เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 1267 เขามีวิธีของเขา!
อาหารบนโต๊ะหลากหลายมาก ฉินหย่งอี้และภรรยาเริ่มเตรียมกันตั้งแต่ช่วงบ่าย
ปกติทำงานหนัก วันหยุดสุดสัปดาห์ได้ทำอาหารอร่อยๆ ก็ถือว่าเป็นความสุขอย่างหนึ่ง
เฉินชางยิ้ม “รบกวนคุณอาด้วยนะครับ!”
ฉินหย่งอี้หัวเราะฮ่าๆ “บ้านผมน่ะมีกันสามคน ผู้หญิงสองคน กินได้ไม่เยอะ คนเยอะจะได้ทำอาหารหลายอย่างหน่อย ได้บรรยากาศ”
อาหารทุกอย่างเต็มไปด้วยกลิ่นอายของบ้าน ทุกคนกินกันอย่างมีความสุข
หลังจากมื้อเย็น ฉินเยว่เก็บจานไปล้างกับอาสะใภ้ ส่วนฉินเหมิงกลับห้องไปอ่านหนังสือ ปีนี้เธอเรียนอยู่มัธยมศึกษาปีที่หก กดดันมาก
ส่วนฉินหย่งอี้ตามตัวเฉินชางไปนั่งคุยกันในห้องทำงาน
บ้านของฉินหย่งอี้มีสามห้องนอน ไม่ได้มีแขกบ่อย จึงจัดห้องนอนห้องหนึ่งไว้เป็นห้องทำงาน การจัดวางแบบนี้ไม่เลวเลย
หลังจากนั่งลง ฉินหย่งอี้และเฉินชางก็คุยกันไปเรื่อยเปื่อย
เฉินชางไม่ได้พูดถึงเรื่องสิทธิบัตร
ถ้าถามว่าอาสามช่วยได้ไหม
ช่วยได้อย่างแน่นอน!
ถึงอย่างไรเขารับผิดชอบในการแลกเปลี่ยนด้านสุขภาพระหว่างประเทศ ต้องมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งกับต่างประเทศอยู่แล้ว
แต่ครั้งนี้ติดอยู่ในประเทศ
นอกจากนี้ แม้คนในครอบครัวตระกูลฉินจะอยู่และดูเหมือนจะหยั่งรากลึกในระบบการแพทย์ แต่ก็ยังมีช่องว่างเมื่อเทียบกับตระกูลที่ร่ำรวยอย่างถานเจิ้งหยาง
ระหว่างที่คุยกัน จู่ๆ ฉินหย่งอี้ก็พูดถึงเรื่องหนึ่ง “จริงสิ ที่อาบูดาบีแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กำลังจะจัดงานมหกรรมเภสัชกรรมครั้งที่ยี่สิบสาม ผมมีบัตรเข้างานอยู่หลายใบ ถ้ามีเ เวลา พาฉินเยว่ไปดูหน่อยนะ”
หลังจากเฉินชางได้ยินข่าวนี้ก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย “จะเข้าร่วมงานมหกรรมนี้ได้ยังไงเหรอครับ”
ฉินหย่งอี้อดขำไม่ได้ “งานนี้ชื่อเต็มว่าอินเตอร์เนชั่นแนล เฮลท์ เอ็กซ์โป แต่ละประเทศนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ล่าสุดในอุตสาหกรรมการแพทย์ในประเทศของตน ซึ่งจะมีรางวัลให้”
หลังจากเฉินชางฟังแล้วสนใจขึ้นมาทันที
“รางวัลนี้มีความหมายอย่างไรครับอาสาม”
ฉินหย่งอี้พูดเชิงล้อเล่น “เอาเป็นว่า ถ้าคุณได้รับรางวัล หนึ่งในสามอาจจะเกินจริงไปเสียหน่อย แต่ถ้าเป็นรางวัลนักวิชาการอาจจะไม่ใช่ปัญหา ประเทศเราไม่เคยได้รับรางวัล โดยพื้นฐานแล ล้วถูกประเทศในยุโรปและอเมริกาคว้าไปหมด แต่…ถ้าไปก็ถือว่าได้เปิดหูเปิดตา หนุ่มสาวอย่างพวกคุณมีโอกาสก็ลองไปเข้าร่วมนะครับ”
เฉินชางยิ้ม รู้สึกสนใจขึ้นมา จากนั้นหยิบบัตรเข้างานกลับมาด้วย
ไม่นานฉินเยว่ก็เดินเข้าห้องทำงานมา
ทุกคนคุยกันประมาณชั่วโมงกว่า เห็นว่าสามทุ่มกว่าแล้ว เฉินชางและฉินเยว่จึงขอตัวกลับ
การมากินข้าวครั้งนี้ กลับทำให้เฉินชางเกิดความคิดบางอย่างขึ้น
……
หลังจากกลับถึงบ้าน เฉินชางก็เปิดโน้ตบุคขึ้นมาสร้างโฟลเดอร์
‘การวิจัยทางคลินิกเกี่ยวกับเทคโนโลยีและวัสดุขดลวดงวงช้างของเฉินลดอัตราการเสียชีวิตในการผ่าตัดเปลี่ยนหลอดเลือดแดงใหญ่ในช่องท้องและทรวงอกของกลุ่มอาการมาร์แฟน’
คุณให้ผมเขียนบทความเกี่ยวกับเทคโนโลยีขดลวดงวงช้างของเฉินไม่ใช่เหรอ
ได้!
ผมจะเขียน
คิดว่าผมยอมคุณเหรอ
ฝันไปเถอะ!
แน่นอนว่าหลังจากเฉินชางเขียนเสร็จจะไม่ไปลงใน วารสาร ‘การศัลยกรรมหลอดเลือดหัวใจแห่งชนชาติจีนฉบับปรับปรุงใหม่’ บ้าบอนั่น
มีเคสการทดลองทางคลินิกสามสิบห้าเคสในรอบแรก ความจริงได้มีแบบร่างคร่าวๆ แล้ว ผลลัพธ์มีสถิติอยู่แล้ว
เพราะฉะนั้น นำมาเขียนบทความได้อย่างแน่นอน
เฉินชางมีข้อมูลการทดลองทางคลินิกอยู่ในมือ จึงเปิด word เริ่มเขียน
แม้เฉินชางรู้ตัวว่าตัวเองไม่ได้เก่งขนาดนั้น
แต่เขามั่นใจในเทคโนโลยีและวัสดุขดลวดงวงช้างของเฉิน
เทคโนโลยีขดลวดงวงช้างของเฉินเป็นคู่มือการใช้วัสดุ
และวัสดุนี้จะทำให้เทคโนโลยีและวัสดุขดลวดงวงช้างของเฉินแสดงประสิทธิภาพได้ดียิ่งขึ้น
เรียกได้ว่าเสริมซึ่งกันและกัน
เฉินชางมุ่งเน้นไปที่การแนะนำข้อดีของเทคโนโลยีขดลวดงวงช้างของเฉิน จากนั้นได้ข้อสรุปจากการวิเคราะห์ข้อมูลและการทดลองทางคลินิก เทคโนโลยีนี้เมื่อใช้ร่วมกับผลิตภัณฑ์นี้จะลดอัตรา าการเสียชีวิตจากการผ่าตัดหลอดเลือดแดงใหญ่ฉีกขาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
มีความสำคัญอย่างยิ่งในการช่วยชีวิตผู้ป่วยกลุ่มอาการมาร์แฟน!
สองวันนี้ เฉินชางไม่ปล่อยให้ตัวเองว่างเลย
พอมีเวลาก็จะเริ่มเขียนบทความ
สามวันหลังจากนั้น บทความที่ยอดเยี่ยมก็เสร็จสมบูรณ์
ทว่าเฉินชางก็ได้ชี้จุดสำคัญในบทความอย่างมีเทคนิค
วัสดุขดลวดงวงช้างของเฉินได้พัฒนาขึ้นมาแล้ว…
หลังจากเขียนเสร็จ เฉินชางก็โทรหาหัวหน้าบรรณาธิการของวารสาร ‘เดอะแลนซิต’ ทันที
ด้วยฐานะในระดับนานาชาติของเฉินชาง การจะทำความรู้จักหัวหน้าบรรณาธิการของวารสาร ‘เดอะแลนซิต’ ถือว่าเป็นเรื่องง่าย
หลังจากอีกฝ่ายเห็นบทความนี้ก็อึ้งไป!
วิธีการผ่าตัดใหม่!
วัสดุใหม่!
กลุ่มอาการมาร์แฟน!
อัตราการเสียชีวิต!
คำศัพท์พวกนี้ล้วนเพียงพอที่จะดึงดูดความสนใจ!
หลังจากเอาคำศัพท์พวกนี้มารวมเป็นบทความและเพิ่มชื่อของเฉินชางเข้าไป เป็นบทความที่มีความเฉพาะทางมาก
หัวหน้าบรรณาธิการจึงเปิดบทความขึ้นมาอ่านโดยไม่ลังเลเลยสักนิด
บทความยาวมาก
ประมาณสี่ห้าหน้า
บทความแบบนี้มักจะใช้พื้นที่มากและบรรณาธิการไม่ค่อยให้ผ่าน
ทว่า ครั้งนี้กลับแตกต่าง!
หลังจากหัวหน้าบรรณาธิการใช้เวลาอ่านตลอดช่วงเช้า เขาหนังหัวชาวาบขึ้นมา ถึงขั้นตัวสั่นเทิ้มเล็กน้อย
บทความนี้ไม่ธรรมดา!
หลังจากหัวหน้าบรรณาธิการอ่านจบก็ถูมือไม่หยุด
เพราะความเย็นเยียบที่แทรกซึมอยู่ในกระดูกทำให้เขาไม่กล้าเชื่อว่านี่คือเรื่องจริง
บทความห้าหน้านี้มีแรงดึงดูดมากพอ หลังจากหัวหน้าบรรณาธิการอ่านจบก็ยังทำใจวางลงไม่ได้ อยากเริ่มอ่านอีกรอบอย่างควบคุมตัวเองไม่อยู่
บทความที่ยอดเยี่ยมเหมือนเรื่องสั้นเรื่องหนึ่ง เต็มไปด้วยสีสัน ทำให้คนอ่านลืมไม่ลง
บทความนี้ของเฉินชางทำให้หัวหน้าบรรณาธิการวารสาร ‘เดอะแลนซิต’ ตัดสินใจให้ผ่านทันที
เพิ่มบทความพิเศษสำหรับฉบับเดือนกรกฎาคมกะทันหัน!
เพิ่มไปห้าหน้าและวางไว้หน้าท้ายๆ หัวข้อต้องอยู่ในตำแหน่งที่สะดุดตา ทำให้ทุกคนเห็นบทความนี้
ทุกคนควรได้รู้ข่าวดีนี้
หัวหน้าบรรณาธิการคิดได้แบบนี้ก็เปิดคอมพิวเตอร์ เพิ่มหมายเหตุในไฟล์ของเฉินชาง
‘สำหรับหน้าปก ให้เพิ่มหมายเหตุว่า: เสียงสวรรค์ของคนไข้กลุ่มอาการมาร์แฟน’
หลังจากบรรณาธิการตรวจสอบเห็นเนื้อหาก็อึ้งไปทันที
หัวหน้าบรรณาธิการขอให้เขียนหมายเหตุที่สะดุดตาขนาดนี้บนหน้าปก เขาคือใครกันแน่
อีกด้าน หัวหน้าบรรณาธิการได้โทรหาเฉินชาง
“ศาสตราจารย์เฉิน แม้จะรู้สึกผิดมาก แต่…ผมอยากยืนยันความถูกต้องของข้อมูล อีกอย่าง…แบบจำลองเทคโนโลยีขดลวดงวงช้างของเฉิน…เสร็จแล้วจริงเหรอครับ”
เฉินชางยิ้ม “ผมรับประกันด้วยเกียรติของผม ผมเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ที่ทำการทดลองทางคลินิก นอกจากนี้ วัสดุนี้มีแบบจำลองแล้ว! และผมจะเอาไปออกงานมหกรรมเภสัชกรรมครั้งที่ยี่สิบสาม มที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์อาบูดาบี”
ทันใดนั้น อีกฝ่ายอึ้งงันไป!
ที่แท้ก็เตรียมความพร้อมมาหมดแล้ว
หัวหน้าบรรณาธิการคิดได้แบบนี้ ก็วางสายจากเฉินชางแล้วโทรหาบรรณาธิการผู้เรียงพิมพ์โดยตรง “เพิ่มหมายเหตุในบทความของเฉินชางอีกว่า: วัสดุข้ามยุคที่จะไปคว้ารางวัล!”