เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 1183 เรื่องบางเรื่อง คุณไม่เข้าใจหรอก!
การที่เฉินชางโค้งคำนับอย่างจริงใจ เป็นเรื่องที่ทุกคนคาดไม่ถึง!
ถึงอย่างไรวันนี้เขาก็ท้าทายสำเร็จแล้ว ทำลายสถิติโลก และยังไวกว่าคนที่ไวที่สุดถึงสองนาที
สองนาทีอาจจะไม่นาน แต่กลับเป็นความห่างที่หลายคนพยายามทั้งชีวิต
การพัฒนาของการแพทย์เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ไม่มีใครรู้ว่าการไวกว่าสองนาที จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเชิงคุณภาพหรือไม่
ทว่าตอนนี้ยังไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น!
ตอนที่ทุกคนเห็นความพยายามของบุคลากรทางการแพทย์กลุ่มนี้ ความพอใจและความสุขแบบนั้นหาที่เปรียบไม่ได้เลยจริงๆ
ก็เหมือนศาสตราจารย์เฉินในตอนนี้!
เขาพยายามมานานขนาดนี้ ที่เขาสู้เพื่อทำลายสถิติอย่างสุดชีวิตแบบนี้เพื่ออะไร
ก็เพื่อช่วยชีวิตคนไข้กลุ่มอาการมาร์แฟนให้ได้มากขึ้น!
ความรู้สึกแบบนี้ทำให้ทุกคนสะเทือนใจมาก
และภาพน้ำตาของเฉินชางตอนที่โค้งคำนับแล้วหันหลังกลับถูกบันทึกอยู่ในกล้องชั่วนิรันดร์
มันตราตรึงในใจของผู้ชมจำนวนนับไม่ถ้วน!
และขณะเดียวกัน บุคลากรทางการแพทย์ไม่รู้เท่าไรที่ดูอยู่หน้าจอโทรทัศน์ต่างฮึกเหิมเช่นเดียวกัน!
พวกเขามองเห็นความรับผิดชอบและความมั่นใจจากเฉินชาง!
สิ่งที่เฉินชางพูดและคิด ก็คือทิศทางที่พวกเขาพยายามมาโดยตลอดเช่นกัน
ในเมื่อเลือกเป็นหมอแล้ว ทุกคนล้วนมีใจอยากช่วยคนไข้
คำพูดของเฉินชางทำให้ผู้คนมากมายประทับใจในวินาทีนั้นเอง
อวี๋หวั่นออกจากโรงพยาบาลแล้ว ตอนนี้เธอพักฟื้นอยู่ที่บ้าน หลังจากเห็นรายการในโทรทัศน์ จู่ๆ ก็รู้สึกว่าจุดที่เปราะบางที่สุดในหัวใจถูกสะกิด!
น้ำตาไหลอาบหน้าทันที!
อย่ามองแต่ความยากลำบากหรือความผิดหวังที่อยู่ตรงหน้า
ความทรงจำของเธอย้อนกลับไปตอนที่พักรักษาตัวอยู่ที่ศูนย์ฉุกเฉิน
ใบหน้านี้แหละที่มองตน จับมือและบอกตนอย่างจริงจังว่า “ผมช่วยคุณได้!”
ตอนนั้นประโยคนี้ กลายเป็นความเชื่อสุดท้ายท่ามกลางความสิ้นหวังของอวี๋หวั่น
ความรู้สึกของการถูกปกป้อง เป็นที่ต้องการ และมีคนคอยเป็นห่วงเป็นใย อาจจะเป็นความหวังสูงสุดของคนไข้กลุ่มอาการมาร์แฟนแล้ว!
ตอนนี้เอง อวี๋หวั่นเห็นว่าข้อความใน qq แจ้งเตือนไม่หยุด
เมื่อเปิดดูก็เห็นว่าเป็นข้อความจากกลุ่มสนทนาคนไข้กลุ่มอาการมาร์แฟนเมืองหลวง
“ฉันตัดสินใจแล้ว พรุ่งนี้ฉันจะไปรายงานตัวที่ศูนย์ฉุกเฉินเพื่อเข้าร่วมการทดลองทางคลินิก!”
“คุณบ้าไปแล้วหรือเปล่า! ตอนนี้เพิ่งทำไปแค่ยี่สิบคน รอหน่อยเถอะ รอให้ถึงเจ็ดแปดสิบคน ทักษะด้านต่างๆ ของพวกเขาพัฒนาขึ้นก่อน ถึงจะปลอดภัย!”
“ฉันไม่ได้บ้าและฉันก็ไม่ได้โง่! จริงอยู่ที่ว่าไปตอนนี้อันตรายกว่าตอนที่ทดลองไปแล้วเจ็ดแปดสิบคน แต่บุคลากรทางการแพทย์เหล่านั้นล้วนกำลังพยายาม ที่พวกเขาพยายามทั้งหมดเพื่ออะไร ร ฉันรู้สึกว่าฉันเป็นคนไข้ ไม่ใช่คนไร้ประโยชน์!”
“จะไปก็ไปเอง ฉันไม่ไปด้วยหรอก!”
ช่วงนี้ในกลุ่มมีคนไข้กลุ่มอาการมาร์แฟนเป็นคนเข้ามาไม่น้อยเลย พวกเขาพูดถึงอันตรายของการทดลองทางคลินิกเหล่านี้อย่างต่อเนื่อง
ตอนนี้ยังคงเป็นเช่นนี้!
“ผมไปด้วย!”
“ใช่ ความสามารถของหมอเฉินเหนือว่าหมอหลายคน มีเหตุผลอะไรที่เราจะไม่เชื่อใจเขา ยิ่งไปกว่านั้น นี่เป็นการผ่าตัดฟรีด้วย!”
“ฉันคิดๆ แล้วก็รู้สึกว่าตัวเองโง่มาก ตอนนี้ฉันมีอะไร คนอย่างฉันตายไปก็ไม่เสียดาย ไม่มีประโยชน์ที่จะใช้ชีวิตแบบนี้! การทดลองทางคลินิกมีความเสี่ยงก็จริง แต่การผ่าตัดไม่มีความเ เสี่ยงเหรอ ตอนนี้ฉันอยากเข้าร่วมการทดลองมากกว่า อย่างน้อยถ้าฉันตาย ก็ตายอย่างมีคุณค่า!”
“คุณบ้าไปแล้วหรือเปล่า พวกคุณจะเชื่อรายการวาไรตี้แบบนี้ได้อย่างไร นี่มันโกหกกันชัดๆ”
ตอนนี้เอง จู่ๆ ทุกคนก็อึ้งงันไป มองพวกที่คอยปลุกปั่น จู่ๆ ก็พูดว่า “พวกคุณไม่ใช่คนไข้กลุ่มอาการมาร์แฟน พวกคุณไม่เข้าใจความทรมานและจนปัญญาแบบนี้ ยิ่งไม่รู้จักสำนึกคุณ!”
ประโยคนี้ ทำให้ทุกคนมึนงง!
“ใครบอกว่าเราไม่ใช่คนไข้กลุ่มอาการมาร์แฟน”
“ฮ่าๆ! หรือพวกคุณเป็น ตลก พวกคุณไม่เข้าใจด้วยซ้ำ!”
“เหอะ เหอะ…”
ไม่นานพวกที่คอยก่อความวุ่นวายก็เงียบไป
ตอนนี้เอง ทุกคนต่างตัดสินใจว่า พรุ่งนี้จะไปรายงานตัวที่โรงพยาบาล
อวี๋หวั่นเห็นฉากนี้ก็อดส่งข้อความไปไม่ได้ “ฉันเชื่อมั่นในตัวศาสตราจารย์เฉินและเชื่อมั่นในตัวพวกคุณด้วย! พวกคุณเป็นตัวอย่างที่ดี!”
ความจริงมีคนที่พยายามเพื่อชีวิตของเราเยอะมาก!
บุคลากรทางการแพทย์มุ่งมั่นปรับปรุงเทคโนโลยีทางการแพทย์เพื่อช่วยชีวิตและรักษาผู้คนไข้
ตำรวจและทหารปกป้องประชาชน!
นักวิทยาศาสตร์ส่งเสริมความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์
วรรณกรรมบันเทิงเติมเต็มชีวิต
ชีวิตแบบนี้ เราจะไม่หวงแหนได้อย่างไร
จนถึงตอนนี้ อะไรที่ควรพูด ควรทำ เฉินชางก็พูดและทำไปหมดแล้ว
เขาไม่ได้เสียเวลาของทุกคนมากนัก หลังจากพูดจบ ก็พยักหน้าขอบคุณทุกคน เตรียมจะลงจากเวที ส่งมอบเวลาหลังจากนี้ให้ผู้ท้าทายคนต่อไป
ขณะนี้เอง ซาเบลล่าก็ยิ้มพูด “เดี๋ยวก่อนค่ะ ศาสตราจารย์เฉิน!”
เฉินชางชะงักไปทันที!
เมื่อหันกลับมา เขาก็เห็นว่าซาเบลล่าพูดกับกล้องและทุกคนช้าๆ ว่า “ความจริงวันนี้ไม่ใช่แค่รายการ ‘ท้าทายสิ่งที่เป็นไปไม่ได้’ ธรรมดาเท่านั้น! ทีมงานของเราได้คุยกับผู้อำนวยการอ อู๋แห่งศูนย์ฉุกเฉินแล้ว และเราเข้าใจแรงกดดันอันหนักหน่วงที่ทีมของศาสตราจารย์เฉินเผชิญอยู่ตอนนี้ วันนี้เราได้เชิญแขกพิเศษท่านหนึ่งมาด้วย เรียนเชิญท่านประธานตงหลินกรุ๊ป คุณ ณตงหลิน ขึ้นเวทีครับ!”
ทันใดนั้นเสียงปรบมือก็ดังสนั่น
ซาเบลล่าพลันแนะนำว่า “ท่านนี้คือประธานตงหลินเภสัชกรรมกรุ๊ป คุณไป๋ตงหลิน เขาเป็นคนสนับสนุนเครื่องมือผ่าตัด แบบจำลองและหลอดเลือดเทียมที่เราใช้ในตอนนี้ หลังจากท่านประธานไป๋ไ ได้รู้เรื่องราวของศาสตราจารย์เฉิน ก็อยากจะเจอคุณเฉินสักครั้ง! ผมเชื่อว่าทุกคนก็คงรู้ดีว่า คุณไป๋เป็นนักการกุศล และวันนี้ท่านประธานไป๋ได้นำของขวัญมาให้เราด้วย!”
ไป๋ตงหลินเป็นชายวัยกลางคนอายุห้าสิบกว่าปี ท่าทางดูใจดีมีเมตตา เขายิ้มทักทายทุกคน หลังจากจับมือทักทายเฉินชางก็ยิ้มพูด “ยินดีที่ได้พบนะครับ ศาสตราจารย์เฉิน!”
เฉินชางสับสนเล็กน้อย!
เขาไม่รู้เรื่องนี้เลย
“สวัสดีครับ ท่านประธานไป๋!”
ไป๋ตงหลินยิ้ม “ความจริง ผมประทับใจกับคำพูดของศาสตราจารย์เฉินมาก เป็นจริงอย่างที่เขาพูด พวกเขาเป็นบุคลากรทางการแพทย์ที่ทุ่มเทเพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงของเรา! ขอบคุณพวกเข ขาที่ทำให้ชีวิตและสุขภาพร่างกายของเรามีหลักประกันที่มากขึ้น! ผมเป็นตัวแทนของตงหลินกรุ๊ป ขอบริจาคหลอดเลือดเทียมมูลค่าสามสิบล้านให้กับทีมวิจัยของศูนย์ฉุกเฉินที่ศาสตราจารย์ เฉินเป็นแกนนำ หวังว่าจะช่วยคนไข้กลุ่มอาการมาร์แฟนได้! และมอบสิทธิ์ในการใช้หลอดเลือดเทียมเหล่านี้ให้ศาสตราจารย์เฉินจัดการ! ผมเชื่อว่า ศาสตราจารย์เฉินจะใช้ทรัพยากรได้อย่างค คุ้มค่า! ขอบคุณครับ!”
เฉินชางได้ยินแบบนี้ก็อึ้งไปทันที!
เขาค่อนข้างซาบซึ้งใจ ถึงอย่างไรก็เป็นถึงหลอดเลือดเทียมมูลค่าสามสิบล้าน ช่วยคนได้ตั้งเท่าไร
เฉินชางคิดได้แบบนี้ก็รีบขอบคุณ “ขอบคุณครับ! ขอบคุณท่านประธานไป๋มากครับ!”
ทุกคนที่อยู่ด้านล่างเวที รวมถึงผู้ชมทางบ้านต่างปรบมือ
ฉากนี้เป็นฉากที่น่ายินดีมากจริงๆ ทำให้ทุกคนมองเห็นอนาคต และเป็นฉากที่ทุกคนเห็นแล้วต่างฮึกเหิมและรู้สึกอบอุ่น