เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 1152 พรุ่งนี้เช้าคุณอยากกินอะไร
“พรุ่งนี้เช้าคุณอยากกินอะไร”
“น้ำเต้าหู้…” ชายชราคลี่ยิ้ม พูดอ้อแอ้
เนื่องจากภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตาย คำพูดจึงไม่ค่อยชัดเจน แต่อย่างน้อยตอนนี้ก็ดีขึ้นกว่าเมื่อครู่นี้มาก ฟังเข้าใจคร่าวๆ แล้ว
“งั้นเดี๋ยวคุณเชื่อฟังหมอนะคะ จะเจาะเลือด คุณห้ามขยับนะ”
“ครับ คุณจะไปไหน”
“ยืนเป็นเพื่อนคุณตรงนี้”
“คุณนั่งก่อน ต้องใช้เวลานานนะ”
“ได้สิ”
ทั้งสองพูดช้ามาก โต้ตอบกันไปมา เรื่องที่คุยกันก็ไม่ได้เป็นเรื่องสำคัญอะไร ไม่ได้ถามว่าอาการรุนแรงหรือไม่ อันตรายหรือไม่
ชายชรากลัวว่าหญิงชรายืนนานจะเหนื่อย
ส่วนหญิงชรากลัวว่าชายชราจะไม่ยอมอยู่นิ่ง
ทั้งสองคุยกันสบายๆ แต่ไม่รู้ทำไม กลับทำให้สวีจื่อหมิงและจ้าวตันเยี่ยนเงียบไป
หญิงชราอายุแปดสิบกว่าปีแล้ว นั่งจับมือชายชราอยู่ข้างเตียง
รับรู้ได้ถึงอุณหภูมิจากร่างกายของคนรัก ชายชราก็นิ่งขึ้นมาก
การฉีดยาละลายลิ่มเลือดค่อนข้างยาวนานและน่าเบื่อ
แต่วันนี้ห้องฉุกเฉินไม่ได้เต็มไปด้วยความตึงเครียดและกังวลเหมือนปกติ แต่กลับอบอุ่นมาก!
คนชราทั้งสองคนจับมือกัน ชายชราหาวอยู่หลายที หลับไปไม่ถึงยี่สิบนาทีก็ตื่นขึ้นมา
หลังจากตื่นขึ้นมา หญิงชราก็ป้อนน้ำให้ ก่อนที่ชายชราจะนอนลงอีกครั้ง
หญิงชราเองก็ทนเหนื่อยมาก
อีกด้าน สวีจื่อหมิงนั่งอยู่ข้างๆ ส่วนจ้าวตันเยี่ยนเองก็นั่งลงอีกฝั่ง
ทั้งสองสบตากันเป็นระยะๆ แต่รีบหลบสายตาโดยไม่ได้พูดอะไร
กลับเป็นเฉินชางที่ยืนอยู่ตรงนั้นแล้วทำตัวไม่ถูก ดูอึดอัดเล็กน้อย
ทว่าไม่นานด้านนอกก็วุ่นวายขึ้นมาจนเฉินชางต้องวางงานด้านนี้ ออกไปช่วยจัดการคนไข้ด้านนอก
หลังจากเสร็จงานก็ประมาณตีสองแล้ว
ในที่สุดเฉินชางก็โล่งอกไปที
เฉินชางยืนอยู่หน้าห้องฉุกเฉิน ลังเลว่าจะเข้าไปหรือไม่
หลังจากเข้ามาก็ให้ยาละลายลิ่มเลือดและยาบำรุงประสาทเสร็จแล้ว
ตอนนี้ชายชราเองก็นอนไม่หลับ
คืนนี้เงียบมาก แม้แต่แผนกฉุกเฉินเอง ตอนนี้ก็เงียบลงแล้ว
ตอนนี้อาการของชายชราทุเลาลงมาก
ในความเป็นจริง หากคนไข้โรคหลอดเลือดสมองได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อัตราความสำเร็จของการทำลายลิ่มเลือดจะสูงมาก
การเกิดลิ่มเลือด คือการสลายเส้นเลือดอุดตันที่อุดตันหลอดเลือดขนาดเล็กและกลับเข้าสู่กระแสเลือด
ยาละลายลิ่มเลือด เช่น ยูโรไคเนส[1]จะทำให้ลิ่มเลือดสลายไป
วัตถุประสงค์หลักของยาบำรุงเส้นประสาทคือการช่วยให้เส้นประสาทที่เหี่ยวเฉาเนื่องจากขาดเลือดและขาดออกซิเจนฟื้นตัวได้มากที่สุด
โดยทั่วไปแล้ว ยาบำรุงประสาทมีราคาค่อนข้างแพง แต่ผลลัพธ์ไม่เลวจริงๆ
อาการของชายชราดีขึ้นมากแล้ว ตอนนี้เขาพูดได้เกือบเป็นปกติ และไม่ได้ซึมเหมือนก่อนหน้านี้แล้ว
ในคืนอันเงียบสงบนี้ ชายชราอดพูดไม่ได้ “ผมถูกคนอื่นรังเกียจไหมครับ ผมทั้งสมองตาย และอาการก็แย่ลงทุกวัน”
หญิงชรามองบน จงใจพูดอย่างดีใจ “ใช่ไหมล่ะ ฉันเองก็รู้สึกว่าตอนนี้คุณไม่คู่ควรกับฉันแล้ว! ตอนเราสองคนแต่งงานกัน คุณรังเกียจฉันไม่ใช่เหรอคะ ตอนนี้ยังรังเกียจอยู่ไหม คุณ ดูตอนนี้ฉันสวยแค่ไหน แล้วคุณดูตอนนี้คุณดูแก่แค่ไหน”
ชายชราไม่เพียงไม่โกรธ กลับหัวเราะขึ้นมา “เสื้อตัวนี้ผมเป็นคนซื้อให้คุณนะ”
หญิงชราพูดอย่างดีใจ “ตาคนขี้งก ไม่ให้ฉันออกไปเต้นแอโรบิก”
ชายชราหน้าดำ “นี่มันเรื่องของพฤติกรรม”
หญิงชราอดยิ้มไม่ได้ ริ้วรอยบนใบหน้าก็ผ่อนคลายลงมาก จู่ๆ เธอก็พูดว่า “เอาเถอะ เอาเถอะ เดี๋ยวฉันร้องเพลงให้ฟัง ร้องเพลง ‘รักใต้ต้นซานจา’ ที่คุณชอบดีไหม”
คนแก่ได้ยินแล้ว สีหน้าผ่อนคลายลงมาก
ตอนนี้เอง จู่ๆ เฉินชางก็ได้ยินหญิงชราเริ่มฮัมเพลงอันคุ้นเคยเสียงเบา
‘ดอกซานจาบานสะพรั่งทั่วต้นไม้
บทเพลงกระเพื่อมอย่างแผ่วเบา
บนผิวน้ำในเวลาพลบค่ำ
เงาสะท้อนโรงงานส่องแสงประกาย’
นี่คือเพลงที่เก่ามากเพลงหนึ่ง มีชื่อว่า ‘รักใต้ต้นซานจา’ ซึ่งเป็นเพลงแห่งความทรงใจของผู้คนในยุค 50 และ 60
ในยุค 50 และ 60 อาจเป็นช่วงวัยรุ่นของพวกเขา และเพลงรักใต้ต้นซานจา เป็นความทรงจำในช่วงวัยรุ่นของคนรุ่นนั้น…
ก็เหมือนเจย์โชว สตีเฟ่นโจวที่เป็นความทรงจำของคนยุคหลัง 90
แม้คุณป้าจะอายุแปดสิบกว่าแล้ว แต่เสียงยังดีมาก เพียงฮัมเพลงเบาๆ กลับทำให้บรรยากาศในห้องฉุกเฉินเปลี่ยนไป
เสียงไม่ดังมาก ถึงขั้นที่เบามากด้วยซ้ำ หญิงชราเพียงแค่ร้องเบาๆ ให้ชายชราฟัง
ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นกลางคืน เสียงรอบข้างค่อนข้างเงียบ คนอื่นๆ คงไม่ได้ยินด้วยซ้ำ
ผ่านไปครู่หนึ่ง ชายชราฟังไปฟังมาก็หลับไป
หญิงชราอดยิ้มไม่ได้
ส่วนจ้าวตันเยี่ยนและสวีจื่อหมิงต่างได้รับผลกระทบจากเรื่องราวที่เกิดขึ้นในคืนนี้
สวีจื่อหมิงเป็นฝ่ายพูดขึ้นก่อน “คุณ…ง่วงไหมครับ เดี๋ยวผมไปซื้อกาแฟให้”
จ้าวตันเยี่ยนอดมองบนไม่ได้ “ฉันไม่ดื่มค่ะ!”
สวีจื่อหมิงได้ยินคำพูดของจ้าวตันเยี่ยน แม้เป็นน้ำเสียงกล่าวโทษ แต่ก็อดยิ้มไม่ได้
นี่ก็หมายความว่า สถานการณ์ดีขึ้นมากแล้ว
หลังจากชายชราหลับไป จ้าวตันเยี่ยนดูสถานการณ์แล้วพูดว่า “ส่งตัวคนไข้ไปที่ห้องสังเกตอาการ ห้องฉุกเฉินไม่เหมาะเท่าไร ไม่มีเครื่องมือที่จำเป็นต้องใช้”
หญิงชราพยักหน้าตอบรับ
ทุกคนจึงช่วยกันส่งตัวชายชราไปที่ห้องสังเกตอาการ
ส่วนหญิงชราหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่งออกมาผูกบนมือของชายชราโดยไม่ได้พูดอะไร
สมัยนี้ไม่มีใครใช้ผ้าเช็ดหน้าแล้ว แต่หญิงชรากลับยังพกอยู่ตลอด
เฉินชางอดพูดไม่ได้ “คุณป้าครับ คุณป้าไปพักที่ห้องผู้ป่วยห้องข้างๆ ไหมครับ”
หญิงชรายิ้มพูด “ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่ง่วง พออายุมากขึ้นก็นอนน้อยลง”
จู่ๆ จ้าวตันเยี่ยนก็พูดอย่างอิจฉา “พวกคุณรักกันมากจริงๆ น่าอิจฉาจริงๆ เลยค่ะ!”
หญิงชราส่ายหน้า “อิจฉาอะไรกันเล่า ทะเลาะกันมาทั้งชีวิตแล้ว คนเราอยู่ด้วยกันก็แบบนี้แหละ ก่อนแต่งงานน่ะ อะไรๆ ก็ดีไปหมด แต่ก็แค่เสแสร้ง หลังจากแต่งงานกัน เสแสร้งไม่ไหวแล้ ว แต่เสแสร้งไม่ได้แล้วด้วย ก็เหมือนลิ้นกับฟันที่กระทบกระทั่งกันตลอด!”
คำพูดนี้ทำให้เฉินชาง สวีจื่อหมิง จ้าวตันเยี่ยนและพวกพยาบาลรู้สึกขำขึ้นมา
เพราะมันเป็นแบบนั้นจริงๆ
หญิงชราพูดต่อว่า “ความจริงหลังแต่งงานต่างหากที่เป็นจุดเริ่มต้นของการใช้ชีวิตคู่ ทำให้คนสองคนกลายเป็นคนคนเดียวกันอย่างแท้จริง ทำให้การใช้ชีวิตของสองคนกลายเป็นการใช้ชีวิตข ของครอบครัว พอนานเป็นหลายสิบปี ก็แยกจากกันไม่ได้แล้ว”
จู่ๆ หญิงชราก็มองจ้าวตันเยี่ยนและสวีจื่อหมิงแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้ม “พวกคุณเป็นสามีภรรยากันใช่ไหมคะ”
ประโยคนี้ทำให้ทุกคนอึ้ง “คุณรู้ได้อย่างไรคะ”
หญิงชราอดยิ้มไม่ได้ “มันชัดเจนมาก มากกว่านี้ก็ต้องเขียนบนหน้าแล้ว”
หลังจากเฉินชางและพวกพยาบาลได้ยินแล้ว ก็นับถือสายตาอันเฉียบคมของหญิงชรา
หญิงชรายิ้ม “อายุมากขึ้น ก็จะเจอคนมากขึ้น มีเรื่องเข้าใจผิดอะไรกันอย่าเย็นชาใส่กัน คุยกันให้เข้าใจแล้วจะรู้ว่ามันเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย”
………………………………………………..
[1]ยูโรไคเนส ช่วยให้ร่างกายผลิตสารบางอย่างที่จะมาละลายลิ่มเลือดที่ไม่ต้องการ