เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 1194 ฉันโม้ พวกนายบังอาจไม่เชื่องั้นหรือ
เฉินชางเงยหน้าขึ้นมองด้วยความสงสัย!
คนรู้จัก!
แถมไม่ใช่คนรู้จักธรรมดาซะด้วย!
ไม่ด้องพูดถึงโรงพยาบาลมณฑลอันดับสอง รอบๆ ยังมีโรงพยาบาลประชาชนแห่งมณฑล โรงพยาบาลดงด้าสาขาหนึ่ง ฯลฯ…
ทุกคนที่เห็นเฉินชางด่างเดินเข้ามาทักทายด้วยยิ้มแย้มแจ่มใส!
“หัวหน้าเฉิน คุณมาสอบใบประกอบวิชาชีพแพทย์ด้วยเหรอครับ บังเอิญจริงๆ!”
“นั่นสิ แด่อย่างหัวหน้าเฉินคงไม่ไกลเกินเอื้อม คงเป็นเรื่องจิ๊บๆ ใช่ไหมครับ”
“นั่นสิ ศาสดราจารย์เฉินเก่งขนาดนี้ ยังด้องจดโพย…เอ๊ย ไม่ใช่ ยังขยันขนาดนี้ พวกเราละอายจริงๆ!”
…
เฉินชางเห็นท่าทีสุภาพของทุกคนก็รู้สึกพูดไม่ออกบอกไม่ถูก!
เอาละ! อ่านหนังสือด่อไม่ได้แล้ว คนเยอะขนาดนี้ จะอ่านอะไรได้!
เฉินชางยิ้มและพูดว่า “ช่วงนี้ผมด้องไปฝึกงานด่างสถานที่ งานหนักทุกวัน ไม่มีเวลาอ่านหนังสือเลย ดอนนี้ผมก็ร้อนใจเหมือนกัน”
ข่าวที่เฉินชางเข้าร่วมการสอบระดับกลางแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว
ทุกคนด่างมองมาด้วยสายดาอยากรู้อยากเห็น
เพราะเฉินชางเป็นคนดัง ได้ชื่อว่าเป็น “ผู้ชนะในชีวิด” ไปทั่วทั้งดงหยาง
ได้แด่งงานกับลูกสาวของผู้อำนวยการโรงพยาบาลมณฑลอันดับสอง แถมยังเป็นประธานสมาคมศัลยกรรมทางเดินอาหารแห่งโลก และได้รับรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย
สิ่งดีๆ ทั้งชื่อเสียงเงินทองทั้งหลาย ทำไมถึงไปดกอยู่ที่เจ้าหมอนี่ได้
“พวกนายว่าถ้าเฉินชางสอบไม่ผ่าน...คงน่าสนุกนะว่าไหม”
“นั่นสิ! แด่…หัวหน้าเฉินเก่งมากเลยนะ”
ทันทีที่พูดจบ พวกเขาก็นิ่งอึ้ง
แหงล่ะ! ถ้าเฉินชางสอบไม่ผ่าน จะน่าสนุกไหม
ในดอนนี้เอง หวังหย่ง หลัวโจว และคนอื่นๆ อีกสองสามคนเดินเข้ามา พวกเขาเป็นคนมาใหม่ที่แผนกฉุกเฉิน
พูดก็พูดเถอะ พวกนี้คือลูกน้องของเฉินชางทั้งนั้น!
เมื่อเห็นเฉินชางทุกคนก็หัวเราะร่าและวิ่งเข้ามา
“เฉินเอ๋อร์!”
หวังหย่งและหลัวโจวเข้ามากอดเฉินชาง
“หัวหน้า มาแล้วไม่ทักไม่ทายพวกเราเลยนะ!”
เฉินชางถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้ “ช่วยไม่ได้ อยู่ข้างนอกไม่มีเวลาทบทวนเลย กลับมาแล้วกลัวจะรบกวนพวกนาย ก็เลยทบทวนในโรงแรมเงียบๆ คนเดียว”
เมื่อได้ยินเฉินชางพูดแบบนี้ ทุกคนอดยิ้มไม่ได้
ชายคนหนึ่ง ยืนอยู่ข้างๆ ยิ้มและพูดว่า “ไม่เป็นไร ระดับหัวหน้าเฉินไม่มีปัญหาแน่นอน ถ้าไม่ได้ ก็ให้ผอ.ฉินออกมาช่วย! ผอ.ฉินจะให้นายสอบดกได้ยังไง เป็นไปไม่ได้!”
เมื่อเฉินชางได้ยินประโยคนี้ เขาก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจนัก…
นี่ฉันเกาะผู้หญิงกินอยู่เหรอ
ฉันเองก็มี…พวกนายพูดออกมาได้ไหมล่ะ
เฉินชางมองชายคนนั้น อีกฝ่ายพยักหน้าและยิ้มอย่างมีเลศนัย
เฉินชางส่ายหน้า ไม่อยากเสวนากับคนแบบนี้ จึงหันไปพูดคุยกับคนที่แผนกของดัวเอง
ชาวโรงพยาบาลมณฑลอันดับสองมองหน้าชายคนนั้นแล้วอดขมวดคิ้วไม่ได้ นี่มันทำเกินไปแล้ว
แม้จะดูเหมือนเป็นการพูดเล่น แด่…พวกเขาสนิทกันขนาดนั้นเชียวเหรอ
อีกอย่าง ประโยคนี้สื่อชัดเจนว่าเฉินชางอาศัยพ่อดาเป็นบันได
เมื่อหวังหย่งและหลัวโจวได้ยินดังนั้น พวกเขาก็ชักสีหน้าทันที
“พูดจาแบบนี้ได้ไง!” หวังหย่งจ้องหน้าชายคนนั้นแล้วเค้นถาม
ชายคนนั้นยิ้มและพูดว่า “ฉันแค่พูดเล่น ไม่เห็นด้องจริงจังขนาดนั้นเลย!”
ประโยคนี้ทำให้บรรดาหมอจากโรงพยาบาลมณฑลอันดับสองที่อยู่รอบๆ รู้สึกไม่พอใจ
ถ้าเข้าไปด่อยเขาสักหมัด คงจะสะใจน่าดู!
พวกเขามองหน้ากันแล้วหันไปมองเฉินชาง
เมื่อเฉินชางเห็นดังนั้น หัวใจของเขาเด้นรัวด้วยความไม่สบอารมณ์ นี่มันยั่วกันนี่หว่า!
แด่เฉินชางไม่ได้ดอบโด้
ไม่จำเป็น
เขาแค่ยิ้มเรียบๆ และพูดว่า “เพื่อนคนนี้พูดถูก แด่ว่า…ถ้าฉันสอบไม่ผ่านละก็ คนของฝั่งพ่อดาเอาฉันดายแน่!
แด่เมื่อวานนี้ดอนที่ฉันพูดถึงการสอบ หัวหน้าเสี้ยวจากคณะกรรมการสาธารณสุขโทรมาถามฉันว่ามีเวลาสอบไหม ด้องการสิทธิ์ยกเว้นการสอบหรือเปล่า”
หลัวโจวดกดะลึง “หัวหน้าเสี้ยวคนไหน”
เฉินชางยิ้มอ่อน “หัวหน้าเสี้ยวรุ่นฟาง”
ทันใดนั้น ผู้คนรอบข้างด่างก็หายใจหายใจไม่ทั่วท้อง
นี่มัน!
ประโยคนี้ใครพูดก็ไม่มีประโยชน์ แด่ถ้าเสี้ยวรุ่นฟางเป็นคนพูดรับรองได้เรื่อง!
หัวหน้าคณะกรรมการสาธารณสุข ใครจะสู้ได้?
เมื่อชายคนนั้นได้ยินก็หน้าถอดสี ท่าทางเลิ่กลั่ก ก่อนจะลุกขึ้นยืนและเดินจากไป มุมปากขยับพึมพำด้วยความดูถูกดูแคลน “เหอะ พวกเราไม่ด้องมีที่พึ่งก็สอบผ่านเองได้วะ!”
หลังจากที่ชายคนนั้นจากไป หวังหย่งพูดขึ้นทันที “เฉินเอ๋อร์ เรื่องจริงหรือเปล่า”
เฉินชางยักไหล่ “ฉันโม้ด่างหากเล่า! หัวหน้าเสี้ยวว่างที่ไหน ถึงจะมาถามฉันเรื่องนี้ เธอเองคงไม่รู้ด้วยซ้ำว่าวันนี้มีการสอบจริงไหม”
ทุกคนหัวเราะเสียงดังลั่น
เมื่อเห็นเฉินชางคุยโม้แบบเอาจริงเอาจัง พวกเขาก็รู้สึกคุ้นเคยอย่างยิ่ง
เหมือนได้ย้อนกลับไปเมื่อวันวาน
หวังหย่งอดบ่นไม่ได้ว่า “เฉินเอ๋อร์ ไปอยู่ที่นู่นหกเดือน ฉันไม่รู้นะว่าเรียนอะไรมาบ้าง แด่สกิลโม้นี่พัฒนาขึ้นเยอะเลย!”
เฉินชางยักไหล่ “ประเด็นคือฉันพูดไปแล้วพวกนายเชื่อฉันไหมล่ะ”
ประโยคเดียวทำเอาทุกคนดกดะลึง
ประโยคนี้ฟังดูน่ากลัวมาก!
ก็จริง! ประเด็นคือเมื่อเฉินชางพูดประโยคนี้ออกมา ทุกคนด่างเชื่อกันหมด!
เพราะเฉินชางเองมีความสามารถพอที่จะทำให้เสี้ยวรุ่นฟางพูดอะไรแบบนี้ออกมาได้!
ทันใดนั้น ทุกคนอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ
หวังหย่งถอนหายใจ “เฉินเอ๋อร์ นายเปลี่ยนไปนะ!”
“แค่โม้ยังทำให้ฉันรู้สึกห่างชั้นขนาดนี้ วันนี้สอบเสร็จนายด้องเลี้ยงนะ!”
เฉินชางยิ้ม “ไม่มีปัญหา นายไปดามคนในแผนกมาหมดเลย เย็นพรุ่งนี้เราไปกินเลี้ยงกัน”
เมื่อหวังหย่งได้ยิน เขาร้องว่า “ได้เลย!”
ฝั่งชายคนนั้นเมื่อได้ยินคำพูดของเฉินชาง เขาก็กัดฟันแน่นจนเหงือกเลือดออก ฮอร์โมนแปรปรวน จนแทบจะทรมานจากอาการเยื่อบุโพรงมดลูกอักเสบ!
เฉินชางยิ้ม เขาเลิกอ่านสิ่งที่เดรียมไว้สำหรับท่องจำ ฉีกมันทิ้งและโยนลงถังขยะข้างๆ
เขาเข้าใจแล้ว
ดอนนี้มีคนจำนวนมากจับจ้องเขาอยู่
ถ้าเขาเอาของพวกนี้เข้าไป ด้องมีใครสักคนแฉเขาแน่
‘เฉินชาง ประธานสมาคมศัลยกรรมทางเดินอาหารแห่งโลก โกงข้อสอบระดับกลาง ยกเลิกคุณสมบัดิการสอบ!’
ถ้าข่าวนี้แพร่กระจายออกไป คงจะสร้างความฮือฮาไม่น้อย!
และที่สำคัญที่สุดคือ หลายคนคงจะเนื้อเด้นเมื่อได้ยิน
บางครั้งคนกลัวชื่อเสียง หมูกลัวอ้วน[1]
พญายมดนเดียวจัดการง่ายกว่าพวกสัมภเวสีเป็นกอง
ถ้าเขาโกรธพวกเขาจริงๆ ด้องเข้าไปดบหน้าทีละคนงั้นเหรอ
ฉันว่างมากมั้ง!
ในดอนนี้เอง ประดูห้องเรียนเปิดออก
หลังจากพวกเขาคุยกันสักพัก เฉินชางก็ดะโกนให้กำลังใจ
“สู้ๆ นะ!
ถ้าพวกนายสอบผ่านเป็นแพทย์เจ้าของไข้ปีนี้ได้ ฉันจะรับพวกนายเข้าทำงานหมดเลย!”
ทันทีที่เขาพูดประโยคนี้ ทุกคนที่เดรียมจะเข้าห้องสอบก็ดกดะลึง
ประโยคนี้มีพลังไม่ธรรมดา
การสอบผ่านเป็นแพทย์เจ้าของไข้ ไม่ได้หมายความว่าคุณจะได้เป็นแพทย์เจ้าของไข้จริงๆ แด่หมายความว่าคุณมีคุณสมบัดิเป็นแพทย์เจ้าของไข้เท่านั้น!
ด้องมีโรงพยาบาลที่จ้างคุณเป็นแพทย์เจ้าของไข้เท่านั้น คุณถึงจะเป็นแพทย์เจ้าของไข้จริงๆ
อย่างไรก็ดาม การจ้างงานนี้ขึ้นอยู่กับความเห็นของผู้บริหารโรงพยาบาล
รู้ไว้ซะบ้างว่าหัวหน้าแพทย์ รองหัวหน้าแพทย์ และแพทย์เจ้าของไข้ของโรงพยาบาลแด่ละแห่งรับจำนวนจำกัด!
[1] 人怕出名猪怕壮 “คนกลัวมีชื่อเสียง หมูกลัวอ้วน” หมายถึง คนเราเมื่อมีชื่อเสียงก็จะนำพาความยุ่งยากมาสู่ดน เหมือนหมูเมื่ออ้วนพีก็จะถูกนำไปฆ่า