เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 1071 ขอโทษแล้ว
ตอนนี้ที่ประเทศจีนเป็นเวลาช่วงเช้า
การประชุมที่เสี้ยวรุ่นฟางจัดขึ้นกำลังดำเนินการอย่างรวดเร็ว
ข่งเสียงหมิงยิ่งกำลังสื่อสารกับบรรดาผู้นำ ถึงอย่างไรก็ต้องให้ผู้นำอนุมัติ
เรื่องนี้จะว่าเล็กก็เล็ก จะว่าใหญ่ก็ใหญ่
ถ้าผู้นำมีแผนการอะไร จะได้ดำเนินการไปในทางเดียวกัน ข่งเสียงหมิงก็ต้องทำตาม
แต่ก็ต้องฟังความเห็นของเฉินชางเช่นกัน
ส่วนตอนนี้ เฉินชางนั่งอยู่บนเก้าอี้ เปิดคอมพิวเตอร์เตรียมบทร่างที่จะขึ้นกล่าวบนเวที ยัยฉินที่อยู่ข้างๆ คอยป้อนขนมและนวดขาให้อย่างระมัดระวัง ทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายมาก
ตอนนี้เอง พวกซุนกว่างอวี่มาเคาะประตู
ยัยฉินรีบไปเปิดประตู “สวัสดีค่ะ อาจารย์”
ด้านหลังซุนกว่างอวี่มีคนยืนอยู่หลายคน
เฉินชางคิดบทสุนทรพจน์ไม่ออกจริงๆ จึงเรียกทุกคนมาหารืองานที่เกี่ยวข้องหลังจากนี้
เฉินชางพลันถามว่า “หัวหน้าซุน คำกล่าวรับตำแหน่งนี่เขียนอย่างไรดี”
ซุนกว่างอวี่ได้ยินแล้วปวดหัวขึ้นมาทันที พูดอย่างอึดอัด “เอ่อ…”
เฉินชางเห็นท่าทางของเขาแล้วเข้าใจทันที จึงพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ที่ผมเรียกทุกคนมาวันนี้เพราะมีเรื่องจะคุยด้วย หลังจากสมาคมก่อตั้งขึ้น ย่อมต้องการเจ้าหน้าที่ฝ่ายต่างๆ ถ้าทุกคนสนใจก็บอกผมได้ ผมจะบอกหัวหน้าเลขาธิการไว้ นอกจากนี้ยังต้องการที่ปรึกษาส่วนงานต่างๆ ผมอาจจะเชิญทุกคนมาเป็นที่ปรึกษาของสมาคม”
ทันใดนั้น ซุนกว่างอวี่แย่งคอมพิวเตอร์ไป “เอ่อ…ประธานเฉิน คุณถามถูกคนแล้ว! คำกล่าวรับตำแหน่งนี้ ผมถนัด ถ้าคุณเป็นประธานก็ขาดที่ปรึกษาอย่างผมไม่ได้”
ฉินเยว่มองอาจารย์ของตนเองแล้วอึ้งงันไปทันที!
อาจารย์ คุณทำแบบนี้ได้อย่างไร
หวงฮ่าวกลับพูดว่า “ตำแหน่งประธานนี้ นอกจากคำกล่าวรับตำแหน่งบนเวทีมีงานอื่นอีกไหมครับ”
เว่ยจยายิงพยักหน้า “จริงครับ ท่านประธาน คุณลงมือทำทุกอย่างเองไม่ไหวหรอกมั้ง เราจะช่วยแบ่งเบาภาระท่านประธานเอง”
……
เฉินชางเข้าใจทันทีว่านี่เป็นวิธีที่ถูกต้องของการเป็นประธาน!
เห็นทุกคนยุ่งอยู่ เฉินชางรีบพูดว่า “ฉินเยว่ ไปชงชาให้ทุกคนหน่อยครับ…หัวหน้าซุน คุณมีใบชาไหมครับ”
หัวหน้าหยางที่อยู่ข้างหลังได้ยินแบบนี้พลันพูดว่า “เรื่องนี้ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของผมเองครับ!”
วันนี้ทุกคนมีความสุขมาก มีความสุขจากใจจริง
ตอนนี้เอง ซุนกว่างอวี่ก็ถามขึ้นว่า “ท่านประธานคิดว่าจะตั้งสำนักงานใหญ่ของสมาคมที่ไหนครับ”
ทุกคนได้ยินคำถามนี้ก็ค่อนข้างประหลาดใจ
เฉินชางพลันตอบว่า “ผมจะตั้งที่เมืองอันหยางครับ แต่ต้องดูว่าผู้นำจะว่าอย่างไร”
ทุกคนได้ยินแล้วดีใจมาก “มณฑลตงหยางดีมาก การเดินทางครอบคลุม เดินทางสะดวก”
ประมาณเที่ยงคืน!
โทรศัพท์ของเฉินชางดังขึ้น
ข่งเสียงหมิงพูดอย่างดีใจ “เสี่ยวเฉิน ผมถามมาแล้ว องค์กรตัดสินใจทำตามความคิดของคุณ!”
ข่งเสียงหมิงคิดไม่ถึงเลยจริงๆ
จะว่าไป เรื่องแบบนี้อย่างไรก็ต้องให้เมืองหลวงก่อน จากนั้นจึงเป็นพื้นที่ในเขตพัฒนา
ข่งเสียงหมิงคิดว่าเรื่องนี้จะค่อนข้างยาก แต่เรื่องนี้กลับราบรื่นจนเหลือเชื่อ
ความคิดของผู้นำคือ สร้างสำนักงานใหญ่ตามความคิดของเฉินชาง ให้เฉินชางมีสิทธิ์ตัดสินใจทุกอย่าง นี่ถือเป็นเรื่องที่ไม่ได้เกิดขึ้นบ่อย
เฉินชางได้ยินแล้วดีใจมาก “ได้ครับ ลุงข่ง ผมรู้แล้วว่าจะต้องทำอย่างไร ไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ”
ข่งเสียงหมิงหัวเราะฮ่าๆ พร้อมพยักหน้า “ครับ! ดี! เดี๋ยวคุณกลับประเทศแล้วผมให้คนทำแผนงานให้! อีกอย่าง กลับประเทศเมื่อไรก็กลับเมืองอันหยางด้วยนะครับ มากินข้าวที่บ้าน! มือของพี่ชายคุณฟื้นตัวดีมาก ตอนนี้โดยพื้นฐานถือว่าไม่กระทบต่อการใช้ชีวิตแล้ว”
เฉินชางพยักหน้าพร้อมรอยยิ้ม ก่อนจะวางสายไป
จากนั้นเสี้ยวรุ่นฟางโทรเข้ามา!
“เสี่ยวเฉิน เรื่องนี้คุณไม่ต้องเป็นห่วง เอาตามที่คุณเลือกเลยค่ะ เราจะสนับสนุนความคิดของคุณ สำหรับการสร้างสำนักงานใหญ่ และการคัดเลือกบุคลากรในสมาคม ถ้าคุณต้องการ ฉันจัดการให้ได้ตลอดเวลา”
……
วันนี้เป็นวันสุดท้ายของงานประชุม
เฉินชางยืนอยู่บนเวที มองทุกคน เริ่มการทำงานของวันนี้โดยอิงตามตารางงานที่เอรินจัดเอาไว้
เชิญศาสตราจารย์แฮมิลตันมาเป็นประธานกิตติมศักดิ์
สมาชิกยี่สิบคนที่ประกอบด้วยซุนกว่างอวี่ หวงฮ่าว เว่ยจยายิง เป็นที่ปรึกษาของสมาคม
ขั้นตอนสุดท้ายคือการจัดตั้งทีมบรรณาธิการวารสาร
เฉินชางเป็นหัวหน้าบรรณาธิการด้วยตัวเอง เชิญหลี่จินเจิ้ง โนบิซิน ฮิวเบิร์ต เออร์สเต็ดที่เป็นทีมผู้จัดงานมาเป็นบรรณาธิการกิตติมศักดิ์
การประชุมเหมือนกำลังเกณฑ์ทหารอย่างไรอย่างนั้น
เมื่อคืนเอรินก็ให้ความร่วมมือเฉินชางในการทำงานวันนี้ให้เสร็จ ทำหน้าที่เลขาได้ดีมาก
จากนั้น เฉินชางก็สรุปสถานที่ตั้งของสำนักงานใหญ่ว่าอยู่ที่เมืองอันหยางประเทศจีน
ช่วงบ่าย หลังจากที่ทุกอย่างเสร็จสิ้นแล้ว
เฉินชางมองทุกคน เริ่มกล่าวคำรับตำแหน่ง
“ผมเองก็เป็นประธานครั้งแรก อาจจะตื่นเต้นเล็กน้อยและกดดันมาก”
ทุกคนได้ยินแล้วอดขำพร้อมเริ่มปรบมือไม่ได้ ซึ่งก็สร้างความมั่นใจให้เฉินชาง
“กล่าวตามตรง ตอนแรกผมกลัวว่าจะทำได้ไม่ดี กลัวว่าจะทำให้ทุกคนผิดหวัง แต่ผมลองคิดดูว่า ทุกท่านในที่นี้ล้วนเป็นผู้อาวุโส ผู้เชี่ยวชาญ ศาสตราจารย์ ความก้าวหน้าและการพัฒนาของวงการวิชาการขึ้นอยู่กับความพยายามของทุกคน และยังมีทีมที่เก่งขนาดนี้ ประธานอย่างผมจะกลัวอะไร”
……
“คำโบราณกล่าวไว้ว่า หนทางหมื่นลี้ เริ่มต้นที่ก้าวแรก ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เราก้าวไปทีละก้าว แก้ไขทีละปัญหา เอาชนะโรคภัยครั้งแล้วครั้งเล่า! ผมจะทำอย่างสุดความสามารถ ขอบคุณทุกคนครับ”
สุนทรพจน์ของเฉินชางเรียบง่ายมาก ไม่ได้มีการให้คำมั่นสัญญาอะไร แต่ทุกคนฟังแล้วกลับรู้สึกได้ถึงความจริงใจ
หลังจากงานประชุมจบลง
กลางคืนจะมีการจัดงานเลี้ยง หลังจากทุกคนแลกช่องทางติดต่อกันก็เตรียมแยกย้าย
จิม ลอว์เรนซ์จากไปตั้งนานแล้ว
เฉินชางเองก็จะกลับพรุ่งนี้แล้ว
ในงานเลี้ยงคืนนี้ คนจีนกลายเป็นกลุ่มที่ได้รับความนิยมที่สุด
วันถัดมา ทุกคนจัดกระเป๋า เตรียมกลับบ้าน
ตอนรอขึ้นเครื่อง จู่ๆ ก็มีเจ้าหน้าที่คนหนึ่งพูดว่า “ท่านประธาน คุณดูนั่น ทีมวิจัยตับอ่อนระดับโลกประกาศข่าวใหม่”
ทุกคนอึ้งงันไปทันที
เฉินชางรับโทรศัพท์มาดูอย่างละเอียด
‘ประกาศสำหรับการถอนกลุ่มวิจัยศัลยกรรมตับอ่อนของจีนออกจากองค์กรก่อนหน้านี้’
หลังจากเห็นเนื้อหาในข่าว เฉินชางเงียบไปทันที
จิม ลอว์เรนซ์ หัวหน้าทีมของทีมวิจัยตับอ่อนออกมาขอโทษ บอกว่าก่อนหน้านี้ตนละเลยในหน้านี้ หลังจากพิจารณาตัวเองแล้ว ตัดสินใจลาออกจากตำแหน่งประธาน และเชิญทีมศัลยกรรมตับอ่อนประเทศจีนเข้าร่วมองค์กร
ข่าวนี้ประกาศบนเว็บไซต์ทางการ
หลังจากเห็นข่าวนี้ สีหน้าของทุกคนดูตื่นเต้นมาก
ครั้งนี้พวกเขาให้อีกฝ่ายยอมรับผิด
เห็นข่าวแบบนี้ใครจะไม่ดีใจ
เห็นท่าทางตื่นเต้นของทุกคน เฉินชางลุกขึ้นพูดกับฉินเยว่พร้อมพูดว่า “ผมไปเข้าห้องน้ำก่อนครับ”
หลังจากออกมา เขาก็โทรหาจิม ลอว์เรนซ์
หลังจากโทรติด ทั้งสองไม่พูดเรื่องนี้อีก เฉินชางเพียงเผยรอยยิ้ม “เราจะกลับประเทศแล้ว มีเวลามาเที่ยวที่ประเทศเรานะครับ”
จิม ลอว์เรนซ์พลันพูดว่า “แน่นอนครับ”