เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 1201 มีโอกาสจะสอนพวกคุณอ่านฟิล์ม!
จางเผยอี้เงียบไปอย่างเห็นได้ชัด
เขาอยากรู้มากกว่าเฉินชางวินิจฉัยอาการของผู้ป่วยภายในสิบนาทีได้อย่างไร
ความจริง นี่ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการคิดวิเคราะห์ของหมอคนหนึ่งอย่างแท้จริง
และนี่ก็คือความสามารถในการวิเคราะห์และวินิจฉัยโรค!
จางเผยอี้คิดถึงตรงนี้ก็เหลือบมองโหวเลี่ยงแวบหนึ่ง ก่อนจะมองพวกสวีอ้ายหมิง
สีหน้าของทุกคนเต็มไปด้วยความประหลาดใจ แต่ก็เกรงใจที่จะถาม
ถึงอย่างไร…กว่าคนคนหนึ่งจะมีความสามารถในการคิดวิเคราะห์แบบนี้ก็ไม่ง่ายเลย หลายคนไม่ยอมบอกความลับพวกนี้กับใครหรอกนะ
พูดตามตรง นี่เป็นทักษะท่าไม้ตายเลยทีเดียว
ทุกคนก็โตๆ กันแล้ว
แน่นอนว่าจะไม่หาเรื่องให้ตัวเอง ถ้าถามออกไปแล้วเฉินชางไม่ยอมตอบย่อมอึดอัดมาก
จางเผยอี้อดชื่นชมไม่ได้ “การวินิจฉัยของศาสตราจารย์เฉินเก่งกาจมาก แค่สิบนาทีก็เข้าใจอาการทั้งหมดของผู้ป่วยแล้ว นับถือจริงๆ!”
เฉินชางได้ยินคำพูดของจางเผยอี้ก็เผยรอยยิ้ม “หัวหน้าจาง คุณชมเกินไปแล้ว”
ความจริง เฉินชางเคารพจางเผยอี้มาก
จางเผยอี้ หัวหน้าแผนกฉุกเฉินโรงพยาบาลประชาชนก็ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสี่ศัลยแพทย์ฉุกเฉินที่มีชื่อเสียงของเมืองอันหยาง การพัฒนาในแผนกฉุกเฉินถือว่าไม่เลว
ความจริง…
การวินิจฉัยของเฉินชางใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำ ที่ครั้งนี้ใช้ไปสิบนาที เพราะเฉินชางใช้เวลาในการพยายามวิเคราะห์ความคิดและการชักจูงของผู้คุมสอบไปไม่น้อย
แต่เฉินชางก็ไม่ได้อธิบาย แค่ยิ้มพูด “ความจริงก็ไม่ได้มีเทคนิคอะไรหรอกครับ”
จากนั้นสายตาเฉินชางก็ทอประกาย ก่อนจะพูดต่อว่า “นี่เป็นกระบวนการวินิจฉัยจากเบาะแสสำคัญ!”
ทุกคนรอบข้างได้ยินแบบนี้ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย
“วินิจฉัยจากเบาะแสสำคัญหรือครับ”
ทุกคนอดถามย้ำไม่ได้ แต่ก็ไม่พูดอะไรอีก
ไม่ใช่เพราะคิดว่าเฉินชางตอบลวกๆ
แต่พวกเขากำลังวิเคราะห์คำพูดประโยคนี้ของเฉินชางอย่างละเอียด
เวลาค่อยๆ ล่วงเลยไปท่ามกลางความเงียบ
พวกเขายิ่งวิเคราะห์ ยิ่งรู้สึกถึงความลึกล้ำที่แฝงอยู่!
ถึงขั้นทำให้พวกเขารู้สึกเข้าใจกระจ่างแจ้ง
คำพูดประโยคนี้เหมือนสะพานเส้นใหม่ ที่เชื่อมเส้นทางใหม่สำหรับการคิดวิเคราะห์ให้กับพวกเขา!
ความคิดแปลกใหม่หรือ
ไม่!
คำนี้ไม่เพียงพอที่จะแสดงความตื่นเต้นภายในใจของพวกเขาได้
นี่คือแนวคิดใหม่และวิธีใหม่!
เพียงพอที่จะชดเชยการขาดวิธีการในการวินิจฉัยและการรักษาของพวกเขา
ตอนที่เจอผู้ป่วยและอาการที่พบยาก จะได้รู้ว่าควรรับมืออย่างไร!
ชั่วขณะนี้ สายตาของผู้เชี่ยวชาญทุกคนที่อยู่ในนั้นค่อยๆ ออกจากความสับสนและประหลาดใจ แต่ละคนตาเป็นประกาย
คำพูดของเฉินชางได้เตือนสติทุกคน ทำให้ทุกคนมีความรู้สึกเหมือนเห็นแสงสว่างและอนาคตที่สดใส!
หลังจากทุกคนคิดเชื่อมโยงไปถึงผู้ป่วยคนนี้ วิเคราะห์อย่างละเอียด ยิ่งสัมผัสก็ยิ่งรู้สึกว่าสภาวะแบบนี้ช่างมหัศจรรย์
ทุกคนสูดหายใจเข้าลึกๆ มองเฉินชาง อดยิ้มอย่างซาบซึ้งใจไม่ได้
“ขอบคุณศาสตราจารย์เฉินครับ!”
“ใช่ครับ! มีประโยชน์มากเลยครับ!”
“รู้สึกเข้าใจกระจ่างแจ้งขึ้นมาทันทีเลยครับ!”
ทุกคนพูดอย่างจริงใจมาก และซาบซึ้งใจมากจริงๆ
ตอนหนุ่มๆ ติดตามอาจารย์เป็นเรื่องที่ง่ายมาก ศาสตราจารย์อาวุโสส่วนใหญ่ก็ยินดีที่จะสอนพวกหมอรุ่นใหม่ ให้พวกเขาคอยช่วยงานตน
ทว่า!
ไม่มีใครอยากสอนผู้เชี่ยวชาญและศาสตราจารย์พวกนี้หรอกนะ
เพราะอะไรน่ะหรือ
เพราะพวกเขามีระบบของตนเองแล้ว พอมาเรียนจากคุณ ก็อาจจะเรียนรู้ความรู้เฉพาะทางสำคัญๆ ของคุณไปได้ง่ายๆ และแซงหน้าคุณ!
เพราะฉะนั้นโดยทั่วไปแล้ว คนส่วนใหญ่จะค่อนข้างหวงความรู้
ทว่า!
ทุกคนค้นพบว่าศาสตราจารย์เฉินที่อยู่ตรงหน้าเหมือนจะไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้ ถึงขั้นชี้แก่นสำคัญออกมาอย่างไม่หวงความรู้เลยสักนิด!
เฉินชางยิ้มเล็กน้อย “แลกเปลี่ยนความรู้กันครับ!”
ความจริงเฉินชางเองก็ดีใจมาก เขาเหมือนจะคิดออกแล้วว่าจะสอนอะไรให้กับนักศึกษาอายุรศาสตร์ของวิทยาลัยการแพทย์ปักกิ่งยูเนี่ยน!
เคสในวันนี้เป็นเนื้อหาบรรยายที่ดีมาก!
แต่ยังไม่สมบูรณ์มากพอ!
สิ่งที่เฉินชางจะสอนคือการวินิจฉัย!
ในบทเรียนมีสอนเรื่องการวินิจฉัยอยู่แล้ว มีทั้งการวินิจฉัยทางแพทย์แผนจีน การวินิจฉัยทางแพทย์แผนตะวันตกและอื่นๆ
แต่จะวินิจฉัยอย่างไร ความจริงอยากวินิจฉัยอาการของผู้ป่วยอย่างแม่นยำ จะต้องจับประเด็นเกี่ยวกับองค์ประกอบหลักบางอย่างเพื่อวิเคราะห์
และยิ่งเป็นเคสพิเศษ ก็ยิ่งต้องจับประเด็นความย้อนแย้งหลักให้ได้!
ในกระบวนการวินิจฉัย มีรายงานผลการตรวจต่างๆ ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นตัวบ่งชี้พื้นฐาน เป็นหลักฐานในร่างกายมนุษย์
ถ้าอย่างนั้น จะใช้ข้อมูลนี้เพื่อวินิจฉัยและรักษาผู้ป่วยให้แม่นยำได้อย่างไร
นี่เป็นเรื่องที่ท้าทายระดับความสามารถมาก!
แน่นอนว่า การวินิจฉัยทางการแพทย์เป็นหนังสือระดับเริ่มต้นที่จะช่วยปลูกฝังการคิดวิเคราะห์ในการวินิจฉัย
แต่ถ้าอยากพัฒนาก็ต้องมีแนวคิดที่มากขึ้น และแนวคิดเหล่านี้ต้องผ่านการวิจัยและค้นพบจากเคสผู้ป่วยทีละเคส
นี่ก็คือสาเหตุที่ผู้เชี่ยวชาญชื่อดังหลายคนระบุสาเหตุของโรคได้อย่างแม่นยำ!
การรักษาพยาบาลไม่ใช่เรื่องง่าย ตอนนี้จู่ๆ เฉินชางก็พบว่า หนทางหลังจากนี้ยังอีกยาวไกล
สิ่งที่ต้องเรียนรู้และพัฒนายังมีอีกมาก!
ไม่นานการทดสอบในช่วงเช้าก็สิ้นสุดลง
เพราะเฉินชางทำให้เรื่องราวฮือฮาขึ้นมา คนที่ได้รู้เรื่องวันนี้มากขึ้นเรื่อยๆ
ภายใต้ความพยายามของหลี่ฮุยและกระทรวงสาธารณสุขมณฑลตงหยาง เรื่องนี้ถือว่าได้รับการแก้ไขปัญหาอย่างน่าพอใจ
เว่ยจู๋ฮว๋า หัวหน้ากระทรวงสาธารณสุขมณฑลตงหยางมาเยี่ยมผู้ป่วยที่โรงพยาบาลประชาชนด้วยตัวเอง ย้ำเตือนให้รักษาอย่างสุดความสามารถ
แน่นอนว่าผู้ป่วยตื่นเต้นมาก!
ถึงอย่างไรชีวิตนี้เขาก็ยังไม่เคยภาคภูมิใจขนาดนี้มาก่อน
ผมมีความสุขมากจริงๆ!
ตั้งแต่เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล เหมือนว่าจะโชคดีขึ้นมา พวกผู้นำมาถามไถ่อย่างใส่ใจ!
ทว่าผู้ป่วยก็ถือว่าใจใหญ่มาก ดูเหมือนไม่กลัวเลยสักนิด
แต่ญาติผู้ป่วยตกใจไม่น้อย
ตอนที่ผู้นำกระทรวงสาธารณสุขมาเยี่ยม จู่ๆ ผู้ป่วยก็รู้สึกไม่สบาย ความเจ็บปวดอันรุนแรงแผ่ลามออกมา ทำให้เขางอตัวบนเตียงกะทันหัน
คิดไม่ถึงว่าผู้ป่วยจะอาการกำเริบไวขนาดนี้!
ชั่วขณะนี้ แม้แต่ผู้นำเว่ยจู๋ฮว๋ายังตกใจ มองบุคลากรทางการแพทย์ที่วิ่งวุ่นแล้วทำอะไรไม่ถูก
เมื่อครู่นี้เขาแค่จับมือผู้ป่วย…ทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ได้
ตอนนี้เอง จู่ๆ เฉินชางที่อยู่แถวสุดท้ายก็พูดขึ้น “เกิดจากภาวะหลอดเลือดแดงใหญ่ฉีกขาด รีบไปเอกซเรย์ทรวงอกและช่องท้อง!”
จางเผยอี้รีบพยักหน้า เข็นผู้ป่วยวิ่งออกไป ส่วนโหวเลี่ยงตามไปติดๆ!
พวกเขารู้อาการของผู้ป่วยเป็นอย่างดี!
ถ้าเกิดปัญหาอะไรขึ้นจริงๆ เป็นเรื่องใหญ่แน่
ทว่า…
ในใจพวกเขามีเพียงคำถามเดียว!
“ศาสตราจารย์เฉิน เอกซเรย์ทรวงอกและช่องท้องจะได้ผลหรือครับ” จางเผยอี้ถาม “ไม่อย่างนั้นรีบตรวจด้วยคลื่นสนามแม่เหล็กไฟฟ้าอีกครั้งดีไหมครับ จะได้ดูว่ามีตรงไหนฉีกขาดบ้าง!”
เฉินชางรีบส่ายหน้า “ไม่ต้องแล้วครับ ไม่ทันแล้ว”
อาการผู้ป่วยรุนแรงขึ้นได้ทุกเมื่อ!
CTA เอกซเรย์คอมพิวเตอร์หลอดเลือดตอนนี้ เป็นการรนหาที่ตายอย่างแน่นอน
แต่ภาพเอกซเรย์ไม่ชัดเจนนะ
ทุกคนกำลังลังเล เฉินชางพลันพูดเสริมว่า “เอกซเรย์ก็พอแล้วครับ”
เห็นทุกคนเหม่อเล็กน้อย เฉินชางก็จนปัญญา “มีโอกาสจะสอนพวกคุณอ่านฟิล์ม”
ทุกคนดีใจขึ้นมาทันที