เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 1160 ทำได้กับผีสิ!
เฉินชางพูดประโยคนี้ด้วยความมั่นใจเต็มเปี่ยม!
มากเสียจนทั้งหัวหน้าอวี๋และหัวหน้าเป้ยต่างตกตะลึง
แผนกศัลยกรรมประสาทเป็นแผนกที่สำคัญของโรงพยาบาลทุกแห่ง การจะบ่มเพาะศัลยแพทย์ประสาทคนหนึ่งได้นั้นสุดแสนจะยากลำบาก
ทำนองเดียวกัน การจะฝึกฝนศัลยแพทย์ประสาทชั้นยอดได้นั้นยากยิ่งกว่า!
หัวหน้าอวี๋รู้ว่าเฉินชางกำลังโกรธ เพราะเรื่องของหมี่ตี้ ใครได้ฟังก็ต้องสงสาร บางคนอาจถึงขั้นคิดว่าผู้หญิงคนนี้ออกจะโง่เขลา!
แต่ผู้หญิงแบบนี้ ไม่มีใครเกลียดเธอได้ลงคอ
มากที่สุดก็คงจะโกรธที่เธอโง่เขลาและไร้เดียงสากระมัง
แต่ในโลกนี้ ใครจะเกลียดคนใสซื่อแบบนี้ได้
หัวหน้าอวี๋ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วตบไหล่เฉินชาง “ใจเย็นๆ ก่อน!
ผมเชื่อในศักยภาพของคุณ แต่…เรื่องนี้คุณต้องใจเย็นๆ ค่อยๆ ทำไปทีละขั้น”
เฉินชางเข้าใจสิ่งที่หัวหน้าอวี๋จะสื่อ เขาสื่อถึงเซวียตงเป็นนัยๆ บอกให้เฉินชางใจเย็นลงสักนิด
เฉินชางยิ้ม “ขอบคุณนะครับหัวหน้า ผมเข้าใจ”
หัวหน้าอวี๋พยักหน้า หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโทรหาใครบางคน “นายอยู่ที่ไหน
เข้าส้วม” เสียงของเหลาหม่าค่อนข้างขัดกับบรรยากาศ
เส้นเลือดบนหน้าผากของอวี๋หย่งกังปูดขึ้น เขาเงียบไปสามวินาที “มาที่โถงหน่อย ฉันมีงานให้นายทำ!”
หลังจากนั้นไม่นาน เหลาหม่าก็เดินมาอย่างสบายอารมณ์
อวี๋หย่งกังเห็นหมอนี่แล้วก็รู้สึกหงุดหงิด “เฉินชางจะไปผ่าตัดระบายเลือดคั่งใต้เยื่อหุ้มสมอง นายก็เข้าผ่าตัดด้วย ช่วยดูแลหน่อย”
หม่าเยว่ฮุยเป็นหนึ่งในสมาชิกของทีมมือฉมัง เชี่ยวชาญด้านศัลยกรรมกระดูกและระบบประสาท หัวหน้าอวี๋จึงค่อนข้างไว้ใจ
แต่พอเหลาหม่าได้ยินว่าหัวหน้าอวี๋จะให้เฉินชางผ่าตัดแบบนี้ ร่างกายก็พลันสั่นสะท้านโดยไม่รู้ตัว สีหน้าซีดเผือด!
“หัวหน้า พูดจริงเหรอ ให้เฉินชางผ่าตัดระบายเลือดคั่งใต้เยื่อหุ้มสมองเหรอ”
หัวหน้าอวี๋พยักหน้า “รีบไปเถอะ ผู้ป่วยชื่อหมี่ตี้”
พูดจบ อวี๋หย่งกังก็หันหลังเดินจากไป
เหลาหม่ายืนอึ้งอยู่ที่เดิมหันไปมองเฉินชางด้วยสีหน้าว่างเปล่า “ลูกพี่เฉิน เราไม่เคยทำเวรทำกรรมต่อกัน คุณจะทำลายอาชีพของฉันจริงๆ เหรอ”
เฉินชางไม่สนใจเหล่าหม่า เขาเดินตรงไปหาหมี่ตี้ในห้องฉุกเฉินแล้วยื่นเอกสารให้เธอเซ็น
หมี่ตี้มองเฉินชางด้วยสายตาแน่วแน่ “คุณหมอเฉิน ห้ามให้เซวียตงผ่าตัดให้ฉันเด็ดขาดเลยนะคะ!”
เฉินชางยิ้ม “ครับ ไม่ต้องห่วง ทีมพวกเราเก่งกว่าเขาเยอะ”
เป้ยหย่งคังได้ยินประโยคนี้ อดเท้าเอวเชิดหน้าขึ้นอย่างภูมิใจไม่ได้
แต่เหล่าหม่ากลับหวาดกลัว
เขารู้สึกว่าเฉินชางเปลี่ยนไป เจ้าเด็กนี่รู้จักโกหกซะแล้ว
นี่มันผ่าตัดระบบประสาทเชียวนา ลูกพี่เฉิน อย่าทำอะไรให้มันยุ่งยากเลยนะ ตอนนี้ฉันใจสั่นไปหมดแล้ว!
แต่ตอนนี้ ถึงโกหกไปก็ไม่มีประโยชน์!
สิบนาทีต่อมา ห้องผ่าตัดโทรมาบอกให้เตรียมตัวได้แล้ว
เฉินชางมองเป้ยหย่งคัง เหล่าหม่าและแพทย์อีกสองคน เขาพยักหน้าเอ่ย “ไปกันเถอะ!”
จริงๆ แล้วเป้ยหย่งคังแอบตื่นเต้นอยู่นิดหน่อย!
ไม่ว่าจะพูดอย่างไร เขายังอยากเชื่อว่าเฉินชางผ่าตัดระบบประสาทได้
เพราะศาสตราจารย์เฉินคนนี้ไม่ใช่คนธรรมดา!
เขาถูกขนานนามว่า ‘ผู้จุดไฟแห่งวงการ’
ศาสตราจารย์เฉินคนนี้ ไปผ่าตัดที่ไหน แผนกไหนก็เฟื่องฟู
ไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น เขาเพิ่งจะมาอยู่ที่ศูนย์ฉุกเฉินได้นานแค่ไหนกันเชียว
ตอนนี้เขามีอิทธิพลในแผนกศัลยกรรมทั่วไปและศัลยกรรมหัวใจมากแค่ไหนแล้ว
นี่ไม่ใช่แผนกหนักๆ ด้วยซ้ำ!
แผนกฉุกเฉินหก ทีมสี่ จริงๆ แล้วเป็นแผนกที่ค่อนข้างจะอีหลักอีเหลื่อ แม้ว่าทีมของพวกเขาจะก่อตั้งขึ้นเพื่อเติมเต็มส่วนที่ขาดของแผนกศัลยกรรมประสาท
แต่แผนกศัลยกรรมประสาทถูกตั้งขึ้นมาแบบจริงจัง ดังนั้นเคสผ่าตัดส่วนใหญ่จึงไปลงที่นั่น ส่วนที่เหลือก็เป็นเพียงเคสผ่าตัดเล็กๆ น้อยๆ ที่คนอื่นไม่อยากทำ
แล้วแบบนี้จะพัฒนาได้อย่างไร
สำหรับหมอที่ทำงานด้านทักษะฝีมือแบบนี้ ยิ่งมีทักษะมากเท่าไหร่ก็ยิ่งหาเงินได้มากขึ้นเท่านั้น
ใครๆ ก็ต้องเลี้ยงครอบครัว ใครบ้างไม่อยากเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ ที่จะช่วยเพิ่มเงินเดือน
ดังนั้นแผนกฉุกเฉินทีมสี่จึงเป็นแผนกที่เงียบสงบมาก
เป้ยหย่งคังหวังว่าเฉินชางจะพาพวกเขาไปสู่การเปลี่ยนแปลงใหม่ๆ บ้าง
แต่ตอนนี้เหล่าหม่ากลับรู้สึกกังวล ถือประวัติและผลตรวจของหมี่ตี้
“ไอ้หยา หลอดเลือดดำสมองอุดตันแล้วก็บวม ทำให้เกิดเลือดคั่งใต้เยื่อหุ้มสมอง! แต่ว่า…หมอเฉิน คุณต้องระวังตำแหน่งของหลอดเลือดดำสมองให้ดีล่ะ ตรงนี้มีกลุ่มเส้นเลือดอยู่ด้วย!
แล้วก็ ลองดูบริเวณนี้สิ อาการบวมต้องทำให้เนื้อเยื่อบางส่วนตายแน่ๆ การล้างแผลต้องทำอย่างละเอียด สิ่งสำคัญคือต้องไม่ทำลาย…”
ตอนนี้เหล่าหม่ากลายเป็นคุณแม่จอมจู้จี้!
เพื่ออาชีพของเขา เหล่าหม่าทุ่มเทสุดชีวิต
เขารู้สึกว่า CPU ของเขาไม่เคยทำงานหนักขนาดนี้มาก่อน
ตอนล้างมือ เหล่าหม่าแทบจะร้องไห้ด้วยความอัดอั้นตันใจ “ลูกพี่เฉินครับ ลูกพี่ที่รัก หรือว่า…ให้ผมผ่าแทนดีไหม”
เฉินชางล้างมือเสร็จก็มองเหล่าหม่า “หัวหน้าหม่า ผมผ่าตัดระบบประสาทได้จริงๆ!”
หม่าเยว่ฮุยโกรธจัด “ทำได้? ทำได้กับผีสิ พูดมาได้!”
เฉินชางไม่โกรธ เขาล้างมือเดินเข้าห้องผ่าตัด สวมชุดผ่าตัด และการผ่าตัดก็เริ่มขึ้น
พยาบาลยังไม่ได้โกนผม ต้องระบุตำแหน่งก่อน
การวินิจฉัยตำแหน่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับศัลยแพทย์ประสาท
จากผลตรวจทางคลินิก เช่น CT MRI และ DSA แพทย์จะวิเคราะห์ตำแหน่งของรอยโรคและความสัมพันธ์ของโครงสร้างโดยรอบอย่างละเอียดก่อนการผ่าตัด เพื่อเลือกแนวทางการผ่าตัดที่เหมาะสม ช่วยใ ให้มองเห็นรอยโรคได้ชัดเจน หลีกเลี่ยงโครงสร้างสำคัญในกะโหลก เพิ่มความปลอดภัยในการผ่าตัด และบรรลุผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
ปัจจุบัน การผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะไม่จำเป็นต้องโกนผมทั้งหมด หลังจากแพทย์ผู้นำทีมระบุตำแหน่งที่แน่ชัดได้แล้ว พยาบาลจะเริ่มเตรียมผิวหนังโดยการสระผมและโกนผม!
ยิ่งไปกว่านั้น การผ่าตัดเปิดกะโหลกศีรษะส่วนใหญ่ในปัจจุบันเป็นการผ่าตัดด้วยกล้องส่อง ซึ่งต้องใช้ทักษะการผ่าตัดด้วยกล้องส่องของแพทย์สูง
เพราะกระบวนการผ่าตัดและภาพที่เห็นจะสลับฝั่งกัน จำเป็นต้องมีประสาทสัมผัสรับรู้พื้นที่และการควบคุมที่ดี
สิ่งนี้ไม่เพียงแต่ต้องฝึกฝน แต่พรสวรรค์ก็สำคัญเช่นกัน!
เฉินชางเดินไปถึงศีรษะของหมี่ตี้ พูดกับพยาบาล “โกนผมตรงนี้ก็พอ บริเวณอื่นเหลือไว้ได้”
เฉินชางมีแผนภาพในหัว ประกอบกับผล CT และ MRI ของศีรษะ เมื่อภาพในหัวซ้อนทับกับภาพของผู้ป่วย เขาก็ระบุตำแหน่งได้อย่างแม่นยำและรวดเร็ว!
เหล่าหม่าเห็นเฉินชางเดินมา ชี้นิ้วไปที่ตำแหน่งผ่าตัดสุ่มสี่สุ่มห้า หัวใจก็หล่นวูบ กระซิบเตือนเสียงแผ่ว “ระวังหน่อย!”
พยาบาลเริ่มสระผม โกนผม เตรียมผิวหนัง
หลังจากนั้นไม่นาน หนังศีรษะก็ถูกโกนออกเป็นส่วนหนึ่ง เฉินชางเริ่มทำเครื่องหมาย
เมื่อเห็นเครื่องหมายนี้ เหล่าหม่าก็โล่งอกพลางพึมพำในใจ เจ้าเด็กนี่ผ่าตัดศัลยกรรมประสาทเป็นจริงๆ ใช่ไหมเนี่ย!
เพราะเครื่องหมายที่ทำนั้นเป็นมืออาชีพมาก ตำแหน่งนี้เหมาะแก่การเปิดกะโหลกมากที่สุด
ฝ่ายเป้ยหย่งคังเองก็รู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาเช่นกัน
เฉินชางเดินออกไปล้างมืออีกครั้ง กลับมาใส่เสื้อผ้า แล้วเตรียมตัวเริ่มการผ่าตัด!