เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 1231 เข้มแข็งไว้ เราจะชนะ!
เฉินชางคิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่า ในสถานการณ์แบบนี้ โรงพยาบาลรุ่ยจินจะใจกว้างขนาดนี้
ความจริงทรัพยากรทางการแพทย์เป็นเรื่องที่ยุ่งยากยิ่งกว่าเรื่องเงิน!
ถ้าไม่มีเงิน เฉินชางยังคิดหาวิธีได้
ถ้าไม่ได้จริงๆ ก็แค่หาผู้ลงทุน!
บริษัททางการแพทย์มากมายยินดีสนับสนุนอยู่แล้ว
ถึงอย่างไรชื่อของเฉินชางก็อยู่ในโครงการ
ทว่า สำหรับทรัพยากรทางการแพทย์ โดยเฉพาะงานที่มีความเฉพาะทางสูง อย่างเช่นครั้งนี้ ต้องการบุคลากรที่มีประสบการณ์การผ่าตัดภาวะหลอดเลือดแดงใหญ่ฉีกขาด ต้องการจอภาพคลื่นไฟฟ้าหัวใจและ ะเครื่องมืออื่นๆ…
ของพวกนี้ มีเงินก็ใช่ว่าจะหามาได้
เพราะทรัพยากรทางการแพทย์ในประเทศมีจำกัดจริงๆ
ตอบสนองความต้องการของคนส่วนใหญ่ได้ก็ยากมากแล้ว
จะทำการทดลองทางคลินิกที่นี่ เห็นได้ชัดว่าเป็นการสร้างความลำบากใจให้พวกเขา
เสี้ยวเจ๋อไห่ได้ยินเสียงของเฉินชางก็อดนึกขำในใจไม่ได้
เขาเดาถูกแล้ว!
เขาคิดไว้แล้วว่าต้องเป็นแบบนี้
เสี้ยวเจ๋อไห่ต่อสู้ในการปฏิบัติงานทางคลินิกมานานหลายสิบปี พาโรงพยาบาลรุ่ยจินผ่านร้อนผ่านหนาวมา แน่นอนว่าประสบการณ์โชกโชน
เขาย่อมรู้ว่าเฉินชางในตอนนี้ต้องการอะไร
เสี้ยวเจ๋อไห่ชื่นชมการวิจัยของเฉินชางในครั้งนี้เป็นอย่างมาก
ถ้าเสี้ยวเจ๋อไห่เด็กกว่านี้สักสิบปี เขาจะพาทีมไปช่วยเฉินชางด้วยตัวเองอย่างแน่นอน
ทว่าครั้งนี้เขาทำแบบนี้ไม่ได้
เพราะเสี้ยวเจ๋อไห่เป็นผู้อำนวยการ ทิ้งภาระมากมายขนาดนี้ไปช่วยไม่ได้
แต่เขาหวังเป็นอย่างยิ่งว่าคนหนุ่มสาวพวกนี้จะได้ตามเฉินชางออกไปเปิดหูเปิดตา ไปเจอเหตุการณ์ที่อาจจะไม่ได้เจอในโลกภายนอก
ขอเพียงแค่ผ่านความเป็นความตาย ท้าทายขีดจำกัด จึงจะก้าวหน้าได้อย่างต่อเนื่อง!
โรงพยาบาลทุกแห่งล้วนต้องการคนสามรุ่น ทั้งอาวุโส วัยกลางคนและคนรุ่นใหม่ จะมีช่องว่างไม่ได้
ไม่อย่างนั้น อนาคตของโรงพยาบาลจะไม่ยืดยาว
เสี้ยวเจ๋อไห่จึงเลือกที่จะใช้วิธีที่ได้รับผลประโยชน์ทั้งสองฝ่ายแบบนี้
ทั้งได้ช่วยเฉินชางจัดการอุปสรรคตรงหน้า
และได้ช่วยแผนกปลูกฝังกลุ่มคนที่มีความสามารถอีกด้วย!
ตอนนี้เอง เฉินชางก็พูดอย่างตื่นเต้น “ขอบคุณครับหัวหน้าเสี้ยว ผมจะสอนพวกเขาเป็นอย่างดี ตอนกลับไปจะต้องได้ประสบการณ์กลับไปเต็มอิ่มอย่างแน่นอน!”
เฉินชางไม่ได้โง่ แน่นอนว่าเข้าใจความหมายของเสี้ยวเจ๋อไห่
เสี้ยวเจ๋อไห่รีบพูดว่า “ไม่ครับ ศาสตราจารย์เฉิน ครั้งนี้ฉันเป็นฝ่ายพึ่งคุณ”
เป็นความจริงที่ว่า การได้รับความช่วยเหลือจากเฉินชางถือว่าเป็นโอกาสที่หายากสำหรับหมอหนุ่มสาวพวกนี้!
“คุณขาดเหลืออะไรก็จดมานะครับ เดี๋ยวผมให้คนเตรียมและส่งไปให้โดยเร็วที่สุด!”
เฉินชางพยักหน้า “ได้ครับ!”
หลังจากวางสาย เฉินชางมองทุกคนก่อนจะพูดอย่างตื่นเต้น “ผมมีข่าวดีจะบอกครับ! โรงพยาบาลรุ่ยจินจะส่งหมอที่มีประสบการณ์ด้านนี้มาสิบเอ็ดคน พยาบาลสามสิบหกคน จอภาพคลื่นไฟฟ้าหัวใจสาม มสิบเครื่อง…และทรัพยากรทางการแพทย์อื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ความช่วยเหลือเราในการดำเนินการทดลองทางคลินิก!”
ทุกคนได้ยินข่าวนี้ก็อึ้งงันไป!
ก่อนจะโห่ร้องด้วยความดีใจ!
แต่ละคนลุกขึ้นยืน กระโดดโลดเต้นกลางอากาศ!
สวีอ้ายชิงและเมิ่งซีตื่นเต้นจนกอดกัน
ทุกคนดีใจมาก!
การสนับสนุนในครั้งนี้มีค่ามาก!
เรียกได้ว่าเป็นการให้ถ่านกลางหิมะ[1]
เฉินชางพูดจบก็มองสวีจื่อหมิง “หัวหน้าสวี คุณลองดูว่าคราวนี้จะเพิ่มได้อีกกี่เตียง”
สวีจื่อหมิงวิเคราะห์อย่างตื่นเต้น “คาดว่าจะเพิ่มได้สิบห้าเตียง! นอกจากนี้ ที่สำคัญที่สุดคือ ถ้าได้รับการสนับสนุนขนาดนั้น เราก็ทำวิจัยทางคลินิกกับคนไข้เจ็ดสิบคนโดยแบ่งเป ป็นสองกลุ่มได้! ในเวลาหนึ่งเดือนกว่า เราจะดำเนินการวิจัยทางคลินิกกับคนไข้เจ็ดสิบคนและได้รับข้อมูลที่เกี่ยวข้องเรียบร้อย”
เฉินชางพยักหน้า “ดีครับ! งั้นมอบหมายให้คุณจัดการเรื่องนี้ หัวหน้าเหอ คุณลองดูว่าต้องการอุปกรณ์อะไรอีก แล้วรีบติดต่อโรงพยาบาลรุ่ยจินโดยเร็วที่สุด เพื่อให้ความร่วมมือครั้งนี ประสบความสำเร็จ! หลังจากนั้นคุณรับผิดชอบจัดแจงบุคลากร…”
เฉินชางแบ่งตำแหน่งเสร็จสรรพอย่างรวดเร็ว
ไม่นาน เว็บไซต์ทางการของโรงพยาบาลรุ่ยจินและศูนย์ฉุกเฉินก็เผยแพร่ข่าวหนึ่งพร้อมกัน
‘โรงพยาบาลรุ่ยจิน ได้ส่งทีมแพทย์พร้อมเวชภัณฑ์ไปยังโรงพยาบาลศูนย์ฉุกเฉิน และเตรียมจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือคนไข้กลุ่มอาการมาร์แฟน ร่วมกันทำการทดลองทางคลินิกครั้งนี้ให้สำเร็จ เพื อให้ได้ผลการทดลองทางคลินิกโดยเร็วที่สุด มุ่งมั่นที่จะช่วยเหลือผู้ป่วยให้ได้มากที่สุด ผลักดันความร่วมมือระหว่างเหนือใต้ พิชิตความยากลำบาก!’
ข่าวนี้เผยแพร่ออกไป ก็สร้างความฮือฮาขึ้นมาทันที!
บุคลากรทางการแพทย์ที่ได้เห็นข่าวนี้มากขึ้นเรื่อยๆ พลันรู้สึกได้ถึงความฮึกเหิม
แม้ไม่ถึงขั้นฝ่ายหนึ่งตกทุกข์ได้ยาก ทุกฝ่ายยื่นมือเข้าไปช่วยเหลือ
ทว่าความร่วมมือระหว่างเหนือใต้ในการต่อสู้กับโรคภัยแบบนี้ ถือเป็นการสร้างแรงบันดาลใจจริงๆ!
หลังจากเสี้ยวรุ่นฟาง คณะกรรมการสาธารณสุขรู้ข่าวนี้ ก็พากำลังคนมาที่โรงพยาบาลศูนย์ฉุกเฉินด้วยตัวเอง
ให้ความสำคัญกับการทดลองทางคลินิกครั้งนี้เป็นอย่างยิ่ง!
ตอนนี้คนที่ติดตามเรื่องนี้มากขึ้นเรื่อยๆ
ความจริง ภาระของเฉินชางหนักหน่วงมาก
ถ้าท่ามกลางสถานการณ์แบบนี้ เฉินชางยังไม่ได้รับผลการวิจัยที่ดี
ผลกระทบจะต้องรุนแรงมากอย่างแน่นอน!
ตอนนี้คนที่ดีใจที่สุดคือคนไข้กลุ่มอาการมาร์แฟน
หลังจากได้รู้เรื่องนี้ ทุกคนยิ่งดีใจกว่าเดิม
เพราะแสงแรกของรุ่งเช้าใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แล้ว
ทุกคนตั้งหน้าตั้งตารอการมาถึงของรุ่งอรุณ!
วันพฤหัสบดี การทดลองทางคลินิกกำลังจะเริ่มขึ้น
ตอนที่คนไข้คนหนึ่งกำลังจะเริ่มการผ่าตัด เฉินชางพาทุกคนเดินเข้าห้องผ่าตัด
สำหรับการผ่าตัดเคสแรก เฉินชางได้ติดต่อ DXY.cn เพื่อถ่ายทอดสดการผ่าตัด
ครั้งนี้เฉินชางจะพาทีมของพวกเขาดำเนินการถ่ายทอดสดการผ่าตัด!
ผู้จัดการของ DXY.cn รีบพาทีมงานมาที่ศูนย์ฉุกเฉินเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการถ่ายทอดสด
การถ่ายทอดสดเริ่มตั้งแต่เฉินชางพาทั้งสิบสองคนเดินเข้าห้องผ่าตัด!
ตอนที่เฉินชางสวมชุดกาวน์เดินเข้าห้องผ่าตัด อารมณ์ของผู้ชมทุกคนต่างถูกปลุกเร้า
ผู้ชมในครั้งนี้ไม่ได้มีเพียงแค่บุคลากรทางการแพทย์ แต่ยังมีคนไข้
นี่เป็นการถ่ายทอดสดการผ่าตัดเปลี่ยนหลอดเลือดแดงใหญ่ในช่องท้องและทรวงอกครั้งแรกของประเทศ
ถึงอย่างไรการผ่าตัดที่อันตรายขนาดนี้ เต็มไปด้วยความไม่แน่นอน อีกทั้งคนไข้ยังเป็นคนไข้วิกฤตที่รับได้การผ่าตัดเป็นครั้งที่สอง
วิเคราะห์จากมุมมองความเสี่ยงของเวชปฏิบัติ
อัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยสูงถึงประมาณหกสิบเปอร์เซ็นต์!
ดำเนินการถ่ายทอดสดการผ่าตัดเคสแบบนี้ ความเสี่ยงและแรงกดดันเบื้องหลัง…แค่คิดก็รู้แล้วว่าสูงแค่ไหน!
แต่เฉินชางก็ตัดสินใจที่จะถ่ายทอดสด!
เพราะฉะนั้นหลายคนต่างไม่เข้าใจ
ถึงขั้นที่รู้สึกว่าครั้งนี้เฉินชางไร้เหตุผลมาก
นี่อาจเป็นครั้งแรกในโลกที่มีการถ่ายทอดสดการผ่าตัดที่มีอัตราการเสียชีวิตสูงถึงหกสิบเปอร์เซ็นต์
เฉินชางบ้าไปแล้วหรือเปล่า
แน่นอนว่าไม่!
เขาไม่เพียงแค่ไม่บ้า ตรงกันข้าม เขามีสติมาก!
เพราะกลุ่มเป้าหมายในการถ่ายทอดสดของเฉินชางในครั้งนี้ไม่ใช่พวกหมอ!
แต่จะถ่ายทอดสดให้คนไข้ดู!
เขาอยากให้คนไข้เชื่อใจเขา
เขาจะบอกพวกเขาว่า “เข้มแข็งเอาไว้ เราจะชนะ”
[1]ให้ถ่านกลางหิมะ เปรียบว่า ให้ความช่วยเหลือในยามที่คนคับขันได้อย่างทันท่วงที