เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 1109 ไม่ต้องเป็นห่วง!
เหยาเล่อคังดีใจขึ้นมาทันที พลันตื่นเล็กน้อย แต่กลับพูดอะไรไม่ออกนัก
“ฮัลโหล เล่อคังหรือ”
“ครับๆ! รุ่นพี่” ได้ยินคำสรรพนามอันคุ้นเคยก็รีบขานรับ
คำว่ารุ่นพี่ ทำให้ในใจหลี่เป่าซานสับสนเล็กน้อย เขารู้สึกว่าตนไม่มีคุณสมบัติที่จะเป็นรุ่นพี่เลยจริงๆ
เหยาเล่อคังพลันพูดว่า “รุ่นพี่ ไม่ได้เจอกันนานเลยนะครับ ไว้ว่างๆ…”
หลี่เป่าซานเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า “มีอะไรหรือเปล่าครับ”
เหยาเล่อคังจึงรีบตอบว่า “คืออย่างนี้ครับ แผนกศัลยกรรมทั่วไปและแผนกศัลยกรรมหัวใจศูนย์ฉุกเฉินกำลังจะทำโครงการร่วมกัน อยากเชิญรุ่นพี่มาร่วมด้วย เป็นโครงการเกี่ยวกับการผ่าตัดก กลุ่มอาการมาร์แฟนครับ จะเปลี่ยนหลอดเลือดแดงใหญ่ทั่วร่างกาย”
หลี่เป่าซานได้ยินแล้วปฏิเสธทันที “ผมช่วยคุณไม่ได้ครับ ผมทำไม่ได้”
เหยาเล่อคังได้ยินแล้วชะงักไป “ทำไมรุ่นพี่จะทำไม่ได้ครับ เมื่อสิบกว่าปีก่อนรุ่นพี่ยังทำได้เลย เป็นไปไม่ได้ที่ตอนนี้จะทำไม่ได้”
หลี่เป่าซานรีบพูดว่า “ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ผมวางสายก่อนนะครับ”
เหยาเล่อคังได้ยินแบบนี้ก็เดือดดาลขึ้นมาทันที “หลี่เป่าซาน นี่ไม่ใช่การช่วยผม แต่เป็นการช่วยตัวพี่เอง! พี่ดูสภาพพี่ตอนนี้ อันหยางดีขนาดนั้นเลยเหรอ แล้วเมืองหลวงไม่ดีเ เหรอ พี่มีอนาคตที่ดีกว่าแท้ๆ พี่…พี่มันคนขี้แพ้!”
หลี่เป่าซานฟังแล้วกลับพูดว่า “ผมจะอยู่ที่ไหนก็ไม่เกี่ยวกับคุณ”
เหยาเล่อคังอดเย้ยหยันไม่ได้ “ใช่ครับ ไม่เกี่ยวกับผม ผมแค่ดูถูกพี่เฉยๆ ไม่เกี่ยวกับผมก็จริง แล้วเกี่ยวกับอาจารย์ไหมครับ ผมรู้ว่าทำไมพี่ถึงไม่กล้ามาเมืองหลวง เพราะพี่กลัว พี่กำลังหนี พี่ขี้ขลาดมาก! แค่ผ่าตัดพลาดไปครั้งเดียว ต้องทำถึงขนาดนี้เลยหรือครับ
ถ้าผมเป็นอาจารย์ ผมจะไม่รับลูกศิษย์อย่างพี่อีกต่อไป เพราะพี่ไม่คู่ควรกับการเป็นรุ่นพี่ที่เป็นลูกศิษย์คนแรกของอาจารย์! อาจารย์เคยบอกว่า สิ่งที่ทรงพลังที่สุดของศัลยแพทย์ไม่ ใช่การผ่าตัด แต่เป็นหัวใจของพวกเขา พี่จะต้องมีหัวใจที่ไม่ย่อท้อต่ออุปสรรค พี่มีไหม ไอ้คนขี้แพ้! เอาเถอะครับ หลังจากพี่วางสายไปครั้งนี้ ผมจะไม่โทรหาพี่อีก”
ขณะนี้เฉินชางพลันพูดขึ้น “หัวหน้าหลี่ ผมเฉินชางนะครับ ผมเป็นคนตั้งทีมวิจัยการผ่าตัดกลุ่มอาการมาร์แฟน เราขาดศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์ ผมอยากชวนคุณมาเข้าร่วมทีมของเราคร รับ”
ทุกคนอึ้ง ต่างหันมองเฉินชาง เพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่า เฉินชางเป็นคนของหลี่เป่าซาน
พวกเหอจื้อเชียนต่างคาดหวังขึ้นมา…
บางทีสิ่งที่เปลี่ยนแปลงอดีตของคนคนหนึ่งได้ คืออนาคตเท่านั้น!
และสำหรับหลี่เป่าซาน เฉินชางคืออนาคตอย่างไม่ต้องสงสัย!
ตอนนี้เอง จู่ๆ หลี่เป่าซานก็พูดขึ้นว่า “เดี๋ยวก่อนครับ!”
ชั่วขณะนี้ ทุกคนต่างชะงัก!
ผ่านไปครู่หนึ่ง จู่ๆ หลี่เป่าซานก็พูดว่า “เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมไปเมืองหลวงครับ”
หลังจากวางสาย ทุกคนมองเฉินชางอย่างตะลึง คิดไม่ถึงว่าหลี่เป่าซานกลับตอบรับอย่างเด็ดเดี่ยว
ยากจะเชื่อจริงๆ!
แม้แต่เฉินชางเองยังผิดคาดเล็กน้อย
ผมมีอิทธิพลขนาดนั้นเลยหรือ
……
ช่วงเช้าวันถัดมา หลังจากเฉินชางเปลี่ยนเวรเสร็จก็ไปเยี่ยมเก่ออวี้ ตอนนี้เธอได้สติแล้ว
กำลังมองรอบๆ อย่างหวาดหวั่น
เฉินชางเดินเข้ามา “ตื่นแล้วเหรอครับ”
เก่ออวี้พยักหน้า “ค่ะ…”
เด็กหญิงกลัวมาก ไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคยนี้
พยาบาลหยิบบันทึกมาให้เฉินชางอ่าน ตอนนี้เลือดในร่างกายของเด็กหญิงเรียกได้ว่าเปลี่ยนไปสามรอบแล้ว ‘ไขมัน’ ที่กรองออกมามากถึงเก้าพันมิลลิลิตร!
น่าทึ่งมากจริงๆ
ว่ากันว่าแม้แต่ตัวกรองที่ใช้กรองยังอุดตันจนผ่านไม่ได้
ผล CT ก็ออกมาแล้ว ตับอ่อนอักเสบเฉียบพลันระดับรุนแรงตามคาด
เพราะให้ยาทันเวลาอาการจึงไม่ได้ลุกลามต่อ แน่นอนว่าถึงอย่างไรก็ต้องผ่าตัด แต่ไม่ใช่ตอนนี้
ตอนนี้สถานการณ์ของเก่ออวี้ยังคงมั่นคง
คุณหมอคงจะอธิบายสถานการณ์ให้เก่ออวี้ฟังแล้ว เธอรู้ดีว่าตนผ่านอะไรมาบ้าง
เฉินชางยิ้มพูด “ต่อไปอย่ากินไก่ทอด เฟรนช์ฟรายส์ แฮมเบอร์เกอร์ และโค้กเยอะนะครับ ของพวกนี้ไม่ดีต่อสุขภาพ”
เก่ออวี้พยักหน้า “ขอบคุณค่ะ คุณหมอ”
ตอนที่เฉินชางกำลังจะจากไป จู่ๆ เก่ออวี้ก็หันมา “คุณหมอคะ พ่อแม่หนูล่ะคะ”
คำถามนี้ทำให้เฉินชางตอบไม่ถูก “เดี๋ยวหมอติดต่อให้นะครับ คุณรีบพักก่อน”
หลังจากออกจากห้องสังเกตอาการ พยาบาลบอกเฉินชางว่า หลังจากวันที่มาแอดมิด พ่อแม่ของเก่ออวี้ก็ไม่ได้มาที่โรงพยาบาลอีกเลย
เฉินชางถอนหายใจ พลันส่ายหน้า ตอนนี้เอง สวีอ้ายชิงเดินมาอย่างเร่งรีบ หลังจากเห็นเฉินชาง จู่ๆ สวีอ้ายชิงก็พูดว่า “เฉินชาง ฉัน…ฉันอยากเข้าร่วมทีมกลุ่มอาการมาร์แฟนของคุณด้วย ได้ไหมคะ”
เฉินชางอึ้ง “ได้สิครับ ทำไมจู่ๆ พี่สวีถึง…”
สวีอ้ายชิงยิ้มขื่น “ลูกชายฉันก็เป็นคนป่วยกลุ่มอาการมาร์แฟน ฉันอยากทำอะไรเพื่อเขาบ้างค่ะ”
เฉินชางได้ยินแล้วอึ้งงันไป
ตอนประมาณสิบเอ็ดโมง เสียงโทรศัพท์มือถือของหลี่เป่าซานดังขึ้น
เฉินชางดีใจขึ้นมาทันที “หัวหน้าหลี่มาถึงแล้วเหรอครับ”
หลี่เป่าซานพยักหน้า “ผมอยู่ที่แผนกศัลยกรรมหัวใจแล้วครับ”
หลังจากเฉินชางวางสาย ก็รีบวิ่งขึ้นไปหา
ความจริงเฉินชางคิดไม่ถึงว่า หัวหน้าหลี่เป่าซานกลับเก่งขนาดนี้
หลังจากเจอหลี่เป่าซาน เฉินชางรู้สึกสนิทสนมมาก “สวัสดีครับหัวหน้า!”
หลี่เป่าซานยิ้ม “สวัสดีครับ”
สวีจื่อหมิงยิ้ม “หัวหน้าหลี่วางแผนให้เราคร่าวๆ แล้ว รวมถึงขั้นตอนโดยละเอียดและวิธีการฝึกอบรมในหัวข้อนี้ น่าทึ่งมาก”
เฉินชางพูดอย่างดีใจ “รบกวนด้วยนะครับหัวหน้า ช่วยสอนการผ่าตัดเปลี่ยนหลอดเลือดแดงใหญ่ในช่องท้องกับผมหน่อยนะครับ ผมอยากทำการผ่าตัดนี้ออกมาให้ดีที่สุด”
หลี่เป่าซานพยักหน้า “เจ้าหมอนี่ เกรงใจผมขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไรครับ”
พูดจบ เฉินชางก็เกาหัวแกรกๆ อย่างอึดอัด “หัวหน้าจะมาอยู่นานเท่าไรครับ”
หลี่เป่าซานมองเฉินชาง “อยู่จนคุณทำเป็น ผมบอกทางโรงพยาบาลแล้วว่าจะออกมาทำโครงการสักระยะ”
เฉินชางอดยิ้มไม่ได้
เฉินชางยังไม่ทันได้พูดอะไร แผนกฉุกเฉินก็โทรเข้ามา “เฉินชาง อวี๋หวั่นเกิดภาวะหลอดเลือดแดงใหญ่ในช่องท้องฉีกขาด นอกจากนี้ คุณก็ทราบสถานการณ์ของอวี๋หวั่น ผนังหลอดเลือดของเธอ เปราะบางมาก แผลฉีกขาดใหญ่มาก ตอนนี้สถานการณ์อันตราย ต้องผ่าตัดโดยเร็วที่สุด!”
สวีอ้ายชิงพูดอย่างลนลาน
เฉินชางสีหน้าเปลี่ยนไปทันที “หัวหน้าครับ มีคนไข้กลุ่มอาการมาร์แฟนอาการกำเริบฉับพลัน ตอนนี้หลอดเลือดแดงใหญ่ในช่องท้องฉีกขาดอย่างรุนแรง จำเป็นต้องผ่าตัดโดยเร็วที่สุด!”
หลี่เป่าซานรีบลุกขึ้น “ไปคุยกันในห้องผ่าตัดเถอะครับ”
สวีจื่อหมิงติดต่อเหอจื้อเชียน รีบพาหลี่เป่าซานไปเตรียมความพร้อมในห้องผ่าตัด
ส่วนเฉินชางกลับรีบวิ่งไปที่ห้องฉุกเฉิน
ตอนนี้สถานการณ์ของอวี๋หวั่นแย่มาก หายใจถี่ สองมือกุมหน้าอก ความเจ็บปวดที่รุนแรงและต่อเนื่องทำให้เธอทรมานมาก เหงื่อเม็ดโตเปียกหน้าผากของเธอ
ทว่าหลังจากเห็นเฉินชางเข้ามา อวี๋หวั่นกลับทนความเจ็บเผยรอยยิ้มออกมา
“รบกวนด้วยนะคะ! คุณหมอเฉิน!”
เฉินชางจ้องอวี๋หวั่นพร้อมพยักหน้า “ไม่ต้องเป็นห่วงครับ!”