เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 140 ชั่วชีวิตนี้อาจได้เจอมอนสเตอร์ไส้ติ่งระดับจักรพรรดิครั้งเดียว!
- Home
- เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ
- บทที่ 140 ชั่วชีวิตนี้อาจได้เจอมอนสเตอร์ไส้ติ่งระดับจักรพรรดิครั้งเดียว!
ในตอนที่ต้วนปัวเห็นภาพนี้ก็ตื่นตะลึงไปโดยพลัน ทว่าต้วนปัวและกัวเฉิงเป็นคนละคนกันอย่างสิ้นเชิง ตอนที่กัวเฉิงมาขอให้เฉินชางช่วยผ่าตัด โดยปกติเฉินชางเป็นคนทำ
แต่ต้วนปัวไม่เหมือนกัน คนคนนี้มีความคิดเป็นของตัวเอง การผ่าตัดไส้ติ่งหนึ่งเคสเขาจะให้ค่าผู้เชี่ยวชาญเฉินชางสองพัน ทั้งยังคอยรับคอยส่งและต้อนรับอย่างอบอุ่น นั่นก็เพราะต้องการเรียนรู้ทักษะจากเฉินชาง
ต้วนปัวคนนี้เป็นคนมีความรับผิดชอบและมีความคิดที่ดี เขายังอ่อนเยาว์และมีพลังเหลือเฟือ ตอนนี้จึงคิดอยากสร้างแผนกศัลยกรรมทั่วไปของโรงพยาบาลประชาชนแห่งอำเภอหลันให้กลายเป็นแผนกแบบอย่างและมีชื่อเสียง
เมื่อเจอเรื่องเช่นนี้ ต้วนปัวก็ไม่ได้กระสับกระส่าย กลับสุขุมสงบนิ่งมาก
เขาเริ่มใช้คีมหนีบเนื้อเยื่อค้นหาไส้ติ่งอย่างระมัดระวัง แต่ตอนนี้ในช่องท้องมีพังผืดมากจนมองไม่เห็นอะไรเลย ต้วนปัวลังเลครู่หนึ่งแล้วจึงกล่าวว่า “ผู้เชี่ยวชาญเสี่ยวเฉิน สถานการณ์แบบนี้ การผ่าตัดแบบแผลเล็กจะจัดการได้หรือครับ?”
เฉินชางชะงักไป หลังจากลังเลครู่หนึ่งก็เดินเข้ามา เมื่อเห็นภาพเบื้องหน้าก็ทำให้เขาเกิดละล้าละลังเล็กน้อย
สภาพในช่องท้องค่อนข้างสาหัส หากผ่าตัดตอนนี้ระดับความยากจะเพิ่มขึ้นมาก ยิ่งไปกว่านั้น ที่สำคัญก็คือยังหาไส้ติ่งไม่เจอ!
นี่มันสถานการณ์อะไรกัน?
หรือจะเป็นไส้ติ่งที่อยู่ผิดที่?
ต้วนปัวเห็นดังนั้นจึงพูดว่า “ไม่งั้นผ่าเปิดแบบปกติดีไหมครับ?”
เฉินชางไม่ได้ยึดติดกับการผ่าตัดแบบแผลเล็ก จะอย่างไรความปลอดภัยของผู้ป่วยก็สำคัญกว่าอะไรทั้งนั้น ต่อให้เฉินชางไม่ได้เงินส่วนนี้ ก็ต้องรับประกันความปลอดภัยของผู้ป่วยให้ได้!
แน่นอนว่าเฉินชางยืนหยัดผ่าตัดแบบแผลเล็กต่อไปได้ เพราะด้วยทักษะของเฉินชางย่อมไม่มีปัญหาใหญ่อะไร อีกทั้งหลังแสดงทักษะอันน่าทึ่งออกไปแล้วอาจได้รับความซาบซึ้งและความตื่นตะลึงด้วยซ้ำ แต่เฉินชางไม่คิดถ่ายทอดการกระทำที่บุ่มบ่ามและเสี่ยงอันตรายเช่นนี้ให้บรรดาหมอ
พวกเขายังมีความเข้าใจเรื่องการผ่าตัดแบบแผลเล็กไม่ลึกซึ้งนัก หากพบเจอสถานการณ์ฉุกเฉิน อาจเกิดปัญหาใหญ่ก็เป็นได้!
ดังนั้นเฉินชางจึงพยักหน้า “ผ่าเปิดท้องเลยครับ! ให้ผมทำดีไหมครับ? สภาพของผู้ป่วยค่อนข้างพิเศษ ผมคิดว่าการผ่าตัดเคสนี้ไม่ธรรมดา”
ต้วนปัวพยักหน้าแล้วหลีกทางให้เฉินชางทันที เฉินชางจึงรับคีมหนีบเนื้อเยื่อมา ทันใดนั้นก็ต้องขมวดคิ้ว ทำไมในช่องท้องถึงได้มีหนองเยอะขนาดนี้?
การผ่าตัดไส้ติ่งระดับสมบูรณ์แบบทำให้เฉินชางเข้าใจสภาพไส้ติ่งในช่องท้องและสภาพแวดล้อมแต่ละอย่างของมันเป็นอย่างดี
ตอนนี้เขาคิดถึงการผ่าตัดไส้ติ่งที่ยากลำบากเป็นอย่างยิ่งอย่างหนึ่ง!
เฉินชางพูดกับต้วนปัวว่า “มาช่วยผมถือตะขอทีครับ!”
ต้วนปัวรีบพยักหน้าแล้วรับตะขอไป
เฉินชางพูดกับหมอที่อยู่ด้านข้างต่อว่า “หมอหยาง ดูดหนองครับ”
อีกฝ่ายเริ่มทำทันที หลังจากดูดหนองแล้ว เฉินชางก็ยกคีมหนีบเนื้อเยื่อขึ้นมาเริ่มปฏิบัติการต่อ ในที่สุดก็พบไส้ติ่งอยู่บริเวณขวาของช่องท้อง!
ต้วนปัวตกตะลึง “ทำไมถึงไปอยู่ตรงนั้นได้?”
หมอน้อยที่อยู่ด้านข้างก็พยักหน้า “ต่อให้เป็นไส้ติ่งผิดตำแหน่ง ก็ไม่ควรจะอยู่ตรงนั้นนะครับ?”
เฉินชางหันไปพูดกับพยาบาลว่า “ขอมีดผ่าตัด!”
พยาบาลคิดว่าเฉินชางจะผ่าเปิดท้องจึงรีบส่งมีดผ่าตัดไปให้!
แต่เฉินชางไม่ได้ขยายแผลผ่าตัดเดิมให้ใหญ่ขึ้น กลับไปผ่าเปิดตรงตำแหน่งเหนือถุงน้ำดีที่อยู่บริเวณขวาของช่องท้องอีกห้าเซ็นติเมตร!
นี่ทำให้ต้วนปัวนิ่งค้างไปแล้ว…
“ผู้เชี่ยวชาญเสี่ยวเฉิน…นี่คุณ?”
เฉินชางไม่เพียงแต่จะไม่ขยายแผลผ่าตัดเดิมให้ใหญ่ขึ้น แต่หลังจากดูดหนองและตรวจสอบพบแล้วกลับตัดสินใจย้ายตำแหน่งผ่าเปิด จะไม่ให้ทุกคนแปลกใจได้หรือ?
เฉินชางไม่ได้เงยหน้าขึ้น แต่กลับผ่าไปด้วยบรรยายไปด้วย “นี่เป็นอาการที่พบได้ยากมากอาการหนึ่ง ชั่วชีวิตอาจจะเจอครั้งเดียว เดิมทีผู้ป่วยคนนี้มีไส้ติ่งอยู่ผิดตำแหน่ง ซึ่งหากคลำไปตามลำไส้ก็จะหาพบ แต่จะผ่าตัดไม่ได้ เพราะไส้ติ่งอาจเป็นพังผืดจนทำให้อยู่ติดกับอวัยวะสามเหลี่ยมถุงน้ำดี ตับและช่องท้อง หากใช้แรงมากเกินไปอาจทำให้ตับเสียหาย”
พูดจบก็เปิดท้องออกมา!
หลังจากดึงแผลให้เปิดกว้าง ภาพตรงหน้าก็ทำให้ทุกคนถึงกับสูดหายใจเย็นยะเยือก
เฉินชางอธิบายต่อ “ผู้ป่วยคงเคยผ่าตัดถุงน้ำดีมาแล้ว หลังการผ่าตัดก็เกิดโรคแทรกซ้อนและปล่อยให้เป็นอาการยืดเยื้อไม่รักษา ทำให้เกิดพังผืดช้าๆ เดิมทีผู้ป่วยก็มีไส้ติ่งผิดที่อยู่แล้ว ด้วยขั้นตอนปฏิกิริยาต่างๆ นานาทำให้โอเมนตัม ช่องท้องและไส้ติ่งเป็นพังผืดติดกับสามเหลี่ยมถุงน้ำดีและตับ”
พูดจบเฉินชางก็เริ่มแยกอวัยวะอย่างระมัดระวัง!
เฉินชางทำไปพูดไป “ถ้าผมคิดไม่ผิด ไส้ติ่งของผู้ป่วยคงเน่าแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นรอบๆ ไส้ติ่งก็เป็นหนองด้วย!”
ส่วนใหญ่การเกิดหนองบริเวณรอบไส้ติ่งจะเกิดจากการที่ไส้ติ่งเน่าจนกลายเป็นรูและลามไปยังโอเมนตัม ช่องท้องส่วนข้าง และลำไส้ เป็นต้น
สภาพเบื้องหน้าเละเทะมาก จะผ่าตัดอย่างไร?
หลังจากต้วนปัวเห็นภาพนี้ก็รู้สึกชาไปถึงหนังศีรษะ ส่วนเฉินชางกลับได้รับการแจ้งเตือนจากระบบ!
[ติ๊ง! ไส้ติ่งเน่าแบบแปรผันล้อมด้วยหนอง ระดับ 40 มอนสเตอร์ไส้ติ่งระดับจักรพรรดิ!
คุณสมบัติพิเศษ: เป็นพังผืดอย่างรุนแรง ทำให้ติดกับอวัยวะสามเหลี่ยมถุงน้ำดีและตับแน่นมาก…]
เมื่อเห็นการแจ้งเตือนเฉินชางก็อดตื่นตะลึงไม่ได้!
ระดับจักรพรรดิ?
นี่อาจเป็นการผ่าตัดไส้ติ่งที่หาได้ยากที่สุดแล้วสินะ?
เมื่อคิดถึงตรงนี้ ดวงตาเฉินชางก็เปล่งประกาย!
หากกำจัดได้ จะดรอปของอะไรออกมา?
อุปกรณ์ประดับเทพ?
แล้วก็…นี่เป็นครั้งแรกที่เฉินชางได้พบอาการป่วยระดับนี้ เมื่อคิดถึงตรงนี้ เฉินชางก็รู้สึกคาดหวัง!
“คีมแยก!”
“ผ้าก๊อซ!”
“คีมจับเนื้อเยื่อ!”
“แหนบ…”
……
การแยกอวัยวะออกจากกันเป็นงานที่ซับซ้อนมาก ทั้งยังมีปัจจัยเกี่ยวพันมากมาย หากทำให้ถุงน้ำดีและท่อน้ำดีเสียหาย จะทำให้เกิดการติดเชื้อในช่องท้องที่ยุ่งยาก และหากทำให้ตับเสียหายก็จะยิ่งยุ่งยาก!
นี่เท่ากับว่าระดับความยากของการผ่าตัดเคสนี้จะเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวี! แต่มือของเฉินชางนิ่งมาก ทั้งละเอียดและแม่นยำ! ทุกก้าวทุกขั้นตอนทำไปอย่างระมัดระวัง ยิ่งไปกว่านั้น เฉินชางก็มีความอดทนมาก ค่อยๆ ทำไปทีละนิด
คนที่ดูอยู่รอบๆ ต่างเคร่งเครียดจนไม่กล้าแม้แต่จะหายใจแรง!
เวลาไหลผ่านไปทุกนาทีทุกวินาที เฉินชางเริ่มหมดแรงแล้ว
การผ่าตัดผ่านไปหนึ่งชั่วโมงกว่า การผ่าตัดนี้เป็นการผ่าตัดที่ต้องใช้เรี่ยวแรงและความแม่นยำสูง ทำให้แพทย์ผู้ผ่าตัดสิ้นเปลืองทั้งแรงกายแรงใจจริงๆ
ไม่ต้องพูดถึงเฉินชางเลย แม้แต่หัวหน้าต้วนที่ถือตะขออยู่ด้านข้างก็ยังรู้สึกปวดเอว อยากบิดเอวสักหน่อย แต่ก็กังวลว่าจะส่งผลกระทบกับงานของเฉินชาง จึงกัดฟันยืนหยัดต่อไป
นี่เป็นการผ่าตัดที่ขึ้นอยู่กับแรงกาย และเป็นสงครามที่ต้องใช้ทั้งความอดทนและความละเอียดอ่อน
ไม่มีดินปืน ไม่มีเสียงกรีดร้อง ความเงียบสงบบนเตียงผ่าตัดทำให้ทุกคนรู้สึกได้ถึงเสียงหัวใจเต้นของตัวเอง
ตอนนี้เอง ผู้ป่วยกลับสูดหายใจลึก “หมอ ผม…ผมรู้สึกปวดนิดหน่อย…”
เฉินชางถึงกับขมวดคิ้ว!
ยาชาใกล้จะหมดฤทธิ์แล้ว! ปกติการผ่าตัดไส้ติ่งแบบนี้จะใช้ยาชาเฉพาะที่ สิ่งที่ใช้ก็คือการให้ยาชาบริเวณกระดูกสันหลัง ทำให้รู้สึกชาไปทั่วช่องท้อง แต่ยังรู้สึกตัวตอนผ่าตัด และอาจเกิดความเจ็บปวดหรือรู้สึกไม่ดีบ้าง หากเป็นการผ่าตัดด้วยการส่องกล้อง จะต้องทำให้สลบไปเลย
การทำให้สลบไปเลยจะปลอดภัยที่สุด ยิ่งไปกว่านั้นยังไม่รู้สึกตัวด้วย สบายมาก แต่ก็เสียค่าใช้จ่ายไม่น้อย
วิสัญญีแพทย์มีสีหน้าเปลี่ยนไปโดยพลัน “ยาชาคงใกล้จะหมดฤทธิ์แล้ว…จะให้รมยาต่อไหมครับ?”
หากรมยาต่อในตอนนี้คงเป็นไปไม่ได้ เหลืออีกนิดเดียวเท่านั้น
เฉินชางส่ายหน้า “ไม่ต้องครับ!”
เร่งความเร็ว!
ตอนนี้มือทั้งสองของเฉินชางเคลื่อนไหวรวดเร็วและมั่นคง หมอหยางที่ยืนอยู่ด้านข้างมองจนปากอ้าตาค้าง มือเช่นนี้ ไม่ธรรมดาเลย…