เปิดระบบสุดโกงอัปสกิลหมอ - บทที่ 164 ผมเลิกงานแล้ว ไม่สะดวก
เฉินชางคิดไม่ถึงว่าซ่งเฉียงคนนี้จะเป็นยอดคนจริงๆ แก้แค้นในเวลาเพียงข้ามคืน เพิ่งจะผ่านไปไม่ทันไรก็ตอบโต้มาแบบนี้แล้ว!
เดิมทีเฉินชางเลิกเวรดึกแล้วกำลังจะกลับบ้าน แต่ฉินเยว่เอายามาให้จึงนั่งพักเพื่อรอฟังข่าวไปพลางๆ
ไม่ทันไร เรื่องที่เฉินชางถูกลงโทษก็แพร่ไปทั่วทั้งแผนกฉุกเฉิน!
เฉินชางลุกขึ้นเดินออกไป เขาสงสัยว่าซ่งเฉียงคนนี้ลงโทษตนเช่นไรกันแน่
บริเวณกำแพงด้านขวามือของประตูแผนกฉุกเฉินมีใบประกาศติดอยู่ ปกติที่นี่มีคนเดินผ่านไปผ่านมาค่อนข้างมาก หากทุกคนไม่มีอะไรทำ พอเดินผ่านมาก็จะหยุดอ่านดูสักหน่อย
ตอนนี้เป็นเวลาทำงาน มีคนไม่มาก เฉินชางจึงถือโอกาสเดินมาอ่านสิ่งที่เขียนอยู่ด้านบน
‘เนื่องด้วยวันที่ 25 สิงหาคม 2019 คุณเฉินชางออกเวรดึกกลางคัน…สร้างความเสียหายต่อชื่อเสียงของแผนกฉุกเฉินและโรงพยาบาลของพวกเรา ดังนั้นเพื่อสร้างวินัยอันเข้มงวดต่ออาชีพแพทย์ และรักษากฎอย่างเคร่งครัด การไม่ปฏิบัติตามการจัดแจงขององค์กรของคุณเฉินชางทำให้งานล่าช้า นับเป็นการกระทำความผิดต่อกฎขององค์กร ตามกฎมาตรา 18 ของโรงพยาบาล จึงขอตักเตือนคุณเฉินชางมา ณ ที่นี้ รวมทั้งลงโทษหักค่าเวรตลอดเดือนสิงหาคม รวมถึงโบนัสและเงินพิเศษด้วย จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน!’
‘หวังว่าความผิดคราวนี้จะเป็นข้อเตือนใจให้บุคลากรทุกท่านเคารพกฎของอาชีพตนเอง ยืนหยัดทำงานด้วยคุณธรรมอันดีต่อไป’
เมื่อเฉินชางผ่านจบก็ไม่ได้โกรธเคือง แต่รู้สึกเหมือนถูกซ่งเฉียงหยอกจนแทบหัวเราะ!
บางทีถ้าคุณไม่บอกว่าผมขาดงาน ผู้อำนวยการและคนใหญ่คนโตคงคิดไม่ถึงว่าลืมให้รางวัลอะไรหรือเปล่า อย่างไรผมก็ช่วยชีวิตฝางยงหลินผู้อำนวยการเฒ่าของพวกเราไว้
ตอนนี้คุณกลับประกาศออกมาอย่างสง่าผ่าเผยว่าผมขาดงาน นี่เป็นการเตือนผู้อำนวยการฉินไม่ใช่หรือ?
เมื่อคืนผมออกเวรกลางคันไปทำอะไรล่ะ?
เมื่อเฉินชางอ่านจบก็หัวเราะ เดินกลับไปที่ห้องพักหมอ นั่งลงข้างฉินเยว่
ฉินเยว่ย่นจมูก “เหม็นจะตายอยู่แล้ว”
เฉินชางพูดยิ้มๆ ว่า “เมื่อคืนตอนคุณมาถึง หยวนฟางอยู่หรือเปล่าครับ?”
ฉินเยว่ทำปากขมุบขมิบ แต่ยังคงกระซิบข้างหูเฉินชางเบาๆ “เสี่ยวหลินบอกฉันว่าเมื่อคืนซ่งเฉียงมาที่แผนก ตอนนั้นหยวนฟางก็อยู่ด้วย…”
เฉินชางได้ยินดังนั้นก็เข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น ยังดีที่เมื่อคืนฉินเยว่มาเข้าเวรแทน หากปล่อยให้หยวนฟางเข้าเวรแทนจริงๆ ไม่แน่ว่าจะเกิดอะไรกับชีวิตผู้คนบ้าง เมื่อคิดถึงตรงนี้ เฉินชางก็มองไปยังหยวนฟางด้วยแววตาหยอกล้อ
เดิมทีหยวนฟางนั่งไม่ติดที่อยู่แล้ว คนมีความผิดติดตัวอย่างไรก็ต้องรู้สึกร้อนตัวเป็นธรรมดา…
หยวนฟางเห็นเฉินชางมองมาที่ตนก็รู้สึกร้อนตัวจึงรีบพูดปลอบใจว่า “เฉินชาง คุณอย่ากังวลเลยครับ อีกเดี๋ยวค่อยไปอธิบายกับหัวหน้าซ่งสักหน่อยก็พอ คงไม่มีอะไรหรอก เรื่องหักเงินเป็นเรื่องช่วยไม่ได้ อย่าปล่อยให้มันส่งผลกระทบกับการประเมินตำแหน่งงานในภายหลังเลย ไม่มีผลดีสักนิด! ยังไงตอนนี้คุณก็บินเดี่ยวได้แล้ว ไม่ขาดแคลนเงินทองหรอก”
หวังหย่งได้ยินก็รู้สึกไม่พอใจ “ให้ตายเถอะ คนแซ่ซ่งนั่นบอกจะหักก็หักหรือ! อีกอย่างจะไม่ขาดเงินได้ยังไง พวกเราเข้าเวรอย่างยากลำบาก ต้องทำการผ่าตัดไปกี่เคส ต้องทำงานจิปาถะไปเท่าไหร่ ต้องดูแลผู้ป่วยไปเท่าไหร่ บอกจะหักเงินก็หักกันง่ายๆ เลย!”
เฉินปิ่งเซิงเดินเข้ามาด้วยใบหน้าดำคล้ำ “ซ่งเฉียงคนนี้จะเห็นตัวเองเป็นศูนย์กลางเกินไปหรือเปล่า? เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ทำให้เป็นเรื่องใหญ่ไปได้ ไม่มีมาดของหัวหน้าแผนกกิจการแพทย์เลยสักนิด เสี่ยวเฉิน คุนไม่ต้องเป็นห่วงนะครับ ผมจะไปถามให้คุณเอง!”
พูดจบเฉินปิ่งเซิงก็จะเดินไปที่ฝ่ายกิจการแพทย์โดยไม่พูดพร่ำทำเพลง เฉินชางจึงรีบดึงเอาไว้
“เอาละครับ ไม่มีอะไรหรอก”
เฉินปิ่งเซิงขมวดคิ้ว “จะไม่มีอะไรได้ยังไง เดิมทีกว่าคุณจะได้รับการประเมินเพื่อเลื่อนตำแหน่งก็ยากแล้ว พอมีเรื่องแบบนี้ ต่อไปก็จะกลายเป็นจุดอ่อนให้คนอื่นใช้งาน! คุณอยากเป็นแพทย์ดูแลไข้ไปตลอดชีวิตหรือไง?!”
ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใด ตอนที่หยวนฟางได้ยินคำพูดนี้ก็รู้สึกมีความสุขยิ่งนัก
คุณเก่งมากไม่ใช่หรือ? ก็เชิญทำตัวเก่งต่อไปเลย!
เฉินชางพูดว่า “หัวหน้า วันนี้วันพุธ มีประชุมโรงพยาบาล พวกคนใหญ่คนโตกำลังประชุมกันอยู่ คุณไปตอนนี้ก็ไม่มีใครอยู่หรอกครับ!”
เฉินปิ่งเซิงเงียบไป จากนั้นจึงพูดกับเฉินชางว่า “คุณออกมาหน่อย”
เขาเดินนำเฉินชางไปที่ห้องเวร จากนั้นจึงถามว่า “คุณไปหาเรื่องซ่งเฉียงยังไงกันแน่? ไม่ว่าอย่างไรซ่งเฉียงก็เป็นหัวหน้าแผนกคนหนึ่ง คงไม่เพ่งเล็งหมอเล็กๆ อย่างคุณเพราะเรื่องแค่นี้หรอกนะครับ?”
เฉินชางยิ้ม “เมื่อคืนมีคน…”
เฉินชางเล่าเรื่องที่เกิดเมื่อคืนให้ฟังโดยไม่เสริมเติมแต่ง เมื่อเล่าจบเฉินปิ่งเซิงก็เข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น
“เอาละ เรื่องนี้คุณไม่ต้องยุ่ง เดี๋ยวรอประชุมเสร็จก่อนผมจะไปหาเขาเอง ผมยังมีผ่าตัด คุณกลับไปพักผ่อนเถอะ เข้าเวรดึกมาทั้งวันคงเหนื่อยแย่แล้ว”
พูดจบเฉินปิ่งเซิงก็เดินไป
เฉินชางคิดแล้วก็เห็นด้วย ตนอยู่โรงพยาบาลต่อไปก็ไม่มีประโยชน์อะไร กลับไปพักผ่อนดีกว่า ส่วนเรื่องการลงโทษของซ่งเฉียง ฉินเสี้ยวหยวนคงมีคำอธิบายที่น่าพอใจให้ตน ถึงอย่างไรตนก็ไปผ่าตัดให้อาจารย์ของอีกฝ่าย หากโดนลงโทษเพราะเรื่องนี้ เขาไม่ยอมจบง่ายๆ แน่…
เฉินชางเข้าไปเปลี่ยนชุดที่ห้องเปลี่ยนชุด จากนั้นจึงหยิบยาที่หมาน้อยขี้ประจบให้มาไปด้วย เลิกงานอย่างสบายใจ
เพิ่งเดินออกมาจากประตูก็มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
“สวัสดีค่ะ คุณคือเฉินชางใช่ไหมคะ?” เสียงหวานแหววของผู้หญิงดังขึ้น เฉินชางอดตะลึงไม่ได้
นอกจากฉินเยว่แล้วยังมีผู้หญิงคนอื่นโทรหาผมอีกหรือ?
เฉินชางรีบพยักหน้าตอบ กระแอมเล็กน้อยเพื่อให้ลำคอโปร่งโล่ง “ครับ ใช่แล้ว!”
เสียงผู้หญิงชะงักไปเล็กน้อย “ดิฉันมาจากฝ่ายกิจการแพทย์นะคะ หัวหน้าแผนกซ่งบอกให้คุณไปหาที่ห้องทำงานค่ะ”
เฉินชางชะงักไป “มีอะไรหรือครับ?”
ผู้หญิงคนนั้นหยุดไปนาน “ขอโทษด้วยค่ะ ฉันอธิบายไม่ได้ หัวหน้าแผนกซ่งใกล้กลับมาแล้ว เขาบอกให้คุณไปหาค่ะ”
เฉินชางส่งเสียงพึมพำในลำคอ “ผมเพิ่งเลิกงาน ง่วงแล้วครับ ต้องการพักผ่อน รบกวนคุณบอกหัวหน้าซ่งด้วยนะครับ”
เฉินชางพูดจบก็วางสายไปทันที
ลงโทษก็ลงโทษมาแล้ว ผมจะญาติดีกับคุณไปทำไมอีก?
อีกอย่าง เดิมทีนี่ก็เป็นเวลาพักผ่อน คุณเป็นหัวหน้าฝ่ายกิจการแพทย์ มีอำนาจอะไรมาเบียดเบียนเวลาพักผ่อนคนอื่นล่ะ
เมื่อคิดถึงตรงนี้ เฉินชางก็เดินออกจากประตู เลิกงานเตรียมกลับไปนอนชดเชย
เมื่อคืนเหนื่อยจริงๆ ผ่าตัดเคสหนึ่งใช้เวลาไปชั่วโมงกว่า ยิ่งไปกว่านั้นยังเป็นการผ่าตัดที่เปลืองพลังอย่างมหาศาล สิ้นเปลืองแรงกายแรงใจอย่างหนัก
บางครั้งเรื่องราวก็บังเอิญจริงๆ เฉินชางเดินออกจากประตูมา เห็นซ่งเฉียงเดินลงมาจากตึกธุรการกำลังกลับไปที่ฝ่ายกิจการแพทย์พอดี
เมื่อเฉินชางเห็นซ่งเฉียงก็หาวออกมาครั้งหนึ่ง แสร้งทำเป็นไม่เห็น ยืดตัวขึ้นเดินจากไป ทำเอาซ่งเฉียงที่เห็นดังนั้นตะลึงพรึงเพริด!
ซ่งเฉียงคิดว่าเฉินชางตั้งใตมาหาตน แต่รอบๆ มีคนมากขนาดนี้ อีกฝ่ายคงอายที่จะขอโทษ จึงแสร้งทำเป็นไม่สนใจเฉินชางแล้วเดินขึ้นลิฟท์ต่อไป ในใจคิดว่า ดูซิว่าคุณจะได้ใจอีกนานแค่ไหน!
คิดดังนั้นซ่งเฉียงก็เดินไปที่ห้องทำงาน
“หัวหน้าแผนกคะ ฉันโทรหาเฉินชางแล้ว…” หวังอีหานเห็นซ่งเฉียงเดินเข้ามาก็รีบลุกขึ้นพูด
ซ่งเฉียงพยักหน้า “ครับ แจ้งแล้วก็พอ”
หวังอีหานอดพูดไม่ได้ว่า “แต่เฉินชางบอกว่าเขาเลิกงานแล้ว ต้องการพักผ่อน…ไม่อยู่ที่โรงพยาบาลค่ะ”
ซ่งเฉียงได้ยินดังนั้นก็ชะงักไป โกรธจนแทบจะตบโต๊ะ!
“ไม่เห็นกฎเกณฑ์อยู่ในสายตากันแล้วหรือไง! ผมเพิ่งเห็นเขาที่โรงพยาบาล ยังมาบอกอีกว่าตัวเองไม่อยู่ที่โรงพยาบาล ในสายตายังมีฝ่ายกิจการแพทย์อยู่หรือเปล่า!”
หวังอีหานได้ยินดังนั้นก็ตาค้างไปทันที
เฉินชางคนนี้เป็นเทพเซียนมาจากไหนกันแน่…