เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 1045 ที่ที่มีคุณก็คือบ้าน
ฉินเยว่ไปรับเฉินชางกลับบ้าน
ครั้งนี้เขาดื่มมากไปจริงๆ ดื่มจนวิงเวียน และไม่ได้ใช้ยาบำรุงพลังมาช่วยฟื้นตัว
เขารู้สึกว่า บางทีเมาก็ดี
ความรู้สึกแบบนี้มั่นคงมาก
เที่ยวบินช่วงสิบเอ็ดโมงวันพรุ่งนี้ ฉินเยว่มองเฉินชางที่นั่งอยู่บนเบาะข้างคนขับ แม้ไม่ได้ดูกระเซอะกระเซิง แต่ก็ดูอ่อนล้ามาก คางเขาแหลมขึ้นเล็กน้อย นอนหลับตาพิงอยู่บนเบาะ
ฉิวเยว่เห็นฉากนี้แล้วปวดใจเล็กน้อย
เธออยากบอกว่า “สามีคะ อย่าทำงานหนักขนาดนี้สิคะ ฉันไม่ได้ต้องการให้คุณเป็นประธานสมาคม ฉันแค่อยากให้คุณสุขภาพร่างกายแข็งแรงและมีความสุข…”
แต่เธอรู้ว่าจะพูดแบบนี้ตอนนี้ไม่ได้
เฉินชางแบกรับความหวังของผู้คนมากมายเอาไว้ ฉินเยว่ได้ยินและเห็นทุกอย่าง
ช่วงนี้ สิ่งที่แผนกศัลยกรรมคุยกันมากที่สุดคือเรื่องของ ‘หัวหน้าทีมเฉิน’!
ชื่อนี้กลายเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของหลายคน
เฉินชางที่นั่งอยู่บนที่นั่งข้างคนขับหลับไปแล้ว ช่วงนี้เหนื่อยเกินไปแล้วจริงๆ
“ผมจะเอาใบรับรองแต่งตั้งประธานสมาคมกลับมาให้ได้…แฮะๆ…
พวกคุณรอผมนะ!”
เห็นรอยยิ้มของเฉินชาง ฉินเยว่ยิ้มทั้งน้ำตา
เธอไม่ใช่วีรสตรี เธออาจจะเก่งอยู่บ้าง อาจจะมีพรสวรรค์อยู่บ้าง แต่…ถึงอย่างไรก็ไม่ใช่อัจฉริยะ
สิ่งที่เธอทำได้มีไม่มาก
ทว่าเธอจะอยู่เคียงข้างเฉินชางอย่างเงียบๆ เขาเมาก็มารับเขากลับบ้าน กลับถึงบ้านก็เปลี่ยนเสื้อผ้า อาบน้ำให้เขา ซักผ้าที่ส่งกลับมาที่บ้านให้สะอาดสะอ้าน จัดบ้านให้เป็นระเบียบเรียบร้อย
สามีกลับบ้านมาเมื่อไร ที่นี่ก็จะเป็นบ้านอันแสนอบอุ่นเสมอ
มีน้ำอุ่นๆ ให้ดื่ม มีข้าวให้กินครบสามมื้อ มีความห่วงใยและอ้อมกอดที่อบอุ่นให้ไม่ว่าจะฤดูไหน
ฉินเยว่ถอดเสื้อผ้าเฉินชางออกมาซัก แล้ววางน้ำอุ่นไว้ตรงหัวเตียงเขา
จากนั้นก็เริ่มเตรียมเสื้อผ้าและของใช้รวมถึงเอกสารที่เกี่ยวข้องที่ต้องเตรียมไปต่างประเทศ
วุ่นอยู่ประมาณสองชั่วโมงกว่า ในที่สุดก็เก็บเสร็จแล้ว จึงขึ้นเตียงไปนอน
ฉินเยว่ไม่สนใจว่าตนเองจะเป็นผู้หญิงเบื้องหลังเฉินชางที่ประสบความสำเร็จแค่ไหน ขอเพียงทำหน้าที่ภรรยาที่ดีได้
ตื่นเช้ามาเธอก็ทำอาหารเช้า
หลังจากเฉินชางตื่นมานอนพิงอยู่บนหัวเตียง เห็นห้องนอนที่คุ้นเคยและอบอุ่นนี้ แม้เป็นแค่บ้านเช่า แต่ก็คือบ้าน
เขาหยิบแก้วขึ้นมาดื่มน้ำ อุณหภูมิกำลังดี
เฉินชางยิ้ม ที่ไหนมีเธอ ที่นั่นก็คือบ้าน
ความสัมพันธ์ระหว่างเฉินชางกับฉินเยว่ค่อยๆ เปลี่ยนไป การพึ่งพาอาศัยกันและความเสน่หาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
บางทีความรักในครอบครัวก็เป็นมิตรภาพและความเคยชินอย่างหนึ่ง คุณอาจไม่รู้สึกถึงมันในช่วงเวลาธรรมดาๆ แต่จริงๆ แล้ว ความรักนั้นได้รวมเข้ากับสายเลือดและจิตวิญญาณของคุณแล้ว
“ตื่นแล้วเหรอ เหม่ออะไรอยู่คะ” เสียงของฉินเยว่ดังขึ้นข้างหู เฉินชางจึงรู้สึกตัว
“ผมกำลังคิดว่าเมื่อคืนคุณพาผมขึ้นเตียงได้อย่างไร” เฉินชางมองฉินเยว่อย่างปวดใจ
“ลุกเถอะค่ะ ได้เวลาแล้ว เรากินข้าวแล้วไปสนามบินกัน ทุกคนนัดรวมตัวกันที่สนามบิน ฉันซักเสื้อผ้าให้คุณแล้ว วันนี้ใส่ชุดนี้นะคะ คุณไปอาบน้ำก่อน ฉันวางไว้ข้างนอก”
เฉินชางลุกขึ้นพร้อมรอยยิ้ม “รับทราบครับ คุณภรรยา!”
พอเดินออกจากห้องนอน เห็นกระเป๋าเดินทางสองใบถูกจัดอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย เฉินชางก็พึงพอใจมากจริงๆ
หลังจากอาบน้ำ รับประทานอาหารเช้าเสร็จ ตอนที่ฉินเยว่เก็บถ้วยจาน เฉินชางก็เก็บของใช้ส่วนตัวของตนเข้าไปในกระเป๋าเป้ ส่วนของอื่นๆ ที่ต้องเตรียมก็เก็บไว้ในกระเป๋าเดินทาง
หลังจากเก็บของเสร็จ ทั้งสองก็โบกรถไปสนามบิน
ใช้เวลาเดินทางชั่วโมงกว่าก็ไปถึงสนามบิน จากนั้นไปรับตั๋วที่เคาน์เตอร์ และติดต่อหาคนในทีม
ทั้งสามสิบกว่าคนรวมตัวกันก็ถือว่าคึกคัก ระหว่างทางไม่โดดเดี่ยวเลย
จากเมืองหลวงไปสหรัฐอเมริกาต้องใช้เวลาประมาณสิบสี่ชั่วโมง แต่เวลาก็ห่างกันสิบกว่าชั่วโมงด้วย
เฉินชางอดบ่นไม่ได้ แบบนี้ไปสหรัฐอเมริกาก็เหมือนใช้เวลาเพียงไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง
อืม ผมนี่อัจฉริยะจริงๆ
เพราะอยู่บนเที่ยวบินเดียวกัน ซุนกว่างอวี่ในฐานะรองหัวหน้าทีมรับผิดชอบงานเบื้องหลัง หลังจากนับจำนวนคน ก็ไปเช็คอินและเข้าสู่อาคารผู้โดยสารเพื่อขึ้นเครื่อง
หลังจากเครื่องบินทะยานสู้ท้องฟ้า ภาพเมืองหลวงในสายตาเล็กลงเรื่อยๆ เฉินชางพลันหลับตา
มาตุภูมิ
ครั้งนี้ ผมจะเอาของขวัญกลับมา
อยู่บนเครื่องบินสิบกว่าชั่วโมงน่าเบื่อมาก แต่สำหรับทั้งสามสิบกว่าคนนี้ ไม่เบื่ออย่างแน่นอน
ทุกคนหยิบวิทยานิพนธ์ โครงร่างที่เตรียมไว้ออกมาอ่าน
บางคนก็เอาคลิปผ่าตัดขึ้นมาดูซ้ำๆ บางคนที่นั่งข้างกันถึงขั้นเริ่มหารือกันขึ้นมา
และเฉินชางก็เริ่มเปิดสมุดบันทึก เขียนข้อคิดและประสบการณ์ในช่วงที่ผ่านมาของตนลงไปอย่างต่อเนื่อง
ความจำดีแค่ไหนก็ไม่สู้จดเอาไว้
เฉินชางรู้สึกว่าเขายังจำเป็นต้องเสริมสร้างความสามารถด้านความจำของเขา
สิ่งที่เฉินชางเขียนเกี่ยวข้องกับสิ่งที่ต้องเตรียมในงานประชุมครั้งนี้
หลังจากได้สัมผัสหุ่นยนต์ผ่าตัดดาวินชี เฉินชางก็เกิดแรงบันดาลใจขึ้นอีก
ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีและข้อมูลที่ทันสมัย สิ่งที่เราเปลี่ยนแปลงได้มีมากขึ้นเรื่อยๆ
ทางเลือกของตำแหน่งเชื่อมก็เริ่มเปลี่ยนจากการเย็บเป็นการเย็บด้วยเครื่องมือและแบบแม่เหล็กเป็นต้น…
สิ่งที่เฉินชางอยากทำตอนนี้ คือการหาทิศทางหลังจากกลับจีน
ศึกษาว่าวิธีการแบบใดที่เหมาะกับการเชื่อมรูปแบบต่างๆ
การเย็บด้วยเข็มด้ายเป็นการเชื่อมแบบดั้งเดิม แต่ก็มีข้อบกพร่องเช่นกัน
อยากพัฒนาก็ต้องแสวงหาการเปลี่ยนแปลง
เป็นเรื่องยากสำหรับต้นไม้เก่าที่จะออกดอกใหม่ แต่การต่อกิ่งเป็นทางเลือกที่ดี
การบินนานกว่าสิบชั่วโมงถือว่าเหนื่อยมากจริงๆ ที่ระดับความสูงแปดพันห้าร้อยเมตร มนุษย์ยิ่งใหญ่มากจริงๆ ที่บรรลุความฝันในการบินบนท้องฟ้า ระยะทางไม่ใช่เงื่อนไขที่จะจำกัดการพัฒนาของเราอีกต่อไป
ขณะนอนหลับ จู่ๆ ก็มีเสียงวิ่งดังขึ้น
“ช่วยด้วย!” ชายคนหนึ่งวิ่งออกจากห้องน้ำ ทำลายความสงบในชั่วขณะนี้
ตอนนี้เป็นเวลากลางคืนแล้ว เครื่องบินบินมานานกว่าสิบชั่วโมง ด้านล่างเป็นมหาสมุทร
หญิงผมทองคนหนึ่งนอนอยู่บนพื้น เสื้อผ้าหลุดลุ่ย หายใจหอบ สองมือกดอยู่บนหน้าอก ร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด
ตอนนี้เอง ลูกเรือสองคนรีบวิ่งมาดู
“ทุกท่านอยู่ในความสงบ นั่งอยู่กับที่ค่ะ”
ไม่นานก็มีเสียงประกาศดังมาจากลำโพงของเครื่องบิน
“เกิดอุบัติเหตุกับพนักงานบนเครื่องบิน ในเที่ยวบินนี้มีใครเป็นหมอไหมคะ…”
หลังจากได้ยินเสียง เฉินชางและคนอื่นๆ ทั้งสามสิบกว่าคนต่างอึ้งงันไป!
หันมองโดยพร้อมเพรียงกัน
เที่ยวบินนี้ หมอเต็มเลยแหละ
ซุนกว่างอวี่บอกให้ทุกคนอยู่ในความสงบ จากนั้นลุกขึ้นพร้อมพูดว่า “ผมเป็นหมอครับ!”
ตอนนี้เองเฉินชางได้ยินเสียงแจ้งเตือนจากระบบ
[ติ๊ง! พบภารกิจกู้ชีพฉุกเฉิน คำอธิบายภารกิจ: ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่มีอุปกรณ์ช่วยเหลือที่เป็นระบบบนเครื่องบิน หากช่วยเหลือคนไข้ได้สำเร็จ จะได้รับรางวัลแบบสุ่ม!]
เฉินชางอึ้งงันไป “ผมไปด้วย”