เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 1087 ไม่เกี่ยวกับว่าง!
เฉินชางคิดถึงตรงนี้พลันเป็นห่วงที่ฝ่ายตรงข้ามไม่เข้าใจกลไกการเป็นภูมิแพ้เลย
เด็กคนนี้มีคุณลักษณะของภูมิแพ้ จากนี้ยังต้องระมัดระวัง
ดังนั้นเฉินชางหยุดฝีเท้า มองสองสามีภรรยาพร้อมอธิบายอย่างอดทน
“ความจริง ไม่ใช่ว่าไม่มีภูมิแพ้ตั้งแต่แรก หลักๆ นี่เป็นเรื่องของกลไกภูมิแพ้ในร่างกายของคนเราครับ
เหตุผลที่ตอนกินกีวีในครั้งแรกแล้วไม่มีอาการ ไม่ใช่ว่าไม่เป็นไรจริงๆ แต่เพราะร่างกายเกิดแอนติบอดี Ige[1] ที่สอดคล้องกัน ปกคลุมผิวเซลล์ไขมันภ ภายในเนื้อเยื่อของคน ทำให้เกิดภูมิแพ้
และตอนที่รับสารก่อภูมิแพ้เข้าไปอีกครั้งจะทำให้เกิดการแตกตัว แล้วกระตุ้นอาการออกมาเป็นชุดครับ”
เฉินชางอธิบายต่อ “เดี๋ยวให้เด็กตรวจสารก่อภูมิแพ้ หลังออกไปก็ระวังมากหน่อยนะครับ
ยังมีอีกอย่าง ให้เด็กกินอะไร อย่างน้อยต้อง ‘ลองกิน’ สองครั้งขึ้นไปในปริมาณน้อยๆ ขณะเดียวกันก็สังเกตปฏิกิริยาหลังกินอาหาร อย่าเห็นว่ากิ นครั้งแรกไม่มีปัญหา ก็คลายความระมัดระวังในครั้งที่สอง
ทั่วไปหลัง ‘ลองกินสามครั้ง’ ในปริมาณน้อยๆ แล้วไม่มีอาการ จึงจะปรับเพิ่มปริมาณได้ครับ”
ได้ยินคำพูดของเฉินชาง ผู้หญิงคนนั้นรีบพยักหน้า “ตกลงค่ะคุณหมอ ฉันเข้าใจแล้ว หลังจากนี้ฉันจะระวังแน่นอนค่ะ!”
“ขอบคุณครับ! ขอบคุณคุณหมอมากจริงๆ!”
ความจริงมีหลายครั้งที่ความจำเพาะของร่างกายเป็นเรื่องที่ซับซ้อน
บางอย่างสำหรับคนมากมายแล้วถือเป็นของอร่อย แต่มันอาจเป็นยาพิษสำหรับคนอื่น!
ถึงขั้นว่าในทฤษฎีการแพทย์กล่าวว่า ของกินใดๆ ก็อาจกระตุ้นภูมิแพ้ได้
ของกินที่พบเห็นบ่อยก็อย่างเช่นสับปะรดประกอบไปด้วยเอนไซม์โบรมีเลน[2] เอนไซม์ชนิดนี้เพิ่มการทะลวงเยื่อเมือกของกระเพาะและลำไส้ โปรตีนแปลกปลอ อมที่เป็นแมโครโมเลกุล[3]ในกระเพาะและลำไส้จะซึมเข้าสู่กระแสเลือด
อาการของการแพ้สับปะรดคือการปวดท้องรุนแรงเฉียบพลัน อาเจียน ท้องเสีย และคันผิวหนัง ตัวแดง แขนขารวมถึงลิ้นชา เหงื่อออกมาก เป็นลมพิษ เยื่อนั ยน์ตามีเลือดออก หายใจติดขัด
นอกจากนั้นยังมีผื่นคันจากการแพ้มะม่วง ภูมิแพ้ทางเดินหายใจจากกล้วย แล้วก็ลมพิษจากสตรอว์เบอร์รี…
บางครั้งก็ไปคิดมากไม่ได้จริงๆ
เพราะเมื่อคุณตั้งใจคิดก็จะทอดถอนใจว่า เชี่ย ที่แท้การเอาชีวิตรอดนี่ยากชะมัดยาด!
…
เฉินชางเพิ่งออกจากห้องฉุกเฉิน ก็เห็นจางหย่วนกำลังบอกอาการป่วยของคนไข้โดยมีคนในครอบครัวอยู่ด้านข้าง
คนไข้อายุมากแล้ว ประมาณห้าสิบกว่าปี สมาชิกครอบครัวได้แก่ภรรยาและลูก
“คุณหมอ โรคลิ่มเลือดอุดกั้นในปอดเหรอคะ โอเวอร์ไปหรือเปล่า เขาก็แค่แน่นหน้าอก ไม่ถึงขั้นนั้นหรอกมั้งคะ”
ทางฝั่งจางหย่วนก็แนะนำอย่างจริงจัง เหมือนสมาชิกในครอบครัวไม่ค่อยเชื่อเท่าไร เอาแต่คิดว่าจางหย่วนพูดเกินจริง
จางหย่วนมีสีหน้าเคร่งขรึม “ผมไม่ได้ล้อเล่นจริงๆ นะครับ จริงอยู่ว่าผมไม่มั่นใจว่าเป็นโรคลิ่มเลือดอุดกั้นแน่หรือเปล่า เพราะงั้นพวกเราถึงต้อง ทำการตรวจที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน ตรวจสอบให้ชัดเจนโดยเร็วที่สุด ถ้าใช่พวกเราก็จะรักษาทันที ถ้าไม่ใช่ก็ดีไป พวกคุณว่าจริงไหมครับ”
หลังฝ่ายตรงข้ามได้ยินแบบนั้นก็ลังเลอยู่บ้าง
เฉินชางได้ยินดังนั้นก็เดินเข้ามาหาเสียเลย “ความจริงโรคลิ่มเลือดอุดกั้นในปอดไม่ใช่โรค แต่เป็นการตัดสินว่ามีเส้นเลือดอุดตันเท่าไรครับ!
ถ้าแค่เบาบาง ก็อุดกั้นสองสามส่วนของปอด ไม่ใช่ภาวะร้ายแรงอะไร แต่ถ้าร้ายแรงจนถึงขั้นอุดกั้นสิบห้าสิบหกส่วนของปอด ก็อาจนำไปสู่การช็อคหร รือเสียชีวิตเฉียบพลันได้ครับ
เพราะงั้นผมยังคงหวังว่าพวกคุณจะระมัดระวัง”
ทั้งครอบครัวลังเลแล้ว
เดิมทีแค่คนมีอายุในบ้านไม่สบายตัวเลยพามาโรงพยาบาล ชายวัยกลางคนก็คิดว่าตัวเองมาตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจแล้วกัน ช่วงนี้เขารู้สึกใจเต้นไม่เป็นจังห หวะ
พอตรวจดูแล้ว ก็มีปัญหาจริงๆ!
แถมยังเป็นลิ่มเลือดอุดกั้นในปอด!
ได้ยินหมอสองคนนี้บอกว่าค่อนข้างอันตราย บอกตามตรง คนในครอบครัวก็ต่างหวั่นใจเล็กน้อย
ชายหนุ่มวัยยี่สิบกว่าปีพูดกับผู้เป็นพ่อ “พ่อครับ ผมคิดว่าฟังหมอดีกว่านะ พวกเราตรวจให้ครบดีกว่า ไหนๆ ก็มาโรงพยาบาลแล้ว ก็คิดซะว่าตรวจร ร่างกาย”
ชายหนุ่มได้ยินดังนั้นก็กัดฟันตัดสินใจ “ก็ได้ คุณหมอจาง รบกวนคุณแล้วครับ”
จางหย่วนถอนหายใจโล่งอกทันที ถ้าชายคนนี้จะไปจริงๆ จางหย่วนก็จนปัญญา แต่เขาต้องเสียใจภายหลังแน่นอน
บางครั้งเมื่อหมอเผชิญหน้ากับคนไข้ที่อาจมีความเสี่ยงใหญ่เช่นนี้แล้วก็เป็นห่วงมาก
พวกเขาถึงขั้นเครียดกว่าตัวคนไข้เองด้วยซ้ำ
คิดอยู่เสมอว่า นี่ก็เหมือนกับตัวเองไม่ได้ตั้งใจช่วยคน
จางหย่วนมองเฉินชาง “คุณหมอเฉิน…ไม่งั้นคุณจัดการไหมครับ”
เฉินชางมองจางหย่วน ส่ายหน้าบอก “คุณจัดการ!”
จางหย่วนพยักหน้ารัว!
หมอฉุกเฉินจำเป็นต้องพัฒนาทักษะของตัวเองอย่างจริงจัง เห็นคนไข้ตัดสินใจอยู่ต่อ เฉินชางก็ถอนหายใจโล่งอก
หลังจบเรื่องนี้ เฉินชางก็หันตัวกลับเข้าไปในห้องฉุกเฉิน
กล่าวโดยทั่วไปแล้ว!
คนส่วนมากไม่อยากมาแผนกฉุกเฉินตอนเที่ยงคืน นอกเสียจากป่วยกะทันหัน
แน่นอนว่า…ปวดไข่ก็รวมอยู่ด้วย!
ก็อย่างเช่นคนไข้รายถัดมานี้
ตอนราวๆ ตีหนึ่ง มีวัยรุ่นสองคนมาที่แผนกฉุกเฉิน อายุไม่มาก เพิ่งจะแค่ยี่สิบต้นๆ เป็นชายหนึ่งหญิงหนึ่ง
ชายหนุ่มมีสีหน้าเจ็บปวดเหลือแสน ถึงขั้นดูดุร้ายเล็กน้อย ตอนที่เดิน ท่าทางเหมือน...ทหารญี่ปุ่นที่แสดงโดยพานฉางเจียงในเรื่อง ‘Hands Up!’ เขา เดินถ่างขามาข้างหน้าทีละก้าว!
ผู้หญิงที่อยู่ด้านข้างอยากขำ แต่…ชายหนุ่มเจ็บมากจริงๆ ทำให้เธอขำไม่ออก
เฉินชางเห็นแบบนั้นก็แปลกใจเล็กน้อย เฉิงอี๋ นางพยาบาลสาวที่อายุเพียงยี่สิบสองปีมีความอยากรู้อยากเห็นสูง เห็นดังนั้นก็รีบร้อนเข้าไปช่วย!
ตอนนี้ชายหนุ่มไม่มีเวลามาเขินอาย
เขาพูดด้วยสีหน้าเจ็บปวด “คุณหมอครับ ผมปวดไข่!”
ทันทีที่ประโยคนี้ออกมา หญิงสาวที่มาเป็นเพื่อนชายหนุ่มก็ทนไม่ไหว หลุดหัวเราะพรืด
เฉิงอี๋กลับเบิกตาโตด้วยความสงสัยใคร่รู้
ที่แท้
คำว่าปวดไข่ไม่ได้เป็นคำแต่งขึ้นมาเหรอ
มันมีตัวตนอยู่จริง?
อย่าบอกนะว่าว่างจนปวดไข่
แต่มองท่าทางเจ็บปวดเต็มประดาของชายหนุ่ม เฉิงอี๋เริ่มครุ่นคิดถึงระดับความเจ็บปวดสากลที่คุณหมอเฉินชางเคยสอนเธอเมื่อก่อนหน้านี้!
นี่เป็นความเจ็บปวดระดับไหนกันนะ
หลังเฉินชางได้ยินคำนี้ เขาก็รีบพูด “ตามผมมาที่ห้องเปลี่ยนยา”
ทั้งสี่คนพยุงชายหนุ่มมาถึงห้องหัตถการ
เมื่อมาถึง เฉินชางรีบถาม “เกิดขึ้นได้ยังไงครับ”
ชายหนุ่มพูดออกมาอย่างกล้ำกลืนความไม่เป็นธรรม “ตอนที่ทำการบ้านด้วยกัน จู่ๆ ผมก็ปวดไข่ขึ้นมาครับ”
เฉินชางงุนงงเล็กน้อยกว่าจะเข้าใจ
ทำการบ้านด้วยกันสินะ…
“ถอดกางเกง นั่งลง ให้ผมดูหน่อย”
ชายหนุ่มพยักหน้า
หลังเฉินชางเห็นดังนั้นก็ขมวดคิ้วทันที “คุณได้รับบาดเจ็บได้ยังไง กระแทกเหรอครับ”
ชายหนุ่มส่ายหน้า “เปล่าครับ…ผม…ผม…”
หญิงสาวทนดูต่อไปไม่ไหวบอกตามตรง “เขาดูหนังแล้วเลียนแบบท่าน่ะค่ะ! แต่กลายเป็นว่าเล่นใหญ่มากเกินไปเลยกลายเป็นแบบนี้”
หลังเฉินชางได้ยินก็อดพยักหน้าไม่ได้!
ผู้บุกเบิกย่อมต้องจ่ายราคา นึกถึงตรงนี้เฉินชางก็มองเฉิงอี๋ “โทรหาแผนกระบบทางเดินปัสสาวะ แจ้งว่ามีเคสขอปรึกษาฉุกเฉิน”
เฉิงอี๋พยักหน้า รีบวิ่งออกไป ในใจเต้นตึกตัก ที่แท้ว่างก็ไม่เกี่ยวกับปวดไข่!
[1] แอนติบอดี Ige คือภูมิคุ้มกันชนิดหนึ่งที่มีคุณสมบัติเป็นโปรตีน เมื่อร่างกายได้รับสารก่อภูมิแพ้ สารก่อภูมิแพ้จะเข้าจับ Ige ซึ่งอยู่บนเม็ด ดเลือดขาว ทำให้เม็ดเลือดขาวนั้นแตกออก และปล่อยสารชนิดหนึ่งออกมา ส่งผลให้เนื้อเยื่อต่างๆ เกิดการอักเสบ
[2] เอนไซม์โบรมีเลน (bromelain) คือเอนไซม์ตามธรรมชาติจากพืชที่สามารถพบได้ในสับปะรด
[3] แมโครโมเลกุล (macromolecule) เป็นโมเลกุลที่มีขนาดใหญ่มากเช่นโปรตีน