เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 1241 แผนซ้อนแผน!
บอกตามตรง…
คนรวย ฟั่นโจวฉวนไม่กลัว
คนมีอำนาจ ก็ไม่แน่ว่าฟั่นโจวฉวนจะเอาใจคุณ
หัวหน้าใหญ่ของการแพทย์ปักกิ่งยูเนี่ยน คุณล้อเล่นเหรอ
ยิ่งไปกว่านั้นเขายังเป็นบุคคลใหญ่โตที่อยู่บนจุดสูงสุดของขอบเขตการปลูกถ่ายปอดอันเป็นสาขาวิชาสำคัญแห่งชาติ
คนแบบนี้ล้วนเป็นผู้ยิ่งใหญ่ในวิชาชีพ
แต่ว่า…
กับครอบครัวยากจนที่ประเทศให้ความสำคัญ เขายังคงจนปัญญาจริงๆ
ช่างมัน!
อดทนเอาไว้!
ฟั่นโจวฉวนหันไปพูดกับเฉินชาง “ศาสตราจารย์เฉินเก่งกาจ คนไข้รายถัดไป”
หาเรื่องไม่ได้ ฉันหลบไม่ได้หรือไง
ฟั่นโจวฉวนรีบเรียกคนไข้อีกคน
เวลานี้ ฟั่นโจวฉวนส่งสายตาให้ ‘ตัวปลอมหมายเลขสี่’
ฝ่ายตรงข้ามยิ้มอย่างเข้าใจ
เฉินชางตรวจคนไข้ต่อ
“หืม เนื้องอกต่อมพาราไทรอยด์หายาก!”
ความจริงเฉินชางพูดอย่างจริงจังมาก เพราะนักศึกษาเหล่านี้มีระดับแตกต่างกันเกินไป ถึงแม้ส่วนมากที่เข้าร่วมการฝึกอบรมของโรงพยาบาลจะเป็นนักศึกษาปริญญาโทกับปริญญาตรีก็ตาม
แต่ระดับของปริญญาโทปีหนึ่งปีสองปีสามกับปริญญาเอกปีหนึ่งปีสองปีสามก็มีความต่างกันไม่น้อย
เฉินชางจึงพูดพลางแสดงให้ดูไปพลาง
ความจริงการเรียนรู้การคลำเป็นเรื่องที่ยากมาก
ของอย่างความรู้สึกเป็นเรื่องที่พูดยากที่สุด พูดไม่ออกบอกไม่ถูก ยากที่จะอธิบาย ไม่สู้สัมผัสโดยตรงดีกว่า
เฉินชางสอนพวกเขาและพวกเธอมือต่อมือ
แต่ว่า…
ไม่รู้ทำไม พวกเธอมักจะแตะมือของเขาอย่างคล้ายตั้งใจไม่ตั้งใจ
นี่ทำให้เฉินชางอึดอัดอยู่บ้าง
ต้องรู้นะว่ามือของตัวเองใส่ถุงมือรับสัมผัสอยู่ มือของฉันอ่อนไหวมากนะ! พวกคุณอย่าสัมผัสมั่ว!
เฉินชางจนปัญญา!
เขาค้นพบว่าถุงมือรับสัมผัสก็มีข้อบกพร่องเช่นกัน นั่นก็คือตอนที่คนอื่นสัมผัสตัวเอง สัมผัสที่ส่งกลับมานั้นชัดเจนมาก
แถม… ‘พวกเธอ’ เหล่านี้ ตอนที่พวกคุณแตะโดนตัวผม ผมรู้สึกถึงความผิดปกติได้นะ!
“สหายท่านนี้ ฝ่ามือเธอมีเหงื่อเยอะ แถมยังมีตุ่มน้ำ นี่คือผื่นผิวหนังอักเสบนะ คุณต้องระวัง!”
“สหายท่านนี้ อุณหภูมิฝ่ามือของคุณค่อนข้างสูงนะ การแพทย์แผนจีนเรียกว่ามีความร้อนภายในขาดธาตุหยิน คุณลองพิจารณาไปหาแพทย์แผนจีนดู!”
“สหายท่านนี้ แตะน่ะได้ แต่…หยิกนี่ก็เกินไปนะ!”
เฉินชางพูดด้วยสีหน้าจนหนทาง ‘พวกเธอ’ กลุ่มนี้ อย่าทำแบบนี้ได้หรือเปล่า!
“ฮ่าๆๆ!”
เห็นท่าทางกระสับกระส่ายของเฉินชาง พวกเธอได้ใจใหญ่แล้ว!
เหมือนอันธพาลข้างถนนที่เกี้ยวพาราสีสาวน้อยบริสุทธิ์ เกกมะเหรกเปี่ยมความมั่นใจ!
เฉินชางถอนหายใจอย่างจนปัญญา!
เขาพูดเสียงลอดไรฟัน “สหายชายท่านนี้ คุณ…คุณเกินไปแล้วนะ!”
เฉินชางเกินทนแล้ว!
ทุกคนโดยรอบก็ทนไม่ไหว หัวเราะก๊ากขึ้นมา
แม้แต่คนไข้กับบุคคลทางการแพทย์ก็หัวร่องอหาย หน้าแดงไปหมด
เฉินชางจนปัญญาเหลือเกิน
“ช่วยเปลี่ยนถุงมือให้ผมหน่อยครับ! ขอบคุณครับ!” เฉินชางพูดกับนางพยาบาล
นางพยาบาลรีบพยักหน้า ตอนที่รับถุงมือที่เฉินชางถอดยังถือโอกาสหมับหนึ่งที!
ฟินเป็นพิเศษ!
ทำเอานางพยาบาลเอ็ดอึงขึ้นมาทันที
เฉินชางเอือมระอา
แผนกพวกคุณ…เป็นสัตว์ป่าหรือไง!
เวลานี้นักศึกษาปริญญาเอกสาวที่ได้ใจกลุ่มนั้นพากันคุยกันในห้องแชตวิทยาลัยการแพทย์ปักกิ่งยูเนี่ยน
“ฮ่าๆ! เมื่อกี้ฉันแตะโดนมือของศาสตราจารย์เฉินด้วย! ให้ตาย! มือเขาอุ่นมาก!”
“อิจฉารุ่นพี่จัง รีบแชร์ประสบการณ์เร็ว!”
“ฉันก็ได้ลูบ!”
“+1!”
“ผลสรุปประสบการณ์ ข้อแรก: ต้องใจกล้าระมัดระวัง! ข้อสอง: เจอผู้ชายอย่าถอย…”
ฉินเยว่อ่านข้อความนี้ก็โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ!
เชี่ย
นักศึกษาปริญญาเอกอย่างพวกเธอมาลูบสามีฉัน ใครมันจะทนได้!
สวี่รุ่ยที่อยู่ด้านข้างเห็นข้อความของฉินเยว่ แล้วก็มองท่าฉินเยว่ที่ร้อนรนกระวนกระวาย ก็พลันพูดขึ้น “เธอร้อนใจอะไรเหรอ”
ฉินเยว่ถลึงตาโต “รุ่นพี่ พวกเธอแต๊ะอั๋งสามีฉัน!”
สวี่รุ่ยพูดอย่างเป็นเหตุเป็นผล “เฉินชางก็ไม่ได้เสียหายสักหน่อย!”
ฉินเยว่ได้ยินดังนั้นก็พลันชะงัก เหมือนรู้สึกว่ามีเหตุผล แต่ก็เหมือนไม่สมเหตุสมผล
แต่ว่า…!
ช่างเถอะ!
ค่อยคิดบัญชีตอนดึกแล้วกัน!
แต่ ฉินเยว่เปิดแอปส่งผักในเมือง
“สวัสดีค่ะ ฉันขอสั่งทุเรียนสี่ลูก! เอาแบบที่ลูกใหญ่หนามแหลม ไม่สิ เอาหกลูกดีกว่า สี่ลูกไม่พอ!”
หลังสั่งเสร็จ ฉินเยว่ก็คลายความโกรธลง
“ฉันก็ชอบกินทุเรียนเหมือนกัน!” สวี่รุ่ยยิ้มบอก
ฉินเยว่หรี่ตายิ้ม “ฉันก็ชอบกินมาก แต่…รุ่นพี่ ฉันจะบอกอะไรให้ ทุเรียนที่มีคนคุกเข่ามาแล้วอร่อยกว่าเยอะ!”
นึกถึงตรงนี้ ฉินเย่วก็ตัดสินใจว่าจะให้เฉินชางนอนในครัว
ก่อนนอนเธอจะเวฟทุเรียน ย่างทุเรียนในเตาอบ แล้วก็นึ่งทุเรียน ตุ๋นทุเรียนในหม้ออบความดัน…
จากนั้นก็ขังเฉินชางไว้ข้างใน!
นึกถึงตรงนี้ เธอก็หัวเราะหึๆๆ ขึ้นมา
จับเฉินชางรมกลิ่นทุเรียนแล้ว ดูซิยังมีใครกล้าเอาเขาบ้าง
เธอกลับไม่รู้ว่าหญิงสาวที่ชอบทุเรียนมีอยู่เยอะมาก ถึงขั้นว่าในสายตาพวกเธอ เฉินชางก็คือทุเรียนเดินได้
ถ้าเขียนในนิยายโรแมนติกก็คือ ‘นั่นคือหนุ่มทุเรียนที่หล่อเหลาร่างสูง บนตัวแผ่กลิ่นหอมหวานของทุเรียนออกมาเบาบาง…ทำให้คนลุ่มหลงมัวเมา หยุดตัวเองไม่ได้…’
…
ในที่สุดเฉินชางก็มาถึงคนไข้คนสุดท้ายได้อย่างยากลำบาก
นี่คือชายวัยกลางคนอายุสี่สิบกว่าปี
หลังสนทนากันหนึ่งรอบ เฉินชางพบว่าผู้ป่วยมีอาการใจสั่นแบบเป็นครั้งคราว
หลังฟังจบเขาจึงวางมือลงบนบริเวณด้านหน้าหัวใจของชายคนนี้โดยตรง
แต่ว่า!
หลังผ่านไปครู่หนึ่ง เฉินชางขมวดคิ้วขึ้นมาเล็กน้อย
เห็นภาพนี้ ในใจฟั่นโจวฉวนก็พอใจขึ้นมา นี่ก็คือหนอนบ่อนไส้ที่เขาเตรียมเอาไว้!
ดูท่าว่าเฉินชางเริ่มระวังมากเกินไปแล้ว
เฉินชางเริ่มวางมือบนตำแหน่งชุ่นกวนฉื่อ[1] ราวกับการตรวจชีพจรของแพทย์แผนจีน
ความจริงไม่ว่าแพทย์แผนจีนหรือแพทย์แผนตะวันตก ก็ให้ความสำคัญกับชีพจรมาก
การคลำชีพจรเป็นวิธีการตรวจทางกายภาพของโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะที่แพทย์คลินิกใช้งานบ่อยที่สุด
หลังเฉินชางคลำหนึ่งรอบก็ถอนหายใจโล่งอก
อืม ปกติ!
แต่ทำไมชีพจรบริเวณยอดหัวใจถึงสัมผัสถึงชีพจรที่พลันเพิ่มแรงเต้นล่ะ
การเต้นหน้าหลังเหมือนจะไม่หนึ่งเดียวกัน!
เฉินชางสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าบางครั้งมันก็เต้นแรงขึ้น นี่ทำให้ท้องนิ้วสัมผัสถึงการเต้นที่ชัดเจน
เกิดอะไรขึ้น
แต่…
ชีพจรปกตินะ!
เวลานี้ เฉินชางละจากชีพจร
โดยปกติแล้วไม่ควรจับชีพจรเกินหนึ่งนาที เพราะเมื่อเวลานานหลังจากนี้ก็จะไม่แม่นยำแล้ว
ตอนเฉินชางหันตัว ทันใดนั้นเขาเห็นคนที่โดยรอบเหมือนจะ…ประดับรอยยิ้มที่มุมปาก
เฉินชางงุนงงในทันที!
ยิ้ม?
เขามองคนไข้อย่างละเอียดรอบคอบ มองคนไข้ขลาดกลัวในใจเล็กน้อย
ทันใดนั้นเฉินชางนึกได้ว่าใบหน้านี้ดูคุ้นเคยมาก
เขาดูคล้ายคลึงกับคนคนหนึ่ง…
เฉินชางพลันย้อนนึกถึงภาพเจ้าหน้าที่บนผนังตอนที่อยู่ในโถงใหญ่!
ทันใดนั้น เฉินชางก็หัวเราะเยาะในใจ!
เอาซี้!
คนกลุ่มนี้หน้าไม่อายเกินไปแล้ว
ถึงกับส่งหนอนบ่อนไส้มาเหรอ
นึกถึงตรงนี้ เฉินชางหลับตา เริ่มคลำอย่างละเอียด
ยิ่งคลำ ยิ่งขมวดคิ้วแน่น!
จากนั้นเฉินชางก็พูดกับหมอที่ด้านหลัง “ขอหูฟังแพทย์หน่อย!”
ทุกคนพลันตะลึงงัน!
นี่เป็นครั้งแรกที่เฉินชางใช้หูฟังแพทย์สินะ
หมอกับนักเรียนโดยรอบล้วนรู้ว่านี่คือหมออาวุโสในแผนก ทุกคนมองเฉินชางดูร้อนรนเล็กน้อยก็อยากหัวเราะ
ดูท่าจะวินิจฉัยความผิดปกติออกมาไม่ได้สินะ!
แต่ในเวลานี้เอง เฉินชางกลับพลันถอนหายใจยาวเหยียด!
จากนั้นก็ขมวดคิ้วแน่น ทันใดนั้นก็ส่ายหน้าเล็กน้อย
จากนั้นเขาก็เคาะอกของชายคนนั้นหนึ่งที “เจ็บไหมครับ”
ชายคนนั้นพลันรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นมา
“ซี้ด!
เจ็บ! เจ็บมากเลย! ศาสตราจารย์เฉิน ผมเป็นอะไรไปครับ!”
เฉินชางสูดหายใจลึก อดส่ายหน้าไม่ได้!
เห็นฉากนี้ ทุกคนก็มึนงงแล้ว!
เชี่ย
นี่มันสถานการณ์อะไร
แม้แต่คนไข้ที่นอนแกล้งป่วยอยู่บนเตียงคนไข้ก็ตกใจจนเหงื่อเย็นโซมกายแล้ว!
นี่แม่งเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ศาสตราจารย์เฉินคุณเลิกถอนหายใจได้แล้ว!
เชี่ย…
คุณส่ายหัวทำไม
ฉันแกล้งป่วยจริงๆ นะ!
[1] ชุน กวน ฉื่อ เป็นตำแหน่งการตรวจชีพจร มีสามจุดใต้ฝ่ามือแต่ละข้าง