนเป็นกลิ่นหอมเย็นของใบโป้เหอ แต่คือกลิ่นของผู้ใดนางก็นึกมิออก
จู่ ๆ ในความฝันก็มีคนผู้หนึ่งก้าวเข้ามา ครั้งนี้นางรับรู้ได้อย่างชัดเจนว่าคนผู้นั้นมีอ้อมกอดแสนอบอุ่นมากเพียงใด ลมหายใจสะอาดปนกลิ่นหอมนี้ได้กอดนางไว้เช่นนั้น
อันหลิงเกอลืมตาขึ้นมองฟางหลิงซู่ที่อยู่ข้างเตียงและกำลังวางแขนไว้บนร่างของนาง คนที่ให้ความสบายใจและอบอุ่นแก่นางในฝันเมื่อครู่ที่แท้ก็คือเขาเอง
บนกายเขานอกจากกลิ่นของยาแล้วยังมีกลิ่นหอมของใบโป้เหอติดอยู่ ทำให้อันหลิงเกอลืมความเจ็บปวดบนร่างกายลงไปชั่วขณะ
แต่พอตื่นได้ครู่หนึ่งอันหลิงเกอก็เพิ่งนึกได้ว่าเหตุใดฟางหลิงซู่จึงมาอยู่ที่นี่ ส่วนมู่จวินฮานอยู่ที่ใด ?
เพราะนางยังมิได้สตินักจึงยังจำเรื่องราวที่เกิดขึ้นก่อนหมดสติไปมิได้ แต่ความเจ็บปวดที่กัดกินกระดูกเช่นนี้ก็เกรงว่าชาตินี้นางคงมิอาจลืม
จากนั้นมินานอันหลิงเกอก็นึกถึงใบหน้าที่โหดเหี้ยมของมู่จวินฮานขึ้นได้ นึกถึงความขมของยาถ้วยนั้น นึกถึงเลือดอุ่น ๆ ที่รินไหลออกมาและนึกถึงความเจ็บปวดทั้งหมดขึ้นได้
จนนางต้องยกมือขึ้นกุมศีรษะเอาไว้ นางมิอยากนึกถึงความทรงจำที่ทำให้ทรมานเช่นนั้นอีก
จากนั้นมือของนางก็วางลงบนหน้าท้องเบา ๆ นางเพิ่งจะรู้ถึงการมีอยู่ของลูก ทว่าตอนนี้เขามิอยู่เสียแล้ว
พลันนางก็นึกถึงแววตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยของมู่จวินฮานและอยากอธิบายให้เขาฟังว่านางหาใช่สตรีเช่นนั้น แต่ยังมิทันที่นางจะลุกขึ้นนั่ง ฟางหลิงซู่ก็ตื่นขึ้นพอดี
อันหลิงเกอมองไปโดยรอบ ที่นี่มิใช่จวนอ๋องมู่แล้วตอนนี้นางอยู่ที่ใดกัน เหตุใดจึงมาอยู่ที่นี่ได้ แล้วมู่จวินฮาน…อยู่ที่ไหน ?
“ฟางหลิงซู่ ข้าอยู่ที่ใดหรือ ? ” ชื่อที่มิได้เรียกมานานทำให้อันหลิงเกอรู้สึกถึงความห่างเหิน แต่นางจำเป็นต้องเอ่ยถามออกไปเพราะสถานที่มิคุ้นเคยนี้ทำให้นางรู้สึกอึดอัดมิน้อย
“ตอนนี้เจ้าอยู่ที่เรือนของข้า” ฟางหลิงซู่ช่วยจัดผ้าห่มให้นาง จงใจมองข้ามความห่างเหินเมื่อครู่ของนาง เพราะมิอยากยอมรับว่าตนไม่ได้คุยกับนางมานานมากจนนางรู้สึกห่างเหินใส่เช่นนี้
“เหตุใดข้าจึงมาอยู่ที่นี่ มู่ มู่จวินฮานเล่า ? ” สายตาของอันหลิงเกอมองหามู่จวินฮานไปโดยรอบ แต่ใบหน้าของฟางหลิงซู่บึ้งตึงและโมโหขึ้นมา อันหลิงเกอยังมิเข้าใจ ฟางหลิงซู่จึงเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้ฟัง
“เขาให้รถม้าคันหนึ่งมาส่งเจ้ามาที่นี่” น้ำเสียงของฟางหลิงซู่ฟังก็รู้ว่ากำลังอดกลั้นโทสะอยู่ เห็นได้ชัดว่าตอนนี้เขากำลังโมโหอย่างมากเพราะการกระทำของมู่จวินฮานทำให้เขาโกรธได้ถึงเพียงนี้
แต่ที่เขาโกรธยิ่งกว่าก็คือตัวเอง หากเขามิทำเช่นนั้นอันหลิงเกออาจมิต้องประสบกับเรื่องเหล่านี้ก็ได้
แต่ฟางหลิงซู่มิสามารถพูดมันออกมาในตอนนี้และภายในใจของเขาก็มิยอมรับเช่นกันจึงโยนความโกรธแค้นทั้งหมดไปที่มู่จวินฮาน
“เขา…ส่งข้ามาหรือ ? ” น้ำเสียงของอันหลิงเกอแฝงไว้ด้วยความรู้สึกที่ยากจะเชื่อ นางยังจำประโยคสุดท้ายของมู่จวินฮานได้ดี ‘ดื่มแล้วเจ้าก็อยู่ที่จวนนี้ต่อไป’ นางคิดว่าเขาแค่ไม่ต้องการลูก แต่มู่จวินฮานมิต้องการนางด้วยหรือ
“เขาหรือ ? ข้ามิรู้ว่าเหตุใดเขาจึงส่งเจ้ามาเพราะมีแค่รถม้าหนึ่งคันกับคนขับรถม้าซึ่งพาเจ้ามาทิ้งไว้ที่นี่แล้วก็จากไป”
ความโกรธแค้นที่ฉายชัดอยู่ในแววตาของฟางหลิงซู่ทำให้อันหลิงเกอรู้ว่าสิ่งที่เขาพูดมาทั้งหมดเป็นความจริง มู่จวินฮานมิต้องการนางแล้วถึงได้พานางมาทิ้งไว้ที่นี่
เมื่อนึกถึงตรงนี้น้ำตาของอันหลิงเกอก็ไหลทะลักออกมา ช่างน่าอายยิ่งนัก แต่เพียงมินานนางก็เช็ดน้ำตาจนแห้งแล้วสวมเสื้อคลุมเพื่อจะลงจากเตียง
ฟางหลิงซู่มิคิดว่านางจะลุกจากเตียงเช่นนี้ กว่าที่เขาจะทันรู้ตัวและขวางนางเอาไว้ก็สายไปเสียแล้ว อันหลิงเกอขายังไม่มีแรงพอลุกขึ้นจึงล้มลงกับพื้นทันที เดิมทีร่างกายของนางก็อ่อนแออยู่แล้วเพราะหมดสติไปถึงสองวันพร้อมร่างกายที่ร้อนผ่าวด้วยพิษไข้
บัดนี้เมื่อล้มลงไปก็ราวกับทั้งร่างของนางจะแตกสลายไปด้วย นางกอดเข่าเอาไว้แน่นบนพื้นที่เย็นเฉียบ ความเจ็บตรงท้องทำให้น้ำตาของนางไหลลงมาอีกครา
ฟางหลิงซู่รีบเข้าไปอุ้มนางขึ้นมาไว้บนเตียงอีกครั้ง เขารู้ว่านางอยากกลับไปที่จวนอ๋องมู่ อยากกลับไปอยู่ข้างกายของมู่จวินฮาน อยากจะไปอธิบาย แต่ขณะเดียวกันเขาก็รู้ว่าการที่มู่จวินฮานใจร้ายต่อนางได้ถึงเพียงนี้ย่อมไม่เมตตานางแน่นอน
ฟางหลิงซู่มิอยากเห็นอันหลิงเกอต้องเจ็บปวดอีก แม้ครั้งนี้จะเป็นเพราะเขาแต่ก็เชื่อว่า หากมิใช่เพราะความใจร้ายของมู่จวินฮานแล้วอันหลิงเกอก็คงไม่มีสภาพย่ำแย่เพียงนี้
“เขามิอยากให้ข้ามีบุตรถึงเพียงนี้…” อันหลิงเกอยังอยู่ในอ้อมกอดของฟางหลิงซู่ น้ำเสียงของนางสั่นเครือ ช่างน่าสงสารยิ่งนัก มิเคยคิดเลยว่ามู่จวินฮานจะไม่อยากให้นางมีบุตรกับเขาอีก
ทั้งที่ก่อนหน้านี้พวกนางมีบุตรด้วยกันมาแล้วถึง 3 คน
ทั้งหมดนี้มันเรื่องอันใดกัน ?
ชั่วขณะหนึ่งอันหลิงเกอยังคงมิเข้าใจ
ฟางหลิงซู่ที่ได้ยินอันหลิงเกอกล่าวเช่นนี้ก็ตกตะลึงไปชั่วขณะ ที่แท้อันหลิงเกอยังมิรู้สาเหตุที่มู่จวินฮานทำกับนางเช่นนี้ ฟางหลิงซู่จึงค่อย ๆ เบาใจ แม้เขารู้ว่าอันหลิงเกอจะมิโทษเขาอย่างแน่นอนเพราะอย่างไรก็ถือเป็นเรื่องเข้าใจผิด แต่ภายในใจของเขาก็ยังรู้สึกผิดและละอายใจต่อนางอยู่ดี
“ฟางหลิงซู่ ข้าอยากกลับไป ข้าอยากกลับไป…”
อันหลิงเกอมองฟางหลิงซู่อย่างขอร้อง นางมิเคยมีท่าทีอ่อนแอเช่นนี้มาก่อน อึดใจนั้นราวกับฟางหลิงซู่ตระหนักได้ว่าแม้จะนานเพียงใดคนที่ได้อยู่ในใจของอันหลิงเกอก็มีเพียงมู่จวินฮานเท่านั้น ไม่มีผู้ใดสามารถสั่นคลอนได้
“ตอนนี้ร่างกายเจ้ายังมิแข็งแรง พักอีกสักหน่อยแล้วข้าจะส่งเจ้ากลับไปเอง” ฟางหลิงซู่เอ่ยออกมาด้วยสีหน้าที่เย็นชาขึ้นมิน้อย เขาหวังว่าจะเป็นคนที่ทำให้นางมีความสุข มิใช่มู่จวินฮานผู้นั้น