เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 114 บัตรคุณสมบัติพิเศษ
จิ้นชิงจื้อจะไปส่งให้ได้ ความเอื้อเฟื้อเช่นนี้หายาก เฉินชางจึงไม่กล้าปฏิเสธ ทำได้แต่ยอมรับ
รถคันนี้ขับมาจากเมืองหลวง ติดป้ายทะเบียนของปักกิ่ง เฉินชางนั่งอยู่ด้านหลัง รู้สึกอดรนทนไม่ไหวอยากตรวจสอบของที่ได้รับมาเมื่อครู่นี้ทันที
เขาคลับคล้ายคลับคลา เหมือนจะเห็นวัตถุสีฟ้าถูกดรอปออกมา
[ติ๊ง! ภารกิจสังหารมอนสเตอร์ลำไส้เล็กอักเสบระดับ 38 สำเร็จ ได้รับ:
1. บัตรฝึกฝนพิเศษ 1 ใบ
2. ค่าประสบการณ์ทักษะกายวิภาคศาสตร์ในระบบลำไส้ +300
3. ค่าประสบการณ์การผ่าตัด +150 ได้รับเงิน 300 หยวน]
[ติ๊ง! กำจัดนิ่วในถุงน้ำดีระดับ 35 สำเร็จ ได้รับ:
1. บัตรฝึกฝนการวินิจฉัยอาการเฉียบพลันในช่องท้อง 1 ใบ
2. ค่าประสบการณ์ทักษะการผ่าตัดถุงน้ำดี +300
3. ประสบการณ์การผ่าตัด +150 เงิน +300 หยวน]
หนังสือทักษะพิเศษส่องประกายสีฟ้าออกมา ส่วนบัตรฝึกฝนการวินิจฉัยอาการเฉียบพลันในช่องท้องเป็นสีเขียว
จากประสบการณ์การในหลายวันมานี้ของเฉินชาง ไอเทมสีฟ้าต้องดีกว่าสีเขียวแน่นอน และไอเทมสีเขียวก็ดีกว่าสีขาว
เขาเปิดหนังสือทักษะพิเศษออกอย่างกระตือรือร้น
[ติ๊ง! บัตรฝึกฝนพิเศษ: จำกัดอยู่ที่ทักษะกายวิภาคศาสตร์ในระบบลำไส้ เมื่อใช้แล้วจะมีโอกาสได้รับการฝึกฝนพิเศษอย่างหนึ่ง เมื่อการฝึกฝนสิ้นสุดลง หากผ่านการทดสอบ ทักษะกายวิภาคศาสตร์ในระบบลำไส้ของคุณจะมีคุณสมบัติพิเศษนั้นๆ]
เฉินชางมีท่าทียินดี รีบกดใช้งานทันที!
[ติ๊ง! ยินดีด้วย คุณได้รับบัตรการฝึกฝนเพื่อลดอาการพังผืด ต้องการเริ่มการฝึกฝนเลยหรือไม่?]
เฉินชางตาค้างไปแล้ว!
ระบบ…การได้รับอย่างไม่ลำบากไปอยู่ที่ไหน? การพัฒนาทักษะในพริบตาไปอยู่ที่ไหนหมด?
ทำไมตอนนี้กลายเป็นการฝึกฝนและการสอบไปได้ล่ะ
เฉินชางรู้สึกอยากร้องไห้โดยไร้น้ำตา
สองสิ่งที่นักศึกษาแพทย์หนีไม่พ้นไปชั่วชีวิตก็คือ หน่วยกิตที่ต้องครบทุกปี! อีกอย่างหนึ่งก็คือให้คุณสอบอยู่ตลอดเวลา
ทำไมถึงพูดกันว่าอย่าเชียร์ให้คนอื่นเรียนหมอ? นั่นเป็นเพราะไม่เพียงแต่จะต้องเรียนอย่างเหน็ดเหนื่อยถึงห้าปี ปริญญาโทอีกสามปี ปริญญาเอกอีกสามปี แถมจบการศึกษามาเข้าทำงานแล้วก็ยังเหนื่อยยิ่งกว่าเหนื่อย
ส่วนมัธยมศึกษาตอนปลายปีที่สาม[1]น่ะหรือ?
คุณก็แค่อ่านหนังสือและเรียนหนังสือไป อย่างน้อยก็ไม่ต้องสร้างผลงานอะไร แต่ถ้าเรียนแพทย์ล่ะ? คุณจะต้องทำหัวข้อการเรียนรู้ ทำการทดลอง และวิทยานิพนธ์
หากคุณบอกว่าคุณเหนื่อยแล้ว ไม่อยากทำอีก ถ้าเช่นนั้นก็ไม่เป็นไร แต่คุณจะไม่มีผลงาน เป็นได้เพียงแพทย์ดูแลไข้ไปหมื่นปี หากโชคไม่ดี หมื่นปีนี้อาจไม่ได้อยู่ในโรงพยาบาลด้วยซ้ำ
ระบบหนอระบบ เป็นระบบที่สูงชันสำหรับนักศึกษาแพทย์จริงๆ
ที่บอกว่าจะเสริมความแข็งแกร่งและฝีมือให้ล่ะ?
ตอนนี้กลายเป็นการฝึกฝนและอบรมไปหมดแล้ว
เฉินชางรู้สึกอยากร้องไห้โดยไร้น้ำตา…
วันนี้ได้รับของมาสองอย่าง เฉินชางไม่คิดว่าจะเป็นการฝึกฝนทั้งหมด
หนึ่งคือบัตรฝึกฝนพิเศษ อีกหนึ่งคือบัตรฝึกฝนการวินิจฉัยอาการเฉียบพลันในช่องท้อง
เมื่อคิดถึงตรงนี้เฉินชางก็สูดหายใจลึก ถึงอย่างไรการนั่งรถก็ค่อนข้างน่าเบื่อ อีกอย่างก็ไม่ได้คุยอะไรกับจิ้นชิงจื้อเลย เช่นนั้นเข้าไปฝึกฝนสักหน่อยจะดีกว่า
เมื่อคิดได้เช่นนี้ก็กดใช้งานไปตามใจ เบื้องหน้าของเฉินชางพลันเปลี่ยนไป
เขาไปปรากฏตัวข้างเตียงผ่าตัดอีกครั้ง
[ติ๊ง! การฝึกฝนลดพังผืดบริเวณการเชื่อมต่อในระบบลำไส้: ทุกครั้งที่เย็บสำเร็จจะมีการประเมินคะแนนและวิเคราะห์สาเหตุ กรุณาเริ่มได้…
เวลานับถอยหลัง: 100 ชั่วโมง]
หนึ่งร้อยชั่วโมงอีกแล้ว ฝึกๆ ไปเถอะ…
พังผืดในระบบลำไส้เกิดจากหลายสาเหตุ ซึ่งจะทำให้บริเวณระหว่างลำไส้และลำไส้ ลำไส้และช่องท้อง หรือลำไส้และช่องว่างในการสอดอุปกรณ์การส่องกล้องติดกันจนผิดปกติ
ในขณะทำการรักษา การผ่าตัดลำไส้อาจเป็นสาเหตุการเกิดพังผืดที่พบได้บ่อยที่สุด หลายครั้งจะเกิดหลังผ่าตัดช่องท้องเสร็จแล้ว จะมากจะน้อยก็ยังเกิดพังผืด ซึ่งอาจทำให้เกิดลำไส้อุดตันเฉียบพลันจนเป็นอุปสรรคในช่องท้องและอาจมีอันตรายถึงชีวิต!
ดังนั้นการฝึกฝนนี้จึงจำเป็นมาก แม้ผู้ป่วยอาจไม่พบความแตกต่าง แต่นี่เป็นสิ่งดีต่อผู้ป่วย เฉินชางไม่รังเกียจที่จะเรียนรู้ให้มากขึ้นสักหน่อย
จะอย่างไร…หมอก็เป็นอาชีพที่ทำเพื่อประเทศชาติและประชาชน!
อืม เหมาะสมแล้ว
ความจริง มีหลายครั้งที่ผู้ป่วยไม่รู้ถึงความแตกต่างของหมอ หมอบางคนอาจประจบเอาใจผู้ป่วยมากมายเพราะต้องการสร้างผลงานในเวลาสั้นๆ แต่เมื่อมองระยะยาว การรักษาเช่นนี้จะไม่เป็นประโยชน์ต่อตัวผู้ป่วยเอง
แต่ก็มีหมอบางคนทำหลายอย่างในการผ่าตัด ซึ่งไม่แน่ว่าผู้ป่วยจะรู้ตัว ก็เหมือนกับการลดพังผืดของเฉินชาง หากเป็นเวลาสั้นๆ เพียงไม่กี่ปีคงไม่รับรู้ถึงความแตกต่าง หรือผู้ป่วยอาจรู้สึกว่ามันเป็นสิ่งปกติก็ได้
การฝึกฝนเริ่มต้นขึ้นแล้ว เฉินชางเริ่มลงมือเย็บเคสแรก
[ติ๊ง! การเย็บสำเร็จ คะแนนประเมิน -20 คะแนน ในการผ่าตัดมีเลือดและสารคัดหลั่งซึมออกมา ทำให้เป็นพังผืดมากขึ้น]
เฉินชางแทบจะกระอักเลือดออกมา!
ยังมีความรับผิดชอบอยู่หรือเปล่า?
เขาทำต่อไป…
[ติ๊ง! การเย็บสำเร็จ คะแนนประเมิน -10 คะแนน เกิดภาวะเลือดคั่งระหว่างการผ่าตัด ทำให้เป็นพังผืดมากขึ้น…]
……
……
เฉินชางรู้สึกว่าตัวเองช่างตื้นเขินจริงๆ เขายังอ่อนหัดอยู่มาก
จริงๆ แล้วนี่จะโทษเฉินชางไม่ได้ เดิมทีระบบลำไส้ก็แตกต่างจากผิวหนังอยู่แล้ว มันเป็นระบบภายใน หากเสียหายจะเป็นไปได้สองทาง ทางหนึ่งก็คือในลำไส้ อีกทางก็คือนอกลำไส้ ยิ่งไปกว่านั้น ลำไส้ยังมีเส้นเลือดและเส้นประสาทแต่ละชนิดอยู่ด้วย ไม่ง่ายเหมือนกับผิวหนังและกล้ามเนื้อ
เวลาไหลผ่านไปทุกนาที คะแนนการเย็บของเฉินชางสูงขึ้นเรื่อยๆ ความเร็วก็เพิ่มมากขึ้น
คะแนนประเมินสูงขึ้นไม่หยุด แต่สภาพภายในมีลักษณะพิเศษเกินไป เฉินชางไม่รู้ว่าเขาเห็นอวัยวะภายในมามากน้อยขนาดไหนแล้ว เห็นอุจจาระในช่องท้องมาก็มาก…
เฉินชางจำเป็นต้องเรียนรู้ที่จะทำงานในสภาพร่างกายต่างๆ ต้องเรียนรู้ว่าจะจัดการอย่างไรให้ดี เมื่อเย็บสำเร็จแล้ว ก็ถือว่าสิ้นสุดการผ่าตัด
เวลาหนึ่งร้อยชั่วโมงผ่านไปในชั่วพริบตา
นับว่าเฉินชางมีแรงใจดี สุดท้ายยังได้รับคะแนนประเมินมาถึงแปดสิบคะแนน!
[ติ๊ง! ผ่านการทดสอบ คุณได้รับคุณสมบัติพิเศษในทักษะกายวิภาคศาสตร์ในระบบลำไส้: ลดการเกิดพังผืด]
[กายวิภาคศาสตร์ในระบบลำไส้: ระดับสูง
คุณสมบัติพิเศษ:
1.เสถียรภาพ
2.ลดการเกิดพังผืด]
เมื่อเห็นคุณสมบัติพิเศษทั้งสอง เฉินชางก็ผ่อนลมหายใจออกมาด้วยความพึงพอใจ ความพยายามไม่เสียเปล่า!
จิ้นชิงจื้อเห็นดังนั้นก็คิดว่าเฉินชางเหนื่อยแล้วจึงพูดขอบคุณออกไป “หมอเฉิน ลำบากคุณแล้วครับ”
เฉินชางยิ้ม “ไม่เป็นไรครับ ผมมากกว่าที่รบกวนให้คุณจิ้นไปส่ง”
จิ้นชิงจื้อรีบส่ายหน้า “นี่เป็นเรื่องสมควรทำอยู่แล้วครับ หมอเฉินผ่าตัดให้พ่อผม จะว่าไปแล้วก็เป็นคนช่วยชีวิตพ่อผมเอาไว้ ไม่ต้องพูดถึงไปส่งคุณเข้างานเลย จะให้รถคุณหนึ่งคันก็ยังไม่มากเกินไป”
เฉินชางพูดด้วยท่าทีสนุกสนาน “ถ้าคุณให้รถผม ผมคงไม่กล้าใช้หรอก!”
ทั้งสองหัวเราะออกมา บรรยากาศดีขึ้นไม่น้อย
จู่ๆ จิ้นชิงจื้อก็หยิบนามบัตรออกมาจากกระเป๋าเสื้อ “คุณเฉินครับ นี่คือนามบัตรของผม ต่อไปอย่าลืมโทรหาผมนะครับ”
เฉินชางรับมาดู เป็นนามบัตรที่สวยมาก ด้านบนเขียนไว้ว่า “สำนักสื่อมวลชนวัฒนะธรรมชิงอวิ๋น – จิ้นชิงจื้อ”
ที่แท้ก็เป็นสื่อมวลชนวัฒนธรรมหรอกหรือ?
เฉินชางเห็นดังนั้นก็คิดว่า ไม่แน่อาจได้ติดต่อกันจริงๆ ก็เป็นได้…
เฉินหลัว น้องชายของเขาเป็นนักแสดงอยู่ที่เหิงเตี้ยน[2]
เมื่อคิดถึงตรงนี้เฉินชางก็อดถอนใจไม่ได้
พ่อแม่ของเขาไม่วางใจเรื่องเฉินหลัวมาโดยตลอด เฉินหลัวอายุน้อยกว่าเฉินชางแปดปี ปีนี้อายุสิบเก้าแล้ว เพิ่งจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้
เมื่อเทียบกับเฉินชาง เฉินหลัวทำให้คนอื่นเป็นห่วงมาตลอด เขาไม่ชอบเรียนหนังสือตั้งแต่เล็กๆ ได้รับผลกระทบจากละครมาเฟียของฮ่องกงและไต้หวันมาก ก่อเรื่องที่โรงเรียนไปไม่น้อย ภายหลังตอนที่เรียนอยู่ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย เขาได้ยินว่าคะแนนไม่ดีก็ยังเข้าเรียนด้านศิลปะได้ เฉินหลัวสนใจเรื่องนี้มาก เอาแต่ดูการแสดงในโทรทัศน์ทั้งวัน แล้วก็ดรอปเรียนเพื่อไปเป็นนักแสดงสมทบอยู่ที่เหิงเตี้ยน
ความฝันที่จะเป็นดารา หากพูดออกมาในหมู่บ้านชนบทก็มักจะถูกหัวเราะเยาะ
แต่เฉินหลัวดื้อกว่าเฉินชางมาก เรื่องที่ตัดสินใจไปแล้ว จะอย่างไรก็ไม่ยอมถอย
ในครอบครัวหนึ่งมักจะมีลูกที่เชื่อฟังและลูกที่ไม่เชื่อฟัง เฉินชางเป็นลูกที่เชื่อฟัง ส่วนเฉินหลัวค่อนข้างดื้อ
หลังจากทำงานอยู่ข้างนอกมาระยะหนึ่ง เฉินหลัวก็คิดได้ว่าเป็นไปไม่ได้เลยที่จะได้แสดงหนังในสถานที่แบบนี้ จึงลงทะเบียนเข้าร่วมการสอบในโรงเรียนสื่อมวลชนแห่งตงหยาง นับเป็นสถาบันที่อยู่ตรงกลางระหว่างวิชาชีพและปริญญาตรี จึงพอจะเรียกว่าสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้
หลังจากสอบเข้าแล้วก็เก็บของตรงไปที่เหิงเตี้ยนทันที ทำให้เฉินต้าไห่โกรธมาก
เมื่อคะแนนประกาศผล พบว่าเฉินหลัวสอบได้สามร้อยคะแนน ส่วนคะแนนวัฒนธรรมการแสดงได้สองร้อยห้าสิบคะแนน นับว่าสถาบันรับเข้าเรียนแล้ว
เปิดเรียนวันที่สิบกันยายน ส่วนค่าเรียนไม่รู้ว่าทางบ้านจะมีพอหรือไม่?
เมื่อคิดถึงตรงนี้เฉินชางก็ตัดสินใจว่าจะโทรหาเฉินหลัว เด็กคนนี้ไม่โทรหาเขาสักพักแล้วสินะ?
เฉินชางอยากใช้เวลาให้คุ้มค่า จึงใช้บัตรฝึกฝนการวินิจฉัยอาการเฉียบพลันในช่องท้องทันที
เมื่อเทียบกับการฝึกฝนการผ่าตัดแล้ว การฝึกฝนการรักษาอาการเฉียบพลันที่เกิดในช่องท้องจะมีการวินิจฉัยและการรักษาที่แตกต่างกันออกไป คุณต้องวินิจฉัยอาการที่เกิดในช่องท้องจากสัญญาณทางกายภาพต่างๆ เช่น ตัวชี้วัด สรีรวิทยา ชีวะเคมี รวมไปถึงข้อมูลต่างๆ เพื่อวินิจฉัยแนวทางการรักษาออกมา
การวินิจฉัยอาการป่วยเฉียบพลันในช่องท้องเป็นความสามารถที่หมอแผนกฉุกเฉินจำเป็นต้องมี และเป็นเทคนิคที่ยากมาก
เนื่องจากอาการเจ็บป่วยเฉียบพลันที่เกิดในช่องท้องจะวินิจฉัยจากการแสดงออกของผู้ป่วยได้ยาก จำเป็นต้องใช้การตรวจหลายอย่างร่วมด้วย
เมื่อเจอกับอาการเช่นนี้ สิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งก็คือต้องรีบวินิจฉัยให้ชัดเจนโดยเร็ว โดยเน้นไปที่สาเหตุและการรักษา ซึ่งต้องตรวจสอบเวลาผ่าตัดให้ดี นี่เป็นสิ่งที่ใช้วัดระดับแพทย์ในแผนกฉุกเฉินได้ดีเลยทีเดียว!
คราวนี้ไม่ถึงร้อยชั่วโมงแล้ว แต่การฝึกฝนจะมาในลักษณะการบรรยายของอาจารย์อาวุโสและให้เฉินชางวินิจฉัย
[ติ๊ง! ได้รับทักษะการวินิจฉัยอาการป่วยในช่องท้องเฉียบพลัน: ระดับสูง (ทักษะทำงานอัตโนมัติ)]
[1] เทียบเท่ากับระดับชั้นมัธยมศึกษปีที่ 6
[2] เหิงเตี้ยน คือเมืองจำลองที่สร้างขึ้นโดยจำลองประเทศจีนในยุคสมัยต่างๆ เอาไว้ เปิดให้ผู้คนทั่วไปเยี่ยมชมได้และมักใช้ในการถ่ายทำละคร