เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 1274 ความสำคัญของเฉินชาง!
ฉินเจิ้นหงมองรอยยิ้มของพ่อ ท่าทางพลันเหมือนคิดบางอย่างออก
ที่พ่อมาครั้งนี้ ไม่ใช่เพียงเพื่อหาหมอเพื่อดูแลสุขภาพแน่
มาเพื่อออกหน้าให้เฉินชางต่างหาก!
เพียงแต่ฉินเจิ้นหงคิดไม่ถึงว่าพ่อจะเป็นห่วงเฉินชางขนาดนี้
ถึงขั้นพาตนมาด้วย
รอยยิ้มที่มีความนัยแอบแฝงของคุณท่านฉิน ทำให้เสี้ยวรุ่นฟางประหม่าเล็กน้อย
ไม่ใช่เพราะตำแหน่งของเขาหรืออะไร
สิ่งที่ทำให้เสี้ยวรุ่นฟางตะลึงคือเฉินชางมาอยู่เมืองหลวงเพิ่งจะกี่เดือนเอง
พลังงานที่ชายหนุ่มคนนี้เผยออกมาโดยไม่ได้ตั้งใจถึงจุดที่ส่งผลกระทบต่อคุณท่านฉินแล้วหรือ
ถ้าเขาอยู่ในวงการนี้อีกสักสิบปี อนาคตของเขาจะเป็นอย่างไร
ไม่เพียงแค่เสี้ยวรุ่นฟาง ประธานสำนักกำกับการประกันภัย เลขาของกระทรวงสาธารณสุข ทุกคนต่างสบตากัน ในใจรู้สึกตะลึงมาก
เลขาสะเทือนใจเล็กน้อย!
เสียดายเล็กน้อย!
เธอมองเสี้ยวรุ่นฟางแล้วรู้สึกเสียดายมาก ความจริงหัวหน้าของตนขาดแค่ความแข็งกร้าว
เมื่อเทียบกับคนพวกนี้ ความสัมพันธ์ระหว่างเสี้ยวรุ่นฟางและเฉินชางอาจจะเป็นไปได้ว่าสนิทกันที่สุด ถ้าครั้งนี้เสี้ยวรุ่นฟางกระตือรือร้นสักหน่อย เฉินชางจะคิดอย่างไร
ดูอู๋ถงฝู่สิ!
เขาต่างหากที่ฉลาด
เสี้ยวรุ่นฟางชงชาให้คุณท่านแล้วไปเสิร์ฟให้ด้วยตัวเอง “คุณท่านฉิน เรื่องนี้ เฮ้อ! ต้องโทษฉันค่ะ! เป็นแค่เรื่องเล็กแท้ๆ สุดท้ายกลับกลายเป็นแบบนี้!”
คุณท่านหัวเราะเหอะๆ “เจ้าเฉินชางน่ะ ไม่เลวเลย ไม่หยิ่งผยองและไม่ใจร้อน”
ทุกคนได้ยินคำพูดของคุณท่านฉิน ก็แอบถอนหายใจ ว่าแล้วเชียว!
บนโลกนี้คงไม่มีเรื่องที่บังเอิญขนาดนี้หรอก
แน่นอนว่าที่คุณท่านฉินมาเยี่ยมครั้งนี้ ความจริงไม่ได้เพื่อคุยเรื่องหมอส่วนตัวของเขา แต่เขามาเพื่อเฉินชาง
ทุกคนคิดถึงตรงนี้ ในใจต่างมีความคิดมากมายขึ้นมา
เสี้ยวรุ่นฟางเองก็พยักหน้า “ใช่ค่ะ เรื่องนี้เตือนสติฉันจริงๆ คนที่มีความสามารถพิเศษจะต้องได้รับรูปแบบการบ่มเพาะพิเศษ”
ฉินเจิ้นหงฟังแล้วก็ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค่พยักหน้าอยู่ข้างหลังคุณท่าน
จู่ๆ คุณท่านฉินก็ถามไถ่สารทุกข์สุกดิบกับเสี้ยวรุ่นฟางก่อนจะพูดว่า “ทักษะของเสี่ยวเฉินไร้ที่ติจริงๆ ถ้าไม่มีเขา ผมคงไม่รู้ว่าผมเป็นมะเร็งตับอ่อน และเขาก็เป็นคนผ่าตัดให้ผ ผมด้วย! เพราะฉะนั้น ร่างกายของผมเป็นอย่างไร เฉินชางรู้ดีที่สุด วันนี้จึงตั้งใจมาคุยเรื่องนี้ หัวหน้าเสี้ยว เรื่องหมอส่วนตัว คุณช่วยดูหน่อยนะครับ ผมอายุมากแล้ว โรคภัยเยอะ มีเฉินชางอยู่ ผมจึงจะอุ่นใจ เรื่องระบบของพวกคุณ ผมเองก็ไม่ได้มีความรู้ ไม่รบกวนแล้วนะครับ!”
คุณท่านฉินเพิ่งเข้ามาได้ไม่นาน ยังไม่ทันได้แตะต้องน้ำชา แต่หลังจากคุยกันไม่กี่คำก็ลุกขึ้น
เขาไม่ได้คุยรายละเอียดเรื่องของเฉินชางเลย เพียงแค่พูดถึงเรื่องของหมอส่วนตัวอย่างเรียบเฉย
ทว่า เมื่อคำพูดเหล่านี้เข้าหูเสี้ยวรุ่นฟางและทุกคนในกระทรวงสาธารณสุข ความหมายกลับแตกต่าง
คำพูดของคุณท่านฉินชัดเจนมากแล้ว
ที่ผมรอดมาได้ทุกวันนี้ เพราะเฉินชางช่วยเอาไว้!
เพียงแค่ประโยคนี้ก็เพียงพอแล้ว!
ไม่ต้องพูดอะไรมาก ทุกคนก็ต้องเข้าใจความหมายที่แฝงอยู่
ทุกคนคิดได้แบบนี้ก็อดอิจฉาไม่ได้!
การที่เฉินชางได้รู้จักคุณท่านฉิน และทำให้คุณท่านฉินมาถึงที่นี่เพราะเรื่องแค่นี้ อนาคตของเขาแน่นอนว่าต้องราบรื่นอยู่แล้ว!
เสี้ยวรุ่นฟางเดินออกไปส่งคุณท่านฉินพร้อมยิ้มพูด “คุณท่านไม่ต้องกังวล เรื่องหมอส่วนตัวฉันจะจัดการให้ค่ะ”
คุณท่านฉินพยักหน้า ยิ้มตาหยีพูด “ครับ…อย่าบอกเฉินชางว่าผมมาที่นี่นะครับ อีกอย่างคือ อย่าบีบบังคับ ถึงอย่างไรสักวันเฉินชางก็ต้องกลับเมืองอันหยาง”
เสี้ยวรุ่นฟางพยักหน้า
หลังจากส่งคุณท่านฉิน เสี้ยวรุ่นฟางมองเลขาแวบหนึ่ง
เลขาอดถอนหายใจไม่ได้ “หัวหน้า เฉินชางปิดเครื่องมาสามชั่วโมงกว่าแล้ว…”
เสี้ยวรุ่นฟางชะงักไป!
ปิดเครื่อง…ก็ปิดไปสิ!
ต่อให้เปิดเครื่อง เสี้ยวรุ่นฟางก็ไม่รู้จะพูดอะไร
“ค่ะ ไม่ต้องโทรแล้ว ให้เขาตั้งใจผ่าตัดเถอะ”
เลขาพยักหน้า
พูดพลางทั้งสองก็เดินกลับห้องทำงาน
ทว่าตอนนี้เอง โทรศัพท์มือถือของเสี้ยวรุ่นฟางก็ดังขึ้น
เสี้ยวรุ่นฟางได้ยินเสียงโทรศัพท์ก็ปวดหัวขึ้นมาทันที
ไม่ใช่ว่าเป็นเรื่องของเฉินชางอีกนะ
เห็นชื่อที่แสดงบนหน้าจอว่าเป็นเฉาอวี๋จึงรับสาย
เฉาอวี๋ยิ้มขื่น “หัวหน้าเสี้ยวสะดวกคุยไหมครับ”
เสี้ยวรุ่นฟางพยักหน้า เห็นว่ารอบข้างมีแค่เลขาคนเดียว “ค่ะ สะดวกค่ะ รัฐมนตรีเฉามีอะไรหรือเปล่าคะ”
เฉาอวี๋พลันพูดว่า “ยังติดต่อเฉินชางไม่ได้เหรอครับ ท่านปอ อาจารย์ผมมาหาผม และพูดถึงเรื่องของเฉินชาง จากนั้น…เขาก็ไปหาท่านถานด้วยตัวเอง!”
เสี้ยวรุ่นฟางอึ้งไปทันที!
ท่านปอ อาจารย์ของเฉาอวี๋ ถือเป็นสมบัติของชาติเชียวนะ!
แม้แต่เขายังมาด้วยตัวเอง…
เสี้ยวรุ่นฟางตะลึงมากจริงๆ
เรื่องที่เธอมองว่าไม่ได้มีความสำคัญอะไร กลับกลายเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนั้น
เสี้ยวรุ่นฟางอดพูดไม่ได้ “คุณท่านฉินจากกองทัพทหารก็เพิ่งมา เขาจะให้เฉินชางเป็นหมอส่วนตัวของเขาค่ะ”
เฉาอวี๋เงียบไปทันที
กลายเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้เชียว!
เรื่องใหญ่จนทุกคนรู้กันหมดแล้ว
เฉาอวี๋เองยังรู้สึกหลอนขึ้นมา!
กลายเป็นเรื่องใหญ่ขนาดนี้ไปได้อย่างไร
หลังจากวางสาย ชั่วขณะนี้ทั้งสองกลับใจเย็นลงมาก
พวกเขาคิดทบทวนดูอย่างละเอียดก็พอจะเข้าใจแล้ว
เรื่องนี้อาจจะไม่ใช่เรื่องใหญ่
แต่ลองพิจารณาดูอย่างละเอียด ทำไมคนพวกนี้ถึงยินดีออกมาพูดเพื่อเฉินชาง
ทำไมแม้แต่คุณท่านฉินและท่านปอยังแสดงตัว!?
หรือเพราะตำแหน่งที่สูงส่งของพวกเขา จึงเต็มใจที่จะออกมาปกป้องคนอื่น
แน่นอนว่าไม่ใช่!
ทำไมหัวหน้าพวกนั้นต่างเต็มใจที่จะยื่นพักโครงการเพื่อเฉินชาง
หรือเพียงเพราะความเลือดร้อน
แน่นอนว่าไม่ใช่เช่นกัน!
ความจริงก็คือ คนพวกนี้เห็นถึงศักยภาพและความสามารถของเฉินชาง!
ใครจะไม่กลัวตาย
พออายุมากขึ้น อะไรที่น่ากลัวที่สุด
ความสามารถที่เฉินชางแสดงออกมาตอนนี้เพียงพอที่จะทำให้คนพวกนี้หวั่นไหว
สำหรับพวกเขา อยู่บนโลกนี้ต่อได้วันหนึ่งก็ล้วนมีค่า!
ไม่ว่าวงศ์ตระกูล หรือประเทศชาติ ล้วนขาดพวกเขาไม่ได้
เฉินชางเพิ่งจะอายุสามสิบปี ตอนนี้เขาก็ทรงอิทธิพลขนาดนี้แล้ว อนาคตเขาจะเป็นอย่างไร
เสี้ยวรุ่นฟางและเฉาอวี๋คิดได้แบบนี้ก็ปล่อยวาง
ไม่แปลกที่จะเป็นแบบนี้!
สมเหตุสมผลแล้ว!
……
ฉินเจิ้นหงมองคุณท่านฉินที่นั่งอยู่ข้างๆ แล้วอดพูดไม่ได้ “พ่อครับ เฉินชาง…”
คุณท่านฉินหรี่ตา “ลูกคิดว่าพ่อจริงจังไปหน่อยใช่ไหม”
ฉินเจิ้นหงพยักหน้า
คุณท่านฉินส่ายหน้าเล็กน้อย “สำหรับการช่วยเหลือใครสักคน การยื่นมือเข้าไปยามมีปัญหากับการยื่นมือเข้าไปในยามที่เขาไม่ได้ต้องการแตกต่างกัน ในอนาคต…ลูกอยากมีโอกาสแบบนี้ยังยาก ”
คุณท่านฉินพูดถึงตรงนี้ก็อดถอนหายใจยาวไม่ได้ “อีกอย่าง ตอนนี้ลูกอายุยังน้อย ไม่รู้จักกลัว รอมาถึงอายุอย่างพ่อ ลูกจะค้นพบว่าการมีสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงสำคัญกว่าอะไรทั้งนั น จากเรื่องราวคราวก่อนลูกก็เห็นแล้วว่าถ้าไม่ได้เฉินชาง มะเร็งตับอ่อนของพ่อจะถูกตรวจพบได้อย่างไร พ่อมีชีวิตอยู่วันหนึ่ง บ้านเราก็พัฒนาได้สะดวกเพิ่มขึ้นอีกวัน!”
คำพูดนี้ทำให้ฉินเจิ้นหงอึ้งไป