เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 1171 ถ้าคุณจะเล่นงานเฉินชาง ต้องข้ามศพผมไปก่อน!
“ขอโทษครับ!”
“คุณคือ…”
“ผมเซวียเจิ้งเริ่น พ่อของเซวียตงครับ”
“อ้อ…ไม่เป็นไรค่ะ”
หมี่ตี้มอง ‘ชายชรา’ ผมขาวที่อยู่ตรงหน้าแล้วหันหน้าหนี
เซวียเจิ้งเริ่นมองหญิงสาวที่หน้าตาน่ารักคนนี้แล้วอดรู้สึกจนปัญญาไม่ได้
เธอเพิ่งจะอายุยี่สิบสี่ปี!
เซวียเจิ้งเริ่นดูประวัติการรักษาของหมี่ตี้แล้ว หลอดเลือดดำสมองอุดตันเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ มีภาวะเลือดแข็งตัวเร็วผิดปกติและกล้ามเนื้อหัวใจขาดเลือด
สาเหตุเกิดจากการกินยาเม็ดคุมกำเนิดติดต่อกันเป็นเวลานานงั้นหรือ
กินยาเม็ดคุมกำเนิดมาสามปี!
จะมีผู้หญิงคนไหนยอมทำเพื่อผู้ชายขนาดนี้
แต่สุดท้ายสิ่งที่ได้รับคือการทอดทิ้ง
หรืออาจจะเตรียมใจว่าทุกอย่างจะเป็นแบบนี้ตั้งแต่แรกแล้ว
ครั้งนี้เซวียเจิ้งเริ่นมองในมุมมองของความเป็นจริง
“เซวียตงได้รับบทลงโทษที่เขาสมควรได้รับแล้ว คุณวางใจได้ รักษาตัวให้ดีนะครับ”
ที่หมี่ตี้ไม่สบตาชายชรา เพราะความละอายใจจากส่วนลึกของหัวใจ หลังจากเธอรู้ว่าเซวียตงแต่งงานแล้ว เธอก็เกลียดเซวียตงมาก
แต่ก็เกลียดตัวเองมากเช่นกัน
หมี่ตี้รู้สึกว่าเธอเป็นชู้ที่ไปทำร้ายชีวิตของคนอื่น ทำให้เธอไม่สบายใจมาก
เธอจึงทำใจสบตาชายชราไม่ได้
หลังจากเซวียเจิ้งเริ่นกล่าวขอโทษก็ทิ้งช่องทางติดต่อเอาไว้ พร้อมพูดเสียงเรียบ “แม่หนู ต่อไปถ้ามีปัญหาอะไร มาหาผมได้นะครับ นี่เบอร์โทรผมครับ”
พอเขาออกจากห้องก็เจอหมี่เยว่และน้องชายพอดี
ตอนที่สบตากัน ในสายตาของเซวียเจิ้งเริ่นเหมือนมีรังสีอำมหิตไร้ขีดจำกัดพลุ่งพล่าน เขาจ้องหมี่เยว่ตาไม่กะพริบ
หมี่เยว่เองก็เผชิญหน้าอย่างไม่เกรงกลัวเลยสักนิด!
หลังจากทั้งสองสบตากัน พวกเขาก็หันมองหมี่ตี้โดยพร้อมเพรียงกัน และเซวียเจิ้งเริ่นเป็นคนหลบตาก่อน
เซวียเจิ้งเริ่นให้คนไปสืบแล้ว ความหมายของเพื่อนที่เป็นตำรวจคือ แม้รู้ว่าเป็นการวางแผนหลอกเซวียตงให้ตกหลุมพราง แต่เซวียตงก็กระทำความผิดไปแล้วจริงๆ
ก็เหมือนกับว่า มีผู้หญิงคนหนึ่งยั่วยวนคุณ แต่คุณข่มขืนเธอ ซึ่งยังคงเป็นคดีอาชญากรรม
ยิ่งไปกว่านั้นยังมีเด็กผู้หญิงอายุสิบสี่ปีอยู่ในเหตุการณ์
นอกจากนี้ ในโทรศัพท์มือถือของเซวียตงก็มีข้อมูลสกปรกมากมาย ซึ่งก็เข้าข่ายอาชญากรรมแล้ว
หมี่เยว่ในฐานะท่านประธานบริษัทมีเดีย ทุกเรื่องที่เกิดขึ้นกับเซวียตง เขาเป็นคนกำกับและเผยแพร่
เซวียเจิ้งเริ่นมองสายตาอ่อนโยนของหมี่ตี้แล้วอดถอนหายใจไม่ได้ ก่อนจะหมุนตัวจากไป
ที่ยอมก็เพราะลูกชาย
ชีวิตของเซวียตงสุขสบายเกินไป เข้าไปรับบทเรียนสักหน่อยก็ไม่ใช่เรื่องเลวร้ายอะไร
พ่อแม่ของหมี่ตี้เสียไปแล้ว คนที่มาคือลุงกับอา ช่างเถอะ…ช่างเถอะ…
เซวียเจิ้งเริ่นจ้องหมี่เยว่ด้วยสายตาลึกซึ้งแวบหนึ่ง ก่อนจะจากไป
แม้หมี่เยว่แสดงทีท่าว่าไม่กลัว แต่ถ้ามีเรื่องกับเซวียเจิ้งเริ่นขึ้นมาจริงๆ เขาเองก็ไม่มั่นใจว่าจะชนะ
หลังจากจบเรื่อง พวกเขาก็จะกลับเซินเจิ้นเลย
ถึงอย่างไรสิ่งที่ควรแก้แค้น ก็แก้แค้นไปหมดแล้ว!
ตอนที่เซวียเจิ้งเริ่นกำลังจะกลับก็เจอกับเฉินชางพอดี เขารู้จักเฉินชางและเคยได้ยินชื่อ แต่ยังไม่เคยมีปฏิสัมพันธ์
ทว่าเซวียเจิ้งเริ่นไม่ได้เข้าไปทักทาย แต่มองจากระยะไกลแวบหนึ่ง ก่อนจะเดินตรงไปหาอู๋ถงฝู่ที่ห้องทำงานผู้อำนวยการ
อู๋ถงฝู่เห็นสภาพของเซวียเจิ้งเริ่นก็อดถอนหายใจไม่ได้ พลันรินน้ำชาแก้วหนึ่ง “ชาหลงจิ่ง[1]ที่ผมเพิ่งได้มา ลองชิมดูสิ”
เซวียเจิ้งเริ่นไม่ได้ปฏิเสธ
หลังจากนั่งลง เซวียเจิ้งเริ่นถามอย่างประหลาดใจ “เหล่าอู๋ ผมถามหน่อยสิ เฉินชางเขา…”
เซวียเจิ้งเริ่นพูดยังไม่ทันจบ สีหน้าอู๋ถงฝู่ก็เปลี่ยนไปทันที หยุดรินชา วางกาน้ำชาลง จ้องเซวียเจิ้งเริ่นพร้อมพูดอย่างจริงจัง “เหล่าเซวีย คำพูดผมอาจจะไม่น่าฟัง แต่คุณอย่าคิดทำอะไรเฉินชางจะดีที่สุด! ผมรู้จักเซวียตงดีกว่าคุณ เขาสู้เฉินชางไม่ได้เลย! ยังไม่ต้องพูดถึงเรื่องการประพฤติตัว เพียงแค่ทักษะด้านการรักษา ผมพูดตรงๆ เลยว่า ตอนนี้อิทธิพลระดับประเทศของเฉินชางไม่ต่ำไปกว่าคุณเลย เขาขาดแค่เวลาในการสั่งสมประสบการณ์เท่านั้น ผมรู้ว่าเฉินชางเคยมีเรื่องบาดหมางกับเซวียตง และเซวียตงอคติกับเฉินชางมาก แต่ผมขอพูดไว้ตรงนี้เลยว่า ถ้าคุณจะรังแกเฉินชาง ให้ข้ามศพผมไปก่อน!”
คำพูดของอู๋ถงฝู่น่าเกรงขาม เขาจ้องเซวียเจิ้งเริ่นพร้อมพูดอย่างเคร่งขรึม
เขากังวลว่าเซวียเจิ้งเริ่นจะหาเรื่องเฉินชางเพื่อแก้แค้นให้ลูก
เฉินชางเป็นเพียงแค่เด็กฝึกงานคนหนึ่ง ย่อมสู้เซวียเจิ้งเริ่นที่เป็นหมอที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวงมาสองสามรุ่นไม่ได้
ถ้าเซวียเจิ้งเริ่นจะหาเรื่องเฉินชางจริงๆ อู๋ถงฝู่ก็ค่อนข้างเป็นห่วง
เขาจึงพูดดักไว้ก่อน!
เฉินชางเป็นอย่างไร ทุกคนอาจจะไม่รู้ แต่อู๋ถงฝู่รู้ดี
เฉินชางคือความหวัง!
ยุคสมัยนี้ การแข่งขันขึ้นอยู่กับความอัจฉริยะ
เซวียเจิ้งเริ่นมองอู๋ถงฝู่ที่สีหน้าเคร่งขรึมแล้วอึ้งไปทันที
เขาไม่คิดจะหาเรื่องเฉินชางอยู่แล้ว เรื่องมันผ่านไปแล้วก็ปล่อยให้มันผ่านไป
เซวียเจิ้งเริ่นก็พอจะรู้เรื่องราวคร่าวๆ แล้ว
แต่คิดไม่ถึงว่าอู๋ถงฝู่จะแสดงท่าทีแบบนี้!
เขาจึงตกใจเล็กน้อย
เฉินชางเก่งขนาดนั้นเลยหรือ
เซวียเจิ้งเริ่นส่ายหน้า “ผมไม่ได้หมายความแบบนั้นครับ ผมจะบอกว่าผมอยากดูการผ่าตัดที่เฉินชางทำให้หมี่ตี้ ผมได้ยินหมอแผนกศัลยกรรมประสาทบอกว่า หลังจากเซวียตงเห็นการผ่าตัดแล้วสภาพจิตใจแย่มาก ถึงขั้นเดินหนีออกไปโดยที่ยังดูไม่จบ”
อู๋ถงฝู่เห็นแบบนี้ก็เปิดคลิปวิดีโอในโทรศัพท์มือถือ พร้อมพูดว่า “ผมก็ดูอยู่เหมือนกันครับ”
ครึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น…
เซวียเจิ้งเริ่นออกจากศูนย์ฉุกเฉินด้วยอารมณ์ที่ซับซ้อน
ตอนนี้เขาเข้าใจความรู้สึกของเซวียตงแล้ว
เขารู้จักเซวียตงดี
เซวียตงที่มีเรื่องขัดแย้งกับเฉินชางย่อมแค้นเคืองเฉินชางอยู่แล้ว หลังจากเห็นคลิปวิดีโอนี้ย่อมใจสลาย
แม้แต่เซวียเจิ้งเริ่นยังต้องยอมความว่าสามารถของเฉินชางไร้ข้อกังขาจริงๆ
ทว่า เซวียเจิ้งเริ่นก็พอจะดูออกว่า เฉินชางเหมือนจะยังสัมผัสกับการศัลยกรรมประสาทมาน้อยมาก
จากรายละเอียดหลายอย่างยังเห็นได้ว่า ความจริงทักษะการศัลยกรรมประสาทของเฉินชางอยู่ในขั้นเริ่มต้น
อย่างเช่น การนำเนื้อตายและสิ่งแปลกปลอมออกและการจัดการภาวะเลือดคั่งใต้เยื่อหุ้มสมอง
ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นการผ่าตัดขั้นเริ่มต้นของการศัลยกรรมประสาท ซึ่งก็คือการผ่าตัดขั้นที่หนึ่งและสองของการศัลยกรรมประสาท
ทว่าแม้จะเป็นเช่นนี้ เซวียเจิ้งเริ่นยังต้องให้ความสำคัญกับความสามารถของเฉินชาง คนที่ผ่าตัดพื้นฐานออกมาได้สมบูรณ์แบบมีน้อยมาก และเฉินชางเป็นหนึ่งในนั้น
ภายในห้อง หมี่ตี้เห็นพวกหมี่เยว่และเฉินชางเข้าห้องผู้ป่วยมาก็น้อยใจจนร้องไห้ขึ้นมาทันที “คุณลุง คุณอา…”
หมี่เยว่มองหญิงสาวที่ยังคงเป็นเหมือนเด็กน้อยแล้วพูดอย่างปวดใจ “ไม่เป็นไรแล้ว ลุงกับอาไปแก้แค้นให้แล้ว ไม่ต้องกลัวนะ!”
หมี่ตี้พยักหน้า
ชั่วขณะนี้ จู่ๆ เธอก็รู้สึกเหมือนตนได้ครอบครองโลกทั้งใบอย่างไรอย่างนั้น
การจากไปของพ่อแม่ทำให้หมี่ตี้สิ้นหวัง รู้สึกเหมือนท้องฟ้าพังทลายลงมา เธอย้ายมาอยู่ที่เมืองหลวงกับเซวียตงโดยไม่สนใจอะไรทั้งนั้น
และการทอดทิ้งของเซวียตงทำให้หมี่ตี้รู้สึกถึงความสิ้นหวังอีกครั้ง
แต่ตอนนี้เห็นลุงกับอาอุตส่าห์มาแก้แค้นให้ตนถึงเมืองหลวง หมี่ตี้พอใจมาก
“รอหนูหาย เรากลับเซินเจิ้นกัน!”
“ได้ค่ะ!”
“คุณปู่หนูบ่นคิดถึงหนูมานานแล้ว ถ้าท่านรู้ว่าหนูโดนรังแก จะต้องว่าเราสองคนแน่!”
…………………………………..
[1] ชาหลงจิ่ง บางครั้งเรียกตามชื่อที่แปลตามตัวอักษรว่า ชาบ่อน้ำมังกร เป็นชาเขียวคั่วแบบกระทะหลากหลายชนิดจากพื้นที่หมู่บ้านหลงจิ่งในหางโจว มณฑลเจ้อเจียง ประเทศจีน