เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 1002 ความคิดของถานลี่กั๋
เมื่อเฉินชางไจากโรงพยาบาล 301 แล้ว หลูเชาหัวหน้าแผนก
ศัลยกรรมทั่วไกลับเรียกตัวต้วนัวไว้
“คืออย่างนี้นะ หัวหน้าต้วน ต่อจากนี้ไคุณไม่ต้องไดูแล
คนไข้ทุกคนแล้ว!” หลูเชาพูดกับต้วนัวด้วยรอยยิ้ม
ต้วนัวตกใจกับคำพูดของหลูเชา เขาคิดว่าตัวเองทำอะไรผิด
ไ!
จึงรีบพูดขึ้น “หัวหน้าหลูครับ คือว่า…ผม…”
หลูเชาเห็นท่าทางก็รู้ว่าต้วนัวเข้าใจผิดแล้วจึงบอกตรงๆ
“ตอนที่หมอเฉินกลับไ เขากำชับให้ผมดูแลคุณดีๆ บอกว่าตอนอยู่
ที่โรงพยาบาลคุณช่วยเขาไว้มาก
เพราะงั้น จากนี้ไ คุณตามผมไผ่าตัดดีกว่า!”
หลังจากได้ยินระโยคดังกล่าว ต้วนัวก็นิ่งอึ้งไ
ติดตามหัวหน้าหลูไผ่าตัด นี่เ็นโอกาสที่หาได้ยากสำ หรับ
แพทย์ฝึกงานนี่นาต้วนัวตอบรับอย่างรวดเร็วด้วยความซาบซึ้ง “หัวหน้าหลู
ขอบคุณท่านมากๆ เลยครับ!”
หลูเชาตอบ “เล็กน้อยน่า กลับไก็ไดูแลแผนกศัลยกรรม
ทั่วไให้ดีก็แล้วกัน คุณบอกว่าหมอเฉินมาจากโรงพยาบาลของคุณ
แผนกศัลยกรรมทั่วไของพวกเราไม่มีทางน้อยหน้าหรอก คุณว่า
จริงไหม”
ต้วนัวพยักหน้ารัวๆ
หลังจากเลิกงาน ต้วนัวรู้สึกถึงอารมณ์มากมายที่เอ่อล้นอยู่
ในใจ มันท่วมท้นอย่างยิ่ง!
ต้วนัวคิดกลับไกลับมา แต่ไม่รู้จะไพูดกับใครดี จึงโทรหา
จางโหย่วฝู
“หัวหน้าจาง ผมต้วนัวนะครับ!”
จางโหย่วฝูและต้วนัวมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน สาเหตุหลัก
ๆ เ็นเพราะต้วนัวเชื่อฟังและใช้งานง่าย
ความสามารถ…ก็แค่านกลาง
จางโหย่วฝูรับสาย “หัวหน้าต้วน มีอะไรครับ”ต้วนัวลังเลอยู่นานกว่าจะพูดออกมา “คิดถึงคุณน่ะครับ
มีเรื่องอยากจะคุยกับคุณ ก็เลยโทรมา”
จางโหย่วฝูได้ยินเช่นนั้นก็สะดุ้งโหยงทันที ความทรงจำ ในอดีต
ผุดขึ้นมาในใจ จางโหย่วฝูกลืนน้ำลายอย่างอดไม่ได้ “หัวหน้าต้วน
คะ…คุณช่วยสงบสติอารมณ์หน่อย ท่าทางไม่ค่อยกติเลยนะ…”
ต้วนัวถอนหายใจ “เฮ้อ…ก็ใช่น่ะสิครับ วันนี้ผมรู้สึกไม่ค่อยดี
เท่าไร วันนี้ผมบังเอิญเจอเฉินชางด้วย”
จางโหย่วฝูชะงัก “เสี่ยวเฉินน่ะเหรอ เขาเ็นยังไงบ้าง สบายดี
ไหม หาวันเชิญเขามากินข้าวสิ ต่อไเขาจะได้เ็นหัวหน้าแผนก
ฉุกเฉินแล้ว ทิ้งอคติ แล้วก็เลิกใจแคบได้แล้ว”
ต้วนัวฟังคำบ่นของหัวหน้าจางก็ได้แต่ส่ายหน้า หัวเราะขื่นๆ
“ผมกำลังเชิญแขกอยู่ครับ แต่เจ้าตัวยังไม่ยอมมาเลย หัวหน้า
จางคุณอาจจะยังไม่รู้…”
ต้วนัวเล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นวันนี้อย่างละเอียด รวมถึงเรื่องที่
เออร์สเต็ดกลายเ็นลูกน้องของเฉินชาง แถมหัวหน้าหลูยัง
เอาอกเอาใจเขาอีก…”พอฟังจบแล้ว จางโหย่วฝูก็เงียบไ
“จริงเหรอ”
“จริงสิครับ!”
จางโหย่วฝูรู้ว่าต่อให้ความสามารถของต้วนัวมีจำ กัด แต่เ็น
คนจงรักภักดี มิฉะนั้นคงไม่ก่อเรื่องแบบที่ตนและแผนกฉุกเฉินทำ
จางโหย่วฝูฟังจบก็ถอนหายใจออกมา
“เฮ้อ…ผมรู้มานานแล้วว่าหมอนั่นเ็นคนเก่ง แต่ไม่คิดว่าเขา
จะเติบโตขึ้นมาเร็วขนาดนี้!
เพิ่งจะไเมืองหลวงได้ไม่กี่เดือนก็ไต่เต้ามาถึงขั้นนี้แล้ว
ถ้ากลับมาอีกหนึ่งีให้หลัง จะไม่เก่งกว่านี้เหรอ
บางทีเสี่ยวเฉินอาจจะเหมาะกับเวทีใหญ่ๆ แบบนี้ก็ได้มั้ง!”
…
ทั้ง
สองคนคุยกันคุณคำผมคำอยู่ชั่วโมงกว่า จนหยางถง
ภรรยาของจางโหย่วฝูเห็นแล้วยังตกใจ
หยางถงถามทันทีหลังจากวางสาย “ใครน่ะเหล่าจาง คุยกัน
นานเหลือเกิน!”จางโหย่วฝูตอบ “ต้วนัวน่ะ เขาไฝึกงานแล้วเจอกับเสี่ยวเฉิน
เธอคงไม่รู้สินะว่าตอนนี้เสี่ยวเฉิน…เก่งขึ้นแล้ว!”
จางโหย่วฝูบอกเล่าเรื่องราวที่ได้ยินมาจากต้วนัวให้หยางถง
ฟัง
สองสามีภรรยาพูดคุยกันตลอดทั้งคืน
ในสายตาของคนอื่น จางโหย่วฝูและหยางถงถือเ็นครอบครัว
ที่มีหน้ามีตาในโรงพยาบาลมณฑล แต่พวกเขารู้ดีว่าตนเองต้องหาที่
พึ่งพา
จางโหย่วฝูเล่าเรื่องราวของเฉินชางให้กับเลขาถานเจ้านายเก่า
ของเขา ด้วยหวังแค่ได้ผูกมิตรกับเฉินชางในภายภาคหน้า
“เหล่าถาน อีกไม่นาน ผอ.ฉินก็จะย้ายไแล้ว ตำแหน่งของคุณ
ยังไม่ขยับ ในเมื่อเ็นแบบนี้ คุณลองไคิดดูดีๆ แล้วกันว่าจะทำยังไง
ต่อไ” จางโหย่วฝูพูด
ถานลี่กั๋วพยักหน้า “ขอบใจ ขอให้โชคดี”
จางโหย่วฝูพยักหน้า “อืม ไม่รู้ต่อไใครจะมาเ็นผอ. ต่อให้
คุณจะโยกย้ายตำแหน่งก็ดี หรือจะเกาะเก้าอี้อยู่ที่นี่ก็ดี เสี่ยวเฉินคือกุญแจสำ คัญนะ”
ถานลี่กั๋วถอนหายใจ “อืม นั่นสิ!”
ถานลี่กั๋วตัดสินใจอย่างแน่วแน่
เมื่อเขาไทำงานในเช้าวันรุ่งขึ้น ถานลี่กั๋วก็หยิบเหล้าขวด
พิเศษสองขวดที่แอบเก็บที่บ้านมานาน มอบให้ฉินเสี้ยวยวนใน
ตอนเช้า
“เหล่าฉิน ช่วงนี้ผมเลิกเหล้าไแล้ว ที่บ้านมีเหมาไถอยู่สอง
ขวด จะให้คนอื่นก็ทำใจไม่ลง คุณชอบแบบนี้นี่ ผมยกให้คุณ
ก็แล้วกัน” ถานลี่กั๋ววางขวดเหล้าสองขวดบนโต๊ะฉินเสี้ยวยวนด้วย
รอยยิ้ม
ฉินเสี้ยวยวนตะลึงงัน “เหล่าถาน มีเรื่องอะไรบอกมาตรงๆ
ดีกว่า คุณทำแบบนี้ผมกลัวนะ”
ถานลี่กั๋วส่ายหัว “ไม่มีอะไรจริงๆ ไม่สิ มีเรื่องอยู่นิดหน่อย ไว้
หนูเยว่เยว่กับเสี่ยวเฉินแต่งงานกันเมื่อไร อย่าลืมเรียกผมด้วยละกัน!
จริงสิ ถึงตอนนั้นไม่ต้องเตรียมเหล้ากับยาสูบนะ ผมเตรียมไว้ให้”
คราวนี้เ็นฉินเสี้ยวยวนที่ทำตัวไม่ถูก…
ในเวลาต่อมา เฉินชางไม่มีใจจะสนใจเรื่องอื่น เขาทุ่มเทกาย
ใจในการรวบรวมระวัติคนไข้!
โรงพยาบาลอันเจิน โรงพยาบาลทั่วไแห่งเขตทหาร
เมืองหลวง โรงพยาบาลตี้ถาน…
เฉินชางไโผล่ทุกที่
ไม่ว่าจะไที่ไหนก็เ็นตำนาน!
เฉินชางพาเออร์สเต็ดตะลอนไทั่วราวกับจังเกิล พลางขโมย
ท่าไม้ตายได้วย!
เ้าหมายของเฉินชางนั้นเรียบง่ายอย่างยิ่ง เรียนรู้ได้เท่าไร
เท่านั้น ถ้าเรียนรู้อะไรไม่ได้ก็ไม่เ็นไร
เพราะภารกิจเลี่ยนอาชีพของเขาอีกไม่นานก็จะสำ เร็จแล้ว
ถึงตอนนั้นเขาจะใช้คะแนนทักษะมาเรียนรู้การเชื่อมถุงน้ำดีและ
ลำไส้
…ในขณะเดียวกัน ณ ที่ระชุมสำ นักงานใหญ่วารสาร ‘เดอะแลน
ซิต’ ระเทศอังกฤษ คำพูดของหัวหน้ากองบรรณาธิการเพียง
ระโยคเดียวฉีกกฎระเบียบทั้งหมดไม่มีชิ้นดี
“วารสารรายเดือนฉบับลายเดือนมีนาคมนี้จะเลี่ยน
บทความหนึ่ง เ็นบทความจากระเทศจีนเรื่องการผ่าตัดทางเดิน
น้ำดีตีบ ผู้เขียนลำดับแรกคือเออร์สเต็ดและหม่าเยว่ฮุย เอาหัวข้อขึ้น
กด้วย!”
หัวหน้ากองบรรณาธิการแพลงโดส์พูดต่อหน้าทุกคน
หัวหน้าบรรณาธิการและบรรณาธิการระดับล่างต่างตกตะลึง
“ตอนนี้จัดเรียงเรียบร้อยแล้วนะครับ วันนี้จะเริ่มพิมพ์แล้วด้วย คง
ไม่ค่อยโอเคเท่าไรนะครับ”
“การเลี่ยนบทความกะทันหันคงจะทำให้ผู้ส่งบทความ
ไม่พอใจเท่าไรนะครับ”
แพลงโดส์ส่ายหน้า “โอเคสิ ผมคิดว่ามันโอเคมากๆ”
“พวกเราไม่ต้องการความพอใจของคนส่งบทความ พวกเรา
ต้องการความพึงพอใจของคนอ่าน เนื้อหาดีๆ ต้องรีบตีพิมพ์ นี่ต่างหากคือเ้าหมายของเรา
เดือนพฤษภาฯ จะมีงานระชุมระบบทางเดินอาหารโลก
วารสารฉบับเดือนเมษาฯ เผยแพร่ไม่ทันแน่ ตอนนี้แหละเหมาะเหม็ง
บทความนี้ทรงคุณค่าสุดๆ ผมคิดว่าบุคลากรแพทย์จำ นวนมาก
ควรจะได้เห็นบทความชิ้นนี้”
แพลงโดส์ครุ่นคิดก่อนจะโพล่งขึ้นมา “ถ้าเลี่ยนบทความ
ไม่ได้ งั้นก็เพิ่มเข้าไอีกหนึ่งบทความ เอาไว้ข้างหน้าสุดเลย”
หลังจากได้ยินเช่นนั้น ทุกคนต่างพยักหน้า
เพิ่มอีกสักบทความคงไม่เสียหายอะไรมาก
แต่ทุกคนต่างสงสัยว่าทำไมแพลงโดส์จึงให้ค่าบทความนี้
มากขนาดนี้
หลังจากการระชุม แพลงโดส์ก็ส่งข้อความหาเออร์สเต็ด
‘ok!’
เออร์สเต็ดเห็นข้อความแล้วก็ดีใจขึ้นมาทันที ‘ขอบใจนะ!’
บทความนี้ไม่ได้สลักสำ คัญอะไรกับเขานัก แต่สำ หรับเฉิน
ชางแล้วมันมีความหมายมหาศาล!