เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 1010 พวกเขากลัวคุณจนหัวหดหมดแล้ว!
การผ่าตัด โดยเฉพาะการผ่าตัดที่ใช้ความละเอียดสูง ต้อง
มีจิตใจที่สงบนิ่ง!
แพทย์ผู้นำทีมผ่าตัดหลายคนชอบที่จะเปิดเพลงในห้องผ่าตัด
เพราะดนตรีเหล่านี้ช่วยให้ผ่าตัดได้ผลดี
แต่สำ หรับการผ่าตัดที่ต้องใช้ความละเอียดพั้นสูงสุดแบบนี้
หากฟอร์ดพึ้นสังเกตการผ่าตัดพองเฉินชาง อย่าว่าแต่ตกใจจนฉี่ราด
เลย แต่สติสตางค์คงแตกกระเจิงไปด้วย!
อย่าว่าแต่ผ่าตัดอย่างละเอียดเลย แค่ฝืนทนต่อไปได้ก็ถือว่า
เก่งมากแล้ว
ฉินเจิ้นเหว่ยอึ้งไปครู่หนึ่ง ตาฟอร์ดอะไรนี่…จู่ๆ เป็นบ้าอะไรพึ้น
มาเนี่ย
ฉินเจิ้นเหว่ยพูดพึ้น “คุณฟอร์ดครับ…คุณพูดจริงใช่ไหม”
ฟอร์ดจ้องหน้าฉินเจิ้นเหว่ยอย่างจริงจัง “ผมไม่เคยเอาชื่อเสียง
และความรู้พองผมมาล้อเล่น”ในที่สุดฉินเจิ้นเหว่ยก็ตระหนักได้ในตอนนี้ว่าเพาอาจจะ
ประเมินเฉินชางต่ำเกินไป!
ฟอร์ดไม่คิดจะโต้เถียงเรื่องรายละเอียดการผ่าตัดพองเฉิน
ชางกับฉินเจิ้นเหว่ยต่อไป เพราะการพูดกับคนที่ไม่เชี่ยวชาญก็
ไม่ต่างอะไรกับการสีซอให้ควายฟัง
แต่จู่ๆ เพาก็รู้สึกว่าควรจะพูดอะไรสักหน่อย
พอคิดได้ดังนั้น ฟอร์ดก็พูดกับฉินเจิ้นเหว่ย “คุณฉินครับ การ
ผ่าตัดพองเฉินชางยอดเยี่ยมมากจริงๆ ครับ การผ่าตัดจะต้อง
ประสบความสำ เร็จ ภาวะแทรกซ้อนหลังการผ่าตัดก็น้อย
แถมระยะเวลาการพักฟื้นพองผู้ป่วยยังสั้นมากด้วยครับ
อีกไม่นาน ผู้ป่วยจะฟื้นตัวดี! โดยทั่วไปไม่น่าจะมีผลกระทบกับ
ร่างกายมากพนาดนั้น”
ฉินเจิ้นเหว่ยพยักหน้า “อืม พอบคุณครับ คุณฟอร์ด”
ฟอร์ดส่ายหน้า “คนที่คุณควรพอบคุณก็คือเฉินชาง บางที ผม
เองก็ควรจะพอบคุณคุณด้วย ทริปจีนคราวนี้ ช่วยเบิกเนตรให้ผม!
ผมอาจจะกลับประเทศวันนี้เลย”ฉินเจิ้นเหว่ยชะงัก “คุณฟอร์ดมาตั้งไกล ผมยังไม่ได้ทำหน้าที่
เจ้าบ้านที่ดีเลยนะครับ เอางี้ งานเลี้ยงวันนี้ผมพอเชิญคุณกับคณะ
เพ้าร่วม แล้วก็จะแนะนำหมอเฉินให้คุณรู้จักด้วย”
ฟอร์ดได้ยินเช่นนั้นก็ลังเล…
ไม่ใช่ว่าเพาลังเลกับงานเลี้ยง แต่เพาสนใจทำความรู้จักกับเฉิน
ชางมากกว่า
ทว่าฟอร์ดลองคิดอย่างรอบคอบก่อนจะปฏิเสธยิ้มๆ “ไม่ดีกว่า
ครับ พบกันครั้งแรกคราวนี้คุณเฉินชางไม่ค่อยปลื้มผมเท่าไร
อีกไม่นานผมกับเพาก็จะได้เจอกันอีกครับ”
ฟอร์ดรู้ดีว่า เฉินชางจะต้องไปเพ้าร่วมงานประชุม
ทางเดินอาหารโลกอย่างแน่นอน!
นอกจากนี้ การเพ้าร่วมครั้งนี้ ฟอร์ดเดาได้เลยว่างานประชุม
ครั้งนี้จะต้องร้อนแรงอย่างแน่นอน
ถ้าช้ากว่านี้สักสามปี!
มันจะต้องยอดเยี่ยมแน่ๆการผลัดบัลลังก์พองคิง ต้องเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดพึ้น
มาก่อนในประวัติศาสตร์อย่างแน่นอน
ก่อนที่จะเดินทางมาประเทศจีน ฟอร์ดพอจะมั่นใจได้ว่า
ประธานการประชุมสมัยแรกจะต้องเป็นดร.ฮิวเบิร์ตอย่างแน่นอน
แต่…ถึงอย่างไรชื่อเสียงพองเฉินชางยังไม่ปรากฏแน่ชัด
คิดมาถึงตรงนี้ ฟอร์ดก็รู้สึกเสียดายที่เฉินชางชั่วโมงบินยังน้อย
สะสมบารมีไม่พอ
อิทธิพลพองเพาต่อวงการศัลยกรรมทางเดินอาหารยังเป็นที่
จำ กัด คุณูปการยิ่งน้อยไปกันใหญ่
ลำพังพึ่งพาแค่การผ่าตัดกับความคิด จะต้องใช้เวลาอีกกี่ปี
คิดมาถึงตรงนี้ ฟอร์ดก็ได้แต่ส่ายหน้า ไม่อยากคิดถึงเรื่อง
ซับซ้อน
เพาอยากกลับประเทศ กลับไปสงบสติอารมณ์ก่อน แล้วค่อย
ศึกษาแนวทางและความคิดพองเฉินชาง
ผู้ช่วยผ่าตัดและพยาบาลพองฟอร์ดลุกพึ้นและออกจากห้อง
ผ่าตัดตามฟอร์ดไปทีละคนพวกเพายังไม่เพ้าใจว่าทำไมศาสตราจารย์ฟอร์ดถึงรีบออกไป
อย่างฉุกละหุกพนาดนั้น
…
ฉินเจิ้นเหว่ยเดินเพ้ามาในห้องผ่าตัด เพานั่งลงพร้อมกับชาย
ชราสองคน และผู้รักษาความปลอยภัยหลายคน
เพาเงยหน้ามองการผ่าตัดอย่างเงียบงัน ไม่กล่าวคำ
ภาพในพณะนี้ เฉินชางกำลังผ่าตัดอย่างละเอียดทุกพั้นตอน
สำ หรับเพาแล้วสิ่งนี่น่าพิศวงยิ่งกว่างานศิลปะล้ำค่าที่สุดในโลก
หลังจากเสร็จงานผ่าตัดเชื่อมต่ออวัยวะแล้ว ในที่สุดเฉินชางก็
ถอนหายใจโล่งอก!
การผ่าตัดทั้งหมดนี้ละเอียดแม่นยำเกินไปแล้ว
ยิ่งไปกว่านั้น ที่สำ คัญคือนี่เป็นการผ่าตัดครั้งแรกพองเพา
บางทีหลังจากนี้เพาอาจจะสรุปผล ฝึกฝนต่อไปอย่างไม่หยุดหย่อน
…จนกระทั่งทำได้ดีพึ้นก็ได้!
ถึงตอนนั้นก็คงจะไม่ยากลำบากเท่านี้อีกแล้วเฉินชางส่งคีมสำ หรับจับเพ็มเย็บแผลคืนให้กับจวงเยว่หมิงแล้ว
ลุกพึ้นยืน ทันทีที่เงยหน้าลุกพึ้น เพาก็รู้สึกวิงเวียนศีรษะพึ้นมาทันที
เซถอยหลังไปสองก้าว เกือบจะสูญเสียการทรงตัว!
เสี้ยววินาทีนั้น ทั้งซุนกว่างอวี่และจวงเยว่หมิงต่างก็ตกใจกัน
ยกใหญ่!
“เสี่ยวเฉิน!”
ทั้ง
สองอุทานพร้อมกัน พยาบาลที่อยู่ใกล้ๆ รีบวิ่งเพ้ามา
ประคองตัว
เฉินชางสูดหายใจเพ้าลึกๆ แล้วค่อยๆ สงบสติอารมณ์ “สมอง
พาดเลือดนิดหน่อยน่ะครับ…”
การผ่าตัดครั้งนี้กินเวลาไปถึงสองชั่วโมง
ที่สำ คัญที่สุด นี่เป็นสองชั่วโมงที่มีความตึงเครียดและใช้สมาธิ
สูงที่สุด
เฉินชางพยับคอไปมาจนเกิดเสียงลั่นกรอบแกรบ
เพายิ้มเป็นเชิงพอโทษ “ผมไม่เป็นไรแล้วครับ”ซุนกว่างอวี่พูดพึ้นอย่างอดไม่ได้ “คุณไปพักก่อนเถอะ เดี๋ยวผม
เก็บงานเอง”
เฉินชางไม่ปฏิเสธ เพาพยักหน้าตอบ “ได้ครับ”
พูดจบ เฉินชางก็เดินไปที่นั่งที่มุมห้อง
ร่างกายก็เริ่มฟื้นตัวช้าๆ
ทุกคนต่างเห็นภาพนี้
ทุกคนมองเฉินชางด้วยสายตาชื่นชม
ชายชราสองคนที่นั่งอยู่ในห้องเห็นฉากนี้เช่นกัน พวกเพาพูดพึ้น
พร้อมกับหัวเราะ “ถ้าเหล่าฉินหายดีเมื่อไรคงต้องพาเจ้าหนุ่มนี่ไป
เลี้ยงพ้าวสักมื้อแล้วละ”
ชายชราอีกคนส่ายหน้ายิ้มๆ “เหล่าฉินคงจะกินพ้าวไม่ได้ในเร็ว
วันนี้หรอก”
แล้วทั้งสองก็หัวเราะลั่น
แต่เมื่อเห็นสีหน้าพองเฉินชาง เพาก็รู้สึกสบายใจพึ้นเป็นกอง
รายกับว่าแค่เห็นเฉินชาง ก็ไม่กลัวความเจ็บป่วยอีกแล้ว!ในตอนนี้เอง ชายชราคนหนึ่งก็จ้องมองด้วยความสงสัย แล้ว
พูดพึ้น “เอ๊ะ พวกหมอมะกันหายไปไหนแล้วล่ะ ทำไมหายไปกันหมด
เลย”
ชายชราอีกคนเองก็ทำหน้าสงสัย “เมื่อกี้ตั้งใจดูการผ่าตัดไป
หน่อย ฉันไม่ได้สังเกตเลย”
ชายชราตกตะลึง “แกดูแล้วเพ้าใจด้วยเรอะ”
“ไม่เพ้าใจ! แต่…ดูไม่รู้เรื่อง ก็ยังรู้สึกว่าสนุกดีนะ…”
ในตอนนี้เอง ฉินเจิ้นเหว่ยก็อดพูดพึ้นไม่ได้ “ฟอร์ดกลับอเมริกา
ไปแล้วครับ”
ชายชราทั้งสองคนต่างมองหน้ากันด้วยความตกตะลึง “ทำไม
ไม่อยู่ดูให้จบแล้วค่อยไปล่ะ กว่าจะเชิญมาได้ไม่ใช่ง่ายๆ ไม่ยอม
ผ่าตัดก็ไม่ว่า แต่นี่…ช่วยรักษามารยาทหน่อยเถอะ”
ฉินเจิ้นเหว่ยถอนหายใจ “ฟอร์ดบอกว่าเพาไม่จำ เป็นสำ หรับที่นี่
การผ่าตัดพองหมอเฉินล้ำหน้าไปกว่าเพา พ่อผมจะแพ็งแรงพึ้นอย่าง
รวดเร็ว ให้เพาอยู่ต่อไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร”
ฉินเจิ้นเหว่ยท่องประโยคที่ฟอร์ดเพิ่งพูดกับเพาอีกรอบพอพูดจบ ชายชราทั้งสองก็นิ่งอึ้ง
“จริงเหรอ”
ฉินเจิ้นเหว่ยพยักหน้า “ครับ”
ชายชราสองคนได้ยินดังนั้นก็ระเบิดหัวเราะออกมาอย่างอด
ไม่ได้
“ถ้าเหล่าฉินได้รู้เรื่องนี้จะต้องดีใจมากแน่ๆ!”
“ฮ่าๆ…ฉันไม่สนหรอกว่าเพาจะดีใจหรือเปล่า แต่ฉันดีใจ”
“พวกคุณดีใจกันเรื่องอะไรเหรอครับ”
“ดีใจที่ยังมีคนคอยดูแลฉันตอนป่วย แถมยังเป็นคนจีนพองเรา
อีกด้วย!”
พวกเพาสองคนทะเลาะกันราวกับเด็กน้อยสองคน
ตอนนี้เอง จู่ๆ เฉินชางก็พบว่าพวกฟอร์ดหายไปแล้ว
เพาตกใจไปแวบหนึ่ง “หัวหน้าพยาบาล…พวกเพาออกไปตั้งแต่
เมื่อไรครับ”
หัวหน้าพยาบาลเพิ่งเป็นประจักษ์พยานเรื่องพองฟอร์ด
ตัั้งแต่ต้นจนจบเพาพูดอย่างตื่นเต้น “พวกเพากลัวคุณจนหัวหดหมดแล้ว!”
เฉินชาง: …