เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 1004 ผมมีหนังสือเป็นเล่มเลย
บางทีเรื่องราวเรื่องหนึ่งจะสุกงอมได้ต้องใช้เวลาที่ยาวนาน
มาก!
แต่บางที กลับต้องการเพียงแค่วันเดียว!
เมื่อวานจอร์จซีเวอร์เพิ่งด่าทาวน์เซนด์ว่าไร้ความสามารถ
วันนี้กลับต้องเชิญเขามาที่ห้องทำงาน ชงกาแฟให้เขาด้วยตัวเอง
ทำให้จอร์จซีเวอร์รู้สึกว่าชีวิต ตัวเอง …ซวยเกินไปแล้ว
น่าเสียดายที่หัวหน้าบรรณาธิการออกคำสั่งว่า ให้พยายาม
ดึงตัวเฉินชางมาให้ได้ และเร่งเผยแพร่ บทความ ‘เทคนิคการ
ใช้กล้องส่อง’ ฉบับที่สองโดยเร็วที่สุด!
และทาวน์เซนด์ก็เป็นตัวกลางสำ คัญที่จะติดต่อกับเฉินชาง
บวกกับทั้งสองยังเป็นคนบ้านเดียวกัน!
จอร์จซีเวอร์ยิ่งรู้สึกจนปัญญาเป็นเท่าทวี !
… …เพราะในระยะเวลาสองวันสั้นๆ วารสารก็ได้รับอีเมลหลาย
พันฉบับแล้ว นี่เป็นเรื่องแปลก
อย่าลืมว่านี่คือวารสารวิชาการ ไม่ใช่รายการเรื่องราว หรือ
คอลัมน์สะเทือนอารมณ์ ที่จะมีอีเมลเข้ามามากขนาดนี้ !
ในขณะที่ฝ่ายเทคนิคของบริษัทคิดว่าถูกคู่แข่งและ โจมตี
ด้วยความมุ่งร้าย…
ก็มีข่าวดีจากฝ่ายเทคนิค!
ผู้รับผิดชอบแผนกเทคนิครีบหยิบรายงานและข้อมูลฉบับเดือน
มีนาคมไปที่ห้องทำงานหัวหน้าบรรณาธิการ
‘วารสารศัลยกรรมประเทศอังกฤษ’ ฉบับเดือนมีนาคมที่เพิ่ง
เผยแพร่ไปได้รับความสนใจอย่างมาก จำ นวนการอ้างอิงบทความ
เพิ่มขึ้นอย่างบ้าคลั่ง!
ระยะเวลาสองวันสั้นๆ กลับเกินจำ นวนการอ้างอิงตามปกติ
ของสิบวัน
แล้วจำ นวนการอ้างอิงคืออะไรจำ นวนการอ้างอิงเป็นพื้นฐานการให้คะแนนที่เชื่อมโยงกับดัชนี
ผลกระทบการอ้างอิง
อธิบายได้ว่า ยิ่งมีการอ้างอิงบทความในวารสารนี้บ่อยเพียงใด
ดัชนีผลกระทบการอ้างอิงก็จะยิ่งสูงขึ้นเท่านั้น!
เรื่องนี้ทำให้หัวหน้าบรรณาธิการอึ้งงันไป
เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้อย่างไร เนื้อหาในฉบับที่แล้วมีอะไร
น่าสนใจ
ทันใดนั้น ทั้งสำ นักพิมพ์ ต่างฮือฮาขึ้นมา
หลังจากศึกษาข้อมูลจากฝ่ายเทคนิคและจดหมายใน อีเมล
ของบริษัทอย่างละเอียดก็ได้คำตอบ!
บทความ ‘เทคนิคการใช้กล้องส่อง’ ดึงดูดผู้อ่านจำ นวนนับไม่
ถ้วน หวังว่า บทความดีๆ ที่คล้ายกันนี้จะมีการตีพิมพ์อีกครั้งใน
ฉบับหน้า
ข่าวนี้ทำให้ทั้งสำ นักพิมพ์ ตื่นเต้นขึ้นมา
ถ้าดัชนีผลกระทบการอ้างอิงของวารสารเพิ่มขึ้น มูลค่าตลาดก็
จะเพิ่มขึ้น ทำให้มองเห็นจังหวะการเลื่อนตำแหน่ง การขึ้นเงินเดือนและโบนัสอย่างชัดเจน
ความจริง อย่าคิดว่าวารสารวิชาการเหล่านี้เป็นวารสาร
สาธารณะ เพราะส่วนใหญ่เป็นของกลุ่มเอกชน
ในต่างประเทศ ราคาดาวน์โหลด เพื่ออ่านวารสารวิชาการ
ถือว่าสูง
ในต่างประเทศ การปราบปรามสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา
และการละเมิดลิขสิทธิ์ค่อนข้างเข้มงวด โดยพื้นฐานแล้ว การอ่าน
บทความอย่างเป็นทางการต้องใช้เงินเป็นจำ นวนมาก
แน่นอนว่าเนื่องจากการมีอยู่ของเทคโนโลยี ‘ภาพสะท้อน
เสมือน[1]’ ในประเทศจีน การละเมิดลิขสิทธิ์จึงแพร่หลาย ถึงขั้นที่
หลายคนคิดว่าทำไมต้องอ่านของแท้
พฤติกรรมแบบนี้ ทำให้อุตสาหกรรมที่มีการละเมิดลิขสิทธิ์
พัฒนาช้าลงเรื่อยๆ
ถึงอย่างไรก็สูญเสียแรงจูงใจแล้ว จะมีการแข่งขันได้อย่างไร
ดังนั้น สาเหตุที่วารสารต่างประเทศพัฒนาไปได้ดี เพราะ
พวกเขามีกลุ่มผู้อ่านที่ภักดี ให้ความสำ คัญกับเนื้อหาผลิตภัณฑ์มากกว่า และมีการแข่งขันในอุตสาหกรรม
วารสารในประเทศหลายๆ ฉบับฉลาดมาก ในเมื่อหารายได้
จากคนอ่านไม่ได้ ก็หารายได้จากนักเขียนแล้วกัน
ส่งผลให้อุตสาหกรรมนี้มีผลิตภัณฑ์ที่ไม่ได้มาตรฐานมากมาย
ขอเพียงแค่คุณให้เงินกับสำ นักพิมพ์ หรือที่เรียกว่า
ค่าธรรมเนียมสำ นักพิมพ์ ก็จะเผยแพร่บทความได้ ถึงแม้จะเป็น
เรื่องไร้สาระก็ตาม ส่วนเรื่องตรวจสอบการลอกเลียนแบบ ความจริง
ไม่ตรวจสอบก็ได้ เนื่องจากไม่มีคนอ่านอยู่แล้ว
ไม่ได้หมายความว่าในประเทศจะไม่มีวารสารดีๆ!
วารสารดีๆ ส่วนใหญ่ได้รับการสนับสนุนจากบริษัทและสถาบัน
ที่ไม่แสวงหากำไร
แน่นอนว่าไม่ได้หมายความว่าต่างประเทศจะดีไปเสียทีเดียว
พูดได้เพียงว่าการละเมิดลิขสิทธิ์ไม่ใช่เรื่องดี เป็นการฝ่าฝืนกฎของ
อุตสาหกรรมและส่งผลกระทบต่อการพัฒนาของทุกสายอาชีพ
… …หัวหน้าบรรณาธิการของ ‘วารสารศัลยกรรมประเทศอังกฤษ’
กำลังจะไปหาจอร์จซีเวอร์ บรรณาธิการ ผู้รับผิดชอบส่วนนี้ ให้เธอ
รีบติดต่อกับศาสตราจารย์เฉินชาง หวังว่าจะได้ดำเนินการนัดหมาย
ดูบทร่างกับเขา!
จอร์จซีเวอร์รู้ข่าวนี้ก็งงเป็นไก่ตาแตก!
เพราะทั้งสองบทความนี้ล้วนเป็นบทความที่ทาวน์เซนด์ยื่นมา
ถึงขั้นที่เป็นสองบทความที่ดูไม่มีค่าในสายตาของเธอ แต่กลับได้รับ
การตอบสนองขนาดนี้!
จอร์จซีเวอร์ ตกตะลึง!
เธอตาถั่วขนาดนั้นเลยหรือ
นึกถึงตอนที่เกือบไล่ทาวน์เซนด์ออกจากห้องด้วยความโกรธ
จอร์จซีเวอร์อดสะเทือนใจไม่ได้
ในห้องทำงาน จอร์จซีเวอร์มองทาวน์เซนด์ “ทาวน์เซนด์ ฉัน
รู้สึกว่าความสามารถและการประเมินคุณค่าของคุณควรค่าแก่การ
เป็นที่ยอมรับ”วันนี้ทาวน์เซนด์มีความสุขมาก! เพราะได้รับคำชมจากหัวหน้า
บรรณาธิการ สำ หรับบรรณาธิการตัวเล็กๆ อย่างเขานับ เป็นเรื่อง
น่ายินดีมาก สิ่งสำ คัญคือ เดือนนี้เขาจะได้รับโบนัสก้อนโต
จอร์จซีเวอร์ หัวหน้าบรรณาธิการชงกาแฟให้เขาด้วยตัวเอง
เขาดีใจมากจริงๆ
“ขอบคุณครับหัวหน้า” ทาวน์เซนด์ยิ้ม รับ
จอร์จซีเวอร์พยักหน้า “บทความที่คุณได้จากเฉินชางไม่เลว
เลย ฉันอยากให้คุณติดต่อเฉินชางเพื่อคุยเรื่องเกี่ยวกับเทคนิคการ
ใช้กล้องส่องอีกครั้ง”
หลังจากพูดจบ จอร์จซีเวอร์ก็มองทาวน์เซนด์พร้อมพูด
อย่างจริงจัง “เรื่องวันนั้น ฉันขอโทษนะคะ! ต่อไปฉันจะพิจารณา
ข้อเสนอของคุณอย่างจริงจัง”
เขารู้สึกเหมือนชีวิตของเขาสมบูรณ์แล้ว
สบายใจจริงๆ!
เฉินชางช่างเป็นดาวนำโชคของเขาทั้ง
การบรรจุเป็นพนักงานประจำ ในตอนนั้น และการ
ขึ้นเงินเดือนในตอนนี้ล้วนเป็นเพราะเฉินชาง
การเลื่อนตำแหน่งในอนาคต …
ทาวน์เซนด์รีบพยักหน้า “หัวหน้าไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ เรื่องนี้
ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผม”
หลังจากทาวน์เซนด์ออกจากห้องทำงาน ก็โทรหาเฉิน
ชางทันที
“เฉินชาง คุณเก่งมากจริงๆ!” ทาวน์เซนด์พูดคำแรกก็ทำให้เฉิน
ชางที่ตื่นมารับสายตอนตีสามอึ้ง ไปแล้ว
“ฮ ะ อะไรนะครับ เกิดอะไรขึ้น” เฉินชางรับสายด้วยสีหน้า
งุนงงเต็มประดา
เฉินชางมองชื่อสายเรียกเข้าและเวลาบนหน้าจอแล้วจนคำพูด
“ตอนนี้ตีสามพี่ชาย คุณคิดว่าโทรหาผมเวลานี้เหมาะสมแล้วเหรอ
ครับ”
ทาวน์เซนด์รีบขอโทษ “ขอโทษจริงๆ ครับ ผมตื่นเต้นเกินไป ไอ้
น้องชาย คุณรู้ไหมว่า คุณทำเรื่องใหญ่สำ เร็จแล้ว! คุณจะดังแล้ว!”เฉินชางอึ้ง ก้มมองถุงน่องที่ขาดอยู่บนพื้น …นี่คือการใหญ่ที่
เขาทำคืนนี้ …
“รีบพูดมาเถอะครับ …พี่ชาย ผมจะนอน” เฉินชางจนคำพูด
ทาวน์เซนด์รีบพูดว่า “บทความสองฉบับที่คุณให้ผมครั้งก่อน
ดังแล้ว! ทำรายได้ถล่มทลาย! ตอนนี้ทั้งสำ นักพิมพ์ ตื่นเต้นมาก
หัวหน้าบรรณาธิการให้ผมไปพบคุณด้วยตัวเอง หัวหน้าถึงขั้น
ชงกาแฟให้ผมด้วยตัวเอง เพื่อให้ผมติดต่อคุณ …”
เฉินชาง ยกโทรศัพท์ห่างจากหู!
เขารู้สึกว่า ทาวน์เซนด์ตื่นเต้นเกินไปแล้ว
ผ่านไปตั้งนานกว่าเฉินชางจะเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น
บทความสองฉบับที่เขาเผยแพร่ดังแล้ว!
ประโยคง่ายๆ แบบนี้ ทาวน์เซนด์พูดไปร้อยกว่ารอบก็ยัง
พูดไม่รู้เรื่อง เพิ่งไปต่างประเทศไม่กี่วันก็ลืมภาษาจีนแล้วเหรอ
ทาวน์เซนด์อดยิ้มไม่ได้ “ไอ้ น้องชาย มีเทคนิคการใช้กล้อง
ส่องอีกไหม ผมขอนัดคุยหน่อยได้ไหมครับ! คุณไม่ต้องเป็นห่วงนะขึ้นปก! รับรองว่าขึ้นปก! ผมรู้ว่ายากมาก แต่ …สู้หน่อยนะครับ
ผมรู้ว่าคุณทำได้”
เฉินชางอึ้ง “ได้ครับ เข้าใจแล้ว”
ทาวน์เซนด์จนคำพูดทันที “จริงจังหน่อยน้องชาย คุณจะดัง
แล้ว! จริงสิ ตอนนี้คุณเขียนเรื่องนี้ต่อไหมครับ”
เฉินชางพยักหน้า “เขียนสิครับ! ผมมีหนังสือเป็นเล่มเลย”
ทาวน์เซนด์ ตกตะลึง “หนังสือเป็นเล่ม …”
[1] ภาพสะท้อนเสมือน เปรียบเทียบการลอกเลียนแบบและการ
ละเมิดลิขสิทธิ์ที่เกิดขึ้นอย่างแพร่หลายในประเทศจีน