เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 1272 เฉินชางมีสิทธิ์ปฏิเสธ!
หลังจากเฉินชางวางสาย กงไต้เจินอดถามไม่ได้ “ศาสตราจารย์เฉิน เมื่อครู่นี้เป็นสายจาก...หัวหน้าเสี้ยวรุ่นฟางเหรอคะ”
เฉินชางพยักหน้า
กงไต้เจินกลืนน้ำลายทันที
ทั้งประเทศ คนที่กล้าวางสายหัวหน้าเสี้ยวไม่เยอะ
และวางสายแล้วยังปิดเครื่องอย่างไม่ลังเล!
คนที่กล้าทำแบบนี้…คงน้อยยิ่งกว่า!
เฉินชางไม่ได้พูดอะไรมาก กงไต้เจินจึงไม่ได้ถาม ขืนดื้อถามอีก...คงไม่เหมาะ
ภายนอกเฉินชางเหมือนไม่สนใจ ท่าทางนิ่งสงบ
แต่ในใจเขาเข้าใจดีว่า แผนการของเขาใกล้จะสำเร็จแล้ว
ดูเหมือนว่าในที่สุดผลลัพธ์ของวารสาร ‘เดอะแลนซิต’ ก็ปรากฏแล้ว!
ความจริง ในวงการการแพทย์ปัจจุบัน ไม่ว่าประชาชนทั่วไปหรือเจ้าหน้าที่เฉพาะทาง ก็ค่อนข้างไว้วางใจวารสาร ‘เดอะแลนซิต’
การที่วารสาร ‘เดอะแลนซิต’ เอารูปเฉินชางขึ้นปกอย่างเปิดเผย ความสำเร็จแบบนี้จะไม่ดึงดูดความสนใจของผู้คนได้อย่างไร
ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นแผนของเฉินชางที่คิดขึ้นหลังจากได้รู้ข่าวการจัดงานมหกรรมการแพทย์ตอนไปบ้านฉินหย่งอี้
ถานเจิ้งหยางทำให้เฉินชางโกรธมากขนาดนั้นจริงๆ หรือ
การพักสิทธิบัตรของเฉินชางไว้เป็นความผิดที่ร้ายแรงขนาดนั้นเลยหรือ
แน่นอนว่าไม่ใช่!
ครั้งนี้เฉินชางจะเอาแต่ใจตัวเองสักครั้ง เพราะเขาค้นพบว่า เชื่อฟังคนมากเกินไป จะถูกมองข้ามได้ง่าย
เฉินชางคิดว่าแม้ตนยังห่างจากผู้ยิ่งใหญ่ชั้นยอดพวกนั้นอีกไกล
แต่ก็อยู่เหนือกว่าคนส่วนใหญ่แล้ว
ความสำคัญของตนควรจะเพิ่มขึ้น แต่การหาเรื่องของถานเจิ้งหยางทำให้เฉินชางตระหนักได้ว่า ตนอาจจะอ่อนโยนเกินไป
พูดตามตรงก็คือ ถานเจิ้งหยางเป็นแค่คนธรรมดาคนหนึ่ง
เฉินชางจัดการได้อย่างง่ายดาย
แต่…คนต่อไปที่จะทำแบบถานเจิ้งหยางล่ะ
และคนต่อๆ ไปอีก
หรือคนต่ำต้อยพวกนี้จะต้องมาอวดดีกับตนอีกเรื่อยๆ
เฉินชางไม่อยากเปิดโอกาสให้พวกเขาทำแบบนี้
สิ่งที่เขาจะทำคือ อวดความสามารถ!
……
ในห้องทำงานหัวหน้ากระทรวงสาธารณสุขตอนนี้ เสี้ยวรุ่นฟางมองโทรศัพท์ แล้วแอบสงสัยว่าตนฟังผิดหรือเปล่า
ถูกปฏิเสธ!
ใช่แล้ว!
เธอมองเฉาอวี๋ด้วยสีหน้าประหลาดใจเต็มประดา
เห็นเพียงว่าเฉาอวี๋พยักหน้าให้ตนอย่างหนักแน่น!
ทั้งสองถูกเฉินชางปฏิเสธจริงๆ
เสี้ยวรุ่นฟางหน้าแดงขึ้นมาทันที
เสี้ยวรุ่นฟางจึงโทรไปอีกครั้ง
แต่ไม่ทันแล้ว
เฉินชางพูดกับพยาบาล “ปิดเครื่องให้หน่อย ขอบคุณครับ”
พยาบาลหยักหน้า
เฉินชางไม่อยากให้ใครรบกวนการผ่าตัดเคสนี้ เพราะนี่จะเป็นตัวกำหนดความสำเร็จในการผ่าตัดของจ้าวซือหาน
หลังจากเสี้ยวรุ่นฟางโทรออกไป ก็พบว่าเฉินชางปิดเครื่องไปแล้ว
เสี้ยวรุ่นฟางตะลึงไปทันที
เสี้ยวรุ่นฟางกระแทกหูฟังโทรศัพท์ลงบนตัวเครื่องที่วางอยู่บนโต๊ะ พูดอย่างเดือดดาล “เฉินชางทำเกินไป…”
ครู่ใหญ่เสี้ยวรุ่นฟางก็ยังพูดอะไรไม่ออก
ตอนนี้เฉาอวี๋กลับปล่อยวางได้แล้ว
ตอนนี้เขารู้สึกว่าก่อนหน้านี้ตนพูดผิดไป
มีความสามารถก็จะทำตามอำเภอใจได้หรือ
คำตอบคือใช่!
คนที่มีความสามารถระดับเฉินชาง ทำตามอำเภอใจได้จริงๆ!
ในขณะเดียวกัน คนที่มีความสามารถขนาดนี้ ทำไมต้องทน
พูดตรงๆ ก็คือ อัจฉริยะแบบนี้ คุณไม่ปกป้องไม่เป็นไร ยังคิดจะกดขี่งั้นหรือ
เขาไปอยู่ที่ไหนก็ไม่อดตาย
ถึงขั้นไปประเทศอย่างยุโรปและสหรัฐอเมริกา เขาก็อาจมีแนวโน้มการพัฒนาที่ดีกว่าตอนนี้ด้วยซ้ำ…
เขามีความสามารถขนาดนั้น ทำไมต้องอดทนอยู่ที่นี่
พูดง่ายๆ ก็คือ คนที่มีความสามารถ ย่อมมีสิทธิ์ปฏิเสธ!
ส่วนเสี้ยวรุ่นฟางขึ้งโกรธเล็กน้อย มองเลขาพร้อมพูดว่า “เฉินชางทำเกินไปใช่ไหม”
เลขาถอนหายใจ ปลอบใจอย่างใจเย็น “หัวหน้าเสี้ยว ฉันขอพูดอย่างเป็นกลางนะคะ คุณอย่าหาว่าฉันพูดจาไม่น่าฟัง ศาสตราจารย์เฉินเคยขอความช่วยเหลืออะไรจากคุณไหมคะ”
เสี้ยวรุ่นฟางชะงักไปทันที หลังจากครุ่นคิดอยู่นาน ก็พูดว่า “ไม่เคย”
เลขาพยักหน้าแล้วถามต่อว่า “ศาสตราจารย์เฉินเคยขอรางวัลอะไรไหมคะ”
เสี้ยวรุ่นฟางชะงักไปอีกครั้ง หลังจากใคร่ครวญอยู่นานก็อดถอนหายใจไม่ได้
“ขอพูดในอีกนัยหนึ่ง เขาไม่ได้แสวงหาชื่อเสียงหรือผลกำไรอะไรจากคุณเลย ทั้งที่มีความสามารถขนาดนั้น แล้วทำไมเขาต้องไว้หน้าคุณ เพียงเพราะคุณเป็นหัวหน้ากระทรวงสาธารณสุขงั้นเหรอ ถ้าอย่างนั้นฉันขอพูดตรงๆ เลยนะคะ แม้คุณยกเลิกคุณสมบัติทางการแพทย์ทั้งหมดของเฉินชางตอนนี้ ก็อาจจะมีชาวต่างชาติกลุ่มใหญ่มาให้กำลังใจและพาศาสตราจารย์เฉินไปต่างประเทศอย่างเปิดเผย ถึงขั้นที่หลังจากไปแล้ว เฉินชางจะต้องเป็นที่ต้องการของทุกคน ขนาดนี้แล้ว ลองคิดดูว่ามีอะไรที่เขาจะปฏิเสธไม่ได้บ้าง!”
เลขาของหน่วยงานรัฐบาลแตกต่างจากพวกเลขาประธานบริษัท
เลขาของเสี้ยวรุ่นฟางคนนี้เป็นคนที่มีความสามารถมาก มีกลยุทธ์หลายอย่างที่เสี้ยวรุ่นฟางหารือกับเลขาคนนี้
ตอนนี้ได้ยินคำพูดของเลขา เสี้ยวรุ่นฟางพูดไม่ออก นั่งพิงพนักเก้าอี้ ถอนหายใจเบาๆ
“แต่นี่คือผลประโยชน์ของประเทศ ของส่วนรวมนะ!”
เลขาได้ยินแล้วอดหัวเราะไม่ได้ “ความรักชาติสำคัญมาก แต่เป็นสิ่งที่จะต้องบ่มเพาะขึ้นมา ท่าทีที่คุณมีต่อเฉินชางในตอนนี้ ก็คือท่าทีที่ประเทศชาติมีต่อเขา! เพราะคุณคือตัวแทนก กระทรวงสาธารณสุขประเทศจีน ถ้าคุณไม่สนใจเขา ไม่มอบผลประโยชน์ส่วนตนให้เขา กระทั่งทำลายผลประโยชน์ของเขา เรื่องนี้จะโทษเฉินชางเขาได้เหรอคะ”
เลขาพูดขึ้นอีกครั้ง “คุณดีกับเฉินชางหรือไม่ ไม่ใช่แค่คำพูดปากเปล่า แต่ต้องเป็นการกระทำ คุณอาจจะยังไม่รู้ว่าสิทธิบัตรของศาสตราจารย์เฉินมีมูลค่าเพียงใด ปัจจุบันพวกบริษัทเล็ก ๆ ได้ขึ้นราคาสิทธิบัตรนี้เป็นสามร้อยล้านหยวนแล้ว หากศาสตราจารย์เฉินได้ผลการทดลองทางคลินิกครั้งนี้ทั้งหมดมาอยู่ในมือ ก็จะเป็นอย่างที่วารสาร ‘เดอะแลนซิต’ พูดเอาไว้ รอให้ถึ งตอนที่การประชุมหลอดเลือดหัวใจ AATS2020 จัดขึ้น มูลค่าของเทคโนโลยีขดลวดงวงช้างจะสูงขึ้นอีกครั้ง
ทั้งโลกมีคนไข้กลุ่มอาการมาร์แฟนตั้งเท่าไร วัสดุขดลวดงวงช้างนี้เป็นชีวิตที่สองของพวกเขา โอกาสการผ่าตัดภาวะหลอดเลือดแดงใหญ่ฉีกขาดเรียกได้ว่าเป็นไปได้หนึ่งร้อยเปอร์เซ็นต์ และ ะการใช้ขดลวดงวงช้างของเฉิน จะลดอัตราการเสียชีวิตได้ ของแบบนี้ ถ้าไม่มีสิทธิบัตรระหว่างประเทศ คุณคิดว่าผลลัพธ์จะเป็นอย่างไร ตอนนี้คุณยังคิดว่าเป็นเรื่องเล็กอยู่อีกหรือไม่ คุ ณก็รู้ว่าสิ่งนี้จะไปคว้ารางวัลบนเวทีระดับโลก เป็นหน้าเป็นตาให้ประเทศชาติได้ แล้วคุณคิดว่า สิ่งนี้จะทำประโยชน์อะไรให้เฉินชางบ้าง”
เฉาอวี๋พยักหน้า “ใช่ เฉินชางมีสิทธิ์ปฏิเสธ! หัวหน้าเสี้ยว เราต่างเห็นเฉินชางเป็นเด็ก ตอนที่เราเผชิญกับเสี้ยวเจ๋อไห่ หวังทง หรือแม้แต่อู๋ถงฝู่ เราจะจัดการส่งๆ หรือกลั่นแกล้งแบ บบนี้ไหม แน่นอนว่าไม่ ความจริง คุณค่าในตัวของเฉินชาง ไม่ได้ต่ำว่าผู้อาวุโส ผู้เชี่ยวชาญและสมาชิกสภาวิทยาศาสตร์เลย อู๋ถงฝู่ปฏิเสธคุณได้ ทำไมเฉินชางจะปฏิเสธไม่ได้”
เฉาอวี๋มองขาดมาก และอธิบายอย่างเห็นภาพ