เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 1108 ผมสู้รุ่นพี่ผมไม่ได้ครับ
การระดมเงินทุนเองครั้งนี้ทำให้ทุกคนในห้องประชุมอึ้งงันไป
แผนกศัลยกรรมหัวใจกับแผนกศัลยกรรมทั่วไปยินดีที่จะร่วมมือกับระดมเงินทุนส่วนตัวให้เฉินชางทำการผ่าตัดในครั้งนี้อย่างนั้นหรือ
เพียงเพราะความเชื่อใจเหรอ
ซูเฮ่าเฉียงไม่เข้าใจเป็นอย่างมาก ความเชื่อใจนี้มูลค่านับร้อนล้านเลยหรือ
นี่เป็นเงินโบนัสของคนร้อยกว่าคนเลยนะ!
ทันใดนั้น ทุกคนต่างตะลึง
พวกเขาล้วนเหมือนซูเฮ่าเฉียงที่ไม่ได้รู้ถึงความเก่งกาจและแข็งแกร่งเพียงใด
ถ้าเฉินชางเพียงแค่เก่ง พวกเขายังเข้าใจได้ แต่ความแข็งแกร่งนี้อธิบายเป็นคำพูดไม่ได้จริงๆ
เพราะมันรวมไปถึงความสามารถ พรสวรรค์ และการทุ่มเทลงมือทำอย่างแท้จริง!
เพราะพวกเขารู้จักเฉินชางมากพอ จึงทำให้พวกเขาเชื่อมั่นในจุดนี้
มาถึงอายุอย่างพวกเขา จะไม่เข้าใจจุดนี้ได้อย่างไร
แน่นอนว่าเข้าใจ!
ทว่า มีคนประเภทหนึ่งที่ทำให้พวกเขายินดีที่จะฮึกเหิมอีกสักครั้ง ทำให้พวกเขายินดีที่จะสู้อีกสักตั้ง
ครู่ใหญ่ อู๋ถงฝู่พยักหน้า “ได้ครับ! รีบลงมือทำ รีบนำหนังสือภารกิจเข้ามา”
ตอนนี้ซูเฮ่าเฉียงเองก็พูดอะไรไม่ได้แล้ว
ถึงอย่างไร ทุกคนต่างระดมเงินทุนส่วนตัวในการวิจัย เขายังจะพูดอะไรได้
…
เฉินชางไปที่แผนกศัลยกรรมหัวใจก่อน มองทุกคนพร้อมคำนับ “ขอบคุณทุกท่านที่เชื่อมั่นในตัวผมครับ!”
พวกหลิวฉวนอดยิ้มไม่ได้ “อาจารย์เฉิน คุณอย่างเกรงใจกันครับ พาเราเดินหน้าต่อเถอะครับ!”
“ใช่ครับ ตอนนี้เรามีแรงสู้มาก เทคนิคการผ่าตัดโดยที่หัวใจไม่หยุดเต้นไม่เพียงพอสำหรับเราแล้ว”
และยังมีพยาบาลหลายคนเดินออกมา “อาจารย์เฉินสู้ๆ ค่ะ!”
“ใช่ครับ เราเชื่อมั่นในตัวคุณ!”
แผนกศัลยกรรมฉุกเฉินเองก็ไม่น้อยหน้า ช่วงก่อนตอนที่วิจัยการฟื้นฟูระบบทางเดินอาหารกับทุกคน ทุกคนต่างให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี และตอนนี้เอง ทั้งสองแผนกได้ตั้งทีมพิชิตมาร์แฟนขึ้นอย่างเป็นทางการ
ทว่าตอนนี้ ต้องเชิญผู้เชี่ยวชาญที่ชำนาญการผ่าตัดเปลี่ยนส่วนโค้งเอออร์ตาทั่วร่างกายมาร่วมวิจัยด้วย
สวีจื่อหมิงทำได้ แต่ความสามารถยังจำกัด
เหอจื้อเชียนถือว่ามีการวิจัยหลอดเลือดแดงใหญ่ในช่องท้องมาบ้าง แต่…ยังไม่ถึงขั้นที่จะลงมือทำจริงๆ
ทุกคนนั่งปรึกษากันแล้ว ตัดสินใจจะหาคนเข้ามาช่วย!
จู่ๆ สวีจื่อหมิงก็พูดขึ้นว่า “ความจริง ในประเทศก็มีคนเก่งๆ อยู่ อย่างหยางเพ่ย สมาชิกสภาวิทยาศาสตร์อาวุโสก็เป็นยอดฝีมือในวงการหลอดเลือดทั่วไป แต่…น่าเสียดายที่เขาเสียชีวิตด้วยการอุดตันของหลอดเลือดดำตับ”
ได้ยินชื่อหยางเพ่ย เฉินชางชะงักไปทันที เพราะ…ชื่อนี้คุ้นมาก นี่มันอาจารย์ของหัวหน้าไม่ใช่เหรอ
เหอจื้อเชียนได้ยินเรื่องนี้แล้วพยักหน้าพร้อมถอนหายใจ “ถ้าคุณท่านหยางยังอยู่ การผ่าตัดหลอดเลือดทั่วไปของประเทศเราคงพัฒนาไปอีกสองขั้นแล้ว และมาร์แฟนอาจจะไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป น่าเสียดายที่คุณท่านหยางเสียชีวิตก่อนวัยอันควร”
ทุกคนต่างถอนหายใจอย่างเสียดาย
แท้จริงแล้ว ความก้าวหน้าทางสังคม บางทีก็ต้องพึ่งวีรบุรุษจริงๆ ในสังคมมีคนธรรมดามากมาย แต่น้อยคนที่จะมีส่วนร่วมในการพัฒนาโลกได้อย่างแท้จริง
จู่ๆ สวีจื่อหมิงก็ถามขึ้น “จริงสิ เหล่าเหอ คุณท่านหยางเพ่ยมีลูกศิษย์ไหมครับ ผมจำได้ว่าเขามีลูกศิษย์หลายคนเลยนะครับ ตอนนั้นผมเองก็รุ่นราวคราวเดียวกับพวกเขา”
เหอจื้อเชียนได้ยินแบบนี้ก็ปรบมือขึ้นมาทันที “จริงด้วย ลองถามพวกเขาดูดีกว่าครับ!”
เย็นวันนั้น ทุกคนจึงไปที่แผนกศัลยกรรมทั่วไปในเครือมหาวิทยาลัยปักกิ่ง
หัวหน้าชื่อเหยาเล่อคัง เป็นหัวหน้าหัวโล้นคนหนึ่ง พอเจอกันก็เชิญทั้งสามเข้าห้องทำงานพร้อมรอยยิ้ม
“หัวหน้าเหยา เราจะไม่อ้อมค้อม บอกจุดประสงค์ที่มาหาคุณในตอนนี้ตามตรงเลยนะครับ” เหอจื้อเชียนและเหยาเล่อคังมีปฏิสัมพันธ์กันมาโดยตลอด
“ตอนนี้เราเตรียมจะทำโครงการวิจัยกลุ่มอาการมาร์แฟน ต้องการคนที่มีประสบการณ์มาเข้าร่วมการผ่าตัด คุณเองก็เป็นลูกศิษย์ของคุณท่านหยาง ผมได้ยินว่าคุณเคยทำการผ่าตัดนี้ จึงอยากชวนคุณเข้าร่วมทีมของเราครับ”
เหยาเล่อคังได้ยินแบบนี้ก็ประหลาดใจขึ้นมาทันที “พวกคุณ…จะทำโครงการวิจัยมาร์แฟนงั้นเหรอ จะอนุมัติโครงการผ่านหรือ ต้องใช้เงินทุนเท่าไร”
ทุกคนต่างเป็นคนในวงการเดียวกัน ล้วนรู้เรื่องพวกนี้เป็นอย่างดี
เหอจื้อเชียนอดยิ้มไม่ได้ “ครั้งนี้เราระดมเงินทุนส่วนตัวครับ เรากับโครงการนี้ร่วมกับแผนกศัลยกรรมหัวใจ จริงสิ ขออนุญาตแนะนำนะครับ นี่คือหัวหน้าทีมโครงการวิจัยของเรา เฉินชางครับ!”
เหยาเล่อคังอยู่ในวงการศัลยกรรมทั่วไป แน่นอนว่าต้องเคยได้ยินชื่อของเฉินชาง รีบลุกขึ้นพร้อมยิ้มพูด “ประธานเฉิน! ยินดีที่ได้พบครับ!”
เฉินชางเองก็พยักหน้าทักทายเหยาเล่อคัง
จากนั้น เหยาเล่อคังคิดๆ แล้วพลันพูดว่า “เฮ้อ ผมผ่าตัดมาร์แฟนมาเยอะก็จริง แต่…หลังๆ มาทิศทางการวิจัยของผมมุ่งเน้นไปที่การศัลยกรรมทั่วไป คุณเองก็รู้ว่า พอเป็นหัวหน้าก็ทำแค่เรื่องใดเรื่องหนึ่งไม่ได้แล้ว ถ้าจะให้ผมทำจริงๆ ก็ทำได้ แต่…ผมทำได้ไม่ดีแน่”
ทุกคนได้ยินแบบนี้ก็อดถอนหายใจด้วยความเสียดายไม่ได้
ตอนนี้เอง จู่ๆ เหยาเล่อคังก็พูดว่า “ความจริง…ผมมีคนจะแนะนำ เมื่อก่อนเขาวิจัยเกี่ยวกับการผ่าตัดทั้งหมดของกลุ่มอาการมาร์แฟนโดยตรง ไม่ว่าจะเป็นพรสวรรค์ความสามารถและความกล้าก็แข็งแกร่งทุกด้านเลย”
ประโยคนี้ทำให้ทุกคนมีกำลังขึ้นมา “ใครหรือครับ”
เหยาเล่อคังสูดหายใจเข้าลึกๆ พูดอย่างเศร้าโศกเล็กน้อย “รุ่นพี่ผมครับ”
ทุกคนชะงัก รุ่นพี่เหรอ
ขณะนี้เฉิงชางกลับนึกบางอย่างขึ้นได้
เขาจำที่หัวหน้าหลี่เคยพูดได้แม่น เขาเป็นลูกศิษย์คนแรกของคุณท่านหยาง และคุณท่านหยางให้ความสำคัญกับเขามากที่สุดเช่นกัน
ตามคาด เหยาเล่อคังพูดต่อว่า “หลี่เป่าซาน รุ่นพี่ใหญ่ของผม”
ตอนที่ได้ยินชื่อหลี่เป่าซาน คนอื่นๆ ต่างชะงักไป จู่ๆ เหอจื้อเชียนก็พูดว่า “หัวหน้าหลี่ออกนอกประเทศไปแล้วไม่ใช่เหรอครับ”
เหยาเล่อคังส่ายหน้า “เฮ้อ เปล่าครับ รุ่นพี่ของผมคนนี้ถือว่าน่าเสียดายจริงๆ ถ้าไม่ใช่เพราะผ่าตัดให้กับอาจารย์ผม ด้วยพรสวรรค์และความสามารถของเขา อาจจะรับช่วงต่อได้จริงๆ ผมสู้รุ่นพี่ผมไม่ได้ครับ!”
เหอจื้อเชียนรีบพูดว่า “หัวหน้าเหยา คุณช่วยติดต่อหัวหน้าหลี่หน่อยได้ไหมครับ เดี๋ยวผมคุยเอง”
เหยาเล่อคังพยักหน้า
แน่นอนว่าเขาอยากให้รุ่นพี่กลับมา ยิ่งไม่อยากพลาดพลาดโอกาสในการพัฒนาหลอดเลือดขนาดใหญ่เช่นนี้
เหยาเล่อคังหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาโทรหาหลี่เป่าซาน
เบอร์นี้ เขาไม่ได้โทรมาตั้งนานแล้ว
ความจริง ทุกคนไม่ได้โทษรุ่นพี่เลย การผ่าตัดมีเรื่องไม่คาดฝันเกิดขึ้น ไม่ว่าใครก็หลีกเลี่ยงไม่ได้
ในฐานะหมอ ใครบ้างที่ไม่เคยมีคนไข้เสียชีวิตในมือ
น่าเสียดายที่รุ่นพี่ทิ้งปมในใจไม่ได้เสียที
เฉินชางอยากโทรเอง แต่…คิดไปคิดมา ตนคงความสัมพันธ์ไม่ลึกซึ้งเท่ารุ่นพี่รุ่นน้องอย่างเหยาเล่อคัง
เสียงรอสายดังอยู่นานมาก
เหยาเล่อคังตื่นเต้นเล็กน้อย สายนี้…ไม่ได้โทรมานานแล้ว
ทว่าปลายทางไม่รับสายเสียที
ตอนที่ทุกคนคิดว่าจะไม่มีคนรับสายนั่นเอง
เสียงหนึ่งก็ดังขึ้น “ฮัลโหล”