เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 1242 ถึงไม่รู้จักแต่ฟังดูร้ายกาจมาก!
แม้แต่จวงซินก็ไม่รู้ว่าทำไมเมื่อกี้ถึงเจ็บหน้าอกขนาดนั้น!
เกิดอะไรขึ้น
เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่!
จวงซินโง่งมแล้ว
มองแววตาของเฉินชาง เห็นเขาในความสิ้นหวังมีความจนปัญญา ในความจนปัญญาแฝงความเจ็บปวด ในความเจ็บปวดยังมีความอาลัยอาวรณ์ในโลกมนุษย์…
นี่แม่งเหมือนกับสายตาตอนตัวเองผ่าตัดให้ผู้ป่วยระยะสุดท้ายเมื่อเร็วๆ นี้ชัดๆ!
วินาทีนี้ จวงซินพลันตระหนักได้ หรือว่า…ตัวเองจะป่วยจริงๆ
ไม่งั้นทำไมแค่เคาะอกเบาๆ ก็เจ็บขนาดนี้ล่ะ
นึกถึงตรงนี้ จวงซินก็อดกลืนอะไมเลสในน้ำลายอายุยี่สิบแปดปีเพื่อกดความตื่นตระหนกไม่ได้
ความสามารถของศาสตราจารย์เฉินชางแข็งแกร่งขนาดไหน
แข็งแกร่งมาก!
จวงซินเข้าใจในจุดนี้ดี
ไม่เช่นนั้นเขาก็ไม่ถูกหัวหน้าส่งมาสวมรอยเป็นคนไข้แล้ว
ศาสตราจารย์เฉินเก่งกาจขนาดนี้…หรือตัวเองจะป่วยจริงๆ!
จวงซินยิ่งคิดยิ่งกลัว ยิ่งคิดยิ่งใจตุ๊มๆ ต่อมๆ!
มนุษย์ก็เป็นแบบนี้
เมื่อไรที่เกิดความคิดว่าตัวเองป่วย ความคิดนี้ก็อาจเหมือนคำสาป วนเวียนอยู่ในห้วงสมองของคุณ เนิ่นนานไม่อาจสลาย
ถึงขั้นว่าคิดเชื่อมโยงกับอาการและความอึดอัดทั้งหมดของตัวเอง
จวงซินพลันหวาดหวั่นขึ้นมา!
เขานึกถึงตอนผ่าตัดครั้งหนึ่งจู่ๆ เขาก็แน่นหน้าอกหายใจไม่ออก!
นึกถึงตอนที่ทำการบ้านเสร็จในหนึ่งนาที กลับไม่ได้ภูมิใจ แต่ปวดใจหงุดหงิดอยู่ครึ่งค่อนวัน
เขานึกถึงครั้งหนึ่งที่เขาเข้าห้องน้ำแล้วเวียนหัวตาลายตอนลุกขึ้นมา…
เหมือนทุกสิ่งทุกอย่างกลายเป็นเชื้อเพลิงของอาการป่วยเขา…
เขาเป็นหมอ เขารู้ว่าอาการป่วยมากมายมักจะซุกซ่อนอยู่จริงๆ
เวลาปกติยากที่จะแสดงออกมา
แต่ว่าจะจู่โจมคุณอย่างรุนแรงในเวลาสำคัญ!
คิดถึงจุดนี้ จวงซินรีบมองเฉินชาง “ศาสตราจารย์เฉิน…ผมเป็นอะไรกันแน่”
ทันใดนั้น!
คนรอบข้างต่างมึนงง!
นี่ไม่ใช่คุณหมอจวงเหรอ
เขาขึ้นมาสวมรอยเป็นคนไข้…
แต่ไหงเป็นคนไข้จริงๆ ไปซะแล้วล่ะ
ทุกคนคิดแล้วอดเบิกตาโตไม่ได้ มองฉากนี้อย่างเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ
อย่าบอกนะว่า…ศาสตราจารย์เฉินวินิจฉัยโรคที่ไม่แสดงอาการของหมอจวงออกมาได้จริงๆ
ชั่วขณะนั้น แม้แต่ฟั่นโจวก็ตกตะลึงแล้ว!
เขาจ้องจวงซิน เห็นแค่ว่าจวงซินไม่มองตัวเอง แต่กลับจ้องมองเฉินชางเขม็ง ในดวงตาเต็มไปด้วยความคาดหวังเฝ้ารอ!
ฟั่นโจวฉวนตะลึงค้างในพริบตา
ส่วนซุนกว่างอวี่ก็ถลึงตามองฟั่นโจวฉวน “นี่คือ…พวกเดียวกันเหรอ คุณแน่ใจนะว่าไม่ใช่พวกเดียวกันกับเฉินชาง”
ฟั่นโจวฉวนปิดหน้าถอนหายใจ เรื่องอย่างนี้คาดไม่ถึงแม้แต่น้อย
มีแต่ภูตผีที่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น
แต่ว่า…
เทียบกับอยากสร้างความลำบากให้เฉินชาง ณ เวลานี้ วินาทีนี้ ฟั่นโจวฉวนคิดว่าที่สำคัญกว่าคือปัญหาอาการป่วยของจวงซิน
นึกถึงตรงนี้ ฟั่นโจวฉวนรีบถาม “ศาสตราจารย์เฉิน…จวง…คนไข้คนนี้เกิดอะไรขึ้นเหรอครับ”
เฉินชางมองฟั่นโจวฉวน ไม่ได้พูดจา แค่หันตัวไปมองจวงซิน
เขาส่ายหน้า แล้วถอนหายใจ!
ยังคงไม่พูด!
เสียงถอนหายใจนี้ทำจวงซินกลัวจนจวนจะร้องไห้แล้ว
เขาใกล้จะร้องไห้แล้วจริงๆ
“ศาสตราจารย์เฉิน คุณพูดสิ! ผมเป็นอะไรไปกันแน่ คุณพูดออกมาเลย ผมรับได้ทั้งนั้น!”
เฉินชางไม่พูด แต่เปลี่ยนตำแหน่งที่หน้าอกของเขาเงียบๆ แล้วกดเบาๆ!
“โอ๊ยๆๆ …เจ็บ! เจ็บจริงๆ!”
จวงซินตกใจกลัวจนร้องไห้แล้วจริงๆ
น้ำตาไหลลงมาเป็นสาย
วินาทีนั้น นักเรียนกับเพื่อนร่วมงานโดยรอบตาค้างแล้ว
นี่ไม่ใช่การแสดงแล้ว!
นี่เป็นของจริง…
“คุณหมอ คุณพูดมาสักประโยคเถอะ ผมเป็นอะไรไปกันแน่ ผมเป็นโรคหายากพิเศษอะไรหรือเปล่า”
คราวนี้เฉินชางไม่ได้เงียบ แต่จ้องจวงซินพลางถาม “อืม พบได้น้อยมาก แต่…ผมยังอยากถามคำถามคุณสักสองคำถาม”
จวงซินได้ยินคำพูดของเฉินชางก็ประหม่าไม่ไหว!
เขาดูตึงเครียดเหมือนรออ่านคำตัดสิน
เฉินชางอืมหนึ่งคำแล้วถามคำถามแรก “ตอนที่คุณทำงานเครียดๆ จะแน่นหน้าอกเป็นพักๆ บางครั้งหลังชนอะไรเข้าจะเจ็บหน้าอกมาก”
จวงซินเบิกตากว้าง “อือ!”
เฉินชางถามคำถามที่สอง “ตอนที่ใช้ชีวิตแต่งงาน คุณจะพลันเสร็จกิจเพราะแน่นหน้าอก อาจจะยังไม่ถึงหนึ่งนาทีด้วยซ้ำ…”
จวงซินพยักหน้าด้วยความดีใจ “ใช่! ใช่เลย! ศาสตราจารย์เฉินเทพเกินไปแล้ว!”
พวกเพื่อนร่วมงานโดยรอบพลันอึ้งกิมกี่!
เรื่องแบบนี้มันน่าดีใจขนาดนั้นเลยเหรอ
เฉินชางถามคำถามที่สามที่โจมตีจิตวิญญาณโดยตรง “ตอนที่ท้องผูกคุณจะเจ็บหน้าอกเป็นระลอก แต่คลื่นไฟฟ้าหัวใจปกติดีใช่หรือเปล่า การฉีดสารทึบรังสีเพื่อตรวจการตีบแคบของหลอดเลือดหัวใ ใจก็ไม่พบปัญหาใดๆ!”
จวงซินแทบจะคุกเข่า!
“ถูกต้อง! ใช่ครับ! เป็นแบบนี้จริงๆ!”
เวลานี้คนโดยรอบมีสายตาโง่งมทันที
จริงงั้นเหรอเนี่ย
หมอจวงป่วยจริงๆ งั้นเหรอ
เวลานี้ทุกคนจ้องเฉินชางเขม็ง ศาสตราจารย์เฉินไม่ใช่แค่เก่งแล้ว นี่มันยากแท้หยั่งถึงแล้วชัดๆ
เรื่องพวกนี้ก็ตรวจออกมาได้ด้วยเหรอ
ยังมีอะไรที่เขาตรวจไม่เจออีก!
ตอนนี้ละครตลกจบแล้ว!
ทุกคนเชื่อแล้วว่าหมอจวงป่วยจริงๆ!
ชั่วขณะนั้น ทุกคนยังมีความคิดสนุกสนาน แต่กลับยังมองจวงซินอย่างเป็นห่วง
เห็นใจเล็กน้อย
สงสารเล็กน้อย
ถึงขั้นว่ายังดีใจอยู่บ้าง!
ถ้าไม่ใช่เฉินชาง หมออาวุโสจวงอาจไม่เจอโรคนี้!
ขอบคุณศาสตราจารย์เฉิน!
แม้แต่ฟั่นโจวฉวนก็คิดว่าเป็นจริงแล้ว เขามองเฉินชางอย่างเครียดขึง
จวงซินเป็นกระดูกสันหลังของคนหนุ่มสาวแผนกศัลยกรรมทรวงอก เขาจะเป็นอะไรไปไม่ได้!
ผู้อำนวยการหลี่ข่ายขมวดคิ้วเป็นปมมองเฉินชาง “ศาสตราจารย์เฉิน เกิดอะไรขึ้นกันแน่”
เฉินชางพูด “นี่เป็นโรคที่หายากและซับซ้อนมาก!”
เมื่อพูดออกมา จวงซินก็เปลี่ยนน้ำตาเป็นเสียงหัวเราะทันที
ทว่าในเสียงหัวเราะมีความน้อยใจเล็กน้อย
“ฉันว่าแล้วเชียว ฉันว่าแล้วว่าตัวเองต้องป่วย…”
เฉินชางมองท่าทางเป็นห่วงของทุกคนโดยรอบก็อดหัวเราะในใจไม่ได้ ใครใช้ให้แกล้งฉันล่ะ…
ช่างเถอะ!
พอแค่นี้แล้วกัน!
นึกถึงตรงนี้ เฉินชางก็พูดตรงๆ “ครับ โรคนี้ซ่อนตัวได้ค่อนข้างดี การตรวจทั่วๆ ไปไม่เจอหรอก
คุณรู้จักเนื้องอกลิ้นหัวใจเอออร์ติกชนิดไม่ร้ายแรงใช่ไหมครับ”
หลังทุกคนได้ยินดังนั้นก็พยักหน้า!
หลังจวงซินได้ยินชื่อนี้ก็ตะลึงงันทันที!
โรคนี้วินิจฉัยยากและตรวจเจอยากนะ!
หรือว่าตัวเองเป็นโรคนี้
คิดถึงตรงนี้จวงซินก็หน้าถอดสีทันที
ไม่เพียงแค่เขา ฟั่นโจวฉวนก็ขมวดคิ้วแน่น
“ศาสตราจารย์เฉิน…คุณจะบอกว่า…คนไข้เป็นเนื้องอกลิ้นหัวใจเอออร์ติกชนิดไม่ร้ายแรงเหรอ!”
เฉินชางส่ายหน้า “ไม่! เขาไม่ได้เป็นครับ!”
ทุกคนหมดคำพูดทันที
ไม่ใช่แล้วจะพูดทำมะเขืออะไรเล่า!
จวงซินรู้สึกว่าหัวใจดวงน้อยๆ ของตัวเองเต้นขึ้นๆ ลงๆ …
ไม่ใช่…
ยังดีที่ไม่ใช่!
เฉินชางพูดต่อ “สถานการณ์ของเขาคือเนื้องอกเทียมเจริญผิดปกติในหัวใจแบบไม่แสดงอาการและไม่ต่อเนื่อง!”
ทันทีที่พูดชื่อนี้ออกมา รอบข้างเงียบลงทันที
ชื่อนี้…
ถึงไม่รู้จักแต่ฟังดูร้ายกาจมาก!
ถึงแม้ทุกคนไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่รู้สึกว่ามันดูร้ายกาจยิ่ง