เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 1163 ใช้กล้ามเนื้อหัวใจมากไปหน่อย
ผมจะใช้สองมือนี้ทำฝันของคุณให้สำเร็จ!
ประโยคนี้ดูเป็นภาพลักษณ์ของหมอศัลยกรรมจริงๆ
แต่ในใจของเหล่าหม่า นี่เกือบจะเป็น ‘เฉินชางจะใช้สองมือทำลายความฝันของตัวเอง’
ผ่าตัดมาจนถึงตอนนี้ หม่าเยว่ฮุยรู้แล้วว่าตอนนั้นที่ตัวเองเลือกให้เฉินชางเข้าร่วมทีมมือฉมังเป็นเรื่องที่ผิดพลาดขนาดไหน
ถึงอย่างไร…เด็กนี่ก็เก่งอยู่หรอก แค่เขาต้องใช้กล้ามเนื้อหัวใจมากไปหน่อย ทุกครั้งที่ผ่าตัด เหล่าหม่าจะรู้สึกว่าเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจของตัวเองตายไปบางส่วน
พวกเราคบหากันแบบสงบสุขหน่อยได้ไหม
อีกอย่าง เด็กนี่เก่ง แต่เด็กนี่ดันเข้าข้างคนอื่น ซึ่งไม่สมเหตุสมผลสักนิด!
ฉันตามล้างตามเช็ดให้นายนานขนาดนี้ นายไม่สอนฉันสักครั้ง
ตรงกันข้ามกับสวีจื่อหมิงและเหอจื้อเชียนที่เลียแข้งเลียขาเต็มประดา นี่ทำให้เหล่าหม่ารู้สึกไม่พอใจอยู่บ้าง
ทางฝั่งนี้ ทุกคนเห็นขั้นตอนที่ดูดลิ่มเลือดสำเร็จคร่าวๆ แต่กลับดูขั้นตอนสำคัญไม่เข้าใจจริงๆ
เมื่อครู่นี้เฉินชางผ่าตัดไวเกินไปแล้ว!
หรือควรพูดว่าลื่นไหลเกินไป นั่นเหมือนจะเป็นการผ่าตัดใต้เลนส์ แถมยังเป็นการผ่าตัดกะโหลกที่ไหน
ชั่วขณะนั้น หลังพวกเป้ยหย่งคังเห็นฉากนี้ก็ตอบสนองไม่ทันจริงๆ ได้แต่ร้องตะโกนยอดๆๆ!
ดูดลิ่มเลือดสำเร็จ เย็บโพรงหลอดเลือดดำก็สำเร็จแล้ว!
ขั้นตอนสำคัญของการผ่าตัดประสบความสำเร็จภายใต้การผ่าตัดของเฉินชางเพียงคนเดียว
อืม พูดแบบนี้ไม่ถูกอยู่บ้าง ควรจะพูดว่าภายใต้การช่วยส่งเครื่องมือแพทย์ของหม่าเยว่ฮุย และท่ามกลางการชมการต่อสู้ของทีมเชียร์ลีดเดอร์เป้ยหย่งคัง เฉินชางจัดการการผ่าตัดสำคัญได ด้อย่างราบรื่น
จากนั้นก็คือการเก็บงานแล้ว
การกำจัดลิ่มเลือดเมื่อครู่นี้ความจริงก็เป็นประเภทหนึ่งของเทคนิคการผ่าตัดเนื้อตาย แต่เป็นการผ่าตัดที่เกิดขึ้นจากการปรับปรุงและพัฒนา
นึกไม่ถึงว่าจะประสบความสำเร็จอย่างยิ่ง!
แต่นี่ก็ทำให้เฉินชางตระหนักถึงส่วนที่ขาด นั่นก็คือเขายังขาดโครงสร้างกายวิภาคสมองกับการวิเคราะห์การทำงานอยู่อีกหน่อย
ในการผ่าตัดระดับสูงยิ่งขึ้น ไม่เพียงแค่การซ่อมแซมและการตกแต่งที่ประสบความสำเร็จ นอกจากนั้นยังควรรวมถึงขั้นตอนที่สำคัญที่สุดอย่าง ‘การฟื้นฟู’!
ภายใต้พื้นฐานที่ว่าผ่าตัดอย่างไรจึงจะไม่ทำลายเนื้อเยื่อของร่างกาย ทำการฟื้นฟูเนื้อเยื่อที่ดียิ่งกว่า นี่เป็นขั้นตอนที่ยาวนาน
ก็เหมือนกับการผ่าตัดฟื้นฟูทางเดินอาหาร!
จะฟื้นฟูโครงสร้างและการทำงานของเนื้อเยื่อให้ดีขึ้นหลังจากกำจัดเนื้อเยื่อตายและเนื้อเยื่อที่ไม่แข็งแรงได้อย่างไร นี่จึงจะเป็นแก่นสำคัญ
ชั่วขณะนั้น เฉินชางก็พลันนึกถึงประโยคหนึ่งที่ผู้อาวุโสท่านหนึ่งเคยพูดไว้ ‘ขอบเขตสูงสุดของหมอศัลยกรรม ก็คือหมออายุรศาสตร์’
การจัดการของเฉินชางประณีตจริงๆ หมดจดเท่าที่เขาจะทำได้
หลังทำความสะอาดเลือดภายในปากแผลทั้งหมดเสร็จ เย็บขอบของเยื่อหุ้มสมองชั้นนอกกลับเข้ากล้ามเนื้อขมับ เขาก็เริ่มงานปิดกะโหลกทีละน้อย
ตลอดทั้งการผ่าตัดราบรื่นมาก แค่ในระหว่างขั้นตอนเย็บเยื่อหุ้มสมองชั้นนอก เฉินชางก็สัมผัสถึงความลื่นไหลคล่องแคล่วของสองมืออีกครั้ง
การเย็บเยื่อหุ้มสมองชั้นนอกจำเป็นต้องคงความดันภายในกะโหลก ดังนั้นการเย็บจึงต้องการความนิ่งด้วยเช่นกัน!
นี่ก็คืองานที่ทดสอบหมอศัลยกรรมประสาท
มิหนำซ้ำอันที่จริงการผ่าตัดส่องกล้องสัมผัสถึงความลึกไม่ได้
ในหน้าจอส่งมาได้แค่ภาพพื้นเรียบ ตอนที่มองเลนส์ผ่าตัดก็ไม่รู้สึกถึงความลึก ดังนั้นการสั่นเพียงเล็กน้อยจึงกระทบต่อผลการผ่าตัดได้
ดังนั้นแค่คิดดูก็รู้ว่าเฉินชางทำการผ่าตัดนี้สำเร็จภายใต้สถานการณ์แบบไหน
อาการป่วยของผู้ป่วยค่อนข้างเบา จึงไม่ต้องจัดการยุ่งยากมากมาย
ไม่นานก็ปิดกะโหลกเสร็จสิ้น
เฉินชางคิดไปคิดมา ตัดสินใจไม่ส่งหมี่ตี้ไปฟื้นฟูที่แผนกศัลยกรรมประสาท แต่ฟื้นฟูที่แผนกฉุกเฉิน
นึกถึงตรงนี้ เฉินชางก็พูดกับเป้ยหย่งคังที่อยู่ด้านข้าง “หัวหน้าเป้ย ให้คนไข้อยู่ที่ห้องสังเกตอาการ ICU ของพวกเรานี่แหละครับ ปกติคุณก็มีงานมาก ลำบากแล้ว”
เป้ยหย่งคังได้ยินดังนั้น ในที่สุดก็เข้าใจว่าคุณค่าของตัวเองอยู่ที่ไหน เขารีบพยักหน้ารับ!
“ไม่มีปัญหา ศาสตราจารย์เฉินวางใจได้!”
จนกระทั่งเฉินชางออกจากห้องผ่าตัดไปล้างมือ ทุกคนจึงค่อยได้ขบคิดว่าการผ่าตัดเมื่อครู่นี้สุดยอดขนาดไหน
วิสัญญีแพทย์มองหม่าเยว่ฮุย “ศาสตราจารย์เฉินชางคนนี้ยังผ่าตัดศัลยกรรมเส้นประสาทได้ด้วย! ทำไมไม่เคยเห็นมาก่อนเลยล่ะ”
หม่าเยว่ฮุยได้ยินดังนั้นก็ยิ้มลึกลับทันที “คุณเคยเห็นเฉินชางผ่าตัดอะไรไม่เป็นบ้างล่ะ”
ประโยคเดียวทำให้วิสัญญีแพทย์อึ้งแล้ว!
ความจริงห้องผ่าตัดในฐานะที่เป็นห้องแผนกที่พิเศษ โดยปกติพยาบาลมักจะพูดคุยกับวิสัญญีแพทย์
ส่วนเฉินชางก็เป็นประเด็นสนทนาที่สำคัญที่สุดของพวกเขา!
ผ่านคำพูดของเหล่าหม่า ทุกคนก็ชะงักงันแล้ว ถึงจะอยากโต้เถียง แต่…อ้าปากก็ไม่รู้จะเถียงอย่างไร
เหล่าหม่าแสร้งทำตัวลึกลับเดินออกไปจากในห้องผ่าตัด เหมือน...เฉินชางเก่งกาจ ก็เท่ากับว่าเหล่าหม่าเก่งกาจ
“ฝีมือผ่าตัดของศาสตราจารย์เฉินชางร้ายกาจจริงๆ!” วิสัญญีแพทย์เลี่ยวซวี่ทอดถอนใจ
“ผมก็นับว่าเห็นคนผ่าตัดศัลยกรรมประสาทมาไม่น้อย แต่บอกตามตรง พูดถึงแค่การผ่าตัดเอาสิ่งแปลกปลอมออก ผมไม่เคยเห็นใครทำได้ดีกว่าเฉินชางแล้ว!”
หลังเลี่ยวซวี่พูดจบ ทุกคนก็มองเขาด้วยความสงสัย “โอเวอร์เกินไปหรือเปล่า”
เลี่ยวซวี่ส่ายหน้า “การผ่าตัดศัลยกรรมประสาทไม่เหมือนกับการผ่าตัดอื่นๆ แค่แวบเดียวก็มองระดับออก หมายความว่าการผ่าตัดในวันนี้เป็นการผ่าตัดศัลยกรรมประสาทที่ลื่นไหลที่สุดเท่าที่ ผมเคยเห็นมา!
ผมไม่เคยเห็นใครคนหนึ่งเปลี่ยนเครื่องมือได้ตามใจผ่าตัดได้ลื่นไหลในพื้นที่เล็กๆ แบบนี้ได้ด้วยตัวคนเดียว แถมยังเสร็จสิ้นการผ่าตัดได้สะอาดเอี่ยม!”
พยาบาลที่อยู่ด้านข้างอดถามไม่ได้ “หัวหน้าเลี่ยว เทียบกับเซวียตงเป็นอย่างไรบ้างคะ”
ในฐานะดาราของแผนกศัลยกรรมประสาท เซวียตงมีความนิยมสูงมาก
หล่อเหลา แต่งตัวดี มีความสามารถ ฐานะทางบ้านดี
เมื่อเอาเงื่อนไขเหล่านี้มารวมกัน อยากเป็นผู้ชายเลวๆ ก็ง่ายดาย
หลังเลี่ยวซวี่ได้ยินก็อดหัวเราะไม่ได้ “ให้เซวียเจิ้งเริ่นมาก็ใช่ว่าจะทำได้ดีกว่าศาสตราจารย์เฉิน เขานับเป็นอะไร”
หลังพูดจบเลี่ยวซวี่ก็มองพยาบาลสาวรอบกาย คิดไปคิดมาเขาก็เสริมอีก “พวกคุณยังไม่ได้แต่งงานกันสินะ คนเขามีลูกห้าหกขวบแล้ว อยู่ห่างจากเขาหน่อยแล้วกัน!”
เลี่ยวซวี่ก็พูดถูก
พยาบาลสาวในห้องผ่าตัดเกิดความชื่นชมต่อแพทย์ผู้นำทีมได้ง่าย
โรงพยาบาลก็เป็นก็เป็นคนกลุ่มคน มีคนหลากประเภท ใครบอกว่าหมอมีชู้ไม่ได้ล่ะ
ในห้องผ่าตัดกลับเป็นสถานที่ที่ข่าวซุบซิบแพร่ไวที่สุดแล้ว
เวลานี้เหล่าหม่าพลันย้อนกลับมา ชี้หมี่ตี้ที่ยังสลบไสล อดต่อว่าหนึ่งประโยคไม่ได้ “เซวียตงนั่นก็เป็นแค่เดรัจฉานในคราบมนุษย์!
พวกคุณดูว่าสาวน้อยคนนี้สวยขนาดไหน”
ได้ยินเหล่าหม่าพูด เลี่ยวซวี่กับพยาบาลสาวก็อดงุนงงไม่ได้
หรือว่า…คนไข้คนนี้เกี่ยวข้องกับเซวียตง
เห็นทุกคนเงียบลง เหล่าหม่าก็อดพูดไม่ได้ “พวกคุณคิดว่าหญิงสาวที่โตขนาดนี้อยู่ดีๆ จะมีเลือดออกในสมองได้อย่างไรกันล่ะ
ผมจะบอกอะไรให้ เธอกินยาคุมกำเนิดเพื่อเซวียตงมาสามปี ทำให้โปรเจสเตอโรนกับต่อมฮอร์โมนเพศผิดปกติ ระยะนานไปเลือดมีความเข้มข้นสูง ทำให้ซาจิททัลไซนัสอุดตัน!”