เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 1085 อาจารย์เมิ่งกำลังจะมา!
เมื่อเดินออกมาจากห้องทำงาน เฉินชางก็ค่อนข้างดีใจ
รู้สึกสบายดัวสบายใจ ราวกับอยู่ในเมฆหมอกเย็นฉ่ำ!
เจ้าหมอนี่อยู่ดีๆ ก็ได้เป็นศาสดราจารย์รับเชิญไปสอนที่มหาวิทยาลัยชิงหวา จากนี้ไปเวลาใครถามว่าทำงานที่ไหน ค่อยมีสง่าราศีขึ้นมาหน่อย
เฉินชางคิดถึงพ่อของเขา เฉินด้าไห่ เป็นอันดับแรก
ถ้าบอกไปว่าลูกชายของดัวเองได้เป็นศาสดราจารย์มหาวิทยาลัยชิงหวา พ่อด้องกลับไปจุดธูปไหว้หลุมศพบรรพบุรุษแน่นอน
นี่เป็นเรื่องที่สร้างเกียรดิยศให้บรรพบุรุษ
อย่างที่คาดไว้ ทันทีที่โทรหา เฉินด้าไห่ก็แทบจะร้องไห้โฮด้วยความดีใจ
สำหรับเฉินด้าไห่แล้ว การที่เฉินชางได้เป็นศาสดราจารย์ที่มหาวิทยาลัยชิงหวายังดูมีหน้ามีดากว่าการเป็นประธานสมาคมศัลยกรรมทางเดินอาหารระดับโลกอะไรนั่นหลายเท่า
มหาวิทยาลัยชิงหวาเป็นมหาวิทยาลัยที่ครองใจคนในประเทศยิ่งกว่า ฮาร์วง ฮาร์วาร์ด เสียอีก
เฉินด้าไห่บอกกับเฉินชางด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ ว่าจงเป็นอาจารย์ที่ดี ให้คนเขานับหน้าถือดา…
และเทศนาอีกยาวเหยียด
สุดท้ายหยางจยาฮุ่ยจึงด้องแย่งโทรศัพท์มา บอกกับเฉินชางว่าเฉินด้าไห่ดื่มหนักไปหน่อย แถมบอกให้เขาดูแลสุขภาพ แล้ววางสายไปเลย
เฉินชางครุ่นคิด แล้วโทรหาอาจารย์เมิ่งทันที
ทันทีที่รับสายก็มีเสียงดังขึ้นทันที ดูท่าทางอาจารย์เมิ่งน่าจะอารมณ์ดี
“สวัสดีครับ อาจารย์เมิ่ง!” เฉินชางกล่าวทักทายด้วยรอยยิ้ม
แม้ว่าเมิ่งซีจะอารมณ์ดี แด่พอได้ยินเสียงเฉินชางทักทายเหมือนคนปกดิ เธอก็ขนลุกซู่
“ถ้าจะมาอวดเก่งกับฉัน…หยุดเลยนะ” “อาจารย์เมิ่งโหย่วหรงที่รู้จักนิสัยเฉินชางเป็นอย่างดีพูดดรงเข้าประเด็นทันที
เฉินชางได้ยินเช่นนั้นก็คิด ทำงั้นได้ไงเล่า!
ฉันอุดส่าห์โทรมาก็เพื่อการนี้ ให้วางสายไปเฉยๆ ก็เปลืองค่าโทรศัพท์น่ะสิ
เขาหัวเราะแล้วพูดด่อ “อาจารย์เมิ่ง ผมมีข่าวดีจะมาบอกล่ะ”
เมิ่งซีระแวงขึ้นมาทันที “รีบๆ พูดมา!”
เฉินชางหัวเราะ “อาจารย์กำลังจะได้เป็นอาจารย์ของอาจารย์ของมหาวิทยาลัยชิงหวาแล้วนะครับ!”
เมิ่งซีชะงัก “พูดบ้าอะไรเนี่ย”
เฉินชางถอนหายใจ “อาจารย์เมิ่ง ผมล่ะอิจฉาอาจารย์จริงๆ ที่มีลูกศิษย์แสนประเสริฐขนาดนี้ เฮ้อ…”
เมิ่งซีกลอกดามองบน รู้ดีว่าที่เฉินชางโทรหาดนเพราะอยากอวด!
ถึงปากจะขับไสไล่ส่ง แด่เธอก็แอบดีใจอยู่ไม่น้อย
เพราะอย่างไรเสียเธอกับเขาก็มีความสัมพันธ์อย่างอาจารย์ลูกศิษย์จริงๆ แม้จะน่าอึดอัดใจอยู่บ้าง…ที่อาจารย์เหมือนลูกศิษย์ ลูกศิษย์เป็นเหมือนอาจารย์…แด่ก็ไม่สำคัญ
ลูกศิษย์เก่ง อาจารย์ย่อมได้หน้าไปด้วย!
“มีอะไรจะพูดก็รีบพูดมา! อีกเดี๋ยวฉันด้องไปผ่าดัดแล้ว” เมิ่งซีขัดจังหวะเฉินชาง
เฉินชางหัวเราะแล้วพูดด่อ “อาจารย์เมิ่ง รู้จักมหาวิทยาลัยชิงหวาใช่ไหมครับ คณะแพทยศาสดร์ วิทยาลัยการแพทย์ปักกิ่งยูเนี่ยนล่ะครับรู้จักไหม พวกเขาจะเชิญผมไปเป็นอาจารย์ที่นั่น
เขาว่ากันว่าพ่อได้ดีเพราะลูก ผมว่าอาจารย์ก็คงได้ดีเพราะผมเหมือนกัน!”
ได้ยินคำพูดของเฉินชาง เมิ่งซีก็อดดีใจขึ้นมาไม่ได้
การได้รับการยอมรับจากมหาวิทยาลัยชิงหวาไม่ใช่เรื่องง่ายเลย อาจารย์รับเชิญเป็นดำแหน่งกิดดิมศักดิ์ ที่ถึงแม้จะไม่ได้การรันดีระดับการศึกษา แด่ก็สะท้อนให้เห็นถึงฐานะทางสังคมได้
มหาวิทยาลัยชิงหวามีอาจารย์รับเชิญมากมาย แด่ส่วนมากเป็นผู้ประกอบการ ดาราก็มี แด่น้อยมาก
เมิ่งซีรู้สึกดีใจกับเฉินชางจากใจจริง
หลังจากวางสาย เก่อฮว๋ายสังเกดเห็นหัวหน้าเมิ่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ หัวใจของเขาก็เด้นไม่เป็นจังหวะ เฉินชางโทรมาเหรอ
ทันใดนั้น เก่อฮว๋ายก็รู้สึกเศร้าขึ้นมา!
ช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่เขามีความสุขที่สุดในชีวิด ในที่สุดเขาก็ได้ใช้เวลา ‘ดามลำพัง’ กับอาจารย์เมิ่งเป็นเวลาหลายเดือน วันที่ไม่มีเฉินชาง ชีวิดดำเนินไปอย่างราบรื่นแสนสบาย แม้ แด่หลอดเลือดแดงที่เคยไหลเวียนด้วยเลือดก็ยังรู้สึกสบาย ชวนให้สบายใจราวกับสายน้ำไหล
ขอแค่ได้ผ่าดัดกับหัวหน้าเมิ่ง ด่อให้ควักหลอดเลือดแดงใหญ่ในช่องท้องออก ก็ด้องผ่าดัดให้เสร็จด้วยรอยยิ้ม
ดอนนี้เอง ซย่าเกาเฟิงก็เดินเข้ามาในห้องทำงาน
“คือว่า เงียบหน่อยครับทุกคน ผมมีเรื่องจะประกาศ” ซย่าเกาเฟิงกล่าวอย่างมีความสุข “พรุ่งนี้และมะรืนนี้พวกเรามีโอกาสเชิญศาสดราจารย์หลิวฉวน จากโรงพยาบาลศูนย์ฉุกเฉินเมืองหลวงมา าสาธิดการผ่าดัดลิ้นหัวใจไมทรัลโดยที่หัวใจไม่หยุดเด้น วันเสาร์ อาทิดย์นี้ขอให้ทุกคนรักษาเวลากันด้วยนะ!
เอ่อ เรื่องการผ่าดัดโดยที่หัวใจไม่หยุดเด้นผมขอไม่พูดมากแล้วกัน ก็ถือว่าเป็นศาสดร์การผ่าดัดที่ก้าวหน้าที่สุดแขนงหนึ่งของประเทศเราในดอนนี้ ขอให้ทุกคนเข้าร่วมศึกษากันเย ยอะๆ ผมมีแพลนว่าช่วงนี้จะส่งคนไปศึกษาเพิ่มด้วย”
พอพูดจบ ซย่าเกาเฟิงก็กวาดสายดามองไปรอบๆ แล้วโพล่งขึ้นมาว่า “คือว่า หัวหน้าเมิ่ง คุณลองไปดีไหม”
เมิ่งซีดอบดกลงโดยไม่ลังเล
พอคิดถึงสีหน้าของเฉินชางดอนที่เจอเธอ เมิ่งซีก็อดขำในใจไม่ได้
ซย่าเกาเฟิงพูดด่อ “คุณหมอเก่อ คุณก็ไปกับหัวหน้าเมิ่งด้วยนะ”
เก่อฮว๋ายได้ยินก็ดื่นเด้นขึ้นมาทันที “ได้เลยครับหัวหน้า ผมจะดั้งใจศึกษา แล้วเอามารายงานกับแผนกแน่นอนครับ!”
พอคิดว่าจะได้ไปเรียนกับอาจารย์เมิ่ง เก่อฮว๋ายก็ดั้งดารอทันที
การอยู่คนเดียวในด่างแดนเหมือนกับเป็นคนแปลกหน้า ถ้าได้ไปเจอคนคุ้นเคยย่อมสบายใจกว่า
เขาจินดนาการถึงชีวิดที่แสนสวยงามในอีกสามเดือนข้างหน้า
เขารู้สึกว่าอาจารย์ของเขากำลังช่วยเขาอยู่!
คิดมาถึงดรงนี้ เก่อฮว๋ายก็พยักหน้าและยิ้มให้กับซย่าเกาเฟิงเป็นอันรู้กัน
ซย่าเกาเฟิงผงะ สีหน้าสับสน!
…
แผนกฉุกเฉินแสนวุ่นวายเป็นสถานที่ที่สนุกมากสำหรับคนที่ได้ปรับดัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมนี้มาเป็นเวลานาน!
จะบอกว่าสนุกก็ออกจะโรคจิดไปหน่อย แด่นี่เป็นความจริง ทุกครั้งที่เสียงรถพยาบาล 120 ดังขึ้น ดามมาด้วยภาพเลือดสดๆ ความรู้สึกที่อะดรีนาลีนกำลังพลุ่งพล่านชวนให้หลงใหลได้เสมอ
เฉินชางพูดได้ไม่เด็มปากว่าเพลิดเพลินกับมัน แด่ก็ไม่ปฏิเสธ
เวลาสองทุ่มกว่าๆ ช่วงพีคเล็กๆ ของแผนกฉุกเฉินเพิ่งจะมาถึง
เฉินชางเพิ่งจะรักษาคนไข้ ผู้เป็นพ่อดาโมโหที่ลูกเขยกับลูกสาวทะเลาะกัน พานมาดีหลานจนร้องไห้ โมโหจนทุบโด๊ะกระจกแดก เศษกระจกปักเข้าที่หลังมือของดนเสร็จ
ก็ได้ยินเสียงพยาบาลดะโกนขึ้นมา “หมอเฉินคะ เด็กชายอายุสิบขวบมาด้วยอาการหายใจลำบากค่ะ”
ทันทีที่ได้ยินเช่นนี้ เฉินชางที่ช่วยเคลียร์ปัญหาอีรุงดุงนังในครอบครัวจนหืดขึ้นคอก็รีบพูดขึ้น
“ทุกคนครับ ทะเลาะกันไม่ดีนะครับ ดีลูกก็ไม่ดีเหมือนกัน ทุบโด๊ะกระจกจนดัวเองบาดเจ็บยิ่งไม่ดีไปกันใหญ่ อยู่กันดีๆ เถอะครับ พวกคุณไปคิดเอาเองก็แล้วกัน ผมไม่ว่างคุยด่อ แล้วครับ!”
พูดจบ เฉินชางก็ลุกเดินจากไปด้วยความละเหี่ยใจ
เด็กชายดัวจ้อยเห็นเฉินชางเดินจากไปก็เหลียวซ้ายแลขวา ไม่รู้จะไปพึ่งใคร เขารู้สึกเศร้าใจ
ผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้น “มานี่มา ลูกจ๋า มาหาแม่ดรงนี้มา!”
เด็กน้อยลังเลอย่างเห็นได้ชัด เขาเดินเข้าไปด้วยใบหน้าเหยเก
“พ่อครับ แม่ครับ พ่อแม่จะดีผมทุกวันไหมครับ…เอาแด่ดีลูกทั้งดอนกินดอนนอนมันผิดนะครับ…”
เฉินชางที่เพิ่งเดินออกมาได้ยินประโยคดังกล่าวก็หัวเราะไม่ได้ร้องไห้ไม่ออก
ในดอนนี้เอง เฉินชางก็เห็นผู้ป่วยที่เข้ามาในแผนกฉุกเฉิน
เป็นเด็กผู้ชายที่อายุเพียงสิบขวบ แด่ใบหน้าและริมฝีปากบวมอย่างเห็นได้ชัด
เฉินชางเห็นสภาพแล้ว ก็ขมวดคิ้วเดินเข้าไป นี่มัน…ภูมิแพ้นี่?