เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 117 ความรู้สึกขอบคุณของเซียวเถียนฮวา
ห้องพักใหม่ไม่ได้สว่างและกว้างขวางเหมือนตอนแรก พื้นที่ก็เล็กลง แต่ทิศทางรับแดดและลมไม่เลวเลย เขาใช้เวลาทั้งบ่ายกว่าจะเก็บของเสร็จ จากนั้นช่วงเย็นจึงไปที่คลินิกของจางจื้อซิน
ตอนเที่ยงวันต่อมา โทรศัพท์ของเฉินชางดังขึ้น
“พี่กินข้าวหรือยัง?”
เมื่อได้ยินเสียงก็รู้ทันทีว่าเป็นเฉินหลัว น้องชายของตน เสียงของเฉินหลัวเบาและเร็วเหมือนที่เป็นมา
เฉินชางและเฉินหลัวได้รับสืบทอดหน้าตามาจากแม่ ทำให้ดูสวยและหล่อในเวลาเดียวกัน
“เพิ่งกินไปน่ะ นายจะกลับบ้านเมื่อไหร่?”
เฉินหลัวหัวเราะ “อีกแป๊บแล้วกันครับ ระยะนี้ผมติดตามหัวหน้ากลุ่มคนหนึ่ง มีแสดงทุกวันเลย เมื่อวานผมยังได้พูดบทออกกล้องประโยคหนึ่งด้วย! ผมลองไปถามแล้ว ละครเรื่องนั้นจะออกฉายท้ายปี! เป็นละครฟอร์มยักษ์ชื่อ ตระกูลชาวยุทธ์ ผมก็ไม่รู้เหมือนกันนะครับว่าฉากที่ผมแสดงจะได้ออกฉายหรือเปล่า”
เฉินหลัวไม่เคยพูดเรื่องความทุกข์กับคนอื่น แม้จะเคยถูกตีตอนเรียนก็ยังยิ้มกลับบ้านมาบอกว่าต่อยชนะ
เฉินชางพูดว่า “เหนื่อยมากหรือเปล่า? มีเงินพอใช้ไหม? ดูแลสุขภาพด้วยนะ อย่ากินอะไรมั่วๆ ล่ะ!”
เฉินหลัวหัวเราะเสียงดัง “พี่ครับ พี่ยังไม่รู้จักผมอีกหรือ ไปที่ไหนผมก็เอาชนะคนอื่นเขาได้ตลอด คุณน้าที่ทำงานเบื้องหลังเห็นผมท่าทางไม่เลว ตอนถึงเวลาพักกินข้าวกล่องก็มักจะให้ขาไก่ผมเพิ่ม ผมรู้สึกว่าตัวเองอ้วนขึ้นด้วยซ้ำ!”
“อีกอย่างช่วงนี้ผมโชคดีมากเลยนะครับ สองเดือนมานี้ทำเงินได้ไม่น้อย ผมไปดูมาแล้วมีห้าพันกว่าหยวนเลย ค่าครองชีพปีนี้ก็ไม่ต้องขอพ่อขอแม่แล้ว”
“จริงสิพี่ วันนี้ผมว่าจะถามอะไรพี่หน่อย เรื่องกู้เงินช่วยค่าเทอมน่ะครับ…”
ตั้งแต่เด็กๆ เฉินหลัวก็มีความเป็นอิสระสูง เขาเริ่มทำงานพาร์ทไทม์ตั้งแต่มัธยมปลาย แม้จะเกเรแต่ก็ขอเงินพ่อแม่น้อยมาก หากจะพูดถึงเรื่องการใช้เงิน เฉินหลัวยังรู้จักใช้ยิ่งกว่าเฉินชางอีก
ค่าเรียนที่สถาบันนิเทศศาสตร์แพงมาก เฉินหลัวทำได้เพียงใช้เวลาช่วงหยุดเรียนไปหาเงินเพิ่ม จากนั้นก็ต้องอาศัยการกู้เงินเพื่อการศึกษา ภาระทางบ้านจะได้ไม่หนักนัก
เฉินชางได้ยินดังนั้นก็รีบพูดขึ้นทันที “นายไม่ต้องไปกู้เงินหรอก ฉันมีเงินอยู่”
ตอนนี้ในมือของเฉินชางมีเงินอยู่ไม่น้อย ประมาณสามหมื่นห้าหมื่นหยวนได้ ส่วนใหญ่เป็นเงินที่พี่เสี้ยวให้มา ส่วนเงินของประธานเจิ้งยังอยู่ในตลาดหุ้น เฉินชางไม่รู้ว่าระบบจัดการอย่างไร แต่ก็ได้รับกำไรมาบ้างเป็นบางครั้ง
กำไรนี้เท่ากับเงินรางวัลที่เฉินชางได้รับ…ไม่ขาดไม่เกินแม้แต่นิดเดียว
เฉินชางคิดอย่างละเอียด รู้สึกขอบคุณพวกเขาจริงๆ กระทั่งรู้สึกราวกับนี่ไม่ใช่ความจริง ระยะเวลาสั้นๆ เพียงหนึ่งเดือนก็หาเงินได้ถึงขั้นที่ว่าหากเป็นตัวเขาเมื่อก่อนใช้เวลาสองสามปีก็ยังหาไม่ได้
เฉินหลัวอดหัวเราะไม่ได้ “พี่ครับ พี่ไม่ต้องทำอะไรหรอก พี่มีเงินเดือนนิดเดียว รีบหาพี่สะใภ้สักคนเถอะ เดี๋ยวผมโตไปเป็นดาราแล้วจะซื้อบ้านให้พี่เอง”
เฉินชางพูดว่า “ไม่ ฉันพูดจริงจังนะ ก่อนหน้านี้ฉันได้เลื่อนตำแหน่งแล้ว ได้เป็นพนักงานบรรจุในโรงพยาบาลอันดับสองแล้ว หลายวันก่อนยังคุยกับพ่อแม่อยู่เลย ตอนนี้ฉันมีรายได้มากขึ้น ก่อนหน้านี้ก็มีผ่าตัด คนไข้เขาก็ให้มาหลายหมื่นหยวน ฉันไปทำแผลให้สวีรั่วอวิ๋นอะไรนั่นมาน่ะ”
เมื่อได้ยินชื่อสวีรั่วอวิ๋น เฉินหลัวก็เบิกตากว้าง ทั้งสองเริ่มพูดคุยซุบซิบกันทันที
หลังจากโอนเงินหนึ่งหมื่นให้เฉินหลัวแล้วก็ถูกเฉินหลัวโอนกลับมาทันที นี่ทำให้เฉินชางรู้สึกหัวเราะไม่ออกร้องไห้ไม่ได้ เด็กคนนี้ดื้อจริงๆ เลย!
หลังจากนอนตอนเที่ยงไปครู่หนึ่ง ตอนบ่ายก็ไปยังคลินิกศัลยกรรม
……
……
หลังจากเสี้ยวเถียนฮวาทำศัลยกรรมไปแล้วก็เริ่มทำงานอย่างรวดเร็ว หาคนมาทำเครื่องหมายการค้าโดยใช้หน้าตาของตนเองเป็นแบบ
เสี้ยวเถียนฮวามีธุรกิจใหญ่โตมากมาย ไม่ใช่เพียงคอกหมูเท่านั้น ยังมีผลิตภัณฑ์ที่เกี่ยวกับเนื้อหมูอยู่ด้วย ซึ่งทำยอดขายในมณฑลตงหยางได้ไม่เลวเลย
เมื่อเห็นเครื่องหมายการค้าอยู่บนบรรจุภัณฑ์ของตน เสี้ยวเถียนฮวาก็รู้สึกว่าความปรารถนาในใจประสบผลสำเร็จ!
หลายวันนี้ข่าวศัลยกรรมของเสี้ยวเถียนฮวาแพร่กระจายออกไปไวดุจไฟป่า พวกเพื่อนๆ และเพื่อนสนิทผู้หญิงของเธอเห็นผลแล้วก็รู้สึกอิจฉา นี่ทำให้เสี้ยวเถียนฮวารู้สึกราวกับใบหน้าส่องแสงได้
อย่างไรเสียการถูกผู้หญิงด้วยกันอิจฉาก็ถือเป็นเกียรติอย่างหนึ่ง!
ระหว่างผู้หญิงด้วยกัน หากความสัมพันธ์ดีก็ดีไป แต่ต่อให้ความสัมพันธ์ดีอย่างไรก็ยังอดเปรียบเทียบกันไม่ได้ โดยเฉพาะเรื่องความสวยงามเป็นสิ่งที่ผู้หญิงให้ความสนใจที่สุด ทุกคนเห็นเสี้ยวเถียนฮวาทำศัลยกรรมจนสวยขนาดนี้ก็อิจฉาจนตาร้อน
สองสามวันมานี้เสี้ยวเถียนฮวาไม่ว่างเลย หลังจากจัดการเรื่องเครื่องหมายการค้าเสร็จแล้วก็ทำการตลาดต่อ โดยไปโฆษณาในโทรทัศน์ช่องของตงหยาง ไปออกรายการโทรทัศน์ทุกวัน มีนักข่าวไปที่โรงงานของเสี้ยวเถียนฮวาแทบจะทุกวันเว้นวัน
ใบหน้าหลังศัลยกรรมของเสี้ยวเถียนฮวาเข้าคู่ได้ดีกับชุดกี่เพ้าชั้นสูง ผมทำเป็นทรงที่ดูแล้วใจดี แต่งหน้าเล็กน้อย ไม่ทันไรก็มีความโดดเด่นขึ้นมา!
นักข่าวเป็นหญิงสาวที่อายุไม่เยอะ อายุเพียงยี่สิบกว่าปี เธออดกล่าวชมไม่ได้ว่า “ประธานเสี้ยวถือเป็นผู้ที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงจริงๆ นะคะ ครอบครัวร่ำรวย ธุรกิจประสบความสำเร็จดี แล้วยังมีหน้าตาสวยงามขนาดนี้ด้วย ดีจริงๆ เลยค่ะ!”
หากคำพูดนี้ถูกนำมาพูดเมื่อครึ่งเดือนก่อน เสี้ยวเถียนฮวาจะต้องคิดว่าอีกฝ่ายประจบประแจงแน่นอน กระทั่งอาจคิดว่าอีกฝ่ายพูดไร้สาระโดยไม่ลืมหูลืมตา
แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกันแล้ว! เธอคิดว่าคำพูดของอีกฝ่ายคือความจริง! ชมว่าเธอสวยเหมือนนางฟ้าก็เป็นความจริง!
แม้แต่ตัวเสี้ยวเถียนฮวาเอง ตอนส่องกระจกทุกวันยังคิดว่าตัวเองฝันไป!
นักข่าวพูดต่อไปว่า “ประธานเสี้ยวคะ ฉันคิดว่าคุณจ้างใครทำโฆษณาก็ยังสู้ทำเองไม่ได้หรอก คุณมีลักษณะที่ดี คนทั่วไปเห็นก็รู้สึกสบายใจ!”
คำพูดนี้ทำให้เสี้ยวเถียนฮวารู้สึกราวกับมีดอกไม้เบ่งบานอยู่ในใจ! เธอถูกคำพูดของอีกฝ่ายทำเอาใจเต้นแล้วจริงๆ!
หากเชิญดารามาทำโฆษณาจะต้องจ่ายเงินหลายแสนหยวน ตนเองทำศัลยกรรมเพิ่งจะเสียเงินไปไม่กี่แสน คราวนี้จู่ๆ เสี้ยวเถียนฮวาก็คิดว่าตนไม่ขาดทุนเลยสักนิด!
เมื่อโฆษณานี้ถูกฉาย ลูกค้าก็พบว่าเครื่องหมายการค้ามีการเปลี่ยนแปลง กระทั่งเสี้ยวเถียนฮวาพบปัญหาอย่างหนึ่ง นั่นก็คือจำนวนการซื้อเพิ่มมากขึ้น! มีการจองสินค้ามากขึ้น!
นี่ทำให้เสี้ยวเถียนฮวามีความสุขมาก เมื่อจัดการทางนี้เสร็จแล้วก็อยากไปขอบคุณเฉินชางสักหน่อย แต่เมื่อคิดว่าหากไปเช่นนี้เสี่ยวเฉินผู้มีหลักการคงไม่ยอมรับเงินแน่นอน คิดไปคิดมาเสี้ยวเถียนฮวาก็เกิดความคิดบางอย่าง คิดวิธีการดีๆ ได้แล้ว!
วันต่อมาเธอก็รวบรวมกลุ่มเพื่อนผู้หญิงของตน เชิญเหล่าพี่สาวน้องสาวผู้ร่ำรวยมาไม่น้อย ทุกคนมารวมตัวกัน กินดื่มร้องเพลงแล้วพากันไปนวด
พวกเธอมองเสี้ยวเถียนฮวาด้วยความอิจฉา “พี่เสี้ยว? พี่ไปทำศัลยกรรมกับใครมา? ทำได้ดีเลยทีเดียว แนะนำให้ทุกคนหน่อยสิ ฉันก็อยากไปลองทำดูเหมือนกัน?”
เสี้ยวเถียนฮวาได้ยินดังนั้น ในใจก็รู้สึกยินดีขึ้นมาโดยพลัน แต่เธอกลับทำเพียงยิ้มอย่างเรียบเฉย ไม่ได้พูดอะไรมากมาย
เรื่องพูดจะต้องพูดแน่นอน แต่ไม่ใช่ตอนนี้ หากพูดเร็วเกินไปทุกคนจะไม่ทำอะไร รู้หรือเปล่าว่าอะไรคือการตลาดแบบยั่วความอยาก!?
เสี้ยวเถียนฮวายิ้ม “เป็นน้องชายคนหนึ่งของฉันน่ะ เพิ่งทำมาพอดี แต่ช่วงนี้เขายุ่งมาก พวกเธออยากทำก็ให้ข้อมูลติดต่อกับฉันไว้สิ แต่ว่า…ค่าแนะนำไม่ถูกหรอกนะ!”
เมื่อเธอพูดออกมาเช่นนี้ เพื่อนผู้ร่ำรวยจะทนได้ที่ไหนกัน!
นี่หล่อนกำลังดูถูกใครอยู่? บ้านใครไม่มีเงินบ้าง! พวกเธอไม่ขาดเงินอยู่แล้ว
เมื่อพูดถึงขั้นนี้แล้ว เสี้ยวเถียนฮวาก็ยิ้มออกมา “ฉันขอพูดตรงๆ กับทุกคนแล้วกัน ก่อนหน้านี้ฉันศัลยกรรมล้มเหลว ทุกคนก็คงเห็นสินะ นั่นมันทำร้ายฉันจริงๆ น้องชายคนนี้ของฉันรู้เข้าจึงวางแผนให้ฉันเสร็จสรรพ ทุกคนเห็นหรือเปล่า? เขาออกแบบใบหน้าเพื่อฉันโดยเฉพาะ แตกต่างจากรูปแบบที่มีเกลื่อนตลาดพวกนั้น ใบหน้าก่อนหน้านี้ของฉันพวกเธอก็คงรู้ดี ฉันไปแต่งตามานิดหน่อย ไม่ทันไรก็กลายเป็นสภาพนั้นแล้ว!”
“ทุกคนไม่ต้องเรียกมันว่าการศัลยกรรมหรอก ควรเรียกมันว่าการปรับแต่งมากกว่า! ซึ่งก็คือการทำให้จุดเด่นของพวกเธอเด่นขึ้น ปรับแต่งจุดด้อยลงจนทำให้ข้อบกพร่องบนใบหน้าสมดุล ทำให้ลักษณะเด่นบนหน้าเด่นชัดออกมา พวกดาราก็ทำกันแบบนี้!”
เมื่อพูดถึงตรงนี้ เสี้ยวเถียนฮวาก็ยิ้มออกมา มองทุกคนก่อนพูดต่อไปว่า “ความจริงฉันคิดว่าทุกคนก็ดูดีมากนะ แค่มีข้อด้อยเล็กน้อยเท่านั้นเอง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดในคนอายุเท่าพวกเราคืออะไร? ความน่าดึงดูดไงล่ะ! การศัลยกรรมน่ะ ฉันทำจนเข้าใจชัดแล้ว พวกเธอว่าตอนที่ฉันทำศัลยกรรมดวงตาให้เหมือนหวังจู่เสียนดูไม่ได้เลยใช่ไหม พวกเราก็มีลักษณะเด่นที่แตกต่างกันออกไป ต้องขับเน้นความน่าดึงดูดของตนออกมาให้ได้ถึงจะถูก!”
เมื่อพูดออกมาเช่นนี้ก็ทำให้เกิดเสียงฮือฮาขึ้นมาทันที!
พวกผู้หญิงจะรู้ได้อย่างไรว่าตัวเองมีจุดเด่นตรงไหน? ในใจล้วนมีแต่ความจุกจิก! รู้แค่ว่าตัวเองดูไม่ดีตรงไหน รู้สึกว่ายังสวยไม่พอ!
เรียกได้ว่าคำพูดของเสี้ยวเถียนฮวากระทบหัวใจของพวกเธอจริงๆ
เสี้ยวเถียนฮวาพูดต่อไป “นี่จะต้องทำกับนักออกแบบที่ยอดเยี่ยม ให้เขาออกแบบตามเอกลักษณ์ของเราและกลั่นมันออกมาให้เด่นชัด น้องชายของฉันคนนี้เป็นนักออกแบบระดับสูง ไปต่างประเทศอยู่บ่อยๆ แบบบินไปบินมาน่ะ”
“ฉันช่วยทุกคนติดต่อกับน้องชายฉันได้ ให้เขาออกแบบให้ได้! แต่ว่า…อาทิตย์หนึ่งทำได้แค่คนสองคนนะ จะอย่างไรน้องชายของฉันก็ยุ่งมาก! ต้องออกแบบให้พวกดาราอีก”
ทุกคนได้ยินดังนั้นก็รู้สึกได้ถึงความลึกลับเป็นเท่าทวี! พวกยอดฝีมือล้วนเป็นเช่นนี้ ต้องนัดหมายล่วงหน้า!
ตอนนี้เองมีคนพูดขึ้นว่า “พี่เสี้ยว? เขาเก่งแบบที่พี่พูดจริงหรือ?”
เสี้ยวเถียนฮวายิ้มออกมาอย่างลึกลับแต่ไม่ได้พูดอะไร ผ่านไปครู่หนึ่งจึงค่อยพูดว่า “ความจริงทุกคนก็เห็นได้จากความเปลี่ยนแปลงบนใบหน้าของฉันนะ ฉันไม่พูดแล้ว พูดอีกเรื่องเดียวก็แล้วกัน”
“ไม่กี่วันก่อนหน้านี้ หลังจากฉันศัลยกรรมเสร็จแล้วก็ไปที่เจว๋ซานมารอบหนึ่ง”
เมื่อเธอพูดออกมาเช่นนี้ ทุกคนก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย ผู้หญิงคนหนึ่งรีบถามว่า “เธอไปหาอาจารย์จางหรือ?”
เสี้ยวเถียนฮวาพยักหน้า “ใช่ แต่…คราวนี้ฉันไปแก้บน”
คนมีเงินมักชอบจุดธูปบนบานคำนวณชะตาชีวิต นี่ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไร
ใกล้ๆ เมืองอันหยางมีภูเขาเจว๋ซานอยู่แห่งหนึ่ง ที่นั่นมีอารามเต๋าอยู่ ในอารามมีนักพรตเต๋าที่ทำนายดวงชะตาได้ดีคนหนึ่ง เขามีชื่อเสียงเล็กน้อยในวงการชนชั้นสูงที่อยู่ในเมืองอันหยาง พอทุกคนว่างก็ชอบไปจุดธูปขอพรที่นั่น
ดังนั้นเมื่อได้ยินเสี้ยวเถียนฮวากล่าวเช่นนี้ ทุกคนก็รู้สึกสงสัยขึ้นมา! ซึ่งทำให้เรื่องราวดูลึกลับขึ้นโดยไม่ต้องสงสัยเลย!
เสี้ยวเถียนฮวากระแอมให้คอโล่งก่อนกล่าวต่อไป “ตอนที่ไปคราวนั้นฉันนำหมูสดๆ ไปถวายให้ไม่น้อย เดิมทีไม่ได้คิดจะไปเจออาจารย์จาง หลังแก้บนแล้วก็จะเดินทางกลับ”
“ผลกลับกลายเป็นว่าอาจารย์จางเห็นฉันเข้า เขามาขวางฉันไว้แล้วถามว่าใครเปลี่ยนใบหน้าให้ฉัน? ฉันได้ยินก็ชะงักไป บอกว่าฉันไปทำศัลยกรรมดวงตามาเล็กน้อย รู้หรือเปล่าว่าอาจารย์พูดว่าอย่างไร? บอกว่าฉันศัลยกรรมได้ดี! ใบหน้าแบบนี้จะมีส่วนช่วยในธุรกิจของฉัน!”
หลังจากเสี้ยวเถียนฮวาพูดแบบนี้ออกไปก็มีเสียงฮือฮาดังขึ้น จากนั้นเธอจึงกดเสียงต่ำ “ตอนนั้นฉันไม่ได้คิดอะไร แต่หลังจากนั้นไม่กี่วัน พอฉันเปลี่ยนเครื่องหมายการค้าแล้ว อยู่ๆ ก็พบว่ายอดขายสูงขึ้นในพริบตา”
ทุกคนได้ยินดังนั้นก็พากันชะงักไป! มีเรื่องเช่นนี้ด้วยหรือ?
เสี้ยวเถียนฮวาเห็นสภาพทุกคนก็พยักหน้าอย่างพึงพอใจ ดูท่าทางผลลัพธ์ไม่เลวเลย
แต่ว่า…เรื่องนี้ต้องบอกเฉินชางสักหน่อย