เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - ตอนที่ 1216 สุดท้ายเธอก็เลือกที่จะไปอ่านภาพคลื่นไฟฟ้าหัวใจบนรถของคนอื่น
- Home
- เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
- ตอนที่ 1216 สุดท้ายเธอก็เลือกที่จะไปอ่านภาพคลื่นไฟฟ้าหัวใจบนรถของคนอื่น
เช้าตรู่วันถัดมา
ข่าวที่เฉินชางได้เป็นแพทย์เจ้าของไข้ก็แพร่สะพัดไปทั่วทั้งโรงพยาบาล
ทุกคนต่างรู้ว่าเฉินชางเลื่อนขั้นสำเร็จแล้ว
ช่วงบ่าย หัวหน้าเซวียจากสหภาพแรงงานส่งเค้กมาแสดงความยินดี
ทุกคนในห้องทำงานคร่ำครวญขึ้นมาทันที
“หัวหน้าเซวีย คุณลำเอียงมาก ตอนผมได้เลื่อนเป็นรองหัวหน้า คุณยังไม่มีเค้กให้ผมเลย”
“ใช่ สองมาตรฐาน!”
“ใช่ครับ ศาสตราจารย์เฉินไม่ใช่ลูกจ้างของโรงพยาบาลเราสักหน่อย ยิ่งไม่ใช่สมาชิกของสหภาพแรงงาน”
ทุกคนต่างล้อเล่นกันขึ้นมา
เค้กใหญ่มาก สามชั้น!
“เวอร์เกินไปแล้ว เค้กสูงกว่าตอนผมเลื่อนเป็นเจ้าพนักงานขั้นสองเสียอีก!” อวี๋หย่งกังเองก็เดินเข้ามาดูเค้กก้อนใหญ่นี้
หัวหน้าเซวียประธานสหภาพแรงงานหัวเราะฮ่าๆ “อันนี้…สถานการณ์ค่อนข้างพิเศษ เราจะต้องจัดให้พิเศษหน่อย! อย่างแรก ศาสตราจารย์เฉินเป็นหมอฝึกงานของโรงพยาบาลเรา เรื่องใหญ่ขนาดนี้ แน น่นอนว่าเราจะทำให้ศาสตราจารย์เฉินรู้สึกผิดหวังไม่ได้ เพราะฉะนั้นจะต้องมอบเค้กให้ อย่างที่สอง แม้ศาสตราจารย์เฉินไม่ได้สังกัดสหภาพแรงงานของเรา แต่…ช่วยโรงพยาบาลของเรามาโดยตลอด ด เพราะฉะนั้น จะต้องมอบเค้กให้เพื่อแสดงความยินดีอยู่แล้ว!”
ทันใดนั้นทุกคนต่างดีใจขึ้นมา
แม้เค้กดูเหมือนใหญ่มาก แต่คนของแผนกฉุกเฉินที่หกก็เยอะมาก ได้ชิมคนละคำก็ไม่เลวแล้ว
ความจริง เค้กก้อนนี้ทำให้เฉินชางดีใจจริงๆ
แม้จะไม่แพง แต่กลับมีความหมายทางจิตใจมาก
ตอนเที่ยงเหล่าหม่าสั่งอาหารมาเต็มโต๊ะ ล้วนเป็นร้านเก่าแก่ มื้อเที่ยงจึงกินในห้องทำงาน พร้อมกับเค้กก้อนโตและเสียงหัวเราะ ดูสามัคคีปรองดองกันมาก
เฉินชางมองเหล่าหม่าแล้วอดซาบซึ้งใจไม่ได้ ชายที่มื้อเช้าจะต้องหักหนึ่งหยวนทุกวัน กลับยอมทุ่มเงินเพื่อตน
คิดได้แบบนี้ จู่ๆ เฉินชางก็รู้สึกว่าต่อไปตนควรดีกับเหล่าหม่าหน่อย
……
เวลายังคงผ่านไปเรื่อยๆ
ชีวิตของเฉินชางเองก็เช่นกัน
เข้างาน ผ่าตัด
หลังจากการผ่าตัดคนไข้ทางคลินิกสามสิบห้าคนในกลุ่มแรกเสร็จสิ้น ข้อมูลล่าสุดอยู่ระหว่างวิจัย
สำหรับการวิจัยข้อมูล เฉินชางเองก็ทำได้ แต่ความสามารถของคนคนเดียวมีจำกัด แน่นอนว่าเฉินชางจะลงมือทำเองทุกอย่างไม่ได้
เขาไม่ได้มีเวลาเยอะขนาดนั้น
หลังจากงานสรุปและการวิเคราะห์ทั้งหมดเสร็จสิ้นในวันเสาร์นี้ เฉินชางจะจัดการประชุมเพื่อหารือเคสและดำเนินการวิเคราะห์ย้อนหลัง
คนไข้สามสิบห้าคนถือว่าได้รับข้อมูลไม่น้อยแล้ว และทำเป็นวิจัยที่ยอดเยี่ยมได้หลายฉบับแล้ว
สำหรับการวิจัยคนไข้กลุ่มอาการมาร์แฟน เป็นเนื้อหายอดนิยมบนแพลตฟอร์มต่างประเทศมาโดยตลอด
คืนวันพฤหัสบดี เฉินชางอยู่เวรดึก
ช่วงประมาณห้าโมงเย็น เฉินชางพาจางหย่วนออกไปกับรถพยาบาล แต่จางหย่วนท่าทางดูไม่มีความสุขนัก
หลังจากเคลื่อนย้ายคนไข้อย่างปลอดภัย เฉินชางอดถามไม่ได้ “เป็นอะไร ทำไมดูเงียบๆ”
จางหย่วนฝืนยิ้ม “ไม่ได้เป็นอะไรครับ!”
เฉินชางชะงัก “จริงเหรอครับ ถ้าอย่างนั้นวันเสาร์หน้าไปโรงพยาบาลในเครือวิทยาลัยการแพทย์ปักกิ่งยูเนี่ยนกับผมหน่อย อยากให้คุณช่วยอัดคลิปวิดีโอ”
จางหย่วนพยักหน้า “ได้ครับ”
เฉินชางเห็นท่าทางหมดอาลัยตายอยากของจางหย่วนก็ถามอย่างประหลาดใจ “อกหักเหรอ”
จางหย่วนถอนหายใจ
เฉินชางพลันพูดว่า “คุณยังไม่มีแฟนไม่ใช่เหรอ”
จางหย่วนส่ายหน้า “มีคนที่ชอบมานาน แต่…เฮ้อ…ช่างเถอะ”
เฉินชางอุ่นอาหารที่เหลือตอนเย็นในไมโครเวฟ กลางวันหัวหน้าทีมหม่าสั่งมาเยอะเกินไป ยังเหลืออีกตั้งหลายอย่าง
หลังจากอุ่นเสร็จ เฉินชางก็ยกไปที่ห้องเวร
“มา ผมมีกับข้าวแล้ว เล่าเรื่องกลุ้มใจของคุณมา” เฉินชางยื่นตะเกียบให้จางหย่วน พร้อมหยิบเบียร์และโค้กออกมาอย่างละกระป๋อง
เขายื่นเบียร์ให้จางหย่วน แล้วเก็บโค้กไว้กินเอง
กลางคืนต้องอยู่เวร เฉินชางไม่โง่ไปดื่มแอลกอฮอล์หรอก
ทว่าตู้เย็นในห้องเวรจะมีเบียร์อยู่ตลอด เพราะหลังจากพวกหมอผ่าตัดเสร็จ มักจะดื่มเบียร์เพื่อผ่อนคลาย
ของที่เหมาะกับฤดูร้อนแบบนี้ แน่นอนว่าตู้เย็นในห้องทำงานจะขาดไม่ได้
แม้พวกหมอดูเหมือนเข้าใจร่างกายมนุษย์เป็นอย่างดี รู้ว่าอะไรที่ไม่ดีต่อสุขภาพ
แต่หมอก็ไม่ได้รักษาสุขภาพของตนเองมากนัก
ศัลยแพทย์ที่สูบบุหรี่ ดื่มแอลกอฮอล์เยอะ ถึงขั้นติดแอลกอฮอล์ และบางคนก็เสพติดคาเฟอีนด้วย
อย่างไรก็ตาม อย่าคิดว่าหมอจะรู้จักดูแลสุขภาพของตน ไม่ได้เป็นแบบนั้นเลย!
ตอนนี้จางหย่วนเลิกงานแล้ว เขาดื่มเบียร์หมดไปครึ่งกระป๋องในคราเดียว
“ผมชอบผู้หญิงคนหนึ่ง เป็นเพื่อนร่วมชั้นตอนเรียนมหาวิทยาลัย ตอนนั้นผมอยู่เซี่ยงไฮ้ เธอเรียนอยู่ที่วิทยาลัยการแพทย์ปักกิ่งยูเนี่ยน จากนั้นพอผมกลับมาอยู่ที่เมืองหลวงก็อยากค คบหากับเธอ เราสองคนไม่ได้สนิทกันขนาดนั้น แต่หลังจากผมไปบรรยายที่โรงพยาบาลในเครือวิทยาลัยการแพทย์ปักกิ่งยูเนี่ยนกับคุณเมื่อเดือนที่แล้ว ความสัมพันธ์ของเราก็ดีขึ้น เริ่มเดท ทกันถี่ขึ้น แต่…เฮ้อ! เมื่อคืนผมไม่ได้เข้าเวรดึก เลยนัดเธอออกไปดูหนัง แต่เธอบอกว่าเธออยู่เวร ผมเลยซื้อมื้อดึกไปส่งให้เธอ สุดท้ายผมเห็นรถซูซูกิ อัลโต้คันหนึ่งจอดหน น้าโรงพยาบาล เธอขึ้นรถไปอย่างมีความสุข ตอนนั้นผมแอบตามไปอย่างระมัดระวัง พบว่าพวกเขาไปจอดอยู่ในที่จอดรถห้าง จากนั้น…ตั้งนานก็ไม่ออกมาเสียที!”
เฉินชางฟังจบแล้วอึ้งงันไป!
ที่จอดรถ ชายหญิงคู่หนึ่ง ในรถ…
จะทำอะไรได้
คิดถึงตรงนี้ เฉินชางรู้ว่า จางหย่วนอาจจะถูกสวมเขาแล้ว…
เฉินชางตบไหล่จางหย่วนอย่างจนปัญญา เสียใจด้วยจริงๆ!
จางหย่วนอดพูดไม่ได้ “ตอนนั้นผม…รวบรวมความกล้าวิ่งเข้าไปเงียบๆ อยากรู้ว่าพวกเขาทำอะไรกัน!”
เฉินชางอึ้ง แต่ถือว่าจางหย่วนกล้ามาก ถึงกับกล้าไปดู ถ้าเห็นฉากนั้นขึ้นมาจริงๆ จะปวดใจแค่ไหน
“คุณยังกล้าไปดูอีก!” เฉินชางอดพูดไม่ได้
จางหย่วนหน้าแดง “ผมแค่อยากไปดูให้เห็นกับตา เห็นแล้วจะได้ตัดใจจริงๆ สักที”
เฉินชางชูนิ้วโป้งให้!
ทำร้ายจิตใจตัวเองจริงๆ เลย
จางหย่วนเห็นเฉินชางมองตนด้วยสีหน้าแปลๆ ก็มองบนทีหนึ่ง
“ไม่ใช่อย่างที่คุณคิดนะครับ”
“แล้วเป็นอย่างไรล่ะ” เฉินชางจินตนาการทุกอย่างไปตามสัญชาตญาณ
จางหย่วนถอนหายใจ “ไม่ได้มีฉากพวกนั้นหรอก แต่…อบอุ่นมาก มีความสุขมาก ทั้งสองถือภาพคลื่นไฟฟ้าหัวใจหลายใบ วิเคราะห์กันอย่างมีความสุข สมาธิจดจ่อ หวานมาก…ดื่มด่ำมาก…”
ระหว่างที่พูด จางหย่วนถือเบียร์ มองนอกหน้าต่างพร้อมถอนหายใจอย่างจนปัญญา
“คุณไม่เห็นหรอกว่าตอนนั้นเธอยิ้มอย่างมีความสุขแค่ไหน พวกเขาวิเคราะห์กันอย่างออกรส เธอมองเขาด้วยสายตาชื่นชม หยิบปากกาและสมุดขึ้นมาจดเป็นระยะๆ อย่างตั้งใจ”
หลังจากพูดจบ น้ำตาของจางหย่วนไหลลงมาเงียบๆ
“สุดท้ายเธอก็เลือกที่จะนั่งดูภาพคลื่นไฟฟ้าหัวใจในรถซูซูกิ อัลโต้ของคนอื่น ภาพคลื่นไฟฟ้าหัวใจน่าดูขนาดนั้นเลยเหรอ”
เฉินชางพูดไม่ออก จู่ๆ ก็รู้สึกว่าการนอกใจของหมอทำแบบนี้ได้ด้วยเหรอ
นั่งดูภาพคลื่นไฟฟ้าหัวใจบนรถด้วยกัน…