เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 1229 รางวัลนี้...น่าสนใจมาก!
อาจารย์เมิ่งให้ค่าความรู้สึกดีมา 50 แต้ม
ทำให้ตอนที่เฉินชางเผชิญกับการศัลยกรรมหัวใจ มีโอกาสเลือกมากขึ้นอีก
ตอนนี้เฉินชางไม่กล้าใช้ ‘เสื้อกาวน์ของเบธูน’
ถึงอย่างไร ตอนนี้เขาก็ต้องการ ‘การผ่าตัดเปลี่ยนหลอดเลือดแดงใหญ่ในช่องท้องและทรวงอก’ ระดับสมบูรณ์อย่างยิ่ง
ทว่า…
ตอนนี้เอง จู่ๆ เฉินชางก็นึกขึ้นได้ว่าหลังจากผ่าตัดเสร็จเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เขาได้รับหนังสือทักษะการผ่าตัดระดับสมบูรณ์มา
เฉินชางคิดได้แบบนี้ก็เปิดหนังสือดูทันที
[ติ๊ง! แสดงความยินดีด้วย คุณได้รับทักษะระดับสมบูรณ์ :การผ่าตัดซ่อมแซมองคชาต!]
เฉินชาง “!!!”
٩(͡๏̯͡๏)۶!
นี่มันอะไรกัน
หนังสือทักษะการผ่าตัดระดับสมบูรณ์มิใช่หรือ
คุณให้การผ่าตัดซ่อมแซมองคชาตกับผม?
เหมาะสมแล้วหรือ
เฉินชางคิดได้แบบนี้ก็รู้สึกตลกเล็กน้อย
ช่างเถอะ เรียนเลยแล้วกัน!
การผ่าตัดขลิบยังมีแล้ว มีการผ่าตัดซ่อมแซมองคชาตอีกอันก็ไม่เป็นไรหรอก!
เฉินชางหลับตา เริ่มเรียนรู้
ทว่า…
ประสบการณ์ที่มีความสุขที่สุดระหว่างการผ่าตัดคือการมีความเข้าใจในอวัยวะของมนุษย์
เฉินชางรู้สึกว่าตนมีความรู้ที่มหัศจรรย์เพิ่มขึ้นไม่น้อย
การแพทย์!
เป็นงานที่มีความสุขมากจริงๆ
[ติ๊ง! กำลังดำเนินการจัดอันดับ…]
[แสดงความยินดีด้วย การจัดอันดับในโรงพยาบาลศูนย์ฉุกเฉินอยู่ในอันดับที่สามสิบ รางวัลที่ได้รับ: การปลูกถ่ายตับระดับปรมาจารย์!]
เฉินชางตัวสั่นเทิ้มทีหนึ่ง แอบตกใจ
ได้รับการปลูกถ่ายตับแล้ว
เฉินชางมองหนังสือทักษะที่เปล่งแสงสีม่วง ตื่นเต้นอยู่นานก็สงบสติอารมณ์ไม่ได้
เขาจ้องไปตรงหน้าตาไม่กะพริบ
คำเหล่านี้ดูมีเสน่ห์มากกว่าสิ่งอื่นใด
การปลูกถ่ายตับเป็นวิธีการรักษาเดียวที่มีประสิทธิภาพสำหรับโรคตับระยะสุดท้าย
การปลูกถ่ายอวัยวะขนาดใหญ่ถือเป็นหนึ่งในเป้าหมายที่ศัลยแพทย์ทุกคนแสวงหา
ผู้ที่ผ่าตัดปลูกถ่ายอวัยวะขนาดใหญ่ได้ ล้วนเป็นแพทย์ผู้นำทีมระดับสูง
เฉินชางคิดไม่ถึงเลยว่า ตนกลับได้รับทักษะการผ่าตัดปลูกถ่ายตับระดับปรมาจารย์
ทันใดนั้น ในใจก็ตื่นเต้นจนยากจะควบคุม
……
วันจันทร์ เฉินชางรีบจัดการประชุมกับสมาชิกในทีมเพื่อกำหนดแผนการพัฒนาหลังจากนี้
เริ่มจากผ่อนผันเกณฑ์การคัดเลือก ดำเนินการรักษาคนไข้กลุ่มอาการมาร์แฟนระยะสุดท้ายด้วยโครงการที่ก้าวหน้าขึ้น เพื่อลดอัตราการเสียชีวิต
ครั้งนี้ ไม่มีใครสงสัยในความสามารถของเฉินชางอีกต่อไปแล้ว
ถึงอย่างไร หลังจากได้เห็นการผ่าตัดใส่ขดลวดวงช้างของเฉิน ทุกคนจึงรู้ว่า ตอนนี้อาจารย์เฉินมีความสามารถที่จะทำแบบนั้นจริงๆ
ครั้งนี้ ทุกคนสู้ไม่ถอย แต่ละคนอยากรู้อยากลองขึ้นมา
สิ่งที่พวกเขาจะทำในครั้งนี้เป็นสิ่งที่คนจำนวนนับไม่ถ้วนอยากทำแต่ไม่กล้าทำ
ลดอัตราการเสียชีวิตในการผ่าตัดของคนไข้กลุ่มอาการมาร์แฟนระยะสุดท้าย!
หลังจากฝ่ายฝึกอบรมบุคลากรเห็นข่าวนี้ก็รีบรายงานไปยังผู้อำนวยการอู๋ถงฝู่
อู๋ถงฝู่มองลายเซ็นของเฉินชางแล้วเงียบไปครู่ใหญ่ ระหว่างที่ลังเลอยู่ เสียงโทรศัพท์มือถือพลันดังขึ้น
เป็นสายจากเสี้ยวเจ๋อไห่!
หลังจากทั้งสองคุยกันไม่กี่ประโยค อู๋ถงฝู่ก็วางสายไป
อู๋ถงฝู่มองลายเซ็นที่ดูมีชีวิตชีวาและกระฉับกระเฉงของเฉินชางแล้วอดยิ้มไม่ได้ สายตาเขาเร่าร้อน หยิบปากกาขึ้นมาเซ็นชื่อของตนเองลงไป!
วันนั้นเอง ข่าวที่โรงพยาบาลฉุกเฉินเริ่มผ่อนผันเกณฑ์การคัดเลือกได้แพร่สะพัดออกไป และดึงดูดคนไข้กลุ่มอาการมาร์แฟนมากมายในทันที
กลุ่มสนทนาคนไข้กลุ่มอาการมาร์แฟนทุกกลุ่มล้วนเผยแพร่ข่าวนี้!
“ศาสตราจารย์เฉินเริ่มผ่อนผันเกณฑ์การคัดเลือก เราเข้าร่วมการทดลองทางคลินิกได้แล้ว!”
“จริงเหรอเนี่ย”
“จริงสิ คุณลองดู นี่ข่าวจากเว็บไซต์ทางการ”
“เป็นไปได้อย่างไร สุด…สุดยอดเลย! ศาสตราจารย์เฉินเก่งเกินไปแล้ว!” ชายคนหนึ่งทานข้าวอยู่ที่บ้าน หลังจากเห็นข่าวนี้ก็ร้องไห้ออกมา
เขามีครอบครัว มีภรรยา มีลูก มีบ้านมูลค่าสามแสนหยวนอยู่ในเมืองเล็กๆ
ครอบครัวของเขาไม่ได้มั่งคั่ง ใช้เงินกันอย่างประหยัด
หลังจากเขารู้อาการป่วยของตนเอง จู่ๆ ชายที่เคยแข็งแกร่งดั่งภูผาก็หวาดกลัวขึ้นมา
เพราะค่าใช้จ่ายในการผ่าตัดนี้สูงถึงสามสี่แสน!
สำหรับครอบครัวธรรมดาอย่างพวกเขา นี่คือเงินออมครึ่งชีวิต
หลังจากเขารวบรวมความกล้าบอกเรื่องนี้กับคนในครอบครัว วันต่อมาภรรยาก็บอกเขาว่า จะขายบ้านเพื่อรักษาเขา!
ลูกอายุห้าขวบจับมือเขา พูดกับเขาว่า “พ่อสู้ๆ!”
ครอบครัวของเขา กัดฟันขายบ้านราคาสามแสน มารักษาตัวที่เมืองหลวง
ตอนผ่าตัดครั้งแรก เพราะอาการของเขายื้อมานาน การผ่าตัดยังไม่เสร็จสมบูรณ์ จำเป็นต้องมีการผ่าตัดเป็นครั้งที่สองในภายหลัง
แต่ก็จ่ายค่าผ่าตัดไปสองแสน!
และยังได้รับแจ้งว่า อัตราการเสียชีวิตของการผ่าตัดครั้งที่สองสูงถึงหกสิบเปอร์เซ็นต์ ทางโรงพยาบาลให้พวกเขาพิจารณาอย่างรอบคอบ
ทันใดนั้น ชายหนุ่มร้องไห้อย่างเจ็บปวด พาครอบครัวกลับบ้าน
จะตายก็ตายเถอะ!
แต่อย่าทรมานคนในครอบครัวอีกเลย
ช่วงเวลาหลังจากนั้น เขาพยายามแสดงออกว่ามีความสุข ภรรยาจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง
ทว่าทุกครั้งที่อยู่ลับตาคน ภรรยามักจะมองออกนอกหน้าต่างเงียบๆ และแอบร้องไห้
ภรรยาแอบยืมเงินคนในครอบครัวของเธอโดยไม่บอกเขา จนได้เงินมาสองแสน ขายทองที่ได้มาตอนแต่งงาน เบิกเงินกองกลางของครอบครัวออกมา…
เธอแอบเอาประวัติการป่วยของสามีไปหาหมอที่รักษาได้ ข่าวที่ได้รับคือ “ถึงมีเงิน…ก็รักษาไม่ได้!”
ต้องยอมรับว่าหลายโรงพยาบาลล้วนไม่อยากรับคนไข้แบบนี้
เหตุผลซับซ้อนมาก
ความจริง…ชายหนุ่มรู้ทุกอย่าง แต่กลับทำอะไรไม่ได้
ตอนที่ศูนย์ฉุกเฉินเมืองหลวงเริ่มการทดลองทางคลินิก เขาแอบไปสมัครโดยไม่ได้บอกภรรยา แต่…อาการของเขารุนแรงเกินไป ไม่เข้าเกณฑ์
ชายหนุ่มรู้สึกสิ้นหวัง!
ทว่า…หลังจากเขาเห็นข่าวนี้ก็อดดีใจไม่ได้
เขาหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเดินไปหาภรรยา “ภรรยาครับ พาผมไปเมืองหลวง มีคนที่ผ่าตัดให้ผมได้!”
หลังจากภรรยาเห็นการทดลองทางคลินิก ก็น้ำตาไหลพราก กอดชายหนุ่มปล่อยโฮออกมา
“เหล่าจาง ฉันทำอะไรไม่ได้เลย…ฉันช่วยคุณไม่ได้ ฉันอยากให้คุณมีชีวิตอยู่อย่างแข็งแรง…” ครั้งนี้ภรรยาปล่อยน้ำตาและความอึดอัดใจที่เก็บมาหลายปีออกมา
“ฉันช่วยอะไรคุณไม่ได้เลย…”
หญิงสาวร้องไห้จนหลับไป
หลายปีมานี้ เธอเหนื่อยมาก
ชายหนุ่มกอดภรรยา กลั้นน้ำตาไม่อยู่
ลูกของทั้งสองเห็นฉากนี้ก็ยืนดูอยู่ข้างๆ ใช้แขนเสื้อปาดน้ำตา “พ่อ ครั้งนี้อย่าทิ้งหนูไว้ที่นี่นะ…หนูจะไปด้วย”
……
วันรุ่งขึ้น หลังจากเตรียมตัวเสร็จ ทั้งครอบครัวก็ออกเดินทางมาเมืองหลวงเพื่อรับการรักษาอีกครั้ง!
หลังจากเฉินชางเริ่มผ่อนผันเกณฑ์การคัดเลือก ข่าวก็เผยแพร่ออกไปอย่างรวดเร็ว
คนไข้แบบเดียวกับเหล่าจางเริ่มเดินทางมาที่เมืองหลวง
ครั้งนี้ สิ่งที่เฉินชางเปิดไม่เพียงแค่เกณฑ์การคัดเลือก
แต่เป็นโอกาส!
เฉินชางเปิดโอกาสให้คนไข้กลุ่มอาการมาร์แฟนระยะวิกฤตจำนวนมากได้รับโอกาสการผ่าตัดอีกครั้ง!
ครั้งนี้ สมาชิกทุกคนในกลุ่มสนทนาคนไข้กลุ่มอาการมาร์แฟน ไม่มีใครออกมาพูดให้ร้ายเฉินชางอีก
ไม่ว่าจะพูดให้ร้ายอย่างไร ก็สู้การกระทำที่แท้จริงไม่ได้
ตอนที่พวกเขาคิดว่าตนกลายเป็นสิ่งมีชีวิตที่ถูกทอดทิ้ง ชายที่ชื่อเฉินชางได้เปิดประตูสู่ชีวิตใหม่ให้พวกเขา