เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 1243 ศาสตราจารย์เฉิน เดี๋ยวก่อน!
ฟังดูป่วยนะเนี่ย!
แค่ฟังชื่อก็รู้สึกว่าซับซ้อนมาก
แค่ฟังชื่อก็ดูรักษายากมาก
เฉินชางหันไปมองเลขาการฝึกอบรม “เคยได้ยินไหมครับ”
อีกฝ่ายขมวดคิ้ว พยักหน้าอย่างมีท่าทีครุ่นคิด “อืม! สถานการณ์ที่เกี่ยวข้องกับคนไข้ ผมคิดดูดีๆ แล้ว เหมือนจะ…เป็นไปได้จริงๆ!
ผมจำชื่อนี้ได้รางๆ แต่ลืมแล้วว่าอยู่ในวารสารเล่มไหน!”
เฉินชางมองกลุ่มนักศึกษาที่อยู่ด้านหลัง “พวกคุณเคยได้ยินชื่อโรคนี้ไหม”
กลุ่มนักศึกษาที่อยู่ด้านหลังส่วนใหญ่เงียบเสียง
มีบางคนที่พยักหน้าเห็นด้วย “อืม ผมคุ้นๆ ว่าเคยจำชื่อนี้!”
“ใช่ ลืมแล้วว่ามาจากวารสารต่างประเทศเล่มไหน!”
“อื้อ ผมก็จำได้แล้ว โรคนี้ซับซ้อนมากเลยนะ!”
…
เฉินชางอดถอนหายใจไม่ได้
ฟั่นโจวฉวนเห็นหลายคนรู้จักชื่อนี้ก็หน้าแดงเรื่อ
เพราะเขาไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อน
นึกถึงตรงนี้ ฟั่นโจวฉวนก็กระอักกระอ่วนเล็กน้อย
ถึงอย่างไร…ถึงอย่างไรตัวเองก็เป็นหัวหน้าแผนกศัลยกรรมทรวงอกนะ แต่ตัวเองไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย…
เฉินชางมองฟั่นโจวฉวน “หัวหน้าฟั่น คุณเคยได้ยินชื่อไหม”
ถึงแม่หัวหน้าฟั่นกระอักกระอ่วนมาก มองนักเรียนกลุ่มนั้นล้วนรู้จัก หมอเล็กๆ ก็เคยได้ยินมาก่อน แต่ตัวเองกลับไม่รู้…
เขาสูดหายใจลึก ก่อนพูดอย่างทบทวนตัวเอง “เฮ้อ…ความรู้ผมตื้นเขิน ไม่เคยได้ยินมาก่อน ยังต้องขอให้ศาสตราจารย์เฉินช่วยอธิบายอย่างละเอียดทีครับ”
เฉินชางอดมองฟั่นโจวฉวนคนนี้สูงขึ้นอีกระดับไม่ได้
สังคมนี้มีนักดนตรีเก๊เนียนเป่าขลุ่ยเยอะเกินไปแล้ว
เฉินชางอดหันไปมองนักศึกษาที่อยู่ไกลออกไปไม่ได้ เขาถาม “คุณเคยได้ยินไหม”
นักศึกษาปริญญาเอกคนนั้นพยักหน้า!
“ครับ เคยได้ยินมาเลาๆ”
เฉินชางหัวเราะ “อธิบายสักหน่อยสิ ว่านี่เป็นโรคแบบไหน”
นักศึกษาปริญญาเอกคนนั้นกลับเป็นคนมีพรสวรรค์ “นี่เป็นการเจริญเติบโตผิดปกติที่หัวใจ เนื้องอกที่พัฒนาผิดรูปในสภาพตัวอ่อนเทียม อาการหลักๆ คือ…เจ็บหน้าอก หัวใจเต้นผิดปกติ อากา ารแสดงไม่ต่อเนื่อง…แต่ว่า…”
เฉินชางได้ยินดังนั้นก็พลันเบิกตาโต
เชี่ย!
นึกไม่ถึงว่าจะเจอคนที่ปั้นเรื่องเก่งกว่าฉัน
นึกถึงตรงนี้ เฉินชางก็อดปรบมือไม่ได้
ทุกคนโดยรอบเห็นดังนั้น ก็พากันปรบมือตาม
แม้แต่หลี่ข่าย ซุนกว่างอวี่ รวมถึงฟั่นโจวฉวนแห่งแผนกศัลยกรรมทรวงอกก็เริ่มปรบมือด้วย
นักศึกษาปริญญาเอกคนนั้นได้ยินเสียงปรบมือ ก็มองเพื่อนนักศึกษาที่โดยรอบอย่างตื่นเต้นและภูมิใจ เห็นความนับถือในสายตาของพวกเขาก็อดฮึกเหิมขึ้นมาไม่ได้
เขาไม่เคยได้เกียรติแบบนี้มาก่อนเลย!
เฉินชางหัวเราะ บอก “ดีมาก!”
ส่วนจวงซินอดลุกขึ้นมาไม่ได้ “ศาสตราจารย์เฉิน ผมก็ไม่เคยได้ยินชื่อโรคนี้มาก่อน คุณช่วยอธิบายให้ผมฟังที!
ผม…ยังมีทางช่วยไหม”
หัวหน้าเฉินบอก “มีทางช่วยครับ!”
จวงซินได้ยินดังนั้นก็ตาลุกวาว เดินลงมาจากเตียงทันที
“ศาสตราจารย์เฉิน…ต้องรบกวนคุณช่วยผมให้ได้นะ!”
เฉินชางพยักหน้า “ได้ครับ!”
เฉินชางหันไปมองนักศึกษาคนเมื่อกี้ “คุณรู้ไหม…ว่าโรคนี้ยังมีชื่อย่อว่าอะไร”
นักศึกษาปริญญาเอกคนนั้นดันแว่น” ขอโทษครับ ศาสตราจารย์เฉิน ผมจำไม่ค่อยได้แล้ว”
เฉินชางหัวเราะ “ผมบอกคุณได้ คุณต้องจำไว้นะ”
นักศึกษาคนนั้นพยักหน้า ยกกระดาษกับปากกาออกมา
เฉินชางเก็บรอยยิ้มทันที
ตอนแรกเขาแค่อยากล้อเล่นเท่านั้น
แต่…
เขานึกไม่ถึงว่าจะมีนักดนตรีเก๊เนียนเป่าขลุ่ย ไม่เข้าใจแสร้งเข้าใจ
แพทยศาสตร์ ไม่เหมือนวรรณกรรมศาสตร์
คุณเข้าใจก็เข้าใจ ไม่เข้าใจก็ไม่เข้าใจ!
พูดเท็จไม่ได้เด็ดขาด
เฉินชางสูดหายใจลึก จ้องนักศึกษาปริญญาเอกคนนั้น “ถ้าผมบอกคุณว่า คุณก็มีโรคนี้ คุณจะเชื่อไหม”
นักศึกษาปริญญาเอกคนนั้นพูดไม่ออกทันที!
“ศาสตราจารย์…เฉิน…คุณล้อผมเล่นใช่ไหม! ผมแข็งแรงมากนะครับ!”
เฉินชางอดหัวเราะขึ้นมาไม่ได้ “คุณอยากรู้ใช่ไหมว่าเนื้องอกตัวอ่อนเทียมเจริญผิดปกติในหัวใจแบบไม่แสดงอาการและไม่ต่อเนื่องยังมีอีกชื่อหนึ่งว่าอะไร”
คนโดยรอบมองเฉินชาง ไม่รู้เจตนาของเขา
“อยากรู้ครับ!” นักศึกษาปริญญาเอกคนนั้นแน่วแน่มาก
เฉินชางพยักหน้า มองทุกคนโดยรอบ “พวกคุณอยากรู้ไหม”
“แน่นอน!”
“ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย!”
“ศาสตราจารย์เฉินอธิบายสักหน่อยเถอะ!”
เฉินชางพยักหน้าบอก “ความจริง โรคนี้ยังมีอีกชื่อหนึ่งว่า แรงจูงใจซ่อนเร้น!”
ทันใดนั้น!
ทุกคนหน้าเปลี่ยนสีทันที!
นักศึกษาปริญญาเอกคนนั้นหน้าถอดสี
“โรคนี้…ไม่มีอยู่จริงแม้แต่น้อย ผมแต่งเรื่องขึ้นมาเอง ผมนึกไม่ถึงจริงๆ ว่าจะมีอัจฉริยะมากมาย ยังมีคนรู้จักอยู่ไม่น้อย!
ได้เปิดหูเปิดตาแล้ว!”
เฉินชางเก็บรอยยิ้ม อดถอนหายใจไม่ได้
เขาเหลือบมองหลี่ข่ายแล้วก็ฟั่นโจวฉวน
จากนั้นเขาก็จ้องจวงซินพลางพูด “คุณจวง ลุกขึ้นมาเถอะ คุณไม่ได้ป่วยอะไรทั้งนั้น!”
เวลานี้จวงซินหน้าแดงขึ้นมา “ศาสตราจารย์เฉิน…คุณรู้อยู่แล้วนี่!”
ทุกคนในที่นั้นไม่พูดจาแล้ว!
ทั่วทั้งห้องคนไข้กว้างใหญ่ ทุกคนไม่เปล่งเสียงใดๆ
บ้างก็หน้าแดงก้มหน้า
บ้างก็จากไปอย่างอับอาย
คนส่วนใหญ่ล้วนนิ่งเงียบไม่พูดไม่จา
เพราะ…จริงๆ เมื่อครู่นี้พวกเขาก็อยากแสร้งทำว่ารู้
ไม่มีใครคาดคิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
จวงซินอดลุกขึ้นเป็นฝ่ายขอโทษก่อนไม่ได้ “ขอโทษครับ ศาสตราจารย์เฉิน พวกเราก็แค่อยากล้อเล่น…”
เฉินชางยิ้มบอก “ไม่เป็นไรครับ ผมรู้แต่แรกแล้ว ไม่ได้โกรธ”
พูดถึงตรงนี้ เฉินชางก็มองทุกคนพลางพูด “แต่…ผมหวังว่าทุกคนจะรู้ว่า บางเรื่องล้อเล่นได้ แต่ก็มีบางเรื่องที่ล้อเล่นไม่ได้!
แพทยศาสตร์ คือศาสตร์ที่ช่วยคน จะพูดเท็จไม่ได้เด็ดขาด รวมถึงการทำตัวเป็นนักดนตรีเก๊เนียนเป่าขลุ่ยด้วย”
เฉินชางจ้องนักศึกษาปริญญาเอกคนเมื่อกี้ พูดอย่างไร้ความปรานี “คุณเป็นนักศึกษาปริญญาเอก เป็นนักศึกษาปริญญาเอกของวิทยาลัยการแพทย์ปักกิ่งยูเนี่ยน เป็นผู้มีความสามารถสูงสุดของการ รแพทย์แห่งชาติ
พวกคุณอยากทำอะไร
ตามคนหมู่มากหรือ
สร้างเกียรติยศหรือ
สิ่งที่ไม่มีมูลงั้นหรือ
แน่นอนว่าไม่ใช่ พวกคุณต้องการท่าทีใฝ่หาการเรียนรู้ที่จริงจังต่างหาก
ส่วนที่ผมพูดไม่ถูก พวกคุณต้องชี้ออกมา เรื่องที่ไม่เข้าใจ ไม่ต้องอาย อย่าอายที่จะถามคนต่ำกว่า!
หน้าของพวกคุณมีค่ามากงั้นเหรอ แค่พูดว่าไม่เข้าใจมันยากนักหรือ
หัวหน้าฟั่น สมาชิกสภาวิทยาศาสตร์ฟั่นโจวฉวนพูดออกมาได้อย่างมั่นใจว่าไม่เข้าใจ พวกคุณทำไมได้หรือ”
คำพูดนี้ของเฉินชาง ทำเอาทุกคนหน้าคอแดงก่ำ
นักศึกษาปริญญาเอกก้มหน้าทันที
สองมือกำแน่น
เฉินชางถอนหายใจ
ฟั่นโจวฉวนส่ายหน้า
ซุนกว่างอวี่มีท่าทีครุ่นคิด
หลี่ข่ายขมวดคิ้วเป็นปม
เรื่องนี้จะว่าเล็กก็เล็กจะว่าใหญ่ก็ใหญ่ หากบอกว่าใหญ่ นี่คือปัญหาทั่วไป ถ้าบอกว่าเล็ก นี่ก็เป็นแค่เรื่องเล็กน้อย
เฉินชางลุกขึ้นจากไปแล้ว
“แผนกต่อไป!”
ทุกคนในที่นั้นเงียบลง
ต่างคนต่างถอนหายใจเบาๆ
ใครก็นึกไม่ถึงว่าวันนี้จะเกิดเรื่องแบบนี้ กระอักกระอ่วน จนใจ ทั้งยังได้ทบทวน
ช่างกล้องเดินตามเฉินชางออกมาโดยตรง
และตอนนี้เอง จวงซินก็รีบเรียกเฉินชางไว้ “ศาสตราจารย์เฉิน…คุณ…รอเดี๋ยวครับ
เมื่อกี้คุณบรรยายอาการของผม ตกลงแล้วผมเป็นอะไรกันแน่ครับ”