เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 1203 บอสระดับราชา!
ตอนนี้ทุกคนกำลังสับสน
เมื่อมองวงกลมที่เฉินชางวาดบนภาพเอกซเรย์หลอดเลือดแดงใหญ่ จางเผยอี้ก็อดถามขึ้นมาไม่ได้ “ศาสตราจารย์เฉิน วงกลมที่คุณวาดหมายถึงอะไรครับ”
ถูกต้อง! ไม่ใช่แค่จางเผยอี้ที่ไม่เข้าใจ คนอื่นๆ ก็ไม่เข้าใจเช่นกัน
เฉินชางพูดอย่างเรียบเฉยว่า “มันคือภาวะหลอดเลือดแดงใหญ่ฉีกขาด”
จางเผยอี้ได้ยินดังนั้นก็ตกตะลึงทันที!
นี่คุณไตร่ตรองทุกแง่มุมแล้วเหรอ
แบบนี้ผมก็ทำได้เหมือนกัน!
เฉินชางหยุดนิ่ง หันกลับมาและพูดต่อว่า “อ้อ พวกนี้เป็นการฉีกขาดทั้งหมดเลยครับ”
ประโยคเดียวทำเอาจางเผยอี้ตกใจจนยืนอึ้งอยู่กับที่ ไม่ขยับเขยื้อน!
คุณล้อเล่นใช่ไหม?
แต่โหวเลี่ยงไม่พูดอะไร
เขาคิดว่าสงสัยกันไปตอนนี้ก็เปล่าประโยชน์ เดี๋ยวก็จะผ่าตัดแล้ว จะเถียงกันไปทำไม
เอาเวลานี้ไปเตรียมตัวสำหรับการผ่าตัดดีกว่า!
ดังนั้น โหวเลี่ยงจึงตามเฉินชางไปล้างมือ
ฝั่งเยว่เทามองดูภาพบนหน้าจอ พลางครุ่นคิดอย่างหนัก
ตอนนี้ภาพถ่ายรังสีเอกซ์ CT แสกน และภาพถ่ายรังสีต่างๆ ในตอนนี้กำลังซ้อนทับกันในหัวของเขาอย่างต่อเนื่อง… เปรียบเทียบอีกครั้ง…ทับซ้อน…
ทันใดนั้น เยว่เทาก็มองเห็นวงกลมที่เฉินชางวาดไว้ตอนที่เขาเดินเข้ามา สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที!
เขารู้สึกตัวทันใด นี่…นี่อาจจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญ! มันไม่ใช่เรื่องบังเอิญจริงๆ!
ตอนนี้เยว่เทาไม่สนใจพฤติกรรมที่ดูไร้มารยาทของเฉินชางเมื่อครู่
เพราะเมื่อเป็นเรื่องของชีวิต ไม่มีธรรมเนียมมารยาทใดสำคัญไปกว่าสุขภาพของผู้ป่วย
ทันใดนั้น เยว่เทาก็รีบตามไปและถามว่า “ศาสตราจารย์เฉิน ผม…ผมขออยู่ด้วยได้ไหมครับ”
เฉินชางยิ้มและพูดว่า “ศาสตราจารย์เยว่เกรงใจกันเกินไปแล้วครับ ได้สิครับ”
เยว่เทาโล่งใจ มีความสุขขึ้นมาทันที
บอกตามตรง คำพูดคำจาของเฉินชางตอนนี้ ทำให้เขารู้สึกสบายใจขึ้นมาก
เว่ยจู๋ฮว๋าและผู้อำนวยการหลี่ฮุยที่ตามหลังมาต่างมองหน้ากัน
เฉินชางให้จางเผยอี้ไปขอให้ญาติผู้ป่วยเซ็นชื่อยินยอมเข้ารับการผ่าตัดด้วยตัวเอง
เมื่อทราบอาการของสามี ครอบครัวเพียงแต่ตกใจจนเหงื่อเย็นไหลซึม แต่ยังมีความหวังอยู่
อ้างอิงจากคำพูดของจางเผยอี้ “ผู้ป่วยป่วยสะสมมานาน อาการอาจจะปะทุเอาคราวนี้ ศาสตราจารย์เฉินน่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสำหรับการผ่าตัดครั้งนี้เท่าที่ผมคิดได้!
พวกคุณเคยดูรายการ ‘ท้าทายความเป็นไปไม่ได้’ ไหม ศาสตราจารย์เฉินลงมือผ่าตัดให้ผู้ป่วยเองกับมือ! ดังนั้น ทุกคนไม่ต้องกังวล”
หัวหน้าเว่ยและหลี่ฮุยถูกไล่ออกจากห้องผ่าตัด
นี่ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ
ทั้งสองเดินไปที่ห้องทำงานข้างๆ และเชื่อมต่อวิดีโอจากห้องผ่าตัด
หลังจากนั้น…ทั้งสองต่างมองหน้ากันไปมาอย่างอึ้งๆ
เว่ยจู๋ฮว๋าสบตาหลี่ฮุย “คุณเข้าใจไหม”
หลี่ฮุยหน้าแดง “ไม่ค่อย…เข้าใจเท่าไรมั้ง”
หลังจากการผ่าตัดเริ่มต้น ทั้งสองนั่งจ้องหน้าจออยู่ในห้องทำงาน และหันมามองหน้ากันเป็นครั้งคราว
แต่บ่อยครั้งมันน่าเบื่อจนพวกเขาแทบบ้า
หลังจากผ่านไปครึ่งชั่วโมง หลี่ฮุยก็ยอมรับว่าเขาอดทนไม่ไหวและหาวเป็นคนแรก
เว่ยจู๋ฮว๋าจ้องหลี่ฮุย คิ้วขมวดมุ่น!
เขาพยายามกลั้นหาวอยู่นาน
ทีแรกเขากะจะทนต่ออีกสักหน่อย แต่ไม่คาดคิดว่าหลี่ฮุยจะเริ่มก่อน!
รู้ไว้ใช่ว่า…การหาวนั้นติดต่อกันได้จริง
และ!
การติดต่อนั้นเป็นวิธีที่ร้ายกาจที่สุด มันติดต่อกันได้ผ่านเสียงและภาพ เมื่อคุณเห็นคนอื่นหาว คุณก็มีแนวโน้มที่จะหาวตาม
หลี่ฮุยรู้สึกอับอายที่ถูกหัวหน้าจ้องเขม็งเช่นนี้ แต่ว่า…ช่วยไม่ได้จริงๆ นี่ ใครจะไปรู้ว่าเขาจะไม่เข้าใจอะไรสักอย่างเลยจริงๆ
อย่างไรก็ตาม!
สถานการณ์ในนี้ตรงกันข้ามกับสถานการณ์ในห้องผ่าตัด!
ในห้องผ่าตัด!
หลังจากผู้ป่วยผ่านการรมยาสลบแล้ว เฉินชางก็ผ่าเปิดแผลยาว 1.5 เมตรตามแผนที่เขาวางไว้ตามอาการของผู้ป่วย!
ตำแหน่งของปากแผลนั้นแปลกมาก ถึงขั้นดีไซน์ขึ้นโดยเฉพาะในบริเวณที่ผู้ป่วยมีอาการ
แต่หลังจากเฉินชางลงมือกรีดเปิดปากแผล ทุกคนก็ยืนนิ่งอยู่กับที่ด้วยความตกตะลึง!
จางเผยอี้ โหวเลี่ยงและเยว่เทา ต่างก็มีสีหน้าเคร่งเครียด
พวกเขามองดูรายงานผลตรวจหลายฉบับบนหน้าจอที่สว่างไสว โดยเฉพาะภาพเอกซเรย์หลอดเลือด ซึ่งมีวงกลมเล็กๆ วาดอยู่หลายวง
และวงกลมเล็กๆ เหล่านี้ดูคล้ายคลึงกับจุดที่ผู้ป่วยเกิดภาวะหลอดเลือดแดงใหญ่ฉีกขาดในตอนนี้จนน่าตกใจ!
ความรู้สึกตะลึงงันนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน!
ใครจะไปเชื่อ
ถ้าไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเอง พวกเขาคงไม่มีวันเชื่อว่าเรื่องแบบนี้จะเกิดขึ้นได้
นี่…นี่มันเทพเกินไปแล้ว!
ตอนนี้ทั้งสามคนมองเฉินชางด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความชื่นชม!
โดยเฉพาะเยว่เทา ในฐานะหัวหน้าแผนกรังสีวิทยา เขารู้ดีว่านี่เป็นเรื่องยากแค่ไหน!
นอกจากพรสวรรค์แล้ว หากไม่มีประสบการณ์การอ่านภาพเอกซเรย์มากพอ ไม่มีทางทำได้เลย!
เฉินชางเก่งกาจจริงๆ
เยว่เทาลืมเรื่องเฉินชางที่แย่งแผ่นฟิล์มของเขาไปดูเมื่อครู่เสียสนิท
สถานะของเฉินชางในใจของพวกเขาสูงขึ้นมาก!
อย่างไรก็ตาม…
ไม่ว่าพวกเขาจะคิดอย่างไร แต่ตอนนี้ นาทีนี้!
เฉินชางกลับนิ่งขรึมผิดปกติ
เขาสัมผัสหลอดเลือดด้วยมือทั้งสองข้าง รู้สึกถึงข้อมูลที่ส่งมาเป็นระลอก เฉินชางรู้สึกกระวนกระวายไม่น้อย!
บอกตามตรง เขาไม่คาดคิดว่าจะได้พบกับบอสระดับราชาในวันนี้!
และที่สำคัญที่สุด มันคือบอสภาวะหลอดเลือดแดงใหญ่ฉีกขาดระดับราชา!
ความยากทวีคูณขึ้นมาทันที!
[บอสภาวะหลอดเลือดแดงใหญ่ฉีกขาดระดับราชา เลเวล 90 โรคคาวาซากิของผู้ป่วยไม่ได้รับการรักษาจนหายขาด ทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรังเป็นเวลานาน ส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันทำลายหลอดเลือดในบริเวณนั้น หลอดเลือดหลายจุดเสียหายจนเกินเยียวยา แนะนำให้ผ่าตัดเปลี่ยนอวัยวะ!]
เฉินชางอดส่ายหัวไม่ได้
กลัวอะไรก็ได้อย่างนั้นจริงๆ
เมื่อก่อนตอนอยู่เมืองหลวง เขามีผู้ช่วยมือทองอยู่เคียงข้าง เฉินชางตื่นเต้นที่จะได้เจอกับบอสระดับราชาแบบนี้ เพราะมันหมายถึงผลตอบแทนที่ยิ่งใหญ่!
แต่…ตอนนี้ เฉินชางกลับรู้สึกหวาดกลัว
บอสระดับราชา หมายถึงมีปัจจัยที่ต้องพิจารณามากขึ้น
รายละเอียดที่ต้องใส่ใจมากขึ้น
ความยากก็มากขึ้นเช่นกัน!
เฉินชางกวาดสายตามองไปทั่วหลอดเลือดของผู้ป่วยอย่างต่อเนื่อง
เพื่อความปลอดภัย เฉินชางจึงได้แต่ค่อยๆ ดำเนินการไปทีละขั้นตอน
ผู้ป่วยทั่วไปแตกต่างจากผู้ป่วยวิกฤตตรงที่ความเสียหายของหลอดเลือดเป็นแบบเฉพาะที่ ไม่ได้ส่งผลต่อร่างกายทั้งหมด
นี่คือข่าวดี
แต่ขณะเดียวกันยังมีข่าวร้ายอีกหนึ่งประการ
นั่นคือร่างกายของผู้ป่วยทนได้ไม่มาก ตับของเขาทำงานผิดปกติ จุดเชื่อมหลอดเลือดมีความซับซ้อน
รักษายังไงดี ช่างเถอะ! ค่อยๆ ทำไปทีละขั้นตอน แก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อนก็แล้วกัน
พอคิดได้ดังนี้ เฉินชางก็กลั้นใจ มองโหวเลี่ยงที่อยู่ฝั่งตรงข้ามและพูดว่า “มาเป็นผู้ช่วยให้ผมหน่อยครับ!”
โหวเลี่ยงได้ยินดังนั้นก็ตื่นเต้น
การเป็นผู้ช่วยของเฉินชางนั้นยากมาก ทุกคนในแผนกศัลยกรรมหัวใจต่างรู้กันดี
“ได้ครับ!”
โหวเลี่ยงไม่ลังเล พยักหน้าตอบตกลงด้วยความตื่นเต้น
เฉินชางหันไปและพูดว่า “มีดผ่าตัด!”