เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 1246 ฉันเลี้ยงดูคุณเอง! - novel-lucky

หยางเจี๋ยเห็นฉากนี้ก็อึ้งไป!

แม้แต่เฉินชางและหม่าเยว่ฮุย รวมถึงเจ้าหน้าที่ดับเพลิงที่พยายามกู้ชีพอยู่ยังชะงักไป

ชายคนนี้เป็นลูกผู้ชายตัวจริง!

อย่าคิดว่าเป็นเรื่องง่าย

ภายใต้สถานการณ์ที่ร่างกายเสียเลือดอย่างรุนแรง และยังมีบาดแผล หมดสติได้ง่ายมาก

แต่ชายวัยกลางคนนี้เหมือนกำลังใช้วิธีที่ตนนึกออกทำให้ตนมีสติอยู่เสมอ

“ผมจะตายไม่ได้ ผมจะหลับไม่ได้ ผมต้องรอด…”

ชายวัยกลางคนพูดไปพูดมาก็ร้องไห้ขึ้นมา “ผมไม่กล้าตายหรอกนะ…ถ้าผมตาย ภรรยาผมจะอยู่อย่างไร ถ้าผมตายไปลูกสาวผมจะไม่มีพ่อ ถ้าผมตายไปใครจะเลี้ยงดูพ่อแม่ผม ผมไม่กล้าตาย…”

จู่ๆ ชายวัยกลางคนก็ปล่อยโฮ

น้ำตาปะปนกับเลือด ย้อมภายในรถจนแดงไปหมด

หยางเจี๋ยฟังจนร้องไห้

ไม่กล้าตาย ตายไม่ได้กับไม่อยากตายไม่เหมือนกัน

ทว่า ในตอนที่เฉินชางดำเนินการกู้ชีพอย่างต่อเนื่อง แม้เฉินชางและหม่าเยว่ฮุยพยายามจับให้แน่นที่สุดแล้ว แต่…แรงสั่นสะเทือนจากท่อเหล็กยังคงทำลายตับอยู่

ทำให้ชายวัยกลางคนเสียเลือดมากกว่าเดิม!

แต่หากไม่แก้ไขสถานการณ์ตอนนี้ ก็เคลื่อนย้ายชายวัยกลางคนไปโรงพยาบาลไม่ได้เลย

ชายวัยกลางคนค่อนข้างเลอะเลือนแล้ว “ผม…ผมไม่ได้พักผ่อนเต็มที่มานานมากแล้ว เมื่อคืนผมขับรถไปส่งของถึงเมืองหลางฝาง ออเดอร์เมื่อคืนผมได้เงินสามพันหยวนเลย! ของขวัญที่ผมซื้อให ห้ลูกสาวอยู่ท้ายรถ ผมกลัวมาก…”

ชายหนุ่มสติค่อนข้างเลอะเลือนแล้ว แต่ปากยังคงพูดอยู่ “ภรรยา…ผมง่วงมากจริงๆ! ผมจะทิ้งให้คุณใช้หนี้เพียงลำพังไม่ได้ ผมจะตายไม่ได้…”

ตอนนี้เอง ท่อเหล็กขาดแล้ว!

เฉินชางกับเหล่าหม่าดีใจมาก! “เสร็จแล้ว! เสร็จแล้ว! เปลหาม!”

ระหว่างที่พูด ทุกคนได้ช่วยกันเคลื่อนย้ายคนไข้ออกมา

เฉินชางกับเหล่าหม่าตรึงคนไข้ไว้บนเปลหามแล้วเคลื่อนย้ายไปที่รถพยาบาลอย่างระมัดระวัง

ตอนนี้ยังห้ามเลือดไม่ได้!

นี่เป็นการบาดเจ็บจากวัตถุแปลกปลอม เฉินชางไม่กล้าทำอะไรโดยพลการ

ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าสภาพของตับเป็นอย่างไร

การห้ามเลือดอาจส่งผลเสียได้

หลังจากขึ้นรถ เฉินชางก็ตัดเสื้อผ้าของชายวัยกลางคนออกทั้งหมด เผยให้เห็นตำแหน่งที่บาดเจ็บ

“ล้างด้วยน้ำเกลือสำหรับล้างแผล!”

……

บาดแผลในฤดูร้อนจะติดเชื้อได้ง่าย

ยิ่งไปกว่านั้น ยังเป็นแผลภายนอกที่อันตรายมาก

เพิ่งเชื่อมจอภาพคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ก็เห็นว่าสัญญาณชีพของคนไข้เริ่มแย่ลงเรื่อยๆ

โดยเฉพาะความดันโลหิต ตอนนี้มีเพียง 65/40 mmHg!

นี่คือตัวเลขที่อันตรายมาก

ทว่า!

ตอนนี้ชายหนุ่มยังประคองสติได้ ทำให้ทุกคนต่างมึนงง

เป็นไปได้อย่างไร

เรื่องนี้จะเรียกว่าเป็นปาฏิหาริย์ไม่ได้ แต่เป็นเรื่องที่ยากจะเจออย่างแน่นอน

ขอเพียงแค่ยังไม่หมดสติ ทุกอย่างก็จะง่ายมาก!

ชายหนุ่มยังคงพูดไม่หยุด

เฉินชางตัดสินใจใส่สายสวนหลอดเลือดดำทันที รีบเพิ่มปริมาณเลือด

เขารีบแขวนเลือดสองถุงที่เตรียมมา

น้ำเกลือสำหรับล้างแผลก็เริ่มเพิ่มปริมาณเช่นกัน

……

หม่าเยว่ฮุยติดต่อโรงพยาบาลให้เปิดทาง

หลังจากทำตามขั้นตอนกู้ชีพเสร็จ ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับโชคชะตาแล้ว

ในละครโทรทัศน์มากมาย ล้วนมีฉากแบบนี้

หลังจากคนไข้ได้รับบาดเจ็บ จะไม่ให้คนไข้หลับ

ความจริง…

จะพูดอย่างไรดี การที่คนไข้ไม่หลับ ไม่ได้ถูกกำหนดโดยใต้จิตสำนึกของคนไข้

การที่คนไข้หลับไปไม่ใช่การนอนหลับ แต่เป็นภาวะช็อกจากการขาดเลือดและขาดออกซิเจน

เพราะเป็นภาวะขาดออกซิเจนที่เกิดจากการสูญเสียเลือดมากเกินไป เพราะการที่เสียเลือดมากเกินไป ร่างกายจะขาดออกซิเจน และสมองจะได้รับออกซิเจนจากเลือดมาสู่สมองไม่เพียงพอ

ดังนั้นเพื่อปกป้องตัวเอง สมองจะออกคำสั่งให้ร่างกายนอนหลับ ความต้องการออกซิเจนของอวัยวะอื่นๆ ในร่างกายก็จะลดลง เพื่อรับประกันว่าสมองจะมีออกซิเจนเพียงพอ

หมอจะปลุกคนไข้อยู่ตลอดเวลา จุดประสงค์หลักไม่ใช่เพราะกังวลว่าคนไข้จะหลับ แต่เพื่อประเมินการรับรู้ของคนไข้ ทำความเข้าใจความรุนแรงและความเร็วของการลุกลามของอาการ

แต่!

มีอีกหนึ่งคำอธิบาย เหตุผลที่ไม่ให้คนไข้หลับ เพราะเกี่ยวข้องกับจิตสำนึกแห่งความอยู่รอด!

เมื่อคนไข้มีจิตสำนึกแห่งความอยู่รอด ร่างกายจะเข้าร่วมภาวะชดเชย การกู้ชีพภายใต้สถานการณ์แบบนี้ อัตราความสำเร็จจะสูงขึ้นไม่น้อย

ถ้าหลับไป ภูมิต้านทานของร่างกาย การป้องกัน การตอบสนองฉุกเฉินโดยรวมและอื่นๆ จะลดลง ในทางตรงกันข้าม ระดับอันตรายจะเพิ่มขึ้น

และตอนนี้ หลังจากคนไข้เสียเลือดจำนวนมาก ความดันโลหิตมาถึงขนาดนี้แล้วยังไม่หมดสติ ก็ถือว่าเป็นปาฏิหาริย์

ตอนนี้เองจู่ๆ เฉินชางก็พูดว่า “ติดต่อญาติคนไข้”

หยางเจี๋ยพยักหน้า พูดกับชายวัยกลางคน “โทรหาภรรยาคุณหน่อยค่ะ”

หลังจากเขาได้ยินแบบนี้ จู่ๆ ก็ตาเป็นประกาย

ไม่นานก็โทรติด

“สามี คุณกลับมาหรือยัง ฉันทำอาหารที่คุณชอบที่สุดไว้ด้วย…”

ชายวัยกลางคนได้ยินคำพูดของภรรยาก็ปล่อยโฮทันที

“ภรรยา…ขอโทษ…ผม…ผมอยู่เคียงข้างคุณไม่ได้อีกต่อไปแล้ว ผมประสบอุบัติเหตุรถชน ผมอาจจะตาย ผมดูแลคุณและลูกไม่ได้แล้ว”

คำพูดนี้ทำให้อีกฝ่ายตกใจจนโทรศัพท์มือถือร่วงลงพื้น จากนั้นเธอก็รีบเก็บขึ้นมา

“สามี! คุณอยู่ไหนคะ คุณรอฉันก่อนนะคะ ฉันรีบไปเดี๋ยวนี้เลย!”

ตอนนี้เอง หม่าเยว่ฮุยได้รับโทรศัพท์มือถือไป “สวัสดีครับ คุณคือญาติของหวังต้งใช่ไหมครับ เราเป็นหมอจากโรงพยาบาลศูนย์ฉุกเฉินเมืองหลวง หวังต้งประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ ตอนนี้อา าการสาหัสมาก เราจะต้องรีบดำเนินการผ่าตัดกู้ชีพอย่างเร่งด่วน คุณรีบมาที่ศูนย์ฉุกเฉินนะครับ…”

ในฐานะหัวหน้าทีม หม่าเยว่ฮุยค่อนข้างคุ้นเคยกับการจัดการเรื่องแบบนี้

หญิงสาวพูดอย่างร้อนรน “หมอคะ ต้องช่วยสามีฉันให้ได้นะคะ ต้องช่วยเขาให้ได้นะคะ ไม่ว่าจะต้องใช้เงินเท่าไร! ขอร้องละค่ะ! เราจะรีบไปเดี๋ยวนี้เลย!”

หญิงสาวไม่ได้ร้องไห้ แต่หลังจากร้องขออย่างเด็ดขาดเธอก็พูดว่า “ให้สามีฉันพูดสายค่ะ ฉันอยากคุยกับเขา”

ตอนนี้หวังต้งดูสะลึมสะลือ

หญิงสาวตะโกนเสียงดัง “สามี คุณรอฉันก่อนนะคะ ฉันจะไปเดี๋ยวนี้เลย ฉันจะพาลูกสาวสุดที่รักของคุณไปด้วย วันนี้เธอได้รับรางวัลด้วยนะคะ! คุณต้องหายนะคะ เราจะไปหาคุณเดี๋ยวนี้เลย ! คุณไม่ต้องกลัว ฉันจะอยู่เคียงข้างคุณเสมอ! อีกอย่าง คุณจะตายไม่ได้เด็ดขาด ถ้าคุณตาย ฉันกับลูกจะโดนคนอื่นรังแกนะคะ…สู้ๆ นะคะสามี!”

หญิงสาวพูดพลางก็ร้องไห้ออกมา

ทันใดนั้นดวงตาที่มัวหมองของชายวัยกลางคนสดใสขึ้นมาทันที! “ภรรยา…ขอโทษนะครับ ต่อไปผมอาจจะหาเงินไม่ได้แล้ว…”

ชายวัยกลางคนสิ้นหวังมาก

หญิงสาวพลันตะโกนว่า “สามี ฉันขอร้องล่ะ คุณต้องเข้มแข็งไว้นะคะ ฉันจะเลี้ยงดูคุณเองค่ะ ดีไหมคะ สู้ๆ นะคะ ฉันจะเลี้ยงดูคุณเองค่ะ!”

เวลาผ่านไปไวมาก แต่ก็ช้ามาก!

ไม่นาน เฉินชางก็พาชายวัยกลางคนมาถึงศูนย์ฉุกเฉิน

หม่าเยว่ฮุยรีบจัดแจง “เตรียมการผ่าตัด! แผนกธนาคารเลือด เตรียมจับคู่เลือด!”