เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 1240 ผมจะเปลี่ยนโรงพยาบาล!
ซุนกว่างอวี่พลันพบว่า เทียบกับแผนการวางคนของตัวเองลงไปของแผนกศัลยกรรมทรวงอก แผนการคัดเลือกเคสน่าสงสัยของตัวเองเป็นการกระทำที่อ่อนด้อยมาก!
นึกถึงตรงนี้ ซุนกว่างอวี่ชูนิ้วโป้งให้อย่างต้องยอมแพ้ “คุณเจ๋งมาก!”
ถ้าฉินเย่วรู้ถึงฉากนี้ที่นี่ละก็ เธอต้องไว้อาลัยให้คนไข้คนนั้นสามวินาทีเป็นแน่
ถึงยังไง พวกคุณก็ไม่เข้าใจสามีฉันเกินไป!
ตอนที่อยู่ตงหยาง เฉินชางก็มีฉายาหนึ่ง
เฉินชาง แซ่เฉิน นามจริงไหวอิง ฉายานามเคอหนาน ชื่ออังกฤษเชอร์ล็อก โฮมส์
คุณคิดไม่ตกก็นอนลงบนเตียงแล้ว!
วงแหวนโรคภัยจะปกคลุมทั่วตัวคุณ!
และในเวลานี้ หลังเฉินชางตรวจการสั่นเสียงเสร็จ เขาก็ไม่พูดจาสักที
คนโดยรอบเห็นฉากนี้ก็อดคุยกันเสียงเบาไม่ได้ หรือว่าศาสตราจารย์เฉินจะเจอช่องโหว่ทางความรู้แล้วจริงๆ
แต่เวลานี้เฉินชางพลันพูดขึ้น “ผนังอกทางฝั่งซ้ายของคนไข้เคยมีบาดแผลภายนอกเมื่อนานมาแล้ว ทำให้เกิดการยึดติดของเยื่อหุ้มปอด แต่…นี่น่าจะเป็นโรคเก่านานปีละมั้งครับ! อย่างน้อยก็สี่สิบปีแล้ว”
แพทย์ผู้รับผิดชอบอดพูดขึ้นไม่ได้ “ศาสตราจารย์เฉิน ในอดีตคนไข้ไม่เคยบาดเจ็บภายนอก...”
แต่เพิ่งจะสิ้นเสียง คนไข้ก็นั่งตัวตรงขึ้นมา “คุณหมอ คุณเทพมาก!”
คนไข้พ่นสำเนียงตะวันตกเฉียงเหนือ ก่อนฉีกยิ้มมองเฉินชางราวกับเห็นสหายสนิทอย่างไรอย่างนั้น!
“คุณไม่พูดผมก็ลืมเรื่องนี้สนิทเลย นี่เป็นเรื่องตอนที่ผมอายุสิบกว่าปี ผมถูกวัวชนเข้าที่หน้าอก แต่…ผ่านมาหลายปีขนาดนี้ ผมลืมไปเลย!
ถ้าคุณไม่บอก ผมก็จำไม่ได้ว่ามีเรื่องนี้อยู่ด้วย”
เดิมทีนักศึกษาโดยรอบอุตส่าห์ได้เห็นการวินิจฉัยของเฉินชางผิดพลาด กำลังจะตื่นเต้นอยู่แล้วเชียว
แต่จู่ๆ คนไข้พลันขัดคำขึ้นมาเอง บอกการบาดเจ็บของตัวเองเมื่อหลายสิบปีก่อนออกมา นี่ทำให้ทุกคนตื่นตะลึงแล้ว
ที่แท้ยังมีเรื่องอย่างนี้อยู่ด้วย!
คนไข้มองเฉินชางด้วยความตื่นเต้น “ศาสตราจารย์เฉิน คุณมาจากแผนกไหน ผมจะย้ายไปโรงพยาบาลของคุณ!”
“คุณเก่งมากจริงๆ ผมไม่ได้พูดอะไรสักอย่างก็รู้อาการของผมแล้ว ตอนนั้นบ้านผมจนมาก หลังถูกวัวชนก็ไม่ได้สนใจ”
หมอผู้รับผิดชอบอดปิดหน้าร้องไห้ไม่ได้!
รอบที่หนึ่ง!
KO!
เฉินชางพูดต่อ “แต่หลังจากนี้คุณสูบบุหรี่ไม่ได้แล้วนะ ปอดบวมคุณเปลี่ยนไปเป็นระยะที่มีนัยสำคัญแล้ว ถึงขั้นว่าเป็นปอดอุดกั้นชัดเจนแล้วใช่ไหม”
คนไข้ตบเข่าฉาด “ถูกต้องครับ!
หมอเหมือนกับพยาธิไส้เดือนในท้องผมเลย!”
คนไข้ตลกคนนี้กระตุ้นบรรยากาศ ทำให้ทุกคนหัวเราะขำขัน
หลังพูดจบ เฉินชางก็พูดกับนักศึกษา “มา พวกคุณมาลองสัมผัสดู”
ทันใดนั้น นักศึกษาทุกคนพากันขึ้นหน้า
เวลานี้ หลังจากนักศึกษาปริญญาเอกคนหนึ่งของแผนกศัลยกรรมทรวงอกเข้าไปสัมผัสหนึ่งรอบ ก็พลันพูดขึ้นด้วยความสงสัย “ศาสตราจารย์เฉิน ผนังอกซีกซ้ายสมบูรณ์ปกติดีไม่ใช่เหรอครับ”
คำพูดนี้ทำให้นักเรียนโดยรอบพากันไปสัมผัสทันที
หลังสัมผัสเสร็จ ทุกคนก็ตกใจมาก!
การสั่นที่ไร้ความผิดปกติทำไมถึงสัมผัสถึงอาการป่วยเมื่อสี่สิบกว่าปีก่อนได้ล่ะ
นี่มันเป็นไปไม่ได้!
ทุกคนเริ่มสงสัย นี่มีการวางบทไว้ล่วงหน้าหรือเปล่า
รวมถึงก่อนหน้านี้ทั้งหมดก็เป็นการจัดวางของโรงพยาบาลด้วย?
เวลานี้ทุกคนชักอารมณ์เสียแล้ว
นี่มองพวกเราเป็นคนโง่หรือไง
เฉินชางมองทุกคนโดยรอบก่อนพลันหัวเราะบอก “ความจริงการคลำคนไข้คนนี้เป็นอะไรที่ยากมาก ก็เหมือนกับที่สหายท่านนี้ว่า เสียงของผนังหัวใจซีกซ้ายของคนไข้ปกติดี แต่การสั่นเสียงของซีกขวาเพิ่มขึ้น!
บางที เวลานี้พวกเราอาจคิดว่าทรวงอกซีกขวาของคนไข้ผิดปกติ ส่วนซีกซ้ายเป็นผนังอกที่แข็งแรง!
แต่ความจริงแล้วไม่ใช่แบบนี้!”
นักศึกษาปริญญาเอกคนเมื่อกี้อดถามขึ้นมาไม่ได้ “งั้นทำไมล่ะ ผมยังไม่เชื่อจริงๆ ว่าเสียงสั่นปกติจะวินิจฉัยอาการบาดเจ็บที่ผ่านมาแล้วสี่สิบปีได้”
นักเรียนที่อยู่รอบๆ ก็จ้องมองเฉินชาง
กระทั่งผู้อำนวยการหลี่ข่ายก็ขมวดคิ้วแล้ว
ไม่อนุญาตให้หลอกลวง!
ส่วนฟั่นโจวฉวนกลับขมวดคิ้วเป็นปม คนไข้พวกนี้เขาจัดเองกับมือ ไม่มีทางหลอกลวงได้
แต่เขาก็อยากรู้ว่าเฉินชางวินิจฉัยออกมาได้อย่างไร
เห็นแค่ว่าเฉินชางยิ้มพลางให้คนไข้นั่งลง แล้วตอบว่า
“การวินิจฉัยโรคพวกเราจำเป็นต้องครุ่นคิดให้มาก ผนังอกซีกซ้ายของคนไข้ปกติจริงๆ เหรอ
ไม่มีความผิดปกติอื่นนอกจากการเพิ่มขึ้นและลดลงของเสียงสั่น งั้นหรือว่าพวกคุณก็ไม่ควรสัมผัสผนังอกดูแล้วเหรอ”
ทันทีที่ประโยคนี้ออกมา คนโดยรอบขมวดคิ้วขึ้นมาทันที
เฉินชางอธิบายต่อ “หลังเกิดการยึดติดของเยื่อหุ้มปอด พวกเราต้องขบคิดถึงการอักเสบของเยื่อหุ้มปอด แต่คนไข้ไม่มีอาการจำพวกอักเสบ หรือมีหนองในเยื่อหุ้มปอด ดังนั้นก็ควรนึกถึงอาการบาดเจ็บของผนังอก!
แต่ว่า การบาดเจ็บของผนังอกยังต้องครุ่นคิดถึงปัจจัยอื่นๆ นั่นก็คือระยะเวลาที่เกิดการเจ็บป่วย…เพราะยิ่งระยะเวลาเพิ่มขึ้น…ก็จะมีการชดเชย…
ฉะนั้นหลังเสียงนี้อ่อนลง เวลาของการสั่นเสียงแทบจะเป็นปกติ ความแตกต่างเดียวอยู่ที่…”
เสียงของเฉินชางไม่เร็วไม่ช้า บอกเหตุผลออกมาต่อเนื่อง
“ทำไมอาการถึงปกติล่ะ” เฉินชางย้อนถาม
“นั่นเป็นเพราะในถุงลมของคนไข้มีการอักเสบแทรกซึม การเปลี่ยนแปลงของเนื้อเยื่อปอดทำให้การนำเสียงดีขึ้น ก็เหมือนอย่างที่ผมว่า คนไข้มีอาการปอดบวมในระยะที่มีนัยสำคัญ เมื่อเป็นแบบนี้ การสั่นเสียงของคนไข้จะเดี๋ยวเพิ่มเดี๋ยวลด กลับทำให้คนไข้เกิดเสียงสั่นจริงที่เหมือนปกติ!”
ตอนที่เฉินชางอธิบายยาวเหยียด ฟั่นโจวฉวนก็อดปรบมือขึ้นมาไม่ได้!
“เก่งจริงๆ!
ศาสตราจารย์เฉินเป็นอัจฉริยะจริงๆ แค่การสั่นเสียงง่ายๆ ก็มองข้อมูลออกมากขนาดนี้ ร้ายกาจมากจริงๆ!”
ฟั่นโจวฉวนยอมแพ้จริงๆ แล้ว!
บางสิ่งบางอย่าง ทำให้คุณตกตะลึงอย่างแท้จริงได้
และการวินิจฉัยของเฉินชางก็เป็นเช่นนี้!
นักศึกษาปริญญาเอกและนักศึกษาปริญญาโทของวิทยาลัยการแพทย์ปักกิ่งยูเนี่ยนก็เริ่มพากันปรบมือ
การวินิจฉัยเมื่อครู่นี้ เฉินชางแสดงการคลำอันเป็นทักษะการตรวจที่เป็นแก่นสำคัญที่สุดของแผนกศัลยกรรมทรวงอกออกมาได้ถึงอกถึงใจมาก
ถึงขั้นอยู่ในระดับยอดเยี่ยม!
ทำเอาทุกคนจำต้องชื่นชม
ช่างวิดีโอในตอนนี้รีบถ่ายนาทีประวัติศาสตร์เอาไว้
และชายสูงวัยคนตะวันตกเฉียงเหนือที่อายุราวห้าสิบกว่าปีนี้ก็ยิ้มพูดอย่างเก้อเขิน “หัวหน้าฟั่น คุณว่า…ผมไปรักษาตัวกับศาสตราจารย์เฉินได้ไหม”
ฟั่นโจวฉวนที่แต่เดิมมีท่าทีสง่างามเวลานี้จิตใจกลับไม่สมบูรณ์แม้แต่น้อย
ราวกับตัวเองยกหินมาทุบเท้าของตัวเอง
โกรธจนการสั่นเสียงของเขาต้องเพิ่มขึ้นเป็นแน่
ซุนกว่างอวี่ที่มองดูอยู่ด้านข้างมีความสุขในความทุกข์ของผู้อื่น
เฉินชางยิ้มบอกกับคนไข้ “คุณอยู่ที่นี่แหละครับ ระดับของหัวหน้าฟั่นสูงกว่าผมอีกนะ”
คนไข้ยิ้มซื่อ “คุณหมอว่ายังไงผมเชื่อหมด!”
หลังพูดจบก็เสริมอีกประโยค “คำโกหกผมก็เชื่อ!”
ฟั่นโจวฉวนได้ยินดังนั้นก็เหมือนได้รับความอับอาย…พวกคุณอย่าห้ามผม ผมจะเข้าไปสู้ตัดสิน!
นี่มันปลอบเด็กชัดๆ!
หมอผู้รับผิดชอบที่อยู่ด้านข้างรีบพูด “หัวหน้า ใจเย็นๆ ชายชราคนนี้มาจากครอบครัวยากจนที่สำคัญของประเทศนะ!”
หัวหน้าฟั่นได้ยินดังนั้นก็ใจเย็นลงแล้ว!