เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 1084 ผมต้องเป็นศาสตราจารย์ที่มหาวิทยาลัยชิงหวาเหรอ
พอได้ยินเฉินชางพูดเช่นนี้ ทุกคนก็ไม่ได้มีปฏิกิริยามากมายนัก
ผิดหวัง?
บางทีพวกเขาอาจจะชินชาไปแล้ว!
โรคที่เกิดจากการทำงาน ทำให้อาชีพของเขาดิ่งลงเหว แต่มาร์แฟนซินโดรมทำให้อายุขัยสั้นลงได้
อันที่จริง เถียนเจิ้งข่ายไม่ใช่คนเดียวที่ป่วยเป็นโรคมาร์แฟนซินโดรม พวกเขาก็เป็น
เก้าสิบห้าเปอร์เซ็นต์ของนักกีฬาที่ป่วยเป็นมาร์แฟนซินโดรม เสียชีวิตจากภาวะแทรกซ้อนหัวใจและหลอดเลือด
ไฮแมน นักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงชาวอเมริกา ผู้ได้ชื่อว่าเป็นคู่แข่งตัวฉกาจของหลางผิงก็เสียชีวิตอย่างกะทันหันในสนามแข่งในปี 1986 สาเหตุการเสียชีวิตคือภาวะหลอดเลือดแดงใหญ่ในทรวงอกฉีกขาด ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงที่สุดใน ‘กลุ่มอาการมาร์แฟน’
ยังมีนักกีฬาอีกหลายคนที่อยู่ในรายชื่อผู้เสียชีวิตจากโรคนี้ เช่น นักบาสเกตบอลชายชาวจีน หานเผิงชาน เสียชีวิตกะทันหันในปี 1984
นักกีฬาวอลเลย์บอลของมณฑลเสฉวน จูกัง เสียชีวิตอย่างกระทันหันในปี 2001
ปี 2012 อดีตนักบาสเกตบอลชายของมลฑลเหลียวหนิง ซึ่งเคยถูกขนานนามว่า ‘ลิตเติ้ลเหยาหมิง’ เสียชีวิตลงด้วยอาการหัวใจวาย
ฮั่วซวน อดีตนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติเสียชีวิตด้วยอาการกล้ามเนื้อหัวใจตายฉับพลันในปี 2016
ปี 2017 ลู่เฟย อดีตผู้เล่นหลักของทีมวอลเลย์บอลชายทีมชาติจีนเสียชีวิตเนื่องจากภาวะหลอดเลือดแดงใหญ่ฉีกขาดทรุดลง…
และคนอื่นๆ…
อีกมากมาย
ผู้ป่วยมาร์แฟนซินโดรมมีความได้เปรียบทางด้านกีฬาเนื่องจากรูปร่างที่พิเศษ
และมีคำกล่าวที่ว่า ‘ของขวัญที่โชคชะตามอบให้นั้น ถูกตีตราค่าตอบแทนอย่างลับๆ ไว้ตั้งแต่ต้นแล้ว’
เหมือนกับเหรียญแห่งโชคชะตา ระหว่างการทำธุรกรรม จะมีการแลกเปลี่ยนชิปกันอย่างลับๆ
แต่ถึงกระนั้น มันก็เป็นดั่งคำเย้ยหยันอย่างหนึ่ง ใครจะยอมแลกชีวิตกับพรสวรรค์เช่นนี้เล่า
ถูกต้อง!
ผู้ป่วยมาร์แฟนซินโดรมโดยทั่วไปมักจะมีร่างกายสูงใหญ่ แขนขายาว มีร่างกายแบบฉบับนักกีฬาที่ต่างไปจากคนทั่วไป แต่ด้วยเหตุนี้เอง โรคนี้จึงได้ชื่อว่า ‘มือสังหารยักษ์’
อัตราอุบัติการณ์คือหนึ่งในห้าพันถึงหนึ่งในสามพันคน ผู้ป่วยส่วนใหญ่มีประวัติการเจ็บป่วยในครอบครัว และสิบห้าถึงสามสิบเปอร์เซ็นต์ของผู้ป่วยโรคนี้มาจากการกลายพันธุ์ของตน
จนกระทั่งปี 2018 มาร์แฟนซินโดรมจึงถูกบรรจุใน ‘บัญชีโรคหายาก’ ของประเทศ
เมื่อเห็นสถานการณ์แล้ว ทุกคนต่างทอดถอนใจและแยกย้ายกันกลับไปทีละคน
เมื่อเฉินชางเห็นฉากนี้ เขาก็ได้แต่หมดหวัง
แต่ชีวิตก็เป็นเช่นนี้
หลังจากที่ทุกคนกลับไปแล้ว เฉินชางก็กลับมาที่ห้องทำงาน
[ติ๊ง! ยินดีด้วย คุณผ่าตัดเปลี่ยนหลอดเลือดแดงใหญ่ในช่องท้อง มอนสเตอร์ชั้นสูงเลเวล 85 สำเร็จ ได้รับรางวัล:
1. ชุดฝึกทำหัตถการจำลอง x50
2. ค่าความรู้สึกดีของเมิ่งซี+50
3. ค่าประสบการณ์ +100000]
เฉินชางมองของรางวัล และเกิดความสงสัยขึ้นมา
ชุดฝึกทำหัตถการจำลอง?
เจ้านี่คืออะไร
แต่เห็นผู้คนที่รายล้อม เขาก็ถอดใจ ไว้กลับไปดูที่บ้านดีกว่า
เฉินชางนั่งอยู่เฉยๆ แล้วก็เกิดสงสัยขึ้นมาว่าคนอื่นๆ เวลาผ่าตัดส่วนโค้งเอออร์ตาใช้เวลาเท่าไร
เขาค้นหาในอินเทอร์เน็ต ทันทีที่ได้เห็นเขาก็ต้องสะดุ้งเฮือกทันที
การผ่าตัดเปลี่ยนส่วนโค้งเอออร์ตาที่เร็วที่สุดในประเทศจีนใช้เวลาเพียงสิบแปดนาที!
เฉินชางนิ่งเงียบ
สุดยอด…
ของเราสี่สิบนาทีเหมือนจะเพิ่งจะผ่านเส้นยาแดงผ่าแปดเอง
ใช้สิบแปดนาทีแยกส่วนโค้งเอออร์ตา เย็บจุดเชื่อมต่อแปดจุด เก็บรายละเอียดทุกอย่าง…แค่นี้ก็ยากเกินไปแล้ว!
เฉินชางที่กำลังจนใจได้แต่ส่ายหน้า เขาแค่ไม่อยากทำให้เร็วเท่านั้นเอง เขาให้ความสำคัญกับความมั่นคงมากกว่า
กลับบ้านแล้วค่อยศึกษาแล้วกัน
ในตอนนี้เอง เสียงโทรศัพท์ของเฉินชางก็ดังขึ้น เป็นผู้อำนวยการอู๋นั่นเอง
เฉินชางรับสายด้วยรอยยิ้ม “สวัสดีครับผอ.อู๋”
อู๋ถงฝู่หัวเราะแล้วพูด “เฉินชาง ช่วยมาที่ห้องทำงานผมหน่อยสิ มีเรื่องจะคุยกับคุณนิดหน่อยน่ะ”
เฉินชางได้ยินดังนั้นก็พยักหน้าแล้วเดินไปยังห้องทำงานของอู๋ถงฝู่
ทันทีที่ก้าวเข้ามา เฉินชางก็เห็นคนคุ้นเคย หลี่ข่าย!
ผอ.วิทยาลัยการแพทย์ปักกิ่งยูเนี่ยน และยังเป็นคณบดีคณะแพทยศาสตร์อีกด้วย
นอกจากหลี่ข่ายแล้ว ยังมีชายวัยกลางคนสองคนกำลังพูดคุยพลางหัวเราะอยู่ข้างๆ หลี่ข่าย
เมื่อเฉินชางเดินเข้ามา เขาก็ทักทายอีกฝ่ายทันที
“สวัสดีครับผอ.อู๋ สวัสดีครับผอ.หลี่!”
พวกเขามองเฉินชาง พลางหยักหน้ายิ้มๆ ด้วยความพึงพอใจ
อู๋ถงฝู่ลุกขึ้นยืน “เฉินชาง ผมขอแนะนำให้รู้จักนะ ท่านนี้เป็นคณบดีคณะแพทย์วิทยาลัยการแพทย์ปักกิ่งยูเนี่ยน ผอ.หลี่ข่าย ท่านนี้คือหัวหน้าสำนักงานบัณฑิตศึกษาจานอวี้เฟิง แล้วก็ท่านนี้คือรองอธิการบดีมหาวิทยาลัยชิงหวา ศาสตราจารย์ห่าวจวิน”
เฉินชางพยักหน้าอย่างรวดเร็วพลางกล่าวสวัสดี แต่ในใจรู้สึกกังวลขึ้นมาว่านี่มันเรื่องอะไรกันแน่
แม้แต่รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยชิงหวาก็มาด้วย?
หลี่ข่ายมองเฉินชางแล้วหัวเราะ “วันนี้ก็เจอกันอีกแล้วนะครับ”
“วันนี้พวกเรามาที่นี่ เพื่อจะเชิญคุณน่ะ”
ทันทีที่ได้ยินเช่นนี้ เฉินชางก็อยากรู้ขึ้นมาทันที
จะเชิญเขาไปทำอะไร
จานอวี้เฟิงมองเฉินชาง “หมอเฉิน พวกเราสนใจในตัวคุณมาก แต่นักศึกษาของเราสนใจในตัวคุณมากกว่าพวกเราเสียอีก ที่มาวันนี้ก็มาตามคำเรียกร้องของทุกคนครับ!”
จานอวี้เฟิงพูดจาติดตลก เขาหัวเราะก่อนจะพูดต่อ “วันนี้ผมมาเป็นตัวแทนมหาลัยเชิญคุณไปเป็นศาสตราจารย์ที่มหาลัยของพวกเราครับ”
ประโยคเดียวเล่นเอาเฉินชางตะลึงงัน!
“ศาสตราจารย์ที่วิทยาลัยการแพทย์ปักกิ่งยูเนี่ยนเหรอครับ” เฉินชางถามด้วยน้ำเสียงอ่อนแรง
จานอวี้เฟิงหัวเราะน้อยๆ “ถูกต้องครับ!”
ในตอนนี้เอง ห่าวจวิน รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยชิงหวาก็พูดขึ้นอย่างจริงจัง “หมอเฉิน พวกเราพิจารณาเรื่องนี้อย่างถี่ถ้วนแล้ว คุณมีแนวคิดเกี่ยวกับเวชศาสตร์ฉุกเฉินและเวชศาสตร์คลินิกที่ยอดเยี่ยม รู้ลึกในบางรายวิชา พวกเราเลยอยากเชิญคุณมาเป็นศาสตราจารย์ที่คณะแพทยศาสตร์วิทยาลัยการแพทย์ปักกิ่งยูเนี่ยนของเราครับ
“แน่นอนว่าเราคิดถึงปัญหาเรื่องเวลาของคุณด้วย คุณเองก็ค่อนข้างยุ่ง อยู่ที่เมืองหลวงนานๆ ไม่ได้ เพราะงั้น พวกเราเลยคิดว่าจะเชิญคุณมาเป็นศาสตราจารย์รับเชิญ สอนให้กับคณะแพทยศาสตร์ วิทยาลัยการแพทย์ปักกิ่งยูเนี่ยน และมหาวิทยาลัยชิงหวาชั่วคราว คุณคิดว่ายังไงบ้างครับ”
ประโยคนี้ทำเอาเฉินชางตื่นเต้นเล็กน้อย!
เป็นศาสตราจารย์รับเชิญที่มหาวิทยาลัยชิงหวา กับคณะแพทยศาสตร์วิทยาลัยการแพทย์ปักกิ่งยูเนี่ยนเนี่ยนะ
ความฝันตลอดหลายปีของผมใกล้จะเป็นจริงแล้วเหรอ
เฉินชางรู้สึกลำพองใจขึ้นมาเล็กน้อย!
ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกว่าศาสตราจารย์เมิ่งโหย่วหรงไม่คู่ควรกับเขาอีกต่อไป
ฮ่าๆๆ…
ขณะที่เฉินชางกำลังมโนอยู่นั้น พวกหลี่ข่ายที่เห็นเฉินชางเงียบไปก็ตกตะลึง
แม้แต่อู๋ถงฝู่ก็อึ้งไปด้วย!
เจ้าเด็กนี่หัวสูงขนาดนี้เชียวเหรอ
หรือไม่สนตำแหน่งศาสตราจารย์รับเชิญของมหาวิทยาลัยชิงหวา
คิดมาถึงตรงนี้ อู๋ถงฝู่ก็รีบพูด “เฉินชาง ศาสตราจารย์รับเชิญเป็นตำแหน่งกิตติมศักดิ์ ไม่ต้องไปที่มหาวิทยาลัยบ่อยๆ ก็ได้ ไปทำงานวิจัยร่วมเป็นหลัก ขอแค่ต้องทำรายงาน หรือบรรยายเป็นครั้งคราวก็พอ”
ห่าวจวินพยักหน้า “ใช่แล้วครับ หมอเฉิน การพัฒนาแพทย์ในปัจจุบันเป็นการพัฒนาแบบสหวิทยาการ มหาวิทยาลัยชิงหวาของเราจะจัดหาทรัพยากรให้มากขึ้น และพวกเราจัดประชุมอภิปรายกับศาสตราจารย์สาขาต่างๆ เป็นประจำ
อีกอย่างที่มหาวิทยาลัยของเรามีแต่วัยรุ่นที่โดดเด่นอีกมากมาย ผมเชื่อว่าพวกคุณน่าจะเข้ากันได้ดี”
ทุกคนเริ่มโน้มน้าวใจอย่างจริงจัง!
เฉินชางรีบตอบกลับ “ขอบคุณครับท่านรองห่าว! ขอบคุณผอ.หลี่! ขอบคุณหัวหน้าจาน!”
เฉินชางขอบคุณอย่างกะทันหันทำเอาคนทั้งสี่นิ่งอึ้ง
หมายความว่าจะปฏิเสธอย่างนั้นหรือ
อู๋ถงฝู่เองก็ได้แต่เหวอ
เฉินชางเห็นท่าทางของทั้งสามคน ก็รีบพูดต่อ “ผมจะทำครับ! ผมจะทำ!”
หลี่ข่ายและอีกสามคนต่างถอนหายใจโล่งอก...
เจ้าเด็กนี่!
ห่าวจวินหัวเราะ “อืม พวกเรามาคุยกับคุณเป็นการส่วนตัวก่อน ไว้ค่อยคุยกันแบบเป็นทางการวันจันทร์หน้าดีไหม ถึงเวลาคุณก็มาบรรยายที่มหาวิทยาลัย แล้วก็เซ็นสัญญาจ้างเป็นศาสตราจารย์เลยนะ”