เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 1221 ที่ไหน เมื่อไร!
เท่าที่ทุกคนรู้จักเฉินชางมา เขาไม่ใช่คนที่ทำอะไรอย่างไร้เป้าหมายแน่นอน
ตอนนี้จู่ๆ เขาก็เสนอให้ผ่อนผันเกณฑ์การคัดเลือก แปลว่ามีปัญหาแน่นอน!
พอคิดได้แบบนี้ ทุกคนพากันเงยหน้าจ้องมองเฉินชาง
เมิ่งซีก็เบิกตากว้างเช่นกัน เธอจ้องมองลูกศิษย์คนโตของตน เปี่ยมด้วยความฉงน
เธอศึกษาโรคนี้มาโดยตลอด ตอนอยู่ในสถาบันคาโรลินสกาที่ประเทศสวีเดนก็เคยติดตามอาจารย์ที่ปรึกษาเข้าผ่าตัดและทำการทดลองทางคลินิกมาก่อน
ทราบถึงความอันตรายของโรคนี้ดี!
ทันทีที่ผ่อนผันเกณฑ์การคัดเลือกลง สถิติการเสียชีวิตและอัตราเกิดภาวะแทรกซ้อนจะเพิ่มสูงขึ้นแน่นอน
เนื่องจากหลังมีการผ่อนผัน ผู้ป่วยจำนวนมากที่ตกอยู่ในสภาวะสิ้นหวังแล้วจะแห่ยื่นใบสมัครเข้ามา
เดิมทีคนเหล่านี้ก็เตรียมใจแล้วว่าต้องตายแน่ หากว่ามีการทดลองทางคลินิกที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย พวกเขาไม่มีทางไปเข้ารับการผ่าตัดตามรูปแบบทั่วไปแน่นอน
อย่างไรเสียทางหนึ่งต้องเสียเงิน กับอีกทางที่ไม่ต้องเสียเงิน ทั้งสองทางจึงต่างกันมาก
ในทางการแพทย์ เรื่องที่น่าเศร้าใจที่สุดคือช่วยชีวิตคนไม่ได้ แถมยังต้องเสียเงินอีก
เสียทั้งคนเสียทั้งเงิน!
คนที่ยังอยู่จะทุกข์ทรมานแค่ไหน
ดังนั้นถึงได้มีผู้ป่วยที่คิดฆ่าตัวตายอย่างอวี๋หวั่นอยู่
เนื่องด้วยเหตุผลนี้ ทันทีที่ผ่อนผันเกณฑ์การคัดเลือกลง จะต้องมีคนมากมายแห่สมัครเข้ามาแน่ ไม่มีทางขาดแคลนเคสตัวอย่าง
แต่ว่า!
ขณะเดียวกันก็จะมีปัญหาและข้อพิพาทตามมาด้วย
ถึงอย่างไรก็มีสถิติการเสียชีวิตสูงมาก!
ย่อมมีข้อพิพาทมากตามมาเป็นธรรมดา
ถึงขั้นที่หลังจากมีผู้ป่วยความเสี่ยงสูงเข้ามาแล้ว แนวโน้มความเสี่ยงในเคสตัวอย่างจะโน้มเอียงไปทางฝั่งผู้ป่วยอาการหนักด้วย ทำให้สถิติการเสียชีวิตพุ่งสูงเกินไป
เมิ่งซีนับถืออาจารย์ที่ปรึกษาของตัวเองมาโดยตลอด อาจารย์ที่ปรึกษาของเธอวิจัยเรื่องนี้มาตลอดแต่ไม่เคยได้ผลสรุป
เพราะหากคิดจะลดสถิติการเสียชีวิตลงก็ยังคงยากมากอยู่ดี!
เรื่องที่อาจารย์ของตนยังทำไม่ได้ แต่ลูกศิษย์ของตนกลับอยากทำอย่างนั้นหรือ
พอคิดได้แบบนี้ ดวงตาของเมิ่งซีเปล่งประกายสดใสขึ้นมา
ในใจเกิดความคาดหวังอย่างยิ่ง
เทียบกับทุกคนแล้ว หลี่เป่าซานกลับสงบกว่ามาก
เขาเพียงมองเฉินชางเงียบๆ ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร เขาก็พร้อมสนับสนุนเฉินชางเสมอ
เฉินชางยิ้มแล้วลุกขึ้นยืน เอ่ยว่า “ทุกคนจำเรื่องสอบประเมินกลางของผมเมื่อไม่กี่วันก่อนได้ไหมครับ ที่บังเอิญพบผู้ป่วยโรคคาวาซากิ
ระดับความเสียหายในหลอดเลือดใหญ่ของเขาอันตรายกว่าผู้ป่วยมาร์แฟนซินโดรมซะอีก หลอดเลือดแดงใหญ่ก็ฉีกขาดหลายจุด ผ่าตัดไม่ได้เลย ถึงขึ้นปรากฏอาการรั่วในชั้นหลอดเลือดใหญ่ที่ฉีกข ขาดด้วย
ตั้งแต่ตอนนั้น…ผมก็คิดวิธีผ่าตัดแบบพิเศษอย่างหนึ่งขึ้นมาได้ มีผลช่วยลดสถิติการเสียชีวิตลงได้
ที่ผมคิดไว้ก็คือจะใช้วิธีผ่าตัดนี้ในการผ่าตัดทางคลินิกของพวกเราเพื่อลดสถิติการเสียชีวิตของผู้ป่วยความเสี่ยงสูงลง!”
พอได้ยินเฉินชาพูดออกมาง่ายๆ แบบนี้ ทุกคนก็ไม่ค่อยสบายใจนัก
คิดวิธีผ่าตัดขึ้นมาได้กะทันหันอย่างนั้นหรือ
ระดับความยากแบบนี้…สูงมากเลยนะ!
เพราะถึงอย่างไรก็มีผู้เชี่ยวชาญและนักวิชาการรายอื่นที่ศึกษาทำวิจัยมานานขนาดนั้นแล้วก็ยังคิดค้นออกมาไม่ได้ แต่คุณคิดค้นขึ้นมาได้ในการผ่าตัดเคสหนึ่งอย่างนั้นหรือ
พูดน่ะง่าย แต่จะทำได้ง่ายขนาดนั้นหรือ
ตอนนี้เอง จู่ๆ ก็มีเสียงเรียกเข้าจากมือถือของเฉินชาง
“เฉินชาง ฉันเสี้ยวเจ๋อไห่นะ” เพิ่งจะกดรับสาย เสียงของเสี้ยวเจ๋อไห่ก็ลอดออกมา
หลังจากเฉินชางได้ยินก็รีบเอ่ยทัก “สวัสดีครับ ผู้อำนวยการเสี้ยว”
เสี้ยวเจ๋อไห่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านหลอดเลือดใหญ่ในประเทศจีน เรื่องฝีมือย่อมไม่ต้องพูดถึงเลย
เสียงของเสี้ยวเจ๋อไห่ฟังดูค่อนข้างทุ้มลึก ทำให้เฉินชางค่อนข้างฉงน
“มีเรื่องนิดหน่อยน่ะ ฉันเลยอยากขอความช่วยเหลือจากคุณ”
หลังจากเฉินชางได้ฟังประโยคนี้ก็ไม่ได้รีบตอบรับออกไป อย่างไรก็ตาม…ธุระที่ทำให้เสี้ยวเจ๋อไห่ต้องมาขอความช่วยจากตน จะใช่เรื่องเล็กๆ ได้หรือ
เสี้ยวเจ๋อไห่เป็นบุคลระดับไหนกันล่ะ
นี่คือคนที่ได้รับการขนานนามให้เป็นมือฉมังด้านหลอดเลือดใหญ่ตีคู่กันมากับซุนจงแห่งโรงพยาบาลอันเจิน เป็นตัวพ่อที่มีชื่อติดทำเนียบหมอชื่อดังร้อยอันดับในจีน
ด้านการผ่าตัดหลอดเลือดใหญ่ในประเทศจีน ซุนจงโด่งดังในแถบเหนือ ส่วนเสี้ยวเจ๋อไห่โด่งดังในแถบใต้เสมอมา
แต่ในวงการ ซุนจงมีสถานะสูงกว่า เพราะเสี้ยวเจ๋อไห่ค่อนข้างแปลกแยก ดังนั้นทุกคนจึงมองว่าเสี้ยวเจ๋อไห่เทียบซุนจงไม่ติด
แต่ถึงเฉินชางจะไม่เคยเจอซุนจงมาก่อน แต่กลับเคยเห็นการผ่าตัดของเสี้ยวเจ๋อไห่มากับตา เรียกได้ว่ายอดเยี่ยมมาก!
อย่างไรก็ตาม หากว่ากันในด้านความเร็วในการเย็บเชื่อมหลอดเลือดระหว่างซี่โครงแล้ว เสี้ยวเจ๋อไห่คืออันดับหนึ่งในประเทศ
เฉินชางลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เอ่ยไปว่า “ผู้อำนวยการเสี้ยว คุณพูดมาได้เลยครับ ถ้าช่วยได้ผมจะช่วยอย่างสุดกำลังแน่นอนครับ”
เสียงลมหายใจของเสี้ยวเจ๋อไห่ถี่กระชั้นพอสมควร ดูเหมือนจะค่อนข้างกระวนกระวาย “มีการผ่าตัดเคสหนึ่งที่ฉันทำไม่ไหว แต่ฉันก็ไม่อยากไปหาซุนจง ฉันก็เลยมาขอความช่วยเหลือจากคุณ
แต่ว่า…ผู้ป่วยคือคนที่เคยผ่านความตายมาแล้วหนหนึ่ง สถานการณ์ค่อนข้างอันตรายมาก ตัวฉันเองก็…ไม่มีความมั่นใจเลย”
พอเฉินชางได้ฟังก็ใจเต้นแรงขึ้นมา “สถานการณ์เป็นอย่างไรครับ”
เสี้ยวเจ๋อไห่ถอนหายใจ “เขาคือผู้ป่วยคนหนึ่งในโรงพยาบาลรุ่ยจินของฉัน ครั้งก่อนตอนที่ฉันผ่าตัดให้ ผู้ป่วยเสียเลือดไปมาก มีอาการฉีกขาดรั่วซึม ตกอยู่ในสถานการณ์เสี่ยง 100%
ครั้งนั้นฉันพยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อยื้อชีวิตเขาเอาไว้ แต่กลับผ่าตัดต่อไม่ได้ ตอนนี้สถานการณ์ของเขาอันตรายมากกว่าเดิม จำเป็นต้องได้รับการผ่าตัด”
หลังพูดจบ เสี้ยวเจ่อไห่ถอนหายใจออกมา “สภาพของผู้ป่วยไม่ตรงเกณฑ์บ่งชี้ในการผ่าตัด มีความเสี่ยงจะเสียเลือดสูงมาก อัตราการเสียชีวิตก็สูงมาก อัตราการรอดชีวิตจากการประเมินก่อน เข้ารับการผ่าตัดไม่ถึงสองขั้นด้วยซ้ำ!”
“คุณ…ยินดีช่วยไหม”
เสียงของเสี้ยวเจ๋อไห่ค่อนข้างหวั่นวิตก
ผู้ป่วยรายนี้คือฝันร้ายของเขา ตอนนั้นเขาดำเนินขั้นตอนอย่างรวดเร็วเพื่อจะลดภาวะแทรกซ้อนหลังผ่าตัด ส่งผลให้เกิดภาวะขาดรั่วขึ้นในหลอดเลือดแดงใหญ่ของผู้ป่วย
หลังจากห้ามเลือดสำเร็จ ก็ผ่าตัดต่อไปไม่ได้
ดังนั้น…เสี้ยวเจ๋อไห่จึงพยายามอย่างสุดกำลังเพื่อจะรักษาชีวิตผู้ป่วยไว้
แต่ถึงรักษาชีวิตไว้ได้ ผู้ป่วยกลับออกจากห้องไอซียูไม่ได้แล้ว
หลังจากเฉินชางได้ยินก็เงียบไปทันที
อะไรคือไม่ตรงเกณฑ์บ่งชี้ในการผ่าตัดน่ะหรือ
นี่หมายความว่าผู้ป่วยมีภาวะแทรกซ้อนบางอย่างที่ทำให้ผู้ป่วยมีเกณฑ์เสี่ยงสูงในการผ่าตัด อัตราการเสียชีวิตสูงมาก รวมถึงอาจจะเกิดอุบัติเหตุเหนือความคาดหมายสารพัดอย่างควบคู่มาด้วย
อ้างอิงจากตัวชี้วัดแล้ว สถานการณ์แบบนี้จะเข้ารับการผ่าตัดไม่ได้
เมื่อเข้ารับการผ่าตัด ก็อาจจะไม่ได้ลงจากเตียงผ่าตัดอีก
เนื่องจากการผ่าตัดไม่ใช่ตัวเรื่องที่ปลอดภัยที่สุด
แต่ว่า…
เสี้ยวเจ๋อไห่ไม่อยากเห็นเขานอนอยู่ในห้องไอซียูแล้วจริงๆ ทุกวันต้องสอดท่อไว้เพื่อเฝ้าสังเกตสัญญาณชีพ
ตอนที่เขาไปตรวจอาการเมื่อวาน เขาเอ่ยกับเสี้ยวเจ๋อไห่ว่า “ผู้อำนวยการเสี้ยว ขอบคุณมากที่ช่วยชีวิตผม แต่ว่า…ผมไม่อยากมีมีชีวิตอยู่ไปวันๆ แบบนี้แล้ว
ผมอยากเห็นแสงแดด อยากออกไปเดินเล่น ผมคิดว่าการที่ผมนอนอยู่ที่นี่ก็ไม่ต่างจากจากตายไปแล้วมากนัก
ผมอยากเข้ารับการผ่าตัดครั้งสุดท้ายครับ”
คำพูดนี้ทำให้เสี้ยวเจ๋อไห่สะเทือนใจเหลือเกิน
หลังจากลังเลอยู่นานสองนาน เสี้ยวเจ่อไห่ก็ตัดสินใจว่าจะเชิญเฉินชางไปผ่าตัดครั้งนี้ให้สำเร็จ
เฉินชางส่ายหน้าเล็กน้อย อย่างน้อยก็คงเป็นมอนสเตอร์ระดับบอส จะมีความยากมากขนาดไหนแค่คิดดูก็รู้แล้ว
เขานึกถึงผู้ป่วยโรคคาวาซากิเมื่อสองสามวันก่อน เป็นความรู้สึกที่ต้องเอาชีวิตรอดจากความสิ้นหวัง!
เฉินชางนึกเสียใจขึ้นมาแล้ว
ถ้าหากตนไม่เกิดไหวพริบคิดหาวิธีขึ้นมาได้จะเป็นอย่างไรกัน
แต่ผู้ป่วยคนนี้ทำให้เสี้ยวเจ๋อไห่รู้สึกไม่มั่นใจว่าจะผ่าตัดได้ แล้วจะใช่เคสสบายๆ หรือ
แต่ว่า…
เฉินชางลังเลอยู่ครู่หนึ่ง ขณะที่เสี้ยวเจ๋อไห่ถอนหายใจเพราะคิดว่าคงจะถูกเฉินชางปฏิเสธ เขาก็ตอบตกลง “ที่ไหน เมื่อไรครับ!”