เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 1245 ผมจะหลับไม่ได้!
การอบรมการคลำครั้งนี้ประสบความสำเร็จมาก!
แผนกที่เลือกให้ไปสาธิตไม่เยอะ ไม่มีแผนกศัลยกรรมเต้านมและแผนกทวารหนัก ทำให้นักศึกษาหลายคนผิดหวังมาก
ถึงอย่างไรทั้งสองแผนกก็เป็นแผนกที่พวกเขารอคอยที่สุด
ในการอบรมครั้งนี้ เพื่อเพิ่มความยากจนทำให้ศาสตราจารย์เฉิน ทุกคนเรียกได้ว่าทำทุกวิถีทางแล้ว
แค่เรื่องอย่างจวงซินแกล้งเป็นคนไข้กลายเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก
บางแผนกดึงคนไข้แผนกอื่นมาให้เฉินชางตรวจด้วยซ้ำ
แน่นอนว่า ศาสตราจารย์เฉินคนนี้รับมือได้ทั้งหมด
เอาชนะอุปสรรค ดึงดูดแฟนคลับนับไม่ถ้วน
หลังจากการอบรมจบลง หลี่ข่ายพึงพอใจมากจริงๆ
ไม่เพียงแค่ผลการอบรมดีมาก แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือปัญหาเล็กๆ น้อยๆ มากมายที่ถูกค้นพบ
ปัญหาพวกนี้ดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่กลับเพียงพอที่จะกระทบต่อทั้งชีวิตของคนคนหนึ่ง
วันอันแสนวุ่นวายสิ้นสุดลง
จากนั้นเฉินชางก็พาฉินเยว่ไปกินข้าวกับหลี่ข่าย
ตอนประมาณสองทุ่มกว่า ทั้งสองก็กลับ
หลังจากขับรถไปถึงบ้าน ทั้งสองรู้สึกว่ายังเช้าอยู่ และอากาศก็ร้อนอบอ้าวขึ้นเรื่อยๆ
นั่งอยู่ในบ้านโดยไม่เปิดแอร์ ร้อนจนหายใจไม่ออกจริงๆ
ด้านล่างตึกมีสวนสาธารณะ กลางคืนมีคนไปเดินเล่นเยอะมาก
เฉินชางจึงพาฉินเยว่ลงไปเดินเล่น
ในวันพักผ่อนแบบนี้ ทำให้เฉินชางรู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาก
……
วันรุ่งขึ้นเป็นวันอาทิตย์ เฉินชางยังคงต้องไปทำงาน
ศูนย์ฉุกเฉินในฐานะศูนย์กลางการกู้ชีพฉุกเฉินของเมืองหลวง แม้เป็นถึงหมอระดับหัวหน้าก็จะต้องเข้าเวรและมีเวรดึก ต่างจากโรงพยาบาลอื่นอย่างชัดเจน
โดยทั่วไป ถ้าเป็นถึงหมอระดับหัวหน้า โดยพื้นฐานแล้วไม่ต้องเข้าเวร แม้ต้องเข้าก็เป็นเพียงแค่สัญลักษณ์สองขีด
แต่ศูนย์ฉุกเฉินกลับแตกต่าง
เพราะสถานการณ์ของคนไข้ฉุกเฉินไม่เหมือนกับคนไข้แอดมิท ถ้ามีเหตุฉุกเฉิน หลายครั้งที่หมอทั่วไปควบคุมสถานการณ์ไม่ได้เลย
เฉินชางกับเหล่าหม่าถือว่ามีวาสนาต่อกัน
วันอาทิตย์เฉินชางเข้าเวรกับเหล่าหม่า
ช่วงนี้เฉินชางไม่เกลียดเหล่าหม่า ไม่ใช่เพราะเขาเอาอาหารเช้ามาแบ่งหรอกนะ ยิ่งไม่ใช่เพราะช่วงนี้เหล่าหม่าเลี้ยงข้าวเขาบ่อย แต่เพราะเหล่าหม่า…
ช่างเถอะ แต่งเรื่องต่อไม่ไหวแล้ว
เฉินชางนั่งกินแพนเค้กที่เพิ่มเบคอน ไส้กรอก เนื้อไก่และไข่ อาหารเช้าสุดวิเศษแบบนี้ ปกติเหล่าหม่าทำใจเสียเงินกินไม่ได้หรอกนะ
เฉินชางอดถามไม่ได้ “หัวหน้าทีมหม่า ช่วงนี้ทำไมอู้ฟู่ขนาดนี้ มีเรื่องอะไรกระทบกระเทือนจิตใจหรือเปล่า”
หม่าเยว่ฮุยดื่มนมคำหนึ่ง “เฮ้อ ก็ใช่น่ะสิ ช่วงนี้อารมณ์ไม่ค่อยดี แต่ซื้อเรือนสี่ประสานไปหลังหนึ่งก็รู้สึกอารมณ์ดีขึ้นมากเลย”
เฉินชางอึ้ง หันมองเหล่าหม่าแวบหนึ่ง จู่ๆ ก็รู้สึกว่าแพนเค้กในปากไม่อร่อยแล้ว…
เรือนสี่ประสาน!
คิดจะซื้อก็ซื้อเลยหรือ
คำพูดนี้ทำให้เฉินชางรู้สึกจิตใจหดหู่ไปตลอดเช้า
ถ้าไม่ใช่เพราะตอนเที่ยงเหล่าหม่าให้คนขับรถที่บ้านเอาอาหารมื้อใหญ่ที่แม่ครัวเตรียมไว้เป็นพิเศษมาให้ เฉินชางคงบ่นเรื่องนี้ทั้งวันแน่
อาหารอร่อยๆ ปลอบประโลมจิตใจได้จริงๆ
ตอนเที่ยง เหล่าหม่าและเฉินชางงีบอยู่ในห้องเวร
ทว่า หยางเจี๋ยที่อยู่เวรตรงเคาน์เตอร์พยาบาลวิ่งเข้ามาอย่างเร่งรีบ
“หัวหน้าหม่า ศาสตราจารย์เฉิน ที่ถนนตงหลินเกิดเหตุการณ์ชนท้าย ชายคนหนึ่งชนเข้ากับราวกั้นข้างทาง เขาบอกว่าเขาเลือดออกเยอะมาก ต้องการความช่วยเหลือ”
เหล่าหม่ากับเฉินชางได้ยินคำพูดของหยางเจี๋ยก็พลิกตัวลงจากเตียง รีบวิ่งออกไป
รถพยาบาลเตรียมพร้อมแล้ว
หยางเจี๋ยถือชุดปฐมพยาบาล ขึ้นรถไปกับเฉินชางและเหล่าหม่า
หลังจากขึ้นรถ จู่ๆ เฉินชางก็ถามว่า “ใครเป็นคนโทร 120”
หยางเจี๋ยชะงักไปทันที “เจ้าตัวโทรเองค่ะ!”
คำพูดนี้ทำให้เฉินชางและหม่าเยว่ฮุยอึ้งงันไป
“งั้นคงยังพอมีสติ…”
ทั้งสองสบตากัน พร้อมพูดเรียบๆ
ทว่านี่เป็นเพียงแค่ความหวังเท่านั้น
ถึงอย่างไรก็ไม่มีใครรับประกันได้ว่าอาการของคนเจ็บจะเป็นอย่างไร
ไม่เป็นอะไรย่อมดีที่สุด!
รถแล่นไปด้วยความเร็วสูง
ไม่ถึงยี่สิบนาที ทุกคนก็ไปถึงสถานที่เกิดขึ้น
ตอนนี้บริเวณรอบๆ ถูกเจ้าหน้าที่ดับเพลิงล้อมไว้แล้ว
หลังจากรถจอดสนิท เฉินชางก็พุ่งตัวเข้าที่เกิดเหตุ
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเห็นศูนย์ฉุกเฉิน 120 มาถึงก็โล่งอกไปที
“คนไข้สถานการณ์อันตรายมาก ราวกั้นถูกชนจนหัก ด้านหนึ่งแทงเข้าช่องท้องเขา”
ได้ยินประโยคนี้ เหล่าหม่าขมวดคิ้วขึ้นมา
ส่วนเฉินชางได้เดินอ้อมแนวกั้นไปดูอาการคนไข้ข้างตัวรถ
คนไข้เป็นชายวัยกลางคนอายุประมาณสามสิบห้าถึงสามสิบหกปี เหงื่อไหลจนผมเปียกปอน สีหน้าซีดเซียว เจ็บจนเอนหลังบนเบาะหายใจหอบ
“คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง” เฉินชางรีบถาม
ชายวัยกลางคนชูสัญญาลักษณ์มือ “ยังโอเคครับ….ยังโอเคครับ!”
ตอนนี้เอง เจ้าหน้าที่ดับเพลิงสองคนพลันพูดว่า “คุณหมอครับ จัดการอย่างไรดีครับ”
เฉินชางก้มหน้า เห็นท่อเหล็กกลวงที่ยาวประมาณสามถึงสี่เซนติเมตรแทงอยู่ใต้ซี่โครงด้านซ้ายของเขา!
บริเวณท้องของเขาเต็มไปด้วยเลือด ถึงขั้นไหลออกนอกรถผ่านท่อเหล็ก
เฉินชางรีบตัดเสื้อผ้าของเขาออก พลันมองเห็นตำแหน่งของบาดแผลได้ชัดเจนในทันที
ทว่า ก็เพราะมองเห็นอย่างชัดเจน ทำให้เฉินชางถึงกับหรี่ตา!
เพราะท่อเหล็กทะลุตับโดยตรง!
เจ้าหน้าที่ดับเพลิงจ้องเฉินชาง รอคำแนะนำจากเขา
ตอนนี้เอง จู่ๆ เฉินชางก็พูดว่า “ดึงออกไม่ได้นะครับ ใช้เลื่อยไฟฟ้าเลื่อยออกดีกว่า แต่…ผมขอผ้าหนาๆ สักผืน หัวหน้าทีมหม่า เราจับท่อเหล็กเอาไว้ อย่าให้สะเทือนไปถึงช่องท้องจ จะดีที่สุด!”
ตับค่อนข้างอ่อนแอเมื่อเทียบกับอวัยวะอื่นๆ
หากเลื่อยไฟฟ้าสั่นสะเทือน อาจทำให้หลอดเลือดในตับเสียหายได้ง่าย และส่งผลร้ายแรงตามมา
เหล่าหม่าได้ยินแล้วรีบพยักหน้า!
ตอนนี้เฉินชางพลันเปลี่ยนถุงมือเพื่อเพิ่มเรี่ยวแรง เขากับเหล่าหม่าจับท่อเหล็กแน่น พร้อมพูดกับเจ้าหน้าที่ดับเพลิง “โอเคแล้วครับ! เริ่มได้!”
อากาศในช่วงฤดูร้อน ร้อนมากจริงๆ!
ภายใต้แสงแดดอันแรงกล้า ทุกคนต่างแบกรับแรงกดดันอันใหญ่หลวง
ทุกคนต่างไม่กล้าผ่อนคลาย
ทว่า!
ไม่ว่าจะเป็นเฉินชางหรือเจ้าหน้าที่ดับเพลิง ล้วนไม่ใช่คนที่ลำบากที่สุด
คนที่ลำบากที่สุด เจ็บปวดที่สุด กลับเป็นชายวัยกลางคนที่อยู่ในรถ
หยางเจี๋ยชวนเขาคุยไม่หยุด “หวังต้ง คุณทนหน่อยนะคะ จะช่วยเดี๋ยวนี้ค่ะ อดทนไว้นะคะ”
ชายวัยกลางคนเจ็บจนเริ่มมีเลือดออกจากไรฟัน แต่ยังคงกัดฟันพูด “ผม…ไม่เป็นไรครับ”
ตอนนี้ เพราะร่างกายเสียเลือดอย่างรุนแรง เขาเริ่มจะหมดสติ
แต่เขายังคงพูดเหมือนกำลังปลอบตัวเอง “ผมไม่เป็นไร ผมจะเป็นอะไรไม่ได้…ผมจะหลับไม่ได้ ผมยังมีภรรยา ลูกสาวผมห้าขวบแล้ว เธอชอบเปียโน โตขึ้นเธออยากเป็นนักเปียโน…เราเพิ่ งกู้เงินสามล้านมาซื้อบ้าน ผมจะเป็นอะไรไม่ได้เด็ดขาด ผมยังต้องใช้หนี้ค่าบ้าน! เดือนนี้ผมวิ่งมาสิบสองงานแล้ว ผมได้เงินมาหนึ่งหมื่นสามพัน เดือนหน้าเป็นวันครบรอบแต่งงานของผ ผม ผมจะให้ของขวัญเธอ ผมอยากกลับบ้านเกิด กลับไปอยู่เคียงข้างเธอ สัมผัสความอ่อนโยน ความดีของเธอ…”
เพื่อไม่ให้ตนหมดสติไป ชายวัยกลางคนคอยเตือนตัวเอง จนสุดท้ายถึงกับเริ่มร้องเพลงขึ้นมา!