เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 1191 ฉันคือแพทย์ประจำบ้านอันดับหนึ่งของประเทศนะ!
เช้าวันจันทร์ เฉินชางมาโรงพยาบาลอย่างแจ่มใสผ่อนคลาย!
ตอนนี้เขาตั้งตารอภาพถ่ายของพวกเขามาก
การมีดารากลุ่มใหญ่มาเป็นตัวประกอบให้คือประสบการณ์แบบไหนกันล่ะ
คนอื่นอาจจะไม่เข้าใจ!
แต่เฉินชางเข้าใจดี
ถ้าหากว่าออร่าของคุณ หรือว่าหน้าตาของคุณไม่คู่ควรพอ ก็จะถูกตัวประกอบเหล่านี้แย่งซีนเอาได้!
แต่ว่า ออร่าของตัวเขาก็มีพอตัวเช่นกัน
ฉินเยว่พอใจ เฉินชางย่อมมีความสุข
มาเริ่มวันจันทร์กับงานที่รักดีกว่า
แต่เฉินชางเพิ่งจะเข้ามาก็มองเห็นจางหยวนหอบตำราหนาปึกหลายเล่มพะรุงพะรังเดินเข้ามา
เฉินชางตะลึงไปทันที “สุดสัปดาห์ที่ผ่านมานายไปทำอะไรมา ท่าทางเหมือนถูกบังคับทำโอทีไม่มีผิด”
จางหยวนถอนหายใจ “เฮ้อ สอบเลื่อนตำแหน่งน่ะสิ!
เฮ้อ เดี๋ยวก็ต้องสอบเลื่อนตำแหน่งรองหัวหน้าแพทย์แล้ว แต่ผมยังไม่ได้อ่านหนังสือพวกนี้เลย ผมกังวลจะแย่แล้ว”
จางหยวนถอนหายใจอย่างจนปัญญา!
หลังจากเฉินชางได้ยินประโยคนี้ก็รู้สึกแปลกๆ ขึ้นมา เหมือนจะ…เกิดลางสังหรณ์ไม่ดีบางอย่างขึ้น
หม่าเยว่ฮุยคาบปาท่องโก๋ตัวหนึ่งเดินมาทางนี้
หลังจากหยางเจี๋ยสั่งงดนม เพื่อประหยัดค่าใช้จ่าย เหล่าหม่าจึงเปลี่ยนจากกินขนมปังกับนมมากินปาท่องโก๋น้ำเต้าหู้แทน
พอเป็นแบบนี้ งบประมาณก็จะคงตัวแล้ว!
อีกอย่าง หากอ้างอิงตามสมดุลทางโภชนาการ พอมีปริมาณไขมันกับแคลอรี่เพิ่มขึ้นก็ประหยัดค่าใช้จ่ายประจำวันของวันนี้ได้!
พอคิดได้เช่นนี้ จู่ๆ เหล่าหม่าก็คิดว่าความรู้ทางการแพทย์ในช่วงหลายปีมานี้ของตนไม่สูญเปล่าเลย!
อย่างน้อยก็นำมาใช้ในทางคลินิกได้จริง
หลังจากเหล่าหม่าได้ยินคำพูดของจางหยวนก็ชะงักไปเล็กน้อย เขามองเฉินชางด้วยความสงสัย “ชางเอ๋อร์ นาย…ก็ต้องสอบประเมินกลางเหมือนกันไม่ใช่เหรอ”
เพียงประโยคเดียวก็ปลุกสติของเฉินชางขึ้นมา!
จริงด้วย!
ปีนี้ดูเหมือนฉันเองก็ต้องสอบประเมินกลางด้วย!
เฉินชางหน้าเปลี่ยนสี เกือบแล้ว ก็ว่าอยู่ว่าตนสมัครเอาไว้ตอนเดือนมกรา!
อย่าพูดเรื่องจะผ่านหรือไม่ผ่านเลย แต่จ่ายค่าลงทะเบียนไปแล้ว ตอนนี้แค่จะพิมพ์ข้อมูลก็ต้องจ่ายหลายหยวนแล้ว หากว่าพลาดไปก็น่าเสียดายมาก!
เฉินชางรีบหยิบมือถือขึ้นมาเริ่มเสิร์ชดูทันที!
พอเห็นฉากนี้ของเฉินชาง จู่ๆ หม่าเยว่ฮุยก็หัวเราะออกมาอย่างมีความสุข
วันนี้คือวันที่เขามีความสุขที่สุดนับตั้งแต่งดนมมา!
จางหยวนก็มองเฉินชางด้วยความฉงน “โอ้ ใช่แล้ว คุณก็ต้องสอบประเมินกลางด้วยนี่ครับมหาเทพ!”
การสอบนี้ต่างจากสอบชั้นคลินิก
การสอบประเมินกลางก็คือการสอบประเมินเลื่อนจากแพทย์ประจำบ้านเป็นแพทย์เจ้าของไข้
หลักๆ แล้วแบ่งการประเมินออกเป็นสี่หัวข้อ
หัวข้อแรกคือความรู้พื้นฐาน หัวข้อที่สองคือความรู้เฉพาะทางที่เกี่ยวข้อง
หัวข้อที่สามคือความรู้ด้านวิชาชีพ หัวข้อสุดท้ายคือทักษะในการปฏิบัติงานอย่างเชี่ยวชาญ
หัวข้อนี้ต่างไปจากการช่วยเหลือชีวิตคน
ถ้าบอกว่าคุณผิด ก็แปลว่าคุณผิด!
คำตอบคือความตายเท่านั้น!
เฉินชางกระวนกระวายใจจริงๆ
หากตนทำพลาดในกาสอบประเมินกลางก็เป็นเรื่องแล้ว!
หัวหน้าสมาคมศัลยกรรมทางเดินอาหารระดับโลกสอบประเมินกลางไม่ผ่าน
หากเรื่องนี้แพร่ออกไป คนอื่นย่อมไม่มีทางสงสัยในตัวเฉินชาง แต่จะสงสัยว่า…เกิดปัญหาขึ้นกับผู้คุมสอบหรือไม่
ใช่แล้ว!
เฉินชางอดถอนหายใจไม่ได้ รีบเสิร์ชดูทันที
ต้องเสิร์ชเดี๋ยวนี้!
ชั่วขณะนั้นเขาตัวสั่นด้วยความหวาดหวั่น
“การสอบออนไลน์ผ่านระบบคอมพิวเตอร์จะเริ่มในวันที่หกมิถุนายน! แถมปีนี้ยังเพิ่มการสอบสัมภาษณ์เข้ามาด้วย! จะเริ่มสอบในวันที่เจ็ดมิถุนายน”
เฉินชางรีบถามเจ้าหม่าเซอะซะที่อยู่ด้านข้าง “วันนี้วันที่เท่าไร”
หม่าเยว่ฮุยหัวเราะจนตัวงอ!
เฉินชางกัดฟันกรอด
เหลือบมองปฏิทิน!
วันที่หนึ่งมิถุนายน!
โอ้!
ค่อยยังชั่ว!
ตกใจแทบตายแล้ว!
ฮึ่มๆๆ!
เฉินชางโล่งใจ ที่แท้วันนี้เป็นวันหยุดนักขัตฤกษ์ของฉัน ตกใจแทบแย่!
สุขสันต์วันเด็ก[1]นะตัวฉัน!
หม่าเยว่ฮุยหัวเราะฮ่าๆ พลางมองเฉินชาง “ฉันจะบอกความลับอย่างหนึ่งกับนายแล้วกัน นายคือหมอคนสุดท้ายในหมู่พวกเราที่จะสอบประเมินกลาง!
นายเห็นหรือเปล่าว่าเสี่ยวจางกำลังจะได้เป็นรองหัวหน้าแพทย์แล้วน่ะ!”
เฉินชางมองเจ้าหม่าเซอะซะที่เยาะเย้ยตนอยู่ เขาถอนหายใจอย่างจนปัญญา ก็ที่นี่คือโรงพยาบาลศูนย์แพทย์ฉุกเฉินเมืองหลวงนี่นา
ขั้นต่ำคือปริญญาโท คนรุ่นหนุ่มก็อยู่ระดับปริญญาเอกกันหมดแล้ว
หากพูดถึงการสอบประเมินกลาง ปกติแล้วหลังจบปริญญาตรีต้องมีอายุงานสี่ปีขึ้นไป
เรียนปริญญาโทแค่สองปีก็จบ!
ส่วนปริญญาเอก หลังจบมาสองปีก็สอบเลื่อนขั้นเป็นรองหัวหน้าแพทย์ได้แล้ว
การสอบวัดระดับตำแหน่งของหมอในจีนถูกรวมไว้ในวงจรเดียว แถมยังแบ่งแยกจากอายุงานด้วย ดังนั้น ต่อให้เฉินชางจะมีทักษะเลิศล้ำน่าตะลึง แต่ถ้าอยากเป็นแพทย์เจ้าของไข้ก็จำเป็นต้อง งเข้าร่วมการสอบประเมินตามอายุงาน
แต่ว่าหลังจากได้เป็นแพทย์เจ้าของไข้ก็จะต่างกันออกไปแล้ว!
นี่แปลว่าคุณจะกลายเป็นมือฉมังแล้ว ผ่าตัดส่วนใหญ่ตามลำพังได้
ที่สำคัญคือ ต่อไปก็ไม่ต้องพึ่งลายเซ็นของเจ้าหม่าเซอะซะอีก
ถึงอย่างไรเฉินชางก็มีอำนาจเซ็นอนุมัติการผ่าตัดเองได้!
พอคิดแบบนี้ เฉินชางก็ตัดสินใจแล้วว่าต้องสอบให้ผ่าน
หม่าเยว่ฮุยมองเฉินชางยิ้มๆ อดเอ่ยขึ้นไม่ได้ว่า “วันนี้วันเด็กนี่ เจ้าหนู สุขสันต์วันเด็กนะ!
ถ้าสอบประเมินแพทย์เจ้าของไข้ไม่ผ่าน ก็จะเป็นเด็กน้อยในทีมแพทย์ไปตลอดกาล พยายามเข้าล่ะ ไอ้น้อง!”
ช่วงส่งเวรตอนเช้า เฉินชางค่อนข้างใจลอย เขานั่งใคร่ครวญว่าจะไปขอยืมหนังสือสอบประเมินจากใครดี
อวี๋หย่งกังเห็นเฉินชางมีท่าทางเช่นนี้ก็อดถามไม่ได้ “เฉินชาง นายไปเป็นอะไรไป ไม่สบายตรงไหนหรือเปล่า”
เฉินชางพยักหน้า อืม ไม่สบายใจน่ะสิ…
เหล่าหม่าชิงเอ่ยขึ้นว่า “สุดสัปดาห์นี้เฉินชางต้องเข้าร่วมการสอบประเมินกลางน่ะครับ”
รอยยิ้มที่แฝงความเยาะเย้ยไว้ของเหล่าหม่าทำให้อวี๋หย่งกังตะลึงไปเล็กน้อย
“สอบประเมินกลางเหรอ อะไรกัน”
ทันนั้นอวี๋หย่งกังเพิ่งนึกขึ้นได้ว่าเฉินชางคือแพทย์ประจำบ้านที่เข้ามาฝึกงาน!
เขาตบหน้าผากทันที
ไม่ใช่แค่เขาเท่านั้น หมอและพยาบาลทุกคนที่อยู่รอบข้างรวมถึงหัวหน้าทีมย่อยแต่ละกลุ่มจนถึงเหล่าบุคลากร หัวหน้าและรองหัวหน้าแพทย์ ไปจนถึงแพทย์อาวุโสล้วนจ้องมองแพทย์ประจำบ้านตัว วน้อยอย่างเฉินชาง
ตกตะลึงกันถ้วนหน้า!
จากนั้นก็ตระหนักได้ในทันใด พวกเขาจ้องมองเฉินชางด้วยสีหน้ายิ้มไม่เชิงยิ้ม
ที่ผ่านมา ทุกคนล้วนถูกความสามารถของเฉินชางบดบังสายตา
ลืมไปเลยว่าความจริงแล้วเขาเป็นแค่แพทย์ประจำบ้านตัวเล็กๆ คนหนึ่ง
อย่างไรก็ตามแต่ คุณเคยเห็นแพทย์ประจำบ้านที่เก่งขนาดนี้หรือไง
แต่ความจริงก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าแล้ว!
เฉินชางคือแพทย์ประจำบ้านอันดับหนึ่งของประเทศ!
แต่ว่า…
พวกเขาเชื่อมั่นว่าฉายานี้ไม่มีทางอยู่กับเฉินชางไปได้นาน
เพราะอีกไม่กี่วันเฉินชางจะเลื่อนระดับสำเร็จแน่นอน!
กลายเป็นแพทย์เจ้าของไข้อันดับหนึ่งในประเทศ
อวี๋หย่งกังกระแอมเล็กน้อย ฝืนระงับไม่ให้หัวเราะออกไป เขาพยักหน้าเอ่ยให้กำลังใจ “อืม เยี่ยมเลย พยายามเข้านะ!”
พอพูดจบอวี๋หย่งกังก็เอ่ยว่า “จบประชุม”
แต่เพิ่งจะเดินออกไปได้ครึ่งก้าว จู่ๆ เขาก็วกกลับมา เอ่ยกับทุกคนว่า “คือว่า…วันนี้เป็นวันเด็ก พวกเรามาร่วมอวยพรให้กับแพทย์ประจำบ้านคนสุดท้ายในแผนกของพวกเรากันเถอะ!”
หลังพูดจบ อวี๋หย่งกังก็อดบ่นออกมาไม่ได้ “ฉันไม่ได้เจอแพทย์ประจำบ้านมานานขนาดไหนแล้วเนี่ย ถ้าไม่ใช่เฉินชาง ฉันคงลืมไปแล้วว่าในแผนกเรายังมีแพทย์ประจำบ้านอยู่!”
เฉินชางหน้าแดงขึ้นมา!
เขาหงุดหงิดอยู่ในใจ!
แพทย์ประจำบ้านแล้วมันทำไม
ฉันคือแพทย์ประจำบ้านอันดับหนึ่งของประเทศเชียวนะ…
ไม่ใช่เด็กน้อย
อวี๋หย่งกังเอ่ยต่อว่า “เอาละ…ทุกคนล้วนเป็นผู้อาวุโส ช่วงนี้ก็ทำงานหนักกันหน่อยนะ ให้เวลาแพทย์ประจำบ้านเฉินได้ทบทวนความรู้หน่อย ถ้าเกิดสอบไม่ผ่านขึ้นมาจะขายหน้ามากขนาดไ ไหนกัน”
ทุกคนทนต่อไปไม่ไหวแล้ว ระเบิดเสียงหัวเราะดังลั่นออกมาทันที!
[1] 1 มิถุนายนของทุกปีคือวันเด็กแห่งชาติของประเทศจีน